ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้านรสีหบดี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไทๆ (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขที่ 8148332 สร้างโดย 184.22.224.185 (พูดคุย)
ป้ายระบุ: ทำกลับ
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 1:
{{ลิงก์ไปภาษาอื่น}}
{{ต้องการอ้างอิง}}
'''พระเจ้านรสีหบดี''' ({{lang-en| Narathihapate}}; {{lang-my|နရသီဟပတေ့}}, nəɹa̰ θìha̰pətḛ; c. 1238–1287) เป็นกษัตริย์พม่าองค์สุดท้ายแห่ง[[ราชวงศ์พุกาม]] ครองราชย์ตั้งแต่ปี ค.ศ.1254-1287 มีเรื่องโดดเด่นสองประการที่สร้างพระเจ้านรสีหบดีพระองค์นี้เป็นที่จดจำ คือ ความตะกละตะกลามชอบเสวยอาหาร โดยร่ำลือกันว่าต้องมีอาหารหลากหลายถึงสามร้อยชนิดต่อมื้อพระกระยาหาร และอีกประการคือ ความขลาดกลัวต่อการรุกรานของทัพ[[มองโกล]] จนเป็นกษัตริย์ที่ได้ฉายาว่า "กษัตริย์ขี้ตะกละผู้หนีทัพจีน"
 
พระองค์เสด็จสวรรคตด้วยถูกปลงพระชนม์โดยการวางยาพิษจากราชโอรสพระองค์รองนาม [[สีหตูแห่งแปร|สีหตู]] (Thihathu{{lang-my|သီဟသူ}}) ซึ่งขณะนั้นได้ครองเมือง[[แปร]] จากนั้นราชวงศ์พุกามก็ได้ล่มสลายลงพร้อมกับชัยชนะของมองโกลที่มีอำนาจเหนือภูมิภาคตอนบนของพม่า
 
กว่า 250 ปี ที่ราชวงศ์พุกามปกครองมีอำนาจในพื้นที่ลุ่มน้ำ[[อิรวดี]] ผืนแผ่นดินอาณาจักรได้กลับไปแตกแยกเป็นแคว้นเล็กเมืองน้อยอีกครั้ง สภาพสุญญากาศทางการปกครอง สภาวะไร้ผู้นำได้ดำเนินต่อไปอีกกว่า 250 ปี จนกระทั่งการขึ้นมาของ[[ราชวงศ์ตองอู]]ที่ได้รวบรวมอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นอีกครั้งในช่วงกลาง[[คริสต์ศตวรรษที่ 16]]
 
== รัชกาล ==
พระเจ้านรสีหบดีเป็นพระราชโอรสใน[[พระเจ้าอุซะนา]]และพระนางอะซอ หลังการเสด็จสวรรคตของพระเจ้าอุซะนาพระราชบิดาจากอุบัติเหตุในการล่าสัตว์เมื่อปี ค.ศ.1254 พระเจ้านรสีหบดีก็ได้ครองราชบัลลังก์พุกามโดยการแย่งชิงจากพระเชษฐาด้วยความช่วยเหลือบงการของมหาเสนาบดีราชสิงคาลราซะทินจาน ผู้ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถเชิดกษัตริย์องค์ใหม่ที่มาจากเจ้าชายอ่อนพระชันษานี้ได้ แต่กษัตริย์หนุ่มได้แปรเปลี่ยนท่าทีที่หัวอ่อนเป็นกระด้างกระเดื่อง พระองค์ทรงสั่งเนรเทศราชสิงคาลราซะทินจานแทบจะทันทีที่ครองราชย์ แต่ต่อมาไม่นานพระองค์ก็ทรงจำใจพระทัยเรียกกลับมาใช้งานเพื่อปราบกบฏในแคว้น[[ยะไข่]]และแถบ[[ตะนาวศรี]] ราชสิงคาลราซะทินจานปราบกบฏสำเร็จแต่ก็มิได้หวนกลับคืนมา ราชสิงคาลราซะทินจานเสียชีวิตระหว่างเดินทัพกลับ
 
พระเจ้านรสีหบดีเป็นกษัตริย์ผู้ไร้ความสามารถอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเรื่องการปกครองบริหารภายในราชอาณาจักรหรือกิจการกับต่างชาติ เฉกเช่นพระราชบิดาและพระอัยกาบุพกษัตริย์ทั้งสองก่อนหน้าพระองค์ พระองค์ล้มเหลวในการจัดการพระราชทรัพย์และบริหารท้องพระคลังซึ่งร่อยหรอลงทุกปีๆ สืบเนื่องมาจากการยกเว้นภาษีที่ดินให้แก่ธรณีสงฆ์ นอกจากนี้เมื่อเปรียบกับพระอัยกา คือ [[พระเจ้าจะซวา]] ที่มักโปรดสร้างพระเจดีย์ขนาดเล็กมากกว่าที่จะบังคับเกณฑ์แรงงานมากมายแล้ว พระเจ้านรสีหบดีกลับมักโปรดที่จะสร้างพระเจดีย์อย่างหรูหราฟุ่มเฟือย เช่น [[:en:Mingalazedi_Pagoda|มิงคละเจดีย์เจดีย์มี่นกาลา]] ที่บังคับเกณฑ์แรงงานจำนวนมาก จนผู้คนต่างก่นด่าสาปแช่ง โดยมีเสียงร่ำลือว่า "วันที่เจดีย์สร้างสำเร็จสิ้นนั้น จักเป็นวันถึงฆาตของกษัตริย์"
 
แต่เงาทมิฬที่แท้จริงของราชวงศ์พุกามและพระเจ้านรสีหบดีนั้นมิใช่เงาของเจดีย์ แต่คือเงาของผืนธงกองทัพมองโกลจากทางเหนือ ในช่วงเวลานั้นทัพมองโกลได้เข้ายึด[[มณฑลยูนนาน]]ได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1253 เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1271 แม่ทัพเขตยูนนานภายใต้การนำของ[[กุบไลข่าน]]จักรพรรดิมองโกลในขณะนั้นได้ส่งทูตมาเจรจาเรียกร้องเครื่องบรรณาการกับพระเจ้านรสีหบดี แต่พระองค์ปฏิเสธ แม้ทางมองโกลจะส่งทูตมาอีกครั้งในปี ค.ศ. 1273 พระองค์ก็ยังทรงยืนกรานปฏิเสธพร้อมกับสั่งประหารทูตมองโกลผู้นั้นเป็นเครื่องยืนยัน
 
ปี ค.ศ. 1277 ทัพมองโกลได้เริ่มบุกเข้ามายังอาณาจักรพุกามเป็นครั้งแรก ฝ่ายพุกามได้พ่ายแพ้อย่างราบคาบใน[[:en:Battle_of_Ngasaunggyan|ศึกยุทธการที่งาสะอองยาน]] สงครามได้ดำเนินต่อไปอีกหลายปี แม้ในปี ค.ศ. 1284 จะมีการพยายามเจรจาทางการทูตจากฝ่ายพุกามโดยส่งราชทูตทิศาปาโมกขะ ไปยังราชสำนักมองโกลของกุบไลข่านก็ตาม ก็ไม่เป็นผลแต่อย่างใด เมื่อล่วงเข้าปี ค.ศ. 1287 กองทัพมองโกลภายใต้การนำโดยพระนัดดาของกุบไลข่าน บุกตะลุยยึดครองทั้งหมดของใจกลางอาณาจักรพุกาม พระเจ้านรสีหบดีเสด็จลี้ภัยไปทางใต้สู่เมืองแปรที่มีราชโอรสพระองค์รอง [[สีหตูแห่งแปร|สีหตู]] ปกครองอยู่ แต่พระองค์ทรงเหลือจะคาดคิดได้ว่า สีหตูได้จับกุมตัวพระองค์ไว้และถวายโอสถพิษให้ เพื่อที่จะมิต้องหลั่งพระโลหิตถึงธรณีด้วยคมดาบ มีคำร่ำลือกันว่า คำอธิษฐานสุดท้ายของพระองค์คือ "เกิดชาติหน้าฉันใด ไม่ขอมีบุตรชายอีก" จากนั้นเสวยโอสถพิษและสวรรคต
 
{{เริ่มกล่อง}}