ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Rongple36 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Rongple36 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: การแก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 91:
ขณะที่ทางพม่าได้เกิดกบฏขึ้นที่เมืองมณีปุระ พระเจ้ามังระทรงตัดสินพระทัยไม่เรียกทัพกลับ ทรงนำกองทัพไปปราบกบฏด้วยพระองค์เอง เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2307 เสร็จแล้วจึงทรงส่งกองทัพหนุนมาให้ทัพฝ่ายใต้ ทัพของมังมหานรธามีทหารเดิม 20,000 นาย ทำให้มีทหารเพิ่มขึ้นอีก 30,000 นาย<ref name=geh-248>Harvey, p. 248</ref> ทัพพม่าของมังมหานรธา จึงมีทหารรวมทั้งสิ้น 50,000 นาย ซึ่งนับได้ว่าเป็นการระดมทหารครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่[[การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง|สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง]]<ref name=geh-333>Harvey, pp. 333-335</ref> นอกจากนี้ ฝ่ายพม่ายังมีกำลังปืนใหญ่ 200 นายที่เป็นทหารบริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศสที่ถูกจับเป็นเชลยเมื่อคราวพม่าเกิดศึกภายในด้วย
 
ฝ่ายทัพมังมหานรธา ราว พ.ศ. 2307 มีราชการต้องปราบกบฏที่[[ทวาย]] ต่อมาโจมตีลึกเข้าไปถึงเพชรบุรี แต่ถูกขัดขวางจากทัพอยุธยาต้องยกทัพกลับ ศึกครั้งนี่นี้​อยุธยาเสียทวาย และตะนาวศรีเป็นการถาวร<ref>ดนัย ไชยโยค. หน้า 86-87.</ref> หลังจากที่ได้พักค้างฝนที่ทวายใน พ.ศ. 2308 พร้อมกะเกณฑ์ไพร่พลจาก[[หงสาวดี]] เมาะตะมะ [[มะริด]] ทวาย และ[[ตะนาวศรี]] เข้าสมทบในกองทัพ จนย่างเข้าฤดูแล้ง พ.ศ. 23072309 จึงได้เคลื่อนทัพเข้าสู่อาณาจักรอยุธยาตามนัดหมายในเวลาใกล้เคียงกับทัพของเนเมียวสีหบดี<ref>นิธิ เอียวศรีวงศ์. หน้า 15-16.</ref>
 
=== แผนการรบ ===