ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เรขาคณิตวิเคราะห์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Jamesped629 (คุย | ส่วนร่วม)
ปรับปรุงการพิมพ์และเนื้อหาบางส่วนที่เป็นคณิตศาสตร์มากขึ้น
Jamesped629 (คุย | ส่วนร่วม)
ปรับปรุงส่วนที่ขาดหายไป
บรรทัด 20:
 
ซึ่งจะนับจตุภาคที่ 1 ในส่วนพื้นที่บนขวา แล้ววนทวนเข็มนาฬิกา
 
<br />
 
== จุด (Point) ==
เส้น 25 ⟶ 27:
 
=== 1. การหาระยะห่างระหว่างจุด 2 จุด ===
'''ทฤษฎีบทที่ 1''' กำหนดให้ <math>P(x_{1},y_{1})</math> และ <math>Q(x_{2},y_{2})</math> เป็น 2 จุดใด ๆ บนระนาบ <math>XY</math>และให้ ''<math>|PQ|</math>'' เป็นระยะห่างระหว่างจุด ''<math>P</math>'' และจุด ''<math>Q</math>'' จะได้ว่า''<math> |PQ|=\sqrt{\bigl(x_{1}-x_{2})^2+\bigl(y_{1}-y_{2}\bigr)^2}</math>''
<blockquote>
'''ทฤษฎีบทที่ 1''' กำหนดให้ <math>P(x_{1},y_{1})</math> และ <math>Q(x_{2},y_{2})</math> เป็น 2 จุดใด ๆ บนระนาบ <math>XY</math>และให้ ''<math>|PQ|</math>'' เป็นระยะห่างระหว่างจุด ''<math>P</math>'' และจุด ''<math>Q</math>'' จะได้ว่า''<math> |PQ|=\sqrt{\bigl(x_{1}-x_{2})^2+\bigl(y_{1}-y_{2}\bigr)^2}</math>''
</blockquote>
 
=== 2. จุดกึ่งกลางระหว่างจุดสองจุด ===
'''ทฤษฎีบทที่ 2''' กำหนดให้ <math>P(x_{1},y_{1})</math> และ <math>Q(x_{2},y_{2})</math> เป็น 2 จุดใด ๆ บนระนาบ <math>XY</math> และให้ <math> R</math> เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างจุด ''<math>P</math>'' และจุด ''<math>Q</math>'' ซึ่งอยู่บนส่วนของเส้นตรง <math>PQ</math> แล้ว พิกัดของจุด ''<math> R</math>'' คือ <math> R\biggl(\frac{x_{1}+x_{2}}{2},\frac{y_{1}+y_{2}}{2}\biggr)</math>
<blockquote>
'''ทฤษฎีบทที่ 2''' กำหนดให้ <math>P(x_{1},y_{1})</math> และ <math>Q(x_{2},y_{2})</math> เป็น 2 จุดใด ๆ บนระนาบ <math>XY</math> และให้ <math> R</math> เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างจุด ''<math>P</math>'' และจุด ''<math>Q</math>'' ซึ่งอยู่บนส่วนของเส้นตรง <math>PQ</math> แล้ว พิกัดของจุด ''<math> R</math>'' คือ <math> R\biggl(\frac{x_{1}+x_{2}}{2},\frac{y_{1}+y_{2}}{2}\biggr)</math>
</blockquote>
 
=== 3.จุดที่แบ่งระยะทางเป็นระยะ <math> m:n</math> ===
<blockquote>
'''ทฤษฎีบทที่ 3''' กำหนดให้ <math>P(x_{1},y_{1})</math> และ <math>Q(x_{2},y_{2})</math> เป็น 2 จุดใด ๆ บนระนาบ <math>XY</math> และให้ <math> R</math> เป็นเป็นจุดที่แบ่งระยะทางเป็นสัดส่วนระยะ <math> m:n</math>ระหว่างจุด ''<math>P</math>'' และจุด ''<math>Q</math>'' ซึ่งอยู่บนส่วนของเส้นตรง <math>PQ</math> แล้ว พิกัดของจุด ''<math> R</math>'' คือ <math> R\biggl(\frac{nx_{1}+mx_{2}}{m+n},\frac{ny_{1}+my_{2}}{m+n}\biggr)</math>
</blockquote>
 
== เส้นตรง (Linear) ==
 
=== 1. ความชันของเส้นตรง ===
'''ความชัน (slope''' หรือ '''gradient)''' ของเส้นตรง คือ อัตราการเปลี่ยนแปลงของผลต่างของ <math> y</math> เทียบกับผลต่างของ <math> x</math> ซึ่งนิยามได้ดังนี้
<blockquote>
'''บทนิยาม''' ให้เส้นตรง <math> \ell</math> เป็นเส้นตรงที่ลากผ่านจุด <math>P(x_{1},y_{1})</math> และ <math>Q(x_{2},y_{2})</math> โดยที่ <math>x_{1}\ne y_{2}</math> และให้ <math>m</math> แทนความชันของเส้นตรงจะได้ว่า <math>m=\frac{\Delta y}{\Delta x}=\frac{y_{2}-y_{1}}{x_{2}-x_{1}}=tan \theta</math>
</blockquote>ความสัมพันธ์ของความชันของเส้นตรง
 
1. ถ้าเส้นตรง 2 เส้นใด ๆ ตั้งฉากกันแล้ว <math>m_{1}m_{2}=-1</math>
 
2. ถ้าเส้นตรง 2 เส้นใด ๆ ขนานกันแล้ว <math>m_{1}=m_{2}</math>
 
=== 2. สมการเส้นตรง ===
สำหรับสมการเส้นตรงนั้นจะเขียนได้ 3 แบบ คือ
 
'''2.1 สมการของเส้นตรง (Linear equation)'''
<math>y-y_{1}=m(x-x_{1})</math>
'''2.2 สมการเส้นตรงในรูปมาตรฐาน (Standard Form)'''
'''<math>y=mx+c</math>''' เมื่อ <math>c</math> คือ ระยะตัดแกน <math>Y</math>
'''2.3 สมการเส้นตรงในรูปทั่วไป (General form of linear equation)'''
'''<math>Ax+By+C=0</math>'''
จากสมการ 2.3 เมื่อเทียบกับสมการ 2.2 จะได้ ความชัน คือ <math>m=-\frac{A}{B}</math> และระยะตัดแกน คือ ''<math>c=-\frac{C}{B}</math>''
 
<math>y-y_{1}=m(x-x_{1})</math>
 
'''2.2ตัวอย่างเช่น : จงหาสมการเส้นตรงในรูปมาตรฐานที่ลากผ่านจุด <math> (Standard-2,9)</math> Formและ <math> (3,-11)</math>'''
 
<u>'''วิธีทำ'''</u> เนื่องจาก ความชันของเส้นตรง คือ <math>m=\frac{(9)-(-11)}{(-2)-(3)}=\frac{20}{-5}=-4</math>
'''<math>y=mx+c</math>''' เมื่อ <math>c</math> คือ ระยะตัดแกน <math>Y</math>
 
'''2.3 จากสมการเส้นตรงในรูปทั่วไป <math>y-y_{1}=m(General form of linear equationx-x_{1})'''</math>
 
จะได้สมการในรูปทั่วไปคือ <math>y-(-11)=(-4)(x-3)</math>
 
<math>y+11=-4x+12</math>
 
<math>y+4x-1=0</math>
 
และจะได้สมการในรูปมาตรฐาน คือ <math>y=-4x+1</math>
 
ดังนั้น สมการเส้นตรงที่ลากผ่านจุด <math> (-2,9)</math> และ <math> (3,-11)</math> คือ <math>y+4x-1=0</math> หรือ <math>y=-4x+1</math> #
 
</blockquote>===== ความสัมพันธ์ของความชันของเส้นตรง =====
'''<math>Ax+By+C=0</math>'''
1. สำหรับเส้นตรง <math>L_{1}</math>และ <math>L_{2}</math> ใด ๆ ที่มีเส้นใดเส้นหนึ่งไม่ขนานกับแกน <math>X</math> ถ้า <math>L_{1}\perp L_{2}</math> (ตั้งฉากกัน) แล้ว <math>m_{1}m_{2}=-1</math>
 
2. ถ้าสำหรับเส้นตรง <math>L_{1}</math>และ <math>L_{2}</math> เส้นใด ๆ ถ้า <math>L_{1}\mid \mid L_{2}</math> (ขนานกัน) แล้ว <math>m_{1}=m_{2}</math>
จากสมการ 2.3 เมื่อเทียบกับสมการ 2.2 จะได้ ความชัน คือ <math>m=-\frac{A}{B}</math> และระยะตัดแกน คือ ''<math>c=-\frac{C}{B}</math>''
 
43.2 สมการถ้าเส้นตรงที่ผ่านจุด <math>(x_L_{1},y_{1})</math> และมีความชันเท่ากับขนานกับแกน m<math>X</math> แล้ว <math>m=0</math>
พักก่อน 25/7/62 เสร็จแน่
 
== ความสัมพันธ์ระหว่างเส้นตรงและจุด ==
m=-A/B
ตัวอย่าง จงหาความชันของเส้นตรง 3x + 4y - 5 = 0
วิธีทำ4y = -3x + 5
y = -(-3/4)x +(5/4)
 ความชันคือ -3/4
4.5 เส้นตรง l1 ขนานกับ l2 ก็ต่อเมื่อ m1=m2
เส้นตรง l1 ตั้งฉากกับ l2 ก็ต่อเมื่อ m1m2 = -1
 
5=== 1. การหา ระยะทางจากจุดไปยังห่างระหว่างเส้นตรงกับจุด ===
'''ทฤษฎีบทที่ 4''' ระยะห่างระหว่างเส้นตรง '''<math>L_{1} : Ax+By+C=0</math>''' และจุด <math>(x_{1},y_{1})</math> คือ <math>d=\frac{|Ax_{1}+By_{1}+C|}{\sqrt{A^{2}+B^{2}}}</math>
กำหนดให้ l เป็นเส้นตรงที่มีสมการ Ax + By + C = 0 และ P(x1,y1) เป็นที่อยู่นอกเส้น l ดังรูป
ถ้าหาก <math>d=0</math> แล้วนั่นหมายความว่า จุด <math>(x_{1},y_{1})</math> อยู่บนเส้นตรง '''<math>L_{1} : Ax+By+C=0</math>''' หรือก็คือระยะห่างระหว่างเส้นตรงกับจุดเท่ากับ '''<math>0</math>'''
 
=== 2. ระยะห่างระหว่างเส้นตรงคู่ขนานทั้งสองเส้น ===
P(x1,y1)
'''ทฤษฎีบทที่ 5''' ระยะห่างระหว่างเส้นตรง '''<math>L_{1} : Ax+By+C_{1}=0</math>''' และเส้นตรง <math>L_{2} : Ax+By+C_{2}=0</math> คือ <math>d=\frac{|C_{1}-C_{2}|}{\sqrt{A^{2}+B^{2}}}</math>
d l
Ax + By + C = 0
 
=== 3. การหาพื้นที่รูป <math>n</math> เหลี่ยม ===
'''ทฤษฎีบทที่ 6''' ให้จุด <math>(x_{1},y_{1}), (x_{2},y_{2}), (x_{3},y_{3}), ... , (x_{n-1},y_{n-1})</math> และ <math>(x_{n},y_{n})</math> พิกัดแต่ละจุดของรูป <math>n</math> เหลี่ยมซึ่งเริ่มนับจาก <math>(x_{1},y_{1})</math> จนไปถึง <math>(x_{n},y_{n})</math> ในทิศทางทวนเข็นนาฬิกาแล้ว สูตรการหาพื้นที่รูป <math>n</math> เหลี่ยม คือ <math>\frac{1}{2}\begin{vmatrix} x_{1} & y_{1} \\ x_{2} & y_{2} \\ x_{3} & y_{3} \\ \vdots & \vdots \\ x_{n} & y_{n} \\ x_{1} & y_{1} \end{vmatrix}</math> โดยใช้หลักการคูณลง - คูณขึ้น เช่นเดียวกับการหาดิเทอร์มิเนนท์ของเมตริกซ์<ref>https://www.gotoknow.org/posts/430327</ref>
 
== บรรณานุกรม ==
ถ้า d เป็นระยะทางจากจุด P ไปยังเส้นตรง l
https://www.gotoknow.org/posts/430327
 
http://scimath.org/ebook/math/m4a/vol2/
d = Ax1 + By1 + C
 A2 + B2
[[หมวดหมู่:เรขาคณิตวิเคราะห์| ]]