ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กะโหลกศีรษะมนุษย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 8432088 โดย ZeroSixTwoด้วยสจห.
ป้ายระบุ: ทำกลับ แก้ไขขั้นสูงด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 8:
กะโหลกศีรษะของมนุษย์ประกอบด้วยกระดูกทั้งหมด 22 ชิ้น<ref name="Gray">Gray H. 1918. "[http://www.bartleby.com/107/ Gray's Anatomy of the Human Body]" '' (Public Domain Resources) ''</ref><ref>[http://www.hopkinsmedicine.org/craniofacial/LynmProject/BSC/BSC2.HTM ความรู้พื้นฐานของกะโหลกศีรษะ จากเว็บไซต์ Johns Hopkins Hospital]</ref> ทั้งนี้ไม่นับรวม[[กระดูกหู]] (ear ossicles) กระดูกแต่ละชิ้นของกะโหลกศีรษะเชื่อมต่อเข้าด้วยกันโดย[[ข้อต่อ]]แบบ[[ซูเจอร์]] (Suture) ที่เคลื่อนไหวไม่ได้ แต่มีความแข็งแรงสูง ยกเว้นข้อต่อระหว่างกระดูกขากรรไกรล่างกับกระดูกขมับ หรือ[[ข้อต่อขากรรไกร]] (temperomandibular joint) ซึ่งเป็นข้อต่อแบบซินโนเวียลที่สามารถเคลื่อนไหวได้เพื่อใช้ในการขยับขากรรไกร<ref name="Moore">Moore K. L., Dalley A. F. ''Clinically Oriented Anatomy''. 4th ed., 1997.</ref> กระดูกของกะโหลกศีรษะทั้ง 22 ชิ้นนี้ สามารถแบ่งออกได้เป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ ได้แก่
 
* '''[[กระดูกหุ้มสมอง|กระดูกหุ้มสมองคน]] (Neurocranium) ''' หรือกล่องสมอง (brain case) เป็นส่วนของกะโหลกศีรษะที่ทำหน้าที่ป้องกันสมองที่อยู่ภายใน[[โพรงกะโหลก]] (cranial cavity) ซึ่งมีด้วยกัน 8 ชิ้น<ref name="Gray" /> ได้แก่
** [[กระดูกหน้าผาก]] (Frontal bone) 1 ชิ้น
** [[กระดูกข้างขม่อม]] (Parietal bone) 2 ชิ้น
** [[กระดูกขมับ]] (Temporal bone) 2 ชิ้น
บรรทัด 16:
** [[กระดูกเอทมอยด์]] (Ethmoid bone) 1 ชิ้น
 
* '''[[สแปลงคโนเครเนียม|สแปลงคโนเครเนียมของคน]] (Splanchnocranium) ''' หรือ วิสเซอโรเครเนียม (Viscerocranium) เป็นส่วนของกะโหลกศีรษะที่ทำหน้าที่ค้ำจุนหน้าตามปกติ​ บริเวณ[[ใบหน้า]] ซึ่งมีขนาดเล็กปกติเมื่อเทียบกับกระดูกหุ้มสมอง<ref name="มีชัย">มีชัย ศรีใส และคณะ. ''มหกายวิภาคศาสตร์ประยุกต์ เล่มที่ 2: ศีรษะและคอ.'' พิมพ์ครั้งที่ 3. เยียร์บุ๊คพับลิชเชอร์, 2541.</ref> รวมแล้วมีจำนวน 14 ชิ้น<ref>[http://training.seer.cancer.gov/module_anatomy/unit3_5_skeleton_divisions.html# Skeletal System / Divisions of the Skeleton]</ref><ref>[http://medical.merriam-webster.com/medical/facial%20bone facial+bone - ความหมายจาก Merriam-Webster's Medical Dictionary]</ref>โดยประมาณ ได้แก่
** [[กระดูกโหนกแก้ม]] (Zygomatic bone) 2 ชิ้น
** [[กระดูกขากรรไกรบน]] (Maxillary bone) 2 ชิ้น
** [[กระดูกแอ่งถุงน้ำตา]] (Lacrimal bone) 2 ชิ้น
บรรทัด 26:
** [[กระดูกขากรรไกรล่าง]] (Mandible) 1 ชิ้น (ในตำราทั่วไปจะไม่นับว่าเป็นส่วนของสแปลงคโนเครเนียม)
 
นอกเหนือจากนี้ ยังมี[[กระดูกหู]]อีก 6 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วย [[กระดูกค้อน]] (Malleus) [[กระดูกทั่ง]] (Incus) และ[[กระดูกโกลน]] (Stapes) อย่างละ 2 ชิ้น ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ในการค้ำจุนโครงสร้าง แต่มีหน้าที่เกี่ยวกับการขยายความสั่นสะเทือนของเสียงจาก[[เยื่อแก้วหู]]ไปยัง[[อวัยวะรูปหอยโข่ง]] (cochlear) โดยใช้หลักการได้เปรียบเชิงกลของคาน<ref>[http://hyperphysics.phy-astr.gsu.edu/hbase/Sound/oss.html The Ossicles จาก Hyperphysics]</ref> และ[[กระดูกไฮออยด์]] (hyoid) ทำหน้าที่ค้ำจุน[[กล่องเสียง]]ซึ่งไม่นับเป็นส่วนหนึ่งของกะโหลกศีรษะ<ref>[http://science.jrank.org/pages/6159/Skeletal-System-Axial-skeleton.html Skeletal System - Axial Skeleton จาก http://www.jrank.org]</ref><ref>{{Dorlands|b_18|12192464}}</ref> เพราะไม่ได้เกิดข้อต่อกับกระดูกชิ้นอื่นๆ ในกะโหลกศีรษะ
 
ภายในกะโหลกศีรษะยังมี[[โพรงไซนัส]] (sinus cavities) ซึ่งบุด้วย[[เนื้อเยื่อบุผิว]]แบบเดียวกับที่พบในทางเดินอากาศ โพรงไซนัสมี 4 คู่ หน้าที่ของโพรงไซนัสยังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในปัจจุบัน แต่เชื่อว่าช่วยในการทำให้กะโหลกศีรษะมีน้ำหนักเบาขึ้นโดยไม่ทำให้กะโหลกศีรษะแข็งแรงน้อยลง ทำให้ศีรษะไม่เอนมาทางด้านหน้าและทำให้ศีรษะตั้งตรงได้<ref name="มีชัย">มีชัย ศรีใส และคณะ. ''มหกายวิภาคศาสตร์ประยุกต์ เล่มที่ 2: ศีรษะและคอ.'' พิมพ์ครั้งที่ 3. เยียร์บุ๊คพับลิชเชอร์, 2541.</ref> ช่วยให้เสียงก้องกังวาน และช่วยให้อากาศที่ผ่านโพรงจมูกเข้าไปในทางเดินหายใจอุ่นและชื้นมากขึ้น
 
ด้านในของกะโหลกศีรษะส่วนที่หุ้มสมองยังมี[[เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน]]ที่หุ้มรอบโครงสร้างของ[[ระบบประสาทกลาง]] เรียกว่า [[เยื่อหุ้มสมอง]] (meninges) ซึ่งมีอยู่ 3 ชั้นเรียงจากชั้นนอกสุดเข้าไปยังชั้นในสุดได้แก่ [[เยื่อดูรา]] (dura mater) , [[เยื่ออะแร็กนอยด์]] (arachnoid mater) , และ[[เยื่อเพีย]] (pia mater) เยื่อหุ้มสมองมีหน้าที่สำคัญในการปกป้องและหน้าที่ทางสรีรวิทยาอื่นๆ อีกมากมายมากมาย​ ทุกอย่างในร่างกายของคนถ้าขาดใส่ให้ครบสมบูรณ์​
 
== การเจริญพัฒนา ==