ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาณาจักรมเยาะอู้"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 66:
{{ประวัติศาสตร์พม่า}}
 
'''อาณาจักรมเยาะอู้''' เป็นอาณาจักรที่มีเมืองหลวงที่เมืองมเยาะอู้ ใกล้กับชายฝั่งตะวันออกของ[[อ่าวเบงกอล]] ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ[[บังกลาเทศ]]และ[[รัฐยะไข่]]ใน[[ประเทศพม่า]] ปกครองตนเองเป็นอิสระระหว่าง พ.ศ. 2072–2328 ก่อนจะถูก[[ราชวงศ์คองบโก้นบอง]]ของพม่ายึดครอง<ref name=kh-2-25>Maung Maung Tin, Vol. 2, p. 25</ref>
 
== ประวัติศาสตร์ ==
บรรทัด 72:
มเยาะอู้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรยะไข่เมื่อ พ.ศ. 1974 เมื่อเมืองเติบโตขึ้นมีการสร้างวัดและเจดีย์ต่าง ๆ มากมาย และยังคงเหลืออยู่จนถึงปัจุบัน ในราวพุทธศตวรรษที่ 20–23 ที่เมืองมเยาะอู้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรยะไข่นั้น มีพ่อค้าชาวต่างชาติเข้ามาค้าขายมากมาย รวมทั้งชาวโปรตุเกสและชาวดัตช์<ref name="yegar23">{{cite book|last=Richard|first=Arthus|title= History of Rakhine|year=2002|publisher=[[Rowman & Littlefield|Lexington Books]]|location=Boston, MD|isbn=0-7391-0356-3|url=http://www.phoenixhollo.com/fr/Mrauk_U_3.html=PA23|accessdate=8 July 2012|page=23}}</ref>
 
ในสมัย[[พระเจ้านรเมขลา]]หรือมี่นซอมูน (พ.ศ. 1947–1977) เป็นกษัตริย์ของราชอาณาจักรมเยาะอู้ พระองค์ได้ลี้ภัยไปยัง[[เบงกอล]]นานถึง 24 ปี กลับมาครองราชสมบัติในยะไข่เมื่อ พ.ศ. 1973 โดยได้รับความช่วยเหลือทางทหารจาก[[สุลต่านแห่งเบงกอล]] ชาวเบงกอลีเบงกอลส่วนหนึ่งเดินทางเข้ามาในยะไข่พร้อมกับพระองค์และกลายเป็นชาว[[โรฮีนจา]]ในบริเวณนี้<ref>{{cite book|last=Yegar|first=Moshe|title=Between integration and secession: The Muslim communities of the Southern Philippines, Southern Thailand, and Western Burma / Myanmar|year=2002|publisher=[[Rowman & Littlefield|Lexington Books]]|location=Lanham, MD|isbn=0739103563|url=https://books.google.com/books?id=S5q7qxi5LBgC&pg=PA23|accessdate=8 July 2012|page=23}}</ref>{{ต้องการอ้างอิงตรงนี้}} พระเจ้านรเมขลายกดินแดนบางส่วนให้สุลต่านแห่งเบงกอล และพระองค์ปกครองดินแดนในฐานะรัฐบรรณาการของเบงกอล และได้รับพระนามแบบอิสลามด้วยแม้จะเป็นชาวพุทธ เหรียญทองดีนาร์ของเบงกอลสามารถใช้ได้ภายในราชอาณาจักร เหรียญที่สร้างในสมัยพระเจ้านรเมขลาด้านหนึ่งเป็นแบบพม่า อีกด้านเป็นแบบเปอร์เซีย<ref name="yegar23"/>
 
หลังจากได้รับเอกราชจากสุลต่านแห่งเบงกอล กษัตรย์ยะไข่ยังคงใช้พระนามแบบมุสลิมอยู่<ref>{{cite book|last=Yegar|first=Moshe|title=Between integration and secession: The Muslim communities of the Southern Philippines, Southern Thailand, and Western Burma / Myanmar|year=2002|publisher=[[Rowman & Littlefield|Lexington Books]]|location=Lanham, MD|isbn=0739103563|url=https://books.google.com/books?id=S5q7qxi5LBgC&pg=PA23|accessdate=8 July 2012|pages=23–4}}</ref> กษัตริย์ถือว่าตนเป็นสุลต่านและทำตามแบบจักรวรรดิโมกุลแม้ว่าตนเป็นชาวพุทธ มีการจ้างมุสลิมเข้ารับราชการในตำแหน่งต่าง ๆ<ref>{{cite book|last=Yegar|first=Moshe|title=Between integration and secession: The Muslim communities of the Southern Philippines, Southern Thailand, and Western Burma / Myanmar|year=2002|publisher=[[Rowman & Littlefield|Lexington Books]]|location=Lanham, MD|isbn=0739103563|url=https://books.google.com/books?id=S5q7qxi5LBgC&pg=PA24|accessdate=8 July 2012|page=24}}</ref> ระหว่าง พ.ศ. 2074 - 2172 มีชาวโปรตุเกสมาค้าทาสชาวเบงกอลีเบงกอลตามบริเวณแนวชายฝั่งของยะไข่ ประชากรมุสลิมเบงกอลีเบงกอลเพิ่มขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 22 และมีการจ้างงานที่หลากหลายในยะไข่ ส่วนหนึ่งเป็นล่าม[[ภาษาอาหรับ]] [[ภาษาเบงกอลีเบงกอล]] และ[[ภาษาเปอร์เซีย]]ในศาล แม้ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ แต่ก็ดำเนินการตามแบบของรัฐสุลต่านแห่งเบงกอลอยู่มาก<ref name="chan398">{{harv|Aye Chan|2005|p=398}}</ref> ยะไข่สูญเสียการควบคุมเบงกอลตะวันออกเฉียงใต้เมื่อราชวงศ์โมกุลรุกรานเข้ามาในจิตตะกอง
 
เมืองมเยาะอู้ที่สร้างโดยพระเจ้านรเมขลาเป็นราชธานีอยู่นาน 355 ปี เมืองนี้เป็นที่รู้จักในยุโรปเมื่อฟรีอาร์ เซบาสเตียน มันริก เดินทางมาถึงเมื่อ พ.ศ. 2178 ในสมัยพระเจ้าสิริสุธรรมมา (Thiri Thudhamma) พระมหามุนี พระพุทธรูปที่ปัจจุบันอยู่ในมัณฑะเลย์เดิมอยู่มเยาะอู้ ภายในเมืองมเยาะอู้มีคลองมากมายใช้ในการคมนาคม และมีวัดเป็นจำนวนมาก<ref>{{cite book|last=William|first=Cornwell|title= History of Mrauk U|year=2004|publisher=[[Rowman & Littlefield|Lexington Books]]|location=Amherst, MD|isbn=0-7391-0356-3|url=https://books.google.com/books?id=H1c1UIEVH9gC&pg=PA232&lpg=PA232&dq=mrauk+u+kingdom+encyclopedia&source=bl&ots=5ga1dvwsR-&sig=eiE9uJG-CgwByNMVcYapZnL1OIY&hl=en&sa=X&ei=0idFVLGsGeS4mAXSm4DgDA&redir_esc=y#v=onepage&q=mrauk%20u%20kingdom%20encyclopedia&f=false=10 June 2013|page=232}}</ref>