ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 55:
== พระราชพิธีถวายน้ำสรงพระศพ==
[[ไฟล์:สรงนำพระศพ.jpg|thumb|280px|left|พระราชพิธีถวายน้ำสรงพระศพ]]
วันพฤหัสบดีที่ [[28 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2554]] เวลา 16.55 นาฬิกา [[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช|พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] ทรงเครื่องบรมขัติยราชภูษิตตาภรณ์ปกติขาวและ[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งยังพระที่นั่งพิมานรัตยาใน[[พระบรมมหาราชวัง]]ในการถวายสรงน้ำพระศพในการนี้[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] และ[[พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ]] โดยเสด็จด้วย ต่อมาเวลา 17.08 นาฬิกา รถยนต์พระที่นั่งมาถึงพระบรมมหาราชวัง โดยมี [[ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี]] [[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ]], [[พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา]], [[พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์]] และ[[พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์]] เฝ้ารับเสด็จฯ เมื่อเทียบรถยนต์พระที่นั่งที่ประตูกำแพงแก้ว ข้าง[[พระที่นั่งราชกรัณยสภา]] จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จขึ้นสู่พระที่นั่งพิมานรัตยา ในพระบรมมหาราชวัง เสด็จเข้าสู่ภายในพระฉาก ซึ่งพระศพบรรทมอยู่บนพระแท่น
 
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระศพบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยราชสักการะพระศพ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับขวดน้ำพระสุคนธ์จาก[[คุณเพ็ญศรี เขียวมีส่วน]] ถวายสรงที่พระศพ แล้วทรงคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงรับหม้อน้ำพระสุคนธ์และโถน้ำขมิ้นจากเจ้าพนักงานสนมพลเรือนถวายสรงที่ตรงพระอุระพระศพ ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงหวีพระเกศาพระศพขึ้นครั้งหนึ่ง แล้วทรงหวีลงอีกครั้งหนึ่ง เสร็จแล้วทรงหักพระสางนั้นวางไว้ในพานซึ่งเจ้าพนักงานเชิญอยู่ จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินไปประทับพระราชอาสน์ที่นอกพระฉาก และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้บรรดาราชนิกูล ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คณะองคมนตรี ได้ขึ้นไปยังพระที่นั่งพิมานรัตยา จากนั้นเจ้า​พนักงาน​เชิญ​ผ้าไตร 86 ไตร ถวาย​ทรง​จบ นาย​แก้ว​ขวัญ วัชโรทัย เลขาธิการ​พระราชวัง กราบบังคมทูลพระกรุณาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ ไป​ทรง​พระราชทานซองพระศรีบรรจุดอกบัวและธูปเทียนที่ปากพระโกศ แล้วทรงรับแผ่นทองคำจำหลักลายปิดพระพักตร์ ทรงรับพระชฎาทองคำวางข้างพระเศียรพระศพ แล้วเสด็จออกไปประทับพระราชอาสน์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานเชิญพระศพลงสู่[[พระโกศ]] ตำรวจหลวงเชิญพระโกศพระศพไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินตาม ตำรวจหลวงเชิญพระโกศพระศพขึ้นประดิษฐานเหนือพระแท่นแว่นฟ้าทอง ประกอบพระลองทองใหญ่ ภายใต้เศวตฉัตร 5 ชั้น แวดล้อมด้วยเครื่องสูงทองแผ่ลวด บังแทรก ชุมสาย ต้นไม้ทองเงิน ณ มุขตะวันตก พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
 
เสร็จแล้ว พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประทับพระราชอาสน์ แล้วพระราชทานพวงมาลาให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่หน้าพระโกศพระศพ เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญเครื่องทองน้อย และเครื่องราชสักการะเข้าถวาย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย และเครื่องราชสักการะพระศพ แล้วพระราชทานแก่เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่หน้าพระโกศพระศพ ทรงคม ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารให้เจ้าพนักงานเชิญไปตั้งหน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงคม แล้วทรงทอดผ้าไตร 1 ไตร บนโต๊ะที่พระภูษาโยง พระสงฆ์ 86 รูป สดับปกรณ์ ทรงหลั่งทักษิโณทก ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงคมไปที่หน้าพระโกศพระศพ ทรงคมไปยังพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่ประดิษฐานอยู่บนพระแท่นมหาเศวตฉัตร จากนั้นทรงจุดธูปเทียนเครื่องบูชากระบะมุกพระราชทานให้เจ้าพนักงานเชิญไปตั้งที่หน้าพระแท่นเตียงพระสวดพระอภิธรรม ณ มุขหน้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงคม จากนั้น เสด็จลงทางมุกกระสันพระที่นั่งพิมานรัตยา ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
 
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมประจำทั้งกลางวันและกลางคืน ในเวลา 18.00 น.ไปจนถึงเวลา 07.00 น.รุ่งขึ้น รับพระราชทานฉันเช้า 8 รูป เพล 8 รูป มีกำหนด 100 วัน อนึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่วันบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร 7 วัน เป็นต้นไป<ref>[http://www.ch7.com/news/news_royal_detail.aspx?c=1&p=1&d=151588 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินไปสรงน้ำพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี]</ref>
บรรทัด 71:
 
=== พิธีถวายเลี้ยงภัตตาหารเช้าแด่พระพิธีธรรม ===
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุมัติ ให้[[พระบรมวงศานุวงศ์]] ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระศพฯ ในการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ระหว่างการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพ ครบทั้ง 100 วัน ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม-4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
 
=== การบำเพ็ญพระราชกุศล บำเพ็ญพระกุศล และบำเพ็ญกุศลประจำวันพุธ ===
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้พระบรมวงศานุวงศ์ สมาชิก[[ราชสกุล]]ทุกมหาสาขา และ[[ราชินีกุล]] คณะ[[องคมนตรี]] [[คณะรัฐมนตรี]] สมาชิก[[รัฐสภา]] [[ข้าราชการตุลาการ]] ข้าราชการ[[ทหาร]] ข้าราชการ[[ตำรวจ]] และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างๆ ร่วมในการบำเพ็ญพระราชกุศล บำเพ็ญพระกุศล และบำเพ็ญกุศล ถวายพระศพประจำสัปดาห์ในทุกวันพุธ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง หลังพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน 7 วัน จนถึงพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลทักษิณานุปทาน 100 วัน โดยมีกำหนดการดังนี้
 
* '''วันพุธที่ 10 สิงหาคม 2554 และ วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 2554''' [[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]] [[สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]] และพระบรมวงศานุวงศ์
* '''วันพุธที่ 17 สิงหาคม 2554''' สมาชิก[[ราชสกุล]]ทุกมหาสาขา และสมาชิก[[ราชินีกุล]]
* '''วันพุธที่ 24 สิงหาคม 2554''' คณะองคมนตรี และสกุลที่เกี่ยวเนื่องกับ[[พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี]] (อภัยวงศ์,จารุดุล,กุวานนท์)
บรรทัด 93:
 
=== การประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลกงเต็ก ===
ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันที่ 16 กันยายน 2554 เวลา 13.30 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พลโท หม่อมเจ้าเฉลิมศึก ยุคล เสด็จแทนพระองค์ ในการคณะสงฆ์จีนนิกายบำเพ็ญกุศล (พิธีกงเต็ก) ถวายพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
 
ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูป ทรงกราบ ประทับพระเก้าอี้ พระสงฆ์จีนสวดพระพุทธมนต์ อัญเชิญพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จลงมาประทับ พระมหาคณาจารย์จีนธรรมสมาธิวัตร (เย็นเต็ก) เจ้าอาวาสวัดโพธิ์แมนคุณาราม ประธานกรรมการสงฆ์จีนนิกายอ่านประกาศการบำเพ็ญกุศล (กงเต็ก) พลโทหม่อมเจ้าเฉลิมศึก เสด็จลงมณฑลพิธี เจ้าพนักงานเชิญเทวทูตม้าเข้าถวาย ทรงอธิษฐาน แล้วมอบเจ้าพนักงานนำไปเผา พระสงฆ์จีนสวดพระพุทธมนต์ถวายพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระมหาโพธิสัตว์ จากนั้นมีพิธีสรงน้ำดวงพระวิญญาณ พระสงฆ์จีน 86 รูปขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พลโทหม่อมเจ้าเฉลิมศึก เสด็จตามพระสงฆ์จีนไปถวายเครื่องเสวยคาว-หวาน ผลไม้ ที่หน้าพระโกศพระศพ พระสงฆ์จีน 21 รูปเชิญดวงพระวิญญาณเสด็จขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท สวดพระพุทธมนต์
บรรทัด 162:
ดูบทความหลักที่ [[พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี]]
[[ไฟล์:Phra Maha Phichai Ratcharot carried Bejaratana Rajasuda's royal urn.JPG|thumb|left|300px|ริ้วกระบวนเชิญ[[พระมหาพิชัยราชรถ]]ทรงพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี]]
'''พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี''' เป็นพระราชพิธีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้รัฐบาลไทยขึ้นจัดเพื่อแสดงความจงรักภักดีและความอาลัยแด่สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี โดยกำหนดวันพระราชพิธีระหว่างวันที่ 8-12 เมษายน พ.ศ. 2555 โดยกำหนดการพระราชพิธีสำคัญ ได้แก่ การบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ในวันที่ 8 เมษายน พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพในวันที่ 9 เมษายน พระราชพิธีเก็บพระอัฐิ ในวันที่ 10 เมษายน การบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระอัฐิ ในวันที่ 11 เมษายน การเชิญพระอัฐิขึ้นประดิษฐานที่พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และการเชิญพระผอบพระสรีรางคารไปบรรจุยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ในวันที่ 12 เมษายน
 
สำหรับการดำเนินการพระราชพิธีฯ นั้น คณะทำงานทุกฝ่ายได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มีการสร้างพระเมรุและอาคารประกอบ เช่น พระที่นั่งทรงธรรม หอเปลื้อง ศาลาลูกขุน เป็นต้น นอกจากนี้ในการก่อสร้างพระเมรุยังมีการติดตั้งลิฟท์ที่ใช้เป็นที่ขึ้นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อเข้าสู่พระจิตกาธานภายในพระเมรุ ส่วนการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบพระราชพิธีนั้น ได้มีการซ่อมแซมพระมหาพิชัยราชรถ พระยานมาศสามลำคาน ราชรถน้อย พระที่นั่งราเชนทรยาน และพระวอสีวิกากาญจน์ เพื่อพร้อมใช้ในพิธีจริง ซึ่งราชรถ ราชยาน และเครื่องประกอบเหล่านี้ได้ใช้ในการซ้อมย่อยเมื่อวันที่ 18 มีนาคม และ 25 มีนาคม รวมถึงการการซ้อมใหญ่ในวันที่ 31 มีนาคม
 
[[ไฟล์:The 1st Artillery Battalion fired a 21-gun salute for Princess Bejaratana Rajasuda's royal cremation ceremony.webm|thumb|left|300px|ทหารปืนใหญ่จากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ ปฏิบัติหน้าที่ยิงสลุตถวายพระเกียรติ­แก่พระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ในระหว่างที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร­ะราชทานเพลิงพระศพ]]
 
วันจันทร์ที่ [[9 เมษายน|9 เมษายน]] [[พ.ศ. 2555|พ.ศ. 2555]] เวลาประมาณ 07.00 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯเกล้าฯ ให้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยรวรางกูรพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร และ[[สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] เสด็จพระราชดำเนินและทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์เชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพออกพระเมรุ ณ [[พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท]] ใน[[พระบรมมหาราชวัง]] โดย [[สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี]] และ[[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ]] ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ไปยัง[[พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท]] เพื่อทรงประกอบพิธีอัญเชิญ[[พระโกศทองใหญ่]]ทรงพระศพออกพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพ โดยพระราชาคณะ 30 รูป สดับปกรณ์ก่อนเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพลงจาก[[พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท]] โปรดเกล้า ฯ ให้เปลื้องพระลองทองใหญ่ประกอบพระโกศออกเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพไปประดิษฐานที่พระยานมาศ สามลำคาน
 
หลังจากนั้น ริ้วขบวนที่ 1 จะอัญเชิญพระโกศทองใหญ่ทรงพระศพ โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ไปยังพระมหาพิชัยราชรถที่ รออยู่ที่บริเวณหน้า[[วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม]] เส้นทางจากประตูศรีสุนทร [[ประตูเทวาภิรมย์]] [[ถนนมหาราช]] [[ถนนท้ายวัง]]และ[[ถนนสนามไชย]] กำลังพล 622 นาย