ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 41:
ลักษณะเป็นอาคารทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง มีมุขยื่นทั้งสี่ด้าน สร้างบนฐานชาลาใหญ่ มุขด้านทิศตะวันตกเป็นทางเสด็จพระราชดำเนิน มุขด้านเหนือมีสะพานเกรินไว้เชิญพระโกศทรงพระศพประดิษฐานเหนือพระจิตกาธาน มุขด้านตะวันออกเป็นที่วางเตาเผาพระศพ บริเวณฐานชาลาทุกด้าน มีบันไดขึ้นลง แวดล้อมด้วยรั้วราชวัติ ฉัตร โคม และเทวดาประกอบพระเมรุ หน้าบันแต่ละมุขประดับด้วยอักษรพระนาม พร. ใต้พระชฎามหากฐิน รัชกาลที่ 6 และประดับลวดลายด้วยหัวของโคนันทเสน
 
เครื่องยอดพระเมรุประกอบด้วยชั้นเชิงกลอน 5 ชั้นกึ่งกลางของเชิงกลอนแต่ละชั้นมีซุ้มบันแถลงซ้อน 2 ชั้น มุขหลังคามีนาคปัก ส่วนบนเป็นองค์ระฆังรับบัลลังก์ เหนือบัลลังก์เป็นชุดบัวคลุ่ม 5 ชั้น ปลียอดแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ปลียอดส่วนต้นและส่วนปลายคั่นด้วยลูกอก้ว ถัดขึ้นไปเป็นที่ประดิษฐานสัปตปฎลเศวตฉัตร เครื่องยอดลักษณะนี้ ผู้ออกแบบเรียกว่า "เครื่องยอดทรงมณฑปแปลง" โดยแปลงให้ไม่มีชั้นเหมใต้บัวกลุ่ม พระเมรุองค์นี้จึงเป็นการออกแบบใหม่ ต่างจากคราวก่อนๆ ที่ใช้เทียบเคียงกับแบบพระเมรุที่สมเด็จฯสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ทรงออกแบบไว้แล้ว การตกแต่งพระเมรุใช้การซ้อนไม้แทนการใช้ไม้จริงและเสริมบางส่วนด้วยไฟเบอร์กลาส ประดับด้วยผ้าทองย่นสาบกระดาษสี
 
การตกแต่งพระเมรุครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานพระราชวินิจฉัยให้ตกแต่งพระเมรุเป็นอย่าง '''พระเมรุทอง''' เพื่อถวายพระเกียรติยศสูงสุดในพระอิสริยยศเจ้าฟ้าพระราชธิดาในพระมหากษัตริย์ และทรงเป็นอุภโตสุชาต มีพระชาติกำเนิดอันบริสุทธิ์ประดุจทองนพคุณ และในพระสถานะที่ทรงมีพระสกุลยศสูงที่สุดในบรรดาพระบรมวงศานุวงศ์ทั้งปวง โดยการออกแบบตกแต่งนายช่างศิลปกรรม และนักวิชาการช่างศิลป์ ได้คัดลวดลายแบบฝีมือช่างโบราณ เช่น ลายพรรณพฤกษา ดอกไม้รูปแบบต่างๆ และลวดลายดอกไม้และสัต์ที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ ทรงโปรด โดยประยุกต์เข้ากับลวดลายใบไม้ ดอกไม้ เถา จึงออกมาเป็นลวดลายประดับพระเมรุสื่อถึงพระอัธยาศัยโปรดธรรมชาติ
 
โครงสร้างสีของพระเมรุ ผู้ออกแบบได้เน้นการไล่ระดับสีเฉดสีแสดและสีชมพู โดยสีชมพู เป็นสีวันอังคารซึ่งเป็นวันประสูติและยังสื่อถึงการเป็นเจ้าฟ้าแรกประสูติพระองค์เดียวในจุฬาลงกรณราชสันตติวงศ์ ส่วนสีแสดหรือสีส้มเป็นสีที่สมเด็จเจ้าฟ้าฯ โปรด เมื่อผสมกับสีทองแล้วจะออกมาเป็นลายไทยที่สวยงาม พื้นพระเมรุใช้กระดาษแดงมีลายทอง หรือปิดกระดาษทองย่นที่มีลายสีแดง<ref>{{อ้างหนังสือ
บรรทัด 114:
== บำเพ็ญพระกุศลออกพระเมรุ ==
[[ไฟล์:บำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ.jpg|320px|thumbnail|right|การบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ พระราชทานพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง|link=Special:FilePath/บำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ_สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ.jpg]]
วันอาทิตย์ที่ ๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๕ เวลา ๑๗.๒๘ น. [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร]] ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ [[สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ไปยัง[[พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท]] ใน[[พระบรมมหาราชวัง]]ในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ [[สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี]]
 
ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระศพ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของ[[สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี]] แล้วประทับพระราชอาสน์ โปรดเกล้าฯ ให้อาลักษณ์อ่านประกาศกระแสพระบรมราชโองการสถาปนาพระเกียรติยศ โดยให้เจ้าพนักงานจัดสัปตปฎลเศวตฉัตรถวายกางกั้นพระโกศ จบแล้วทรงถวายพัดรองที่ระลึกงานออกพระเมรุพระศพฯ แด่สมเด็จพระราชาคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะที่ถวายพระธรรมเทศนา พระสงฆ์สวดศราทธพรต ๓๐ รูป พระสงฆ์ที่สดัปกรณ์ ๘๖ รูปเท่าพระชันษา และบรรพชิตจีนและญวน ๒๐ รูป
บรรทัด 131:
=== ริ้วกระบวนที่ ๒ ===
[[ไฟล์:Phra Maha Phichai Ratcharot carried Bejaratana Rajasuda's royal urn.JPG|thumb|left|320px|ริ้วขบวนที่ ๒ เชิญ[[พระมหาพิชัยราชรถ]]ทรงพระศพสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เคลื่อนจากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปยังมณฑลพระราชพิธีท้องสนามหลวง]]
ริ้วขบวนที่ ๒ เชิญพระมหาพิชัยราชรถทรงพระโกศ เคลื่อนไปตามถนนสนามไชย ถนนราชดำเนินใน ผ่านพลับพลายกหน้าพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท ซึ่ง[[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุกรมหมื่นสุทธนารีนาถ]]พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เฝ้าฯ ถวายบังคมพระโกศ จากนั้นริ้วขบวนจะผ่านกระทรวงกลาโหม เข้าสู่ถนนกลางท้องสนามหลวง และเคลื่อนเข้ามณฑลพระราชพิธี โดยมีนักเรียนเตรียมทหาร ๑๘๐ นาย ยืนเป็นแถวเกียรติยศรายทาง ริ้วขบวนประกอบด้วย ม้านำ ๒ ม้า วงโยธวาธิตกองดุริยางค์ทหารบก บรรเลงเพลงพญาโศกลอยลม ตามด้วยกองพันทหาร จัดจากกรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่ ๑๑ รักษาพระองค์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายเรือ และโรงเรียนนายเรืออากาศ ตามลำดับ ตามด้วยราชรถพระนำ มีพลฉุดชักรวม ๗๔ นาย นักเรียนเตรียมทหาร ๒๘๐ นาย เป็นชาวพนักงานกลองชนะ พระมหาพิชัยราชรถ ขนาบด้วยเครื่องอภิรุมชุมสาย และเครื่องสูงทองแผ่ลวด มีพลฉุดชักจากกรมสรรพาวุธทหารบก ๒๒๑ นาย ตามด้วยขบวนเสด็จฯ ขบวนข้าราชการ ทหาร ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ พระประยูรญาติ สมาชิกในราชสกุลในราชวงศ์จักรี ข้าราชบริพารในพระองค์ฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิในพระองค์ฯ ตามด้วยขบวนนิสิต นักศึกษา นักเรียนจากสถาบันการศึกษา ๘ สถาบัน เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นต้น ลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด นักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย ตามด้วยกองพันทหารอีก ๕ กองพัน จัดจากกองพันทหารม้าที่ ๑ กองพันทหารปืนใหญ่ ที่ ๑ กองพันทหารช่างที่ ๑ กองพันทหารราบที่ ๙ รักษาพระองค์ กองพันทหารนาวิกโยธินที่ ๑ และ กองพันที่ ๑ กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ ปิดริ้วขบวน
 
เมื่อพระมหาพิชัยราชรถเคลื่อนมายังกลางท้องสนามหลวงแล้ว เจ้าพนักงานเคลื่อนเกรินเทียบ พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชดำเนินยังพลับพลายก ณ มณฑลพระราชพิธี เพื่อทอดพระเนตรการเชิญพระโกศลงจากพระมหาพิชัยราชรถสับเปลี่ยนมายังพระยานมาศสามลำคาน เมื่อพระโกศประดิษฐานบนพระยานมาศแล้ว เจ้าพนักงานภูษามาลา และพลฉุดชักพระมหาพิชัยราชรถ ถวายบังคมพระโกศ พลแบกหามเคลื่อนพระยานมาศสู่มณฑลพระราชพิธี แล้วเจ้าพนักงานคุมริ้วขบวนให้สัญญาณกรับ เพื่อเคลื่อนริ้วขบวนที่ ๓ แตรวงบรรเลงเพลงมหาชัย
บรรทัด 172:
 
=== เชิญพระโกศพระอัฐิไปประดิษฐาน ณ วังรื่นฤดี ===
เมื่อขบวนพระอิสริยยศ ริ้วที่ 4 เชิญพระโกศพระอัฐิไปประดิษฐานในพระบรมมหาราชวังแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระโกศพระอัฐิไปประดิษฐาน ณ พระวิมานวังรื่นฤดี โดยขบวนรถยนต์ นางสุรัสวดี กุวานนท์ แม็กซี่ พระภาคิไนยในพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ในรัชกาลที่ 6 เป็นผู้อัญเชิญพระโกศพระอัฐิจากพระแท่นแว่นฟ้าบุษบกในพระที่นั่งทรงธรรมไปยังวังรื่นฤดี คณะครูและนักเรียน วชิราวุธวิทยาลัย โรงเรียนราชินี โรงเรียนปรินส์รอแยลส์วิทยาลัย และโรงเรียนในพระอุปถัมภ์ ตั้งแถวส่งพระอัฐิที่ถนนกลางท้องสนามหลวง
 
ขบวนเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไปประดิษฐาน ณ พระวิมานวังรื่นฤดี ประกอบด้วย รถจักรยานยนต์นำขบวน จากกองสันดิบาล ตำรวจนครบาล รถยนต์พระที่นั่งเชิญพระโกศพระอัฐิ เป็นรถยนต์คาร์ดิลแลคสีขาว ซึ่งเป็นรถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ขององค์สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ปักธงราชวงศ์ใหญ่ฝ่ายใน และรถยนต์ข้าราชบริพารจากกองราชพาหนะ สำนักพระราชวัง ขบวนเคลื่นออกจากท้องสนามหลวงไปตามถนนราชดำเนินเลี้ยวเข้าสู่ถนนนครสวรรค์ขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร ไปลงถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าถนนสุขุมวิท 38 ถึงยังวังรื่นฤดี มีข้าหลวงฝ่ายในของวังรื่นฤดีเฝ้ารับพระอัฐิ จากนั้นนางสุรัสวดี กุวานนท์ แม็คซี่ เชิญพระโกศพระอัฐิไปยังท้องพระโรงวังรื่นฤดี เชิญขึ้นบนพระตำหนัก เข้าสู่ห้องนมัสการประดิษฐานบนพระวิมาน นางสุรัสวดี กุวานนท์ แม็คซี่ จุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป และจุดธูปเทียนบูชาพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระอัฐิพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เป็นอันเสร็จพิธี
บรรทัด 178:
== พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระอัฐิ ==
[[ไฟล์:พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี.jpg|320px|thumbnail|right|พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี|link=Special:FilePath/พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิสมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา_สิริโสภาพัณณวดี.jpg]]
วันที่ 11 เมษายน 2555 เวลา 16.30 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาวรชายาฯ(ยศในขณะนั้น) พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุกรมหมื่นสุทธนารีนาถ และสมเด็จพระเจ้าหลานเธอลูกเธอ พระองค์เจ้าเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีณวรี นารีรัตน์รัตนราชกัญญา ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เสด็จถึง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมอัฐิ[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระบรมอัฐิ[[พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระบรมอัฐิ[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พระบรมอัฐิ[[สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]] พระบรมอัฐิ[[สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า]] พระอัฐิ[[พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี]] และพระบรมอัฐิ[[สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี]] ซึ่งเป็นสมเด็จพระบรมราชบุพการีที่เชิญออกประดิษฐานบนแท่นนพปฎลมหาเศวตฉัตร และทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ พระแท่นสุวรรณเบญจดล จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จฯ ไปถวายพัดรองที่ระลึกงานทรงบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี แด่สมเด็จพระราชาคณะ จากนั้นสมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร สมเด็จพระบรมราชบุพการี และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่พระแท่นมณฑลมุก สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมารทรงจุดธูปเทียนทรงจุดธูปเทียนสำหรับพระบรมอัฐิพระบรมราชบุพการีทรงธรรม และสำหรับสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีทรงธรรม พระสงฆ์ถวายพระธรรมเทศนาจบแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ ทรงทอดผ้าไตรสดับปกรณ์พระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี พระสงฆ์ 86 รูป สดับปกรณ์พระอัฐิ จากนั้นทรงทอดผ้าไตรสดับปกรณ์พระบรมอัฐิและพระอัฐิพระบรมราชบุพการี ทรงหลั่งทักษิโณทก ทรงกราบที่หน้าพระพุทธรูปประจำพระชนมวารพระบรมอัฐิ และพระอัฐิ ที่พระแท่นมณฑลมุก เสด็จฯ ไปทรงกราบพระบรมอัฐิและพระอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี ที่หน้าพระแท่นนพปฎลเศวตฉัตร แล้วเสด็จฯ ไปทรงกราบพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินกลับ
 
== พระราชพิธีเชิญพระโกศพระอัฐิ ==
[[ไฟล์:อัญเชิญพระอัฐิ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี.jpg|320px|thumbnail|right|ริ้วขบวนที่ ๕ เชิญพระอัฐิ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยพระที่นั่งราเชนทรยาน ไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท|link=Special:FilePath/อัญเชิญพระอัฐิ_สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา_สิริโสภาพัณณวดี.jpg]]
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีเชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ประดิษฐานที่พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
 
๑๒ เมษายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๐.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ มายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนถวายราชสักการะพระอัฐิ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระสงฆ์ ๓๐ รูปที่สวดพระพุทธมนต์ แต่วันก่อน สวดถวายพรพระ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ถวายจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม ทรงศีล พระราชาคณะถวายพระธรรมเทศนา ถวายอนุโมทนา พระสงฆ์ ๔ รูป รับอนุโมทนา สมด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ และทรงทอดผ้าไตรถวายพระเทศน์และพระสงฆ์ที่สวดรับอนุโมทนา ๕ รูป สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระสงฆ์ ๘๖ รูป เท่าพระชันษาสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ขึ้นนั่งยังอาสนสงฆ์สวดมาติกา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์เป็นเที่ยว ๆ จนครบ ๘๖ รูป เจ้าพนักงานเทียบพระที่นั่งราเชนทรยาน ที่พระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตั้งขบวนพระอิสริยยศ เชิญพระโกศพระอัฐิสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
 
=== ริ้วกระบวนที่ ๕ ===
ริ้วขบวนที่ ๕ เชิญพระอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน ไปยังพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ประกอบด้วยเจ้าพนักงานเครื่องประโคม จัดจากนักเรียนเตรียมทหาร พระที่นั่งราเชนทรยานทรงพระอัฐิ ขนาบด้วยเครื่องสูงหักทองขวางทั้งด้านหน้าและด้านหลังพระยาน ขบวนเชิญเครื่องประกอบพระอิสริยยศราชูปโภค เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ขบวนเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระบรมวงศานุวงศ์ และสมาชิกราชสกุล เมื่อริ้วขบวนยาตราถึงหน้าอัฒจันทร์มุขหน้าด้านตะวันออก พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เจ้าพนักงานเชิญพระอัฐิจากพระที่นั่งราเชนทรยานขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน (ยอดพระมหาปราสาทองค์กลาง) ชั้น ๓ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ เสด็จฯ ตาม เชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นประดิษฐานที่พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เมื่อประดิษฐานพระโกศพระอัฐิเรียบร้อยแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมอัฐิและพระอัฐิ เสด็จไปยังหอพระทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธรูป เสด็จพระราชดำเนินกลับ
 
== พระราชพิธีบรรจุพระสรีรางคาร ==
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปทรงบรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ณ เสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
 
=== ริ้วกระบวนที่ ๖ ===
[[ไฟล์:เชิญพระสรีรางคาร สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี.jpg|320px|thumbnail|left|ริ้วขบวนที่ ๖ เชิญพระผอบพระสรีรางคาร สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ออกจากพระบรมมหาราชวังทางประตูวิเศษไชยศรี เทียบที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม|link=Special:FilePath/เชิญพระสรีรางคาร_สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา_สิริโสภาพัณณวดี.jpg]]
เวลา ๑๖.๓๐ น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ โดยรถยนต์พระที่นั่งตาม กองทหารม้าตามเชิญพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จากรถยนต์พระที่นั่งเข้าประตูวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ถนนราชบพิธ ไปยังพระอุโบสถ
 
=== พระราชพิธีเชิญพระสรีรางคารบรรจุ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ===
[[ไฟล์:บรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ.JPG|320px|thumbnail|right|สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงบรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี|link=Special:FilePath/บรรจุพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดาฯ.JPG]]
จากนี้นจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธอังคีรส ประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ พระราชสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ ๗ และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ ๓๐ รูปสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระผอบพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคีนีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ไปยังเสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเลื่อนกล่องบรรจุพระสรีรางคารเข้าประดิษฐานภายในถ้ำศิลา ณ เสาวภาประดิษฐาน สุสานหลวง ทรงวางพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 9พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงจุดธูปเทียนเครี่องทองน้อยถวายสักการะพระอัฐิ เสด็จพระราชดำเนินกลับ
 
=== พิธีบรรจุพระสรีรางคารที่ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ===
วันพุธที่ 12 ธันวาคม 2555 เวลา 16.13 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุกรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จแทนพระองค์ ไปยังวัดพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ในการทรงบรรจุพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ที่ใต้ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ซึ่งหลังจากพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2555 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แบ่งพระสรีรางคารออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเชิญไปบรรจุที่เสาวภาประดิษฐาน ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และอีกส่วนหนึ่งโปรดให้เชิญไปบรรจุที่ใต้ฐานพระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร ณ พระวิหารทิศเหนือ องค์พระปฐมเจดีย์ เคียงข้างพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เมื่อเสด็จถึงทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ ศรีอินทราทิตย์ธรรโมภาส มหาวชิราวุธราชปูชนียบพิตร ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เสด็จไปประเคนพัดรองที่ระลึกแด่พระสงฆ์ ทรงศีล ทรงทอดผ้าสดับปกรณ์พระสรีรางคาร ทรงหลั่งทักษิโณทก เจ้าพนักงานเชิญกล่องบรรจุพระสรีรางคารไปยังหน้าที่บรรจุ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุกรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเลื่อนพระสรีรางคารเข้าสู่ถ้ำศิลา ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยทรงคม
 
จากนั้น ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม และจับสายสูตรยกสัปตปฎลเศวตฉัตร หรือฉัตรขาว ๗ ชั้นองค์ที่แขวนสุมพระอัฐิ ณ พระเมรุ ท้องสนามหลวง ถวายพระพุทธรูปปางประสูติ เพื่ออุทิศถวายเป็นพระกุศล ตามราชประเพณีที่จะเชิญฉัตรแขวนสุมพระอัฐิในงานพระเมรุ ไปถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธรูปสำคัญในพระอารามที่พระองค์ผู้สิ้นพระชนม์ทรงเคยอุปการะ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชศรัทธายิ่งต่อพระปฐมเจดีย์ ทรงสร้างพระร่วงโรจนฤทธิ์ และมีพระราชพินัยกรรมระบุให้เชิญพระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุไว้ที่ใต้ฐานพระพุทธรูป อีกทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังสนามจันทร์ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงซ้อมรบเสือป่าเป็นประจำทุกปี สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จึงทรงพระศรัทธาทรงบำเพ็ญพระกุศล ณ วัดพระปฐมเจดีย์ และทรงเป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการบูรณะพระราชวังสนามจันทร์ รวมถึงทรงอุปถัมภ์บำรุงวัด และสถาบันการศึกษาของจังหวัดไว้เป็นจำนวนมาก ในการนี้ ท่านผู้บังคับการ ผู้บริหาร ผู้กำกับคณะ ครู และนักเรียนวชิราวุธวิทยาลัย เข้าเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย
 
อนึ่ง ในเวลา 13.00 นาฬิกา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เจ้าพนักงานเชิญพระสรีรางคารที่พักไว้ภายในพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ขึ้นรถยนต์พระที่นั่ง ปักธงประจำพระอิสริยยศ เคลื่อนออกจากวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มายังวัดพระปฐมเจดีย์ แล้วเชิญพระสรีรางคารทั้งสองส่วนขึ้นพระราชกง แห่เป็นกระบวนพระอิสริยยศ มายังวิหารพระร่วง และเมื่อเสร็จการบรรจุพระสรีรางคาร เจ้าพนักงานได้เชิญพระสรีรางคารส่วนสุดท้ายซึ่งจะไปลอยยังทะเลอ่าวไทย ขึ้นพระราชกง แห่เป็นกระบวนพระอิสริยยศ กลับวังรื่นฤดี
 
=== ลอยพระสรีรางคาร ===