ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจิน จื่อตัน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Danniefcfan (คุย | ส่วนร่วม)
ไวยากรณ์
บรรทัด 19:
}}
 
'''เจิ้น จื่อตัน''' หรือ '''ดอนนี่ เยน''' ({{Zh-all|c=甄子丹|t=|s=|p=|w=|j=}} ; {{lang-en|Donnie Yen}}) เกิดวันที่ 27 กรกฎาคม ค.ศ. 1963 ที่ [[มณฑลกวางตุ้ง]] ประเทศ[[ประเทศจีน|จีน]] เป็นนักแสดง , ผู้ออกแบบฉากต่อสู้ , กำกับคิวบู้ , โปรดิวเซอร์ , ผู้กำกับภาพยนตร์ , ผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ของเกาะ[[ฮ่องกง]] ผู้นำศิลปะการต่อสู้แบบ Mixed Martial Arts (MMA) สู่โลกภาพยนตร์จนมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก
 
ในวัยเด็ก เจิ้น จื่อตัน ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้จากแม่ซึ่งเป็นอาจารย์สอนวิชา[[ไท่เก๊ก]] ที่[[บอสตัน]] ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ ได้เรียนและฝึกฝนวิชา[[เทควันโด]]ชั้นสูง จากนั้นก็กลับมาเรียนวิชา[[กังฟู|วูซู]] ที่[[ปักกิ่ง]] ประเทศ[[ประเทศจีน|จีน]] กับอาจาย์อู๋ปิน สำนักเดียวกันกับ [[หลี่ เหลียนเจี๋ย]] (เจ็ท ลี) ทั้งสองคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเรียนมาด้วยกัน ต่อมาได้ไปร่วมงานกับผู้กำกับ [[หยวน หวูปิง]] เป็นหนึ่งในทีมงานของ หยวน หวูปิง เริ่มมีชื่อเสียงในการออกแบบการต่อสู้ ควบคุมคิวบู้ กำกับคิวบู้ และนักแสดงในเวลาต่อมา เยน เป็นนักแสดงที่มีความเชี่ยวชาญในวิชาศิลปะการต่อสู้หลายแขนง เช่น มวยสากล (Boxing) , มวยเตะ (Kick boxing) , เทควันโด้ (Taekwondo) , คาราเต้ (Karate) , ยูโด (Judo) เป็นต้น จนได้รับยกย่องว่าเป็น "Martial Arts Star" หรือ ดาราแห่งศิลปะการต่อสู้
 
เยน ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม (Best Action Choreography) จากหลายเวที ได้แก่ รางวัลตุ๊กตาทอง จากเวทีฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด (Hong Kong Film Awards) จำนวน 4 ครั้ง , รางวัลม้าทองคำ จากเวทีไต้หวัน โกลเด้น ฮอร์ซ อวอร์ด (Golden Horse Awards) จำนวน 4 ครั้ง และรางวัลเกี่ยวกับการต่อสู้ต่างๆอื่นๆ เช่น ฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม (Best Fight) นักแสดงแอ๊คชั่นหนังภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Action in a Foreign Language Film) จากหลายเวที เช่น Golden Bauhinia Awards ฯลฯ รวมกันทั้งหมดถึง 17 ครั้ง
 
== ภาพยนตร์ ==
เยน ก้าวสู่โลกภาพยนตร์ครั้งแรก ด้วยการเป็นคนอยู่เบื้องหลัง ในภาพยนตร์เรื่อง Miracle Fighters 2 (1982) บทนำแสดงครั้งแรก คือ ภาพยนตร์เรื่อง Drunken Tai Chi (1984) ของ หยวน หวูปิง ภาพยนตร์เรื่อง Mismatched Couples (1985) หรือ ท่านตี๋มีระดับ ทำให้เยน เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วเอเชีย ภาพยนตร์ที่ทำให้เยนเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก คือ Once Upon a Time in China II (1992) หรือ [[หวงเฟยหง ภาค 2 ตอน ถล่มมารยุทธจักร|หวง เฟยหง ภาค 2]] ตอน ถล่มมารยุทธจักร โดยเยนรับบทเป็นตัวร้ายต้องต่อสู้กับ หลี่ เหลียนเจี๋ย (รับบท หวง เฟยหง) ทำให้คนทั่วโลกจดจำฝีมือการต่อสู้ของเขาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะฉากประทะกันของทั้งคู่ ได้รับยกย่องเป็นฉากต่อสู้ที่ดีที่สุดติด 1 ใน 10 ของหนังศิลปะการต่อสู้ ประเภทกังฟู
 
ภาพยนตร์ที่ทำให้เยน เป็นดาราแอ๊คชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลก คือ Iron Monkey (1993) หรือ มังกรเหล็กตัน เยนรับบทนำแสดง (ในบท หวง ฉีอิง บิดาของ หวง เฟยหง) สร้างออกฉายในปี 1993 ที่ฮ่องกงไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก แต่โด่งดังมากมายทั่วเอเชีย ได้ไปฉายในสหรัฐอเมริกาในปี 2001 ประสบความสำเร็จบนตาราง box office สหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ต่อมามีภาพยนตร์เรื่อง SPL (Sha Po Lang) (, 2005) หรือ ทีมล่าเฉียดนรก และ Flash Point (2007) หรือ [[ลุยบ้าเลือด]] ทั้งสองเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วโลก นักวิจารณ์ภาพยนตร์ยกย่องให้เป็น หนังแอ๊คชั่นดีที่สุด 1 ใน 10 ของโลก ประจำปี 2005 และ 2007 และในปี 2008 ได้รับบทอาจารย์ยิปมัน ในภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้เรื่อง [[ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา|Ip Man]] (2008) หรือ ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา ทำให้เยนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นพลุแตก
 
ในประเทศไทย เยนมาถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Crystal Hunt (1991) หรือ ซือเจ๊ตัดเหลี่ยมเพชร ที่จังหวัดขอนแก่น อีกด้วย
 
== ละครโทรทัศน์ ==
เยน ไม่เพียงแต่เป็นดาราในจอใหญ่เท่านั้น แต่เขายังเคยนำแสดงละครจอแก้วที่ฮ่องกงมากมายต่อหลายเรื่อง แต่เรื่องที่คนจดจำเขาได้มากที่สุด คืองานที่สร้างจากหนังเก่าของ [[บรู๊ซ ลี]] เรื่อง Fist of Fury (TV) (1995) โดยออกอากาศทางช่อง ATV มีความยาวถึง 20 ตอน โดยเนื้อหาในหนังชุดเรื่องนี้ว่าด้วยเรื่องราวความขัดแย้งของชาวจีนกับชาวญี่ปุ่น โดยเยนรับบทเป็น เฉินเจิ้น พระเอกของเรื่องที่ต้องต่อสู้กับคนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นคนฆ่าอาจารย์[[ฮั่ว หยวนเจี๋ย]] โดยต่อสู้ด้วยวิชากังฟู เพื่อล้างแค้นให้กับอาจารย์ของเขา ซึ่งคำวิจารณ์ในหนังชุดนี้มีทั้งบวกและลบ โดยในหนังชุดนี้นอกจากเยนจะรับบทนำแล้ว เขายังเป็นผู้ออกแบบคิวบู๊ในหนังชุดนี้ อีกด้วย
 
== ผู้กำกับภาพยนตร์ ==
เยน มีผลงานกำกับภาพยนตร์ครั้งแรก คือ Legend of the Wolf (1997) โดยเยน รับหน้าที่ทั้งแสดงนำ, เขียนบท, อำนวยการสร้าง, กำกับฉากต่อสู้ และกำกับภาพยนตร์ โดยเรื่องนี้ได้รับการขนานนามว่า เป็นหนังแอ๊คชั่นทุนต่ำ ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของเกาะฮ่องกง ได้รับรางวัลจากเวทีนานาชาติมากมาย โดยมีดาราสาวอย่าง หลี่ ยั่วถง ร่วมแสดง
 
จากนั้นอีกปีถัดมา เยนก็กำกับภาพยนตร์อีกเรื่องคือ Ballistic Kiss (1998) โดยเขารับหน้าที่ แสดงนำ , อำนวยการสร้าง , กำกับคิวบู๊ และ กำกับภาพยนตร์ เรื่องราวของมือปืนผู้หนึ่ง ที่ไปหลงรักตำรวจสาว หนังเรื่องนี้ได้ฉายในเทศกาลหนังต่างๆทั่วโลก เยนยังได้รางวัล "ผู้กำกับคลื่นลูกใหม่" ในเทศกาลภาพยนตร์ของฮ่องกง (ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด) อีกด้วย ต่อมากำกับภาพยนตร์ เรื่อง Shanghai Affairs (1998) โดยรับหน้าที่กำกับ, กำกับฉากต่อสู้ และนำแสดง เป็นผลงานรีเมคหนังเก่าของ [[บรูซ ลี]] เรื่อง The Big Boss (1971)
 
จากนั้น เยนก็มารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์อีกครั้ง ในเรื่อง Protégé de la Rose Noire (2004) นำแสดงโดย สองสาวเกิร์ลกรู๊ป วงกรู๊ปวง Twins และ [[เจิ้งอี้เจี้ยน|เจิ้ง อี้เจี้ยน]]
 
== ผู้กำกับฉากต่อสู้ ==
เยน เริ่มมีผลงานในต่างประเทศครั้งแรก ในหนังโทรทัศน์ (Pilot) ของประเทศเยอรมัน เรื่อง Codename : The Puma (1999 - 2000) หรือ Der Puma - Kämpfer mit Herz ภายหลังได้ทำมาในแบบซีรีส์ในช่วงปี 2000 เยน ยังรับหน้าที่กำกับบางตอนให้กับซีรีส์ชุดนี้
 
เยน มีผลงานในฮอลลีวูดเรื่องแรก คือ Highlander : Endgame (2000) เรื่องอื่นๆ เช่น Shurayuki-Hime (หรือ The Princess Blade ) (2001) , [[เบลด 2 นักล่าพันธุ์อมตะ|Blade II]] (2002) โดยเยน เป็นผู้ประสานงานฉากต่อสู้ - กำกับคิวบู้ และรับบทแสดงเล็กๆ ในหนังอีกด้วย
 
ในปี 2003 เยน รับบทตัวร้ายในหนังภาคต่อของ [[เฉินหลง]] และ [[โอเว่น วิลสัน]] เรื่อง Shanghai Knights (2003) และเป็นผู้ออกแบบฉากต่อสู้ในหนังแวมไพร์ของเฉินหลง (อำนวยการสร้าง) อย่างเรื่อง The Twins Effect ''(''2003) ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง (ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด) สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยมในเรื่องนี้อีกด้วย นอกจากนี้ เยนยังได้ออกแบบฉากต่อสู้ในไตเติลของเกม ''Oni-musha III'' บนเครื่อง [[เพลย์สเตชัน 2]]
 
ในปี 2006 เยน เป็นผู้ประสานงานฉากต่อสู้ - กำกับคิวบู้ ในหนังฮอลลีวู้ดเรื่องราวของสายลับเด็ก เรื่อง Stormbreaker (2006) สร้างจากนวนิยายของ แอนโธนี่ โฮโนวิตส์
 
== ปัจจุบัน ==
เยน เริ่มมีชื่อเสียงทางการแสดงอย่างโดดเด่นเป็นอย่างมากนับแต่ปี 2005 เป็นต้นมา เยนได้นำแสดงในภาพยนตร์กำลังภายในเรื่อง Seven Swords (2005) ผลงานกำกับของ [[ฉีเคอะ]] ซึ่งประสบความล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์จากทั่วโลก แต่ในปีเดียวกันนี้ เยนก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงกับภาพยนตร์แอ็คชั่น - อาชญากรรม เรื่อง SPL (Sha Po Lang) (, 2005) เรื่องราวสงครามระหว่างตำรวจกับเจ้าพ่อมาเฟียผู้หนึ่ง นำแสดงร่วมกับ [[หงจินเป่า]] , [[เหริน ต๋าหัว|เยิ่น ต๊ะหัว]] และ [[อู๋จิง]] โดยสามารถเปิดตัวขึ้นอันดับในฮ่องกงถึง 3 สัปดาห์ซ้อน และเยนยังได้รางวัลตุ๊กตาทอง (ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด) สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยมอีกด้วย จากนั้นเยนก็ร่วมงานกับ [[วิลสัน ยิป]] ในหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์อีก 2 เรื่อง ใน Dragon Tiger Gate (2006) โดยสร้างจากหนังสือการ์ตูนจีนของฮ่องกง ร่วมแสดงกับ [[เซียะ ถิงฟง]] และ [[หยู เหวินเล่อ]] , หนังแอ๊คชั่น - อาชญากรรม เรื่อง [[ลุยบ้าเลือด|Flash Point]] (2007) ร่วมแสดงกับ [[กู่ เทียนเล่อ]] , [[หลี่ เหลียงเหว่ย]] , [[Collin Chou|คอลลิน โชว]] และ [[ฟ่าน ปิงปิง]] เยนได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง (ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด) สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม อีกด้วย ล่าสุดได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง (ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด) สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Kung Fu Jungle (2013) ( หรืออีกชื่อ Kung Fu Killer)
 
ในปี 2006 เยน ได้ร่วมงานกับ [[วิลสัน ยิป]] ในหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์อีก 2 เรื่อง ใน Dragon Tiger Gate (2006) โดยสร้างจากหนังสือการ์ตูนจีนของฮ่องกง ร่วมแสดงกับ [[เซียะ ถิงฟง]] และ [[หยู เหวินเล่อ]] และหนังแอ๊คชั่น - อาชญากรรม เรื่อง [[ลุยบ้าเลือด|Flash Point]] (2007) ร่วมแสดงกับ [[กู่ เทียนเล่อ]] , [[หลี่ เหลียงเหว่ย]] , [[Collin Chou|คอลลิน โชว]] และ [[ฟ่าน ปิงปิง]] เยน ยังได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง (ฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ด) สาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม อีกด้วย
ปี 2008 เยนกลายเป็นดาราแอ็คชั่นที่เนื้อหอมมากที่สุดในทศวรรษนี้ ด้วยผลงานทำเงินทั้ง 3 เรื่องในปีเดียว อย่างเรื่อง An Empress and the Warriors (2008) , หนังกำลังภายในแฟนตาซี - สยองขวัญ เรื่อง Painted Skin (2008) งานรีเมคของผู้กำกับ [[คิง ฮู|คิงฮู]] ในชื่อเดียวกัน โดยทำเงินในจีนแผ่นดินใหญ่กว่า 230 ล้านหยวน และภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ เรื่อง [[ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา|Ip Man]] หนังแอ็คชั่น - กังฟู โดยอิงจากชีวิตจริงของ [[ยิปมัน]] ครูมวยหย่งชุนชื่อดังในตำนาน ซึ่งทำเงินในฮ่องกง ทั่วเอเชีย และจีนแผ่นดินใหญ่อย่างมหาศาล<ref>[http://www.filmax.in.th/feature01.html Hong Kong Cinema Today เรื่อง > อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว]</ref> ปัจจุบัน เยนมีผลงานทั้งในจีนฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ และฮอลลีวู้ด มีบริษัทผลิตภาพยนตร์เป็นของตัวเอง ในนาม อะ ดอนนี่ เยน ฟิล์ม ( A Donnie Yen Film ) กลายเป็นดาราแอ๊คชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลก และดังที่สุดในทศวรรษนี้
 
ในปี 2008 เยน กลายเป็นดาราแอ็คชั่นที่เนื้อหอมมากที่สุดในทศวรรษนี้ ด้วยผลงานทำเงินทั้ง 3 เรื่องในปีเดียว อย่างเรื่อง An Empress and the Warriors (2008) , หนังกำลังภายในแฟนตาซี - สยองขวัญ เรื่อง Painted Skin (2008) งานรีเมคของผู้กำกับ [[คิง ฮู|คิงฮู]] ในชื่อเดียวกัน โดยทำเงินในจีนแผ่นดินใหญ่กว่า 230 ล้านหยวน และผลงานภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้ เรื่อง [[ยิปมัน เจ้ากังฟูสู้ยิบตา|Ip Man]] หนังแอ็คชั่น - กังฟู โดยอิงจากชีวิตจริงของ [[ยิปมัน]] ครูมวยหย่งชุนชื่อดังในตำนาน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทำเงินในฮ่องกง ทั่วเอเชีย และจีนแผ่นดินใหญ่อย่างมหาศาล<ref>[http://www.filmax.in.th/feature01.html Hong Kong Cinema Today เรื่อง > อลงกรณ์ คล้ายสีแก้ว]</ref> ปัจจุบันและล่าสุดในปี 2013 เยนมีผลงานทั้งในจีน ได้รับรางวัลตุ๊กตาทอง (ฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ฟิล์ม และฮอลลีวู้ดอวอร์ด) มีบริษัทผลิตสาขาออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เป็นของตัวเองเรื่อง ในนาม อะKung ดอนนี่Fu เยน ฟิล์มJungle (2013) A Donnieหรืออีกชื่อหนึ่ง Yen FilmKung )Fu กลายเป็นดาราแอ๊คชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลก และดังที่สุดในทศวรรษนี้Killer
 
ปัจจุบัน เยน มีผลงานทั้งในจีนฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ และฮอลลีวู้ด มีบริษัทผลิตภาพยนตร์เป็นของตัวเอง ในนาม อะ ดอนนี่ เยน ฟิล์ม ( A Donnie Yen Film ) กลายเป็นดาราแอ๊คชั่นที่โด่งดังไปทั่วโลก และดังที่สุดในทศวรรษนี้
 
== ผลงานที่ผ่านมา ==