ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ความหลงตนเอง"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1:
'''ความหลงตนเอง'''<ref>[http://www.thaiglossary.com/node/27275 Thai Word Repository คลังศัพท์ไทย โดยศูนย์บริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สืบค้นคำว่า narcissism)]</ref> ({{lang-en|narcissism}} ; กลุ่มคนที่มีอาการนี้เรียกว่า ''
ความหลงตนเองยังถูกยกให้เป็นปัญหาทางด้านสังคมหรือวัฒนธรรม ทั้งใช้เป็นปัจจัยใน[[ทฤษฎีลักษณะบุคลิกภาพ]] (trait theory) ซึ่งใช้ในการสร้างแบบทดสอบบุคลิกภาพต่าง ๆ เช่น แบบทดสอบ[[มิลลอน คลินิคอล มัลติแอกเซียล อินเวนทอรี]] (Millon Clinical Multiaxial Inventory) อีกทั้งเป็นหนึ่งใน[[สามบุคลิกภาพด้านมืด]] (dark triad) (ซึ่งอีกสองอย่างคือ [[ไซโคพาท]] และ [[แมเคียเวลเลียนิซึม]]) และความหลงตนเองซึ่งยกเว้นในแง่ของการหลงตัวเองในระยะเบื้องต้นหรือการรักตนเอง มักถูกยกให้เป็นปัญหาในด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างกลุ่ม
== ลักษณะและสัญญาณ ==
{{Quote box
|align= left
|width= 27em
|quote = ชีวิตคือเวทีละคร เมื่อม่านปิดลงในการแสดง นั่นคือการแสดงนั้นสิ้นสุดและจะถูกลืมไป และความว่างเปล่าของชีวิตนั้นมันเกินกว่าจะจินตนาการได้
|qalign= centre
|source= —[[Alexander Lowen|อะเล็กซานเดอร์ โลเวน]] อธิบายการดำรงอยู่ของพวกนาร์ซิสซิสต์<ref>{{Cite book|last=Lowen|first=Alexander|authorlink=Alexander Lowen|year=1997|origyear=1983|title=Narcissism: Denial of the True Self|location= New York, NY|publisher=[[Simon & Schuster|Touchstone]]|p=45}}</ref>
|salign= right
}}ตัวแปรบุคลิกภาพของนาร์ซิสซิสต์แบ่งเป็น 4 ลักษณะ ดังนี้ ความเป็นผู้นำ/การมีอำนาจ ความเหนือกว่า/ความทะนงตน ความหมกมุ่นอยู่แต่ตนเอง/การยกยอตนเอง และการหาผลประโยชน์/การมีสิทธิ์<ref>{{Cite journal |last1 = Horton |first1 = R. S. |last2 = Bleau |first2 = G. |last3 = Drwecki |first3 = B. |year = 2006 |title = Parenting Narcissus: What Are the Links Between Parenting and Narcissism? |url = http://persweb.wabash.edu/facstaff/hortonr/pubs/Horton%20et%20al.%20(2006).pdf |journal = [[Journal of Personality]] |volume = 74 |number = 2 |pages = 345–76 |doi = 10.1111/j.1467-6494.2005.00378.x|pmid = 16529580 |citeseerx = 10.1.1.526.7237 }} See p. 347.</ref>
ซึ่งเกณฑ์เหล่านี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ อันเนื่องจากมีคนเชื่อว่าพวกทำไปเพราะความเจตนาตั้งใจ (หรือ "แสร้งทำ")<ref>{{cite book|url=https://books.google.com/books/about/Readings_in_Philosophy_of_Psychology.html?id=cgsOAAAAQAAJ|title=Readings in Philosophy of Psychology|first=Ned Joel|last=Block|date=22 October 1980|publisher=Methuen|accessdate=22 October 2017|via=Google Books|isbn=9780416742008}}</ref> กระนั้นจึงอยากจะกล่าวว่า พฤติกรรมเป็นสิ่งที่สังเกตได้ง่าย แต่เจตนาความตั้งใจมิใช่เช่นนั้น ดังนั้นการจัดหมวดหมู่เช่นนี้จึงต้องใช้สมมติฐานที่ผ่านการทดสอบแล้วก่อนที่จะถูกยืนยันว่าเป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพิจารณาคำอธิบายหลายอย่างสามารถทำให้หาเหตุผลได้ว่าทำไมคนถึงแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ออกมา
=== 7 พฤติกรรมร้ายแรงของความหลงตนเอง ===
จิตแพทย์แฮตช์คิสส์และ[[James F. Masterson|เจมส์ เอฟ. มาสเตอร์สัน]] ระบุสิ่งที่พวกเขาเรียกว่า 7 พฤติกรรมร้ายแรงของความหลงตนเอง ไว้ดังต่อไปนี้<ref>Hotchkiss, Sandy & [[James F. Masterson|Masterson, James F.]] Why Is It Always About You?: The Seven Deadly Sins of Narcissism (2003)</ref>
# [[ความอัปยศ|ความไม่ละอายใจ]]: นาร์ซิสซิสมักภูมิใจในความไม่ละอายใจอย่างเปิดเผย คือ พวกเขาไม่ผูกอารมณ์ไปกับความต้องและความปราถนาของผู้อื่น นาร์ซิสซิสต์เกลียดความอับอายขายหน้า เพราะมันหมายถึงพวกเขาไม่สมบูรณ์แบบและต้องเปลี่ยนแปลง นาร์ซิสซิสต์ชอบความรู้สึกผิดมากกว่าความอับอาย เพราะความรู้สึกผิดสามารถทำให้พวกเขาแยกระหว่างการกระทำกับเจตนาออกจากกันได้ ตัวอย่างเช่น ถึงแม้การกระทำอาจจะผิด แต่ทำไปเพราะมีเจตนาที่ดี
# [[ความคิดเชิงไสยศาสตร์]]: นาซิสซิสต์เห็นตนเองเป็นคนที่สมบูรณ์แบบโดยใช้การบิดเบือนและสร้างสิ่งลวงตาที่เรียกว่า[[ความคิดเชิงไสยศาสตร์]] (magical thinking) อีกทั้งพวกเขายังใช้มันเพื่อ[[Psychological projection|การวางแผน]] "โยน" ความอับอายขายหน้าไปสู่ผู้อื่น
# [[ความทะนง]]ตน: นาร์ซิสซิสต์ที่รู้สึกว่ากำลังสูญเสียความสำคัญ อาจ "เพิ่มมั่นใจในความคิดที่ว่าตนเองสำคัญ" โดยการกดผู้อื่นให้ต่ำลง ลดคุณค่าของผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นอับอายขายหน้า
# [[ความอิจฉา]]: นาร์ซิสซิสต์อาจคงไว้ซึ่งความคิดที่ว่าตนเองเหนือกว่าคนอื่นได้ โดยการดูถูกเพื่อกดขี่เหยียดหยามผู้อื่นหรือความสำเสร็จของผู้อื่น
# การมีสิทธิ์: นาซิสซิสต์ยึดถือความคาดหวังซึ่งไม่สมเหตุสมที่ว่าผู้อื่นจะปฏิบัติตัวเป็นอย่างดีแก่พวกเขาและเชื่อฟังทุกสิ่งอย่าง เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขานั้นพิเศษ ซึ่งถ้าหากใครไม่ปฏิบัติตามจะต้องถูกตอกกลับด้วยความเหนือกว่าของพวกเขาและจะถือว่าเป็นบุคคล "ที่สร้างปัญหา" หรือ "หัวแข็ง" อีกทั้งการต่อต้านจะเป็นการทำให้พวกเขาเสียความมั่นใจ (อันก่อให้เกิดบาดแผลจากความหลงตนเอง ; narcissistic injury) อันสามารถก่อให้เกิด[[การคลั่งจากความหลงตนเอง]] (narcissistic rage)
# การหาผลประโชยน์: สามารถมาได้ในหลายรูปแบบ แต่มักจะเกี่ยวข้องกับการหาผลประโยชน์จากผู้อื่นโดยที่ไม่คำนึงความรู้สึกหรือความสนใจของคนเหล่านั้น ซึ่งผู้นั้นมักตกอยู่ในตำแหน่งที่ยอมจำนนเนื่องมาจากยากและเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อต้าน ทำให้ในบางครั้งผู้ที่ยอมจำนนยอมเพียงแค่การแสร้งทำ การหาผลประโยชน์นี้อาจทำให้ความสัมพันธ์ไม่ยืนยาวและจบไปอย่างรวดเร็ว
# [[ขอบเขตการปฏิบัติตน|การไม่รู้ขอบเขตการปฏิบัติตน]]: นาร์ซิสซิสต์ไม่รู้ถึงขอบเขตในการการกระทำของตน ทำให้ผู้อื่นตีตัวออกห่างและไม่ปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา ใครก็ตามที่จัดหา[[การสนองความหลงตนเอง]] (narcissistic supply) แก่นาร์ซิสซิสต์จะถูกปฏิบัติตนเป็นเหมือนส่วนหนึ่งของพวกเขาและถูกคาดหวังให้เป็นไปตามความคาดหวังของพวกเขา ภายในจิตใจของนาร์ซิสซิสนั้นไม่มีขอบเขตการปฏิบัติตัวระหว่างตนเองและผู้อื่น
== เชิงอรรถ ==
|