ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่เคยเปิด แต่อ้างอิงจากแหล่งข่าวที่ปรากฏ แล้วคุณล่ะเคยเปิดหรือยัง ป้ายระบุ: ทำกลับ |
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) ไม่พบใน Britannica ป้ายระบุ: ทำกลับ |
||
บรรทัด 2:
{{infobox royalty
| image = ไฟล์:Bhumibol adulyadej.jpg
| name = พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร <br >มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
| birth_style = พระราชสมภพ
| birth_date = {{วันเกิด|2470|12|5}}
บรรทัด 13:
| spouse = [[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง]]
| issue-link = #พระราชสันตติวงศ์
| issue = {{List collapsed|title=''ดูรายพระนาม''|1=[[ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี]] <br>[[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] <br>[[สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]]<br>[[สมเด็จ
| dynasty = [[ราชวงศ์จักรี|จักรี]]
| reign = 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 – 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 <br> ({{อายุปีและวัน|1946|6|9|2016|12|5}})
บรรทัด 43:
* {{cite web|title=The Top 10 Richest Royals in the World|url=http://www.celebritynetworth.com/articles/entertainment-articles/15-richest-heads-state/|work=The Richest|publisher=CelebrityNetWorth.com|accessdate=26 May 2014|date=25 August 2013}}</ref> เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2557 พระองค์มีพระราชทรัพย์ 30,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ดู[[#พระราชทรัพย์|หมายเหตุด้านล่าง]])<ref name="Chris">{{cite web|title=The business of royalty: The five richest monarchs in the world|url=http://www.businessspectator.com.au/article/2014/4/24/family-business/business-royalty-five-richest-monarchs-world|work=Business Spectator|publisher=Business Spectator Pty Ltd|accessdate=6 May 2014|author=Chris Kohler|date=24 April 2014}}</ref> สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์นั้นใช้สินทรัพย์เพื่อสวัสดิการสาธารณะ เช่น เพื่อพัฒนาเยาวชน แต่ได้รับการยกเว้นมิต้องจ่ายภาษีและให้เปิดเผยการเงินต่อพระมหากษัตริย์แต่พระองค์เดียว<ref>[http://www.crownproperty.or.th/en/social.php?c=1 The Crown Property Bureau – Youth Development]{{Dead link|date=พฤษภาคม 2560}} {{WebCite|url=http://www.webcitation.org/1312942356977725|date=10 August 2011}}<!--DashBotWC--></ref><!--and conservation programs.<ref>[http://www.crownproperty.or.th/en/social.php?c=5 The Crown Property Bureau – Conservation programs]</ref>--> ขณะที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชก็ได้ทรงอุทิศพระราชทรัพย์ไปในโครงการพัฒนาประเทศไทยหลายต่อหลายโครงการ โดยเฉพาะในทางเกษตรกรรม สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข การส่งเสริมอาชีพ ทรัพยากรน้ำ สวัสดิการทางคมนาคม และสวัสดิการสาธารณะ<ref>[http://www.hasekamp.net/king.htm Some information about HM King Bhumibol Adulyadej] {{WebCite|url=http://www.webcitation.org/1312942386392887|date=10 August 2011}}<!--DashBotWC-->{{ลิงก์เสีย}}</ref>
นับแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2557 พระบาทสมเด็จพระ
== ปฐมวัย ==
บรรทัด 61:
| caption2 =
}}
พระบาทสมเด็จพระ
พระบาทสมเด็จพระ
พระนามภูมิพลอดุลเดชนั้นพระบรมราชชนนีได้รับพระราชทานทางโทรเลขจาก[[พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว]] เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2470 โดยทรงกำกับตัวสะกดเป็นอักษรโรมันว่า "Bhumibala Aduladeja" ทำให้[[สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี]]ทรงเข้าพระทัยว่าได้รับพระราชทานนามพระโอรสว่า "ภูมิบาล"<ref name="เจ้านายเล็ก ๆ "/> ในระยะแรกพระนามของพระองค์สะกดเป็นภาษาไทยว่า "ภูมิพลอดุลเดช" ต่อมา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเองทรงเขียนว่า "ภูมิพลอดุล<u>ย</u>เดช" โดยทรงเขียนทั้งสองแบบสลับกันไป จนมาทรงนิยมใช้แบบหลังซึ่งมีตัว "ย" สะกด<ref name="เจ้านายเล็ก ๆ ">{{อ้างหนังสือ| ผู้แต่ง = [[สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา]]| ชื่อหนังสือ = เจ้านายเล็ก ๆ - ยุวกษัตริย์| URL = | จังหวัด = กรุงเทพ| พิมพ์ที่ = ซิลค์เวอร์ม บุคส์| ปี = พิมพ์ครั้งที่ 6 พ.ศ. 2549| ISBN = 974-7047-55-1| หน้า = หน้าที่| จำนวนหน้า = 450}}</ref><ref>{{cite book |author=Wimuttanon, Suvit (ed.) |title=Amazing Thailand (special collector's edition)|publisher=World Class Publishing |year=2001 |pages=Page 33 |id=ISBN 974-91020-3-7}}</ref>
บรรทัด 74:
=== การศึกษา ===
[[ไฟล์:Mahidols-1938.jpg|thumb|left|200px| (ด้านหน้า จากขวามาซ้าย) พระบาทสมเด็จพระ
พ.ศ. 2475 เมื่อเจริญพระชนมายุได้ 4 พรรษา เสด็จเข้าศึกษาที่[[โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย]]จนถึงเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2476 จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ [[โลซาน|เมืองโลซาน]] [[ประเทศสวิตเซอร์แลนด์]] พร้อมด้วยพระบรมราชชนนีพระเชษฐภคินีและสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราชเพื่อการศึกษาและพระพลานามัยของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช จากนั้นทรงเข้าศึกษาต่อชั้นประถมศึกษา ณ [[โรงเรียนเมียร์มองต์]] เมืองโลซาน ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2477 ทรงศึกษาวิชา[[ภาษาฝรั่งเศส]] [[ภาษาเยอรมัน]] และ[[ภาษาอังกฤษ]] แล้วทรงเข้าชั้นมัธยมศึกษา ณ [[เอกอลนูแวลเดอลาซุอิสรอม็องด์]] ({{lang|fr|École Nouvelle de la Suisse Romande}}) [[ชายี-ซูร์-โลซาน|เมืองชายี-ซูร์-โลซาน]] ({{lang|fr|Chailly-sur-Lausanne}})
บรรทัด 85:
{{ดูเพิ่มที่2|พระราชพิธีราชาภิเษกสมรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช|พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช}}
{{วิกิซอร์ซ|ประกาศนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๔๘๙|ประกาศนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 9 มิถุนายน 2489 (สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช ทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์)}}
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 [[พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล]][[การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล|เสด็จสวรรคต]]อย่างกระทันหัน ณ [[พระที่นั่งบรมพิมาน]] ภายใน[[พระบรมมหาราชวัง]] ในวันเดียวกัน รัฐสภาลงมติเป็นเอกฉันท์อัญเชิญ[[สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช]] (พระยศในขณะนั้น) ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ต่อไป<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2489/A/039/4.PDF ประกาศ เรื่อง สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดชทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์], เล่ม๖๓, ตอน ๓๙ ก ฉบับพิเศษ, ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๙, หน้า ๔</ref> จากนั้นทรงเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยแห่งเดิม แต่เปลี่ยนสาขาจาก[[วิทยาศาสตร์]] ไปเป็นสาขา[[สังคมศาสตร์]] [[นิติศาสตร์]] และ[[รัฐศาสตร์]] ในวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2489 ซึ่งในช่วงเวลานั้นพระองค์ยังทรงพระเยาว์และเสด็จพระราชดำเนินศึกษาต่อ คณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ชั่วคราวในครั้งแรก ซึ่งได้แก่ [[พระสุธรรมวินิจฉัย
[[ไฟล์:Bhumbol_coronation_1.jpg|thumb|left|200px|[[พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ขณะที่พระบาทสมเด็จพระ
หลังจากที่จบการศึกษาจากสวิตเซอร์แลนด์ พระองค์เสด็จเยือน[[ปารีส|กรุงปารีส]] ทรงพบกับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งเป็นธิดาของเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงปารีส [[ประเทศฝรั่งเศส]] เป็นครั้งแรก<ref>{{cite web |year=1988 |url=http://www.asiasource.org/society/bhumiboladulyadej.cfm |title=Bhumibol Adulyadej |work=The Encyclopedia of Asian History the Asia Society 1988. |publisher=Asia Source |accessdate=2007-09-25}}</ref> ในขณะนั้น ทั้งสองพระองค์มีพระชนมายุ 21 พรรษาและ 15 พรรษาตามลำดับ
บรรทัด 96:
ทั้งนี้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าเยี่ยมพระอาการเป็นประจำจนกระทั่งหายจากอาการประชวร อันเป็นเหตุที่ทำให้ทั้งสองพระองค์มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา<ref>{{cite web |url = http://srinai.tripod.com/guide/King.html |title = A Royal Romance |publisher = Srinai Tripod.com|accessdate = 2006-07-12}}</ref><ref name="BKP">{{cite web | date = December 5, 2005 |url = http://www.bangkokpost.net/60yrsthrone/60yrsthrone/index.html |title = The Making of a Monarch |publisher = Bangkok Post |accessdate = 2006-07-12}}{{Dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref><ref>Handley, Paul M. (2006). [[The King Never Smiles]]. Yale University Press, Page 104. ISBN 0-300-10682-3.</ref>
[[ไฟล์:Bhumbol and Sirikit.jpg|thumb|พระบาทสมเด็จพระ
พระบาทสมเด็จพระ
วันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามแบบอย่างโบราณราชประเพณีขึ้น ณ [[พระที่นั่งไพศาลทักษิณ]] เฉลิมพระปรมาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า '''พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร''' พระราชทานพระปฐมบรมราชโองการว่า ''"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"'' ในโอกาสนี้พระองค์ทรงพระราชดำริว่า ตามโบราณราชประเพณี เมื่อสมเด็จพระมหากษัตริยาธิราชเจ้าได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติบรมราชาภิเษกแล้ว ย่อมโปรดให้สถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระอัครมเหสีขึ้นเป็นสมเด็จพระบรมราชินี ดังนั้น พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศสถาปนาเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น ''สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี''<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2493/A/026/10.PDF พระบรมราชโองการ ประกาศ สถาปนาสมเด็จพระบรมราชินี (ทรงสถาปนาพระเกียรติยศสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ ขึ้นเป็น สมเด็จพระนางเจ้าราชินีสิริกิติ์ พระบรมราชินี)], เล่ม 67, ตอน 26 ก ฉบับพิเศษ, 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493, หน้า 10</ref>
ในช่วงต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระ
=== ผนวช ===
{{บทความหลัก2|พระราชพิธีทรงผนวชในรัชกาลที่ 9}}
[[ไฟล์:Princess Sri Sangwal and Monk-King Bhumibol.JPG|thumb|200px|พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับบาตร ขณะผนวช]]
พระบาทสมเด็จพระ
ระหว่างที่ทรงดำรงสมณเพศ พระภิกษุพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงปฏิบัติพระราชกิจ เช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เช่น เสด็จลงพระอุโบสถทรงทำวัตรเช้า–เย็น ตลอดจนทรงสดับพระธรรมและพระวินัยนอกจากนี้ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจพิเศษอื่น ๆ เช่นในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2499 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ทรงร่วมสังฆกรรมในพิธีผนวชและอุปสมบทนาคหลวงในพระบรมราชินูปถัมภ์ ในวันที่วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2499 เสด็จฯ ไปทรงรับบิณฑบาต จากพระบรมวงศานุวงศ์และข้าทูลละอองธุลีพระบาท ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งยังเป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ ได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
บรรทัด 115:
=== ขัดแย้งกับรัฐบาลจอมพล แปลก พิบูลสงคราม ===
หลังจากจอมพล ป.ทำรัฐประหารในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 โดย หลังการรัฐประหาร จอมพล ป. ได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2492 และกลับไปใช้รัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2475 เพื่อเป็นการลดอำนาจ พระมหากษัตริย์ นอกจากนี้ จอมพล ป. ยังได้ จำกัดชีวิตส่วนพระองค์ของ พระบาทสมเด็จพระ
เมื่อวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 จอมพล แปลกได้ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อขอให้ทรงสนับสนุนรัฐบาล<ref> {{cite book |author=Suwannathat-Pian, Kobkua |title=Thailand's Durable Premier |publisher=Oxford University Press |year=1995 |pages=Page 30 |id=ISBN 967-65-3053-0}}</ref> พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเตือนจอมพล แปลกว่าขอให้ลาออกจากตำแหน่งเสียเพื่อมิให้เกิดรัฐประหาร แต่จอมพล แปลกปฏิเสธ<ref>Suwannathat-Pian, Kobkua (1995). Thailand's Durable Premier. Oxford University Press, Page 30. ISBN 967-65-3053-0. {{en icon}}</ref> เย็นวันดังกล่าว จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ยึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาลทันที และสองชั่วโมงหลังจากการประกาศยึดอำนาจ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ใช้[[กฎอัยการศึก]]ทั่วราชอาณาจักร<ref>พระบรมราชโองการให้ใช้กฎอัยการศึกษาทั่วราชอาณาจักร. (2500, 16 กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่มที่ 74, ตอน 76). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/A/076/2.PDF http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/A/076/2.PDF]. (4 มิถุนายน 2551).</ref> และได้มี[[:s:ประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งผู้รักษาพระนครฝ่ายทหาร ลงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๐๐|พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้จอมพล สฤษดิ์เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทหาร]]โดยไม่มีผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พระบรมราชโองการฉบับหลังมีความว่า<!--<ref>พระบรมราชโองการตั้งผู้รักษาพระนครฝ่ายทหาร. (2500, 16 กันยายน). ราชกิจจานุเบกษา, (เล่มที่ 74, ตอนพิเศษ 76 ก). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/A/076/1.PDF http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2500/A/076/1.PDF]. (4 มิถุนายน 2551).</ref>-->
บรรทัด 124:
=== สมัยรัฐบาลจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ ===
<!-- [[ไฟล์:ATrelations0018a-1.jpg|190x190px|thumb|พระบาทสมเด็จพระ
[[ไฟล์:King and Sarit.jpg|thumb|พระบาทสมเด็จพระ
เมื่อรัฐบาลทหารของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เถลิงอำนาจแล้ว รัฐบาลได้ฟื้นฟูพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ โดยอนุญาตให้พระบาทสมเด็จพระ
พิธีกรรมตามโบราณประเพณีหลายอย่างของ[[ราชวงศ์จักรี]] เช่น[[วันพืชมงคล|พิธีกรรมพืชมงคล]] ก็มีประกาศให้ฟื้นฟู<ref>{{cite web |last=Klinkajorn |first=Karin |url=http://www.international.icomos.org/xian2005/papers/2-18.pdf |title=Creativity and Settings of Monuments and Sites in Thailand: Conflicts and Resolution |format=PDF|publisher=International Council on Monuments and Sites |accessdate=5 July 2006}}</ref> วันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (5 ธันวาคม) ก็ได้รับการประกาศให้เป็น[[วันชาติ (ประเทศไทย)|วันชาติไทย]] แทนที่วันที่ 24 มิถุนายน อันตรงกับวันที่[[คณะราษฎร]]ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นผลสำเร็จด้วย<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2503/D/043/1452.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพ เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย], ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 77 ตอน 43 24 พฤษภาคม 2503 หน้า 1452</ref>
บรรทัด 136:
=== สมัยรัฐบาลพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ===
ในความโกลาหลครั้งนั้น ฝ่ายทหารก็เข้ายึดอำนาจอีกครั้ง และเสนอนามบุคคลสามคนให้พระบาทสมเด็จพระ
พระองค์มีพระราชดำรัสในพิธีประดับยศนายทหารชั้นนายพล เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2519 ความตอนหนึ่งว่า
บรรทัด 143:
{{บทความหลัก2|เหตุระเบิดที่ยะลา 22 กันยายน พ.ศ. 2520}}
เดือนกันยายน 2520 พระบาทสมเด็จพระ
ในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.15 น. ขณะที่พระบาทสมเด็จพระ
ขณะเกิดเหตุนั้น พระบาทสมเด็จพระ
ทั้งนี้ก่อนหน้าเหตุระเบิดราวราว 20 ชั่วโมง ก็ได้มีตำรวจขับรถจักรยานยนต์ฝ่าสัญญาณไฟจราจรพุ่งชนรถยนต์พระที่นั่งจนเกิดไฟลุกท่วม
ภายหลังเกิดเหตุ พระบาทสมเด็จพระ
ธานินทร์ กรัยวิเชียรมีแนวคิดขวาจัด ทำให้เหล่านักศึกษาหนีเข้าป่าไปรวมกลุ่มกับ[[พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย|พวกคอมมิวนิสต์]] รัฐบาลของธานินทร์ กรัยวิเชียร จึงถูกรัฐประหารนำโดย [[เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์|พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์]] ใน พ.ศ. 2523 และคณะรัฐประหารก็ตั้งพลเอก [[เปรม ติณสูลานนท์]] เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่
บรรทัด 161:
=== พฤษภาทมิฬ ===
{{บทความหลัก2|พฤษภาทมิฬ}}
[[ไฟล์:200535.jpg|thumb|200px|left|พระบาทสมเด็จพระ
รัฐประหารของคณะทหารเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 นำประเทศไทยกลับไปสู่ระบอบเผด็จการทหารอีกครั้ง ซึ่งหลัง[[คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ]] (รสช.) ประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2535 และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปแล้ว พรรคการเมืองที่มีจำนวนผู้แทนราษฎรมากที่สุดคือพรรคสามัคคีธรรม จำนวนเจ็ดสิบเก้าคน ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และมีการเตรียมเสนอ [[ณรงค์ วงศ์วรรณ]] หัวหน้าพรรคสามัคคีธรรมในฐานะหัวหน้าพรรคที่มีผู้แทนราษฎรมากที่สุดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่ามาร์กาเร็ต แท็ตไวเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา ได้แถลงว่า ณรงค์เป็นผู้หนึ่งที่ไม่สามารถขอหนังสือเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับนักค้ายาเสพติด<ref name="bloodymay">{{cite web |year = 2000|url = http://www.seameo.org/vl/92may/92may1.htm |title = Development Without Harmony |publisher = Southeast Asian Ministers of Education Organization |accessdate = 2007-09-26}}</ref> พลเอก [[สุจินดา คราประยูร]] หัวหน้าคณะรัฐประหาร ซึ่งเคยตกปากว่าจะไม่รับตำแหน่งใด ๆ ภายหลังจากเลือกตั้งอีกเพื่อตัดข้อครหาบทบาทของทหารในรัฐบาลพลเรือน กลับยอมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และสร้างความไม่พอใจท่ามกลางประชาชนเป็นอันมาก นำไปสู่การเคลื่อนไหวคัดค้านต่าง ๆ ของประชาชน โดยมีร้อยตรี [[ฉลาด วรฉัตร]] และพลตรี [[จำลอง ศรีเมือง]] หัวหน้าพรรคพลังธรรม เป็นแกนนำ ซึ่งรัฐบาลของพลเอก สุจินดาได้สั่งให้ปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงโดดเฉียบขาด กลายเป็นเหตุการณ์นองเลือดในที่สุด และมีผู้คนเสียชีวิต เมื่อฝ่ายทหารเปิดการโจมตีผู้ชุมนุม เหตุการณ์ดิ่งสู่ความรุนแรงเรื่อย ๆ เมื่อกำลังทหารและตำรวจเข้าควบคุมกรุงเทพมหานครเต็มที่<ref name=autogenerated4>{{cite web |year=2000|url=http://www.seameo.org/vl/92may/92may1.htm |title=Development Without Harmony |publisher=Southeast Asian Ministers of Education Organization |accessdate=26 September 2007}}</ref> และท่ามกลางเหตุการณ์นี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยมีพระบรมราชโองการเรียกพลเอก สุจินดา คราประยูร และหัวหน้ากลุ่มผู้ประท้วง (พลตรีจำลอง ศรีเมือง) เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ให้เฝ้า และพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ถ่ายทอดการนี้ออกอากาศสดได้ ในภาพทางโทรทัศน์ พระองค์ทรงขอให้คู่กรณียุติความรุนแรงและนำพาชาติบ้านเมืองไปสู่สันติซึ่งทั้ง พลเอก สุจินดา คราประยูร และ พลตรีจำลอง ศรีเมือง เห็นพ้องต้องกันในการที่จะให้รัฐบาลพลเรือนเข้ามาบริหารประเทศในสถานการณ์ดังกล่าว <ref name="">{{cite book |date=2001 |title=The Revolutionary King: the True-Life Sequel to the King and I. |page=225 |author=William Stevenson, Robinson }}</ref> ณ จุดสูงสุดของวิกฤติการณ์ ปรากฏภาพพลเอก สุจินดา คราประยูร และหัวหน้าผู้ประท้วง เฝ้าทูลละอองพระบาทโดยหมอบกราบ และที่สุดก็นำไปสู่การลาออกของพลเอก สุจินดา คราประยูร และการเลือกตั้งทั่วไป<ref name="srimuang">{{cite web |year=2000|url=http://www.rmaf.org.ph/Awardees/Biography/BiographySrimuangCha.htm |title=BIOGRAPHY of Chamlong Srimuang |work=The 1992 Ramon Magsaysay Award for Government Service|publisher=Ramon Magsaysay Award Foundation |accessdate=26 September 2007}}{{dead link|date=August 2018}}</ref>
บรรทัด 167:
{{บทความหลัก2|รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549|คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ}}
[[ไฟล์:King_CDRM_L.jpg|200px|left|thumb|พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ และ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุก เข้าเฝ้าฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต ในเหตุการณ์[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549]]]]
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้[[เปรม ติณสูลานนท์|พลเอก เปรม ติณสูลานนท์]] ประธาน[[สภาองคมนตรี]] และ[[รัฐบุรุษ]] [[สนธิ บุญยรัตกลิน|พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน]] [[สถิรพันธุ์ เกยานนท์|พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์]] และ[[ชลิต พุกผาสุข|พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข]] เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายรายงานสถานการณ์ [[คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข|การปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข]] เมื่อเวลา 00.19 น. วันพุธที่
พลเอก [[สนธิ บุญยรัตกลิน]] หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้นำความกราบบังคมทูลพระกรุณา ทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ว่า การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล อันมี[[ทักษิณ ชินวัตร|พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร]] เป็น[[นายกรัฐมนตรี]] ก่อให้เกิดปัญหา ความขัดแย้งแบ่งฝ่าย สลายความรู้สึกรู้รักสามัคคีของคนในชาติ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย ประชาชนส่วนหนึ่งเคลือบแคลงสงสัยว่า การบริหารราชการแผ่นดิน ส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบอย่างกว้างขวาง หน่วยงานอิสระ ถูกการเมืองครอบงำ ทำให้การดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เกิดปัญหาและอุปสรรคหลายประการ แม้หลายภาคส่วนของสังคมจะได้พยายามประนีประนอม คลี่คลายสถานการณ์มาโดยต่อเนื่องแล้ว ก็ไม่สามารถรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองได้<ref name="kate">{{cite web |last = McGeown|first = Kate |date = September 21, 2006 |url = http://news.bbc.co.uk/2/hi/asia-pacific/5367936.stm |title = Thai king remains centre stage|publisher = BBC News |accessdate = 2007-09-25}}</ref>
บรรทัด 173:
นอกจากนี้ ในวันที่ 22 กันยายน [[โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย]] โดย[[สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก]] แพร่ภาพพิธีรับพระบรมราชโองการ แต่งตั้งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แก่พลเอก สนธิ ซึ่งมีข้อสังเกตว่าประกาศฉบับดังกล่าว มีพลเอก สนธิเอง ในฐานะ[[รายนามผู้บัญชาการทหารบกไทย|ผู้บัญชาการทหารบก]] เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ และลงวันที่ 20 กันยายน ขณะที่พิธีรับพระบรมราชโองการนั้น จัดให้มีขึ้นต่อมาในภายหลัง<ref>[[s:ประกาศ แต่งตั้งหัวหน้าคปค.|ประกาศ แต่งตั้งหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข]] จาก[[วิกิซอร์ซ]]</ref>
หลังจากพระบาทสมเด็จพระ
[[สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี]] ได้พระราชทานสัมภาษณ์ในรายการโดยอ้างว่าพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเสียพระทัยต่อเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองและการเสียพระทัยจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองนำไปสู่พระอาการประชวรเป็นไข้ ใจความตอนหนึ่งว่า<ref>[http://prachatai.com/journal/2011/04/33901 การพระราชทานสัมภาษณ์] ของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ในรายการ "วู้ดดี้ เกิดมาคุย"</ref>
บรรทัด 182:
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระอาการประชวรเรื้อรังในส่วนของพระหทัยเต้นผิดปกติ มีสาเหตุจากการได้รับเชื้อ[[ไมโคพลาสมา]] ราวปี พ.ศ. 2530 เสด็จไปเยี่ยมประชาชนที่[[อำเภอสะเมิง]] [[จังหวัดเชียงใหม่]] คณะแพทย์ไม่อาจถวายการรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงถวายพระโอสถประคองพระอาการมาตลอด จนต้องทรงรับการผ่าตัดใหญ่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ. 2538<ref>{{cite news| url=http://www.naewna.com/local/32685 | work=แนวหน้า | title=สาเหตุโรคพระหทัยของในหลวง : ในหลวงของฉัน | date=4 ธันวาคม พ.ศ. 2555 | accessdate=13 มิถุนายน พ.ศ. 2558}}</ref>
นับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2552 พระบาทสมเด็จพระ
จนกระทั่งวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2557 พระบาทสมเด็จพระ
=== เสด็จสวรรคต ===
{{บทความหลัก|การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระ
{{Wikisource|ประกาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สวรรคต}}
[[ไฟล์:King Bhumibol Adulyadej's golden urn.jpg|thumb|left|พระโกศประกอบพระอิสริยยศพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง]]
[[ไฟล์:Royal crematorium of Bhumibol Adulyadej - 2017-11-05.jpg|thumb|350px|พระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระ
ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา พระบาทสมเด็จพระ
วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 16.00 น. [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ครั้งยังเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วย[[พระบรมวงศานุวงศ์]]ได้เสด็จพระราชดำเนินไป[[โรงพยาบาลศิริราช]] เพื่อเคลื่อนพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระ
รัฐบาลประกาศให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา 30 วัน และให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ เจ้าหน้าที่รัฐไว้ทุกข์ 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2559/E/234/1.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต],ราชกิจจานุเบกษา, เข้าถึงวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559</ref> คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดให้วันที่ 13 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้ประชาชนน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ<ref>[http://soc.soc.go.th/SLK/showlist3.asp?pagecode=148508&pdate=2017/04/12&pno=1&pagegroup=3 การพิจารณากำหนดวันหยุดราชการประจำปีเพิ่ม (นร ๐๕๐๗/ว ๑๗๘)]</ref> มี[[พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช|พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ]] ในวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560<ref>[http://www.bbc.com/thai/thailand-39703463 ครม.เห็นชอบวันถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร. 9] บีบีซีไทย, เข้าถึงวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2560</ref>
บรรทัด 200:
ต่อมาในวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]]มีพระบรมราชโองการให้เฉลิมพระปรมาภิไธยพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมชนกนาถขึ้นเป็น '''พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร''' ใน[[พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562]]<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=136|issue=15ข|pages=1|title=ประกาศสถาปนา|url=https://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/B/015/T_0001.PDF|date=5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562|language=ไทย}}</ref> ในวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศ เรื่อง พระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย คำอ่าน และสรรพนาม คำขึ้นต้น คำลงท้าย ในการกราบบังคมทูล กราบทูล ได้ระบุพระปรมาภิไธยอย่างย่อไว้ว่า '''พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร'''<ref>{{cite journal|journal=ราชกิจจานุเบกษา|volume=136|issue=177 ง|pages=1|title=ประกาศ เรื่อง พระปรมาภิไธย พระนามาภิไธย คำอ่าน และสรรพนาม คำขึ้นต้น คำลงท้าย ในการกราบบังคมทูล กราบทูล|url=http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/117/T_0001.PDF|date=10 พฤษภาคม พ.ศ. 2562|language=ไทย}}</ref>
วันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2562 [[พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว]]มีพระบรมราชโองการให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันสำคัญของชาติไทย เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระ
== สถานะพระมหากษัตริย์ ==
[[ไฟล์:King Bhumibol Adulyadej.jpg|thumb|200px|พระบาทสมเด็จพระ
ตาม[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย]] พระองค์ทรงเป็น[[ประมุขแห่งรัฐ]] [[จอมทัพไทย]] และ[[อัครศาสนูปถัมภก]] และเป็น[[ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ|พระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ]] ในรัชสมัยของพระองค์ เกิด[[รัฐประหาร]] 11 ครั้ง เหตุการณ์[[กบฏในประเทศไทย|กบฏ]] 9 ครั้ง เหตุการณ์[[การก่อการกำเริบโดยประชาชน]]จนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงรัฐบาล 2 ครั้งได้แก่ [[เหตุการณ์ 14 ตุลา]] และ [[พฤษภาทมิฬ]] รัฐธรรมนูญ 16 ฉบับ และการเปลี่ยนแปลงนายกรัฐมนตรี 26 คน<ref>{{cite news| url=http://www.guardian.co.uk/world/2009/oct/15/thailand-bhumibol-stockmarket-sickness | work=The Guardian | location=London | title=Fears for Thai monarch set stockmarket tumbling for second day | date=15 October 2009 | accessdate=13 April 2010 | first=Ben | last=Doherty}}</ref>
บรรทัด 209:
=== บทบาททางการเมืองไทย ===
[[ไฟล์:200535.jpg|thumb|200px|พระบาทสมเด็จพระ
พระองค์ทรงมีบทบาทใน[[การเมืองไทย]]หลายครั้ง ได้ทรงหยุดยั้งการกบฏ เช่น [[กบฏยังเติร์ก]] ในปี พ.ศ. 2524 และ [[กบฏทหารนอกราชการ]] ในปี พ.ศ. 2528 กระนั้น ในสมัยของพระองค์ได้มีการทำรัฐประหารโดยทหารหลายคณะ บทบาททางการเมืองที่สำคัญของพระองค์ อาทิ สมัยรัฐบาลจอมพล [[สฤษดิ์ ธนะรัชต์]] ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นผู้รักษาพระนครฝ่ายทหารในเหตุการณ์[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2500]] และเมื่อรัฐบาลทหารของจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เถลิงอำนาจ รัฐบาลได้ฟื้นฟูพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ โดยอนุญาตให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้เสด็จออกประชาชนเป็นอันมาก ให้เสด็จประภาสในถิ่นทุรกันดาร และตั้งงบประมาณสนับสนุนโครงการพัฒนาที่พระองค์มีพระราชดำริริเริ่มด้วย นอกจากนี้วันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ([[5 ธันวาคม]]) ก็ได้รับการประกาศให้เป็น[[วันชาติ (ประเทศไทย)|วันชาติไทย]] แทนที่วันที่ [[24 มิถุนายน]] อันตรงกับวันที่[[คณะราษฎร]]ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นผลสำเร็จด้วย<ref>[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2503/D/043/1452.PDF ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ถือวันพระราชสมภพ เป็นวันเฉลิมฉลองของชาติไทย], ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 77 ตอน 43 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 หน้า 1452</ref> ทั้งนี้ [[พระยาศรีวิสารวาจา (หุ่น ฮุนตระกูล)]] [[องคมนตรี]] ได้กล่าวต่อมาว่า ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดที่มีความใกล้ชิดกับพระมหากษัตริย์เท่ากับจอมพล [[สฤษดิ์ ธนะรัชต์]] มาก่อนเลย<ref name="constitutional160"/>
บรรทัด 228:
อำนาจตามรัฐธรรมนูญของพระองค์มักเป็นที่ถกเถียงกัน บางส่วนเพราะความเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามของพระองค์และบางส่วนเป็นเพราะอำนาจของพระองค์มักถูกตีความขัดกันแม้จะมีนิยามอย่างชัดเจนในรัฐธรรมนูญแล้วก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นการแต่งตั้ง[[จารุวรรณ เมณฑกา]]เป็นผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ทว่า [[ศาลรัฐธรรมนูญ (ประเทศไทย)|ศาลรัฐธรรมนูญ]]วินิจฉัยว่าการแต่งตั้งเธอขัดต่อรัฐธรรมนูญ เมื่อรัฐสภาเลือกผู้ดำรงตำแหน่งแทนจารุวรรณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงปฏิเสธเขา<ref>{{cite web |date=9 September 2005|url=http://www.nationmultimedia.com/specials/polcrisis/p25.php |title='My govt serves His Majesty' |publisher=The Nation |accessdate=14 August 2006}}{{dead link|date=August 2018}}</ref> วุฒิสภาปฏิเสธลงคะแนนยกเลิกการยับยั้งของพระองค์<ref>{{cite web |date=11 October 2005|url=http://www.nationmultimedia.com/specials/polcrisis/p53.php |title=Senate steers clear of motion on Jaruvan |publisher=The Nation |accessdate=14 August 2006| archiveurl= http://web.archive.org/web/20060828215631/http://www.nationmultimedia.com/specials/polcrisis/p53.php| archivedate= 28 August 2006| deadurl= no}}</ref> สุดท้ายในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินให้จารุวรรณกลับเข้ารับตำแหน่ง หนังสือพิมพ์''ผู้จัดการ''อธิบายว่ากรณีนี้เป็นความพยายามของวุฒิสภาเพื่อบีบบังคับให้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทำตามความปรารถนาของพวกตน<ref name="manager1">{{cite news| url=http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9480000065539 | work=ASTV ผู้จัดการ | title=ต้องหยุดยั้งการละเมิดในหลวง! | date=17 พ.ค. 2548 | accessdate=15 มิ.ย. 2558}}{{dead link|date=August 2018}}</ref> ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า เนื่องจากรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติเฉพาะว่าพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งผู้ตรวจเงินแผ่นดินตามคำแนะนำของวุฒิสภา การพ้นจากตำแหน่งจึงต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่งเท่านั้น<ref name="manager1"/>
พระบาทสมเด็จพระ
พระบาทสมเด็จพระ
ซึ่งรัฐธรรมนูญได้บัญญัติว่าพระมหากษัตริย์ทรงไว้ ซึ่งพระราชอำนาจในการพระราชทานอภัยโทษ โดยการพระราชอภัยโทษจะแบ่งได้เป็น ๒ กรณี คือ คือการพระราชทานอภัยโทษเป็นการเฉพาะราย และการพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ กรณีการพระราชทานอภัยโทษเป็นการเฉพาะราย หากผู้ต้องคำพิพากษามีคุณสมบัติตามกฎหมาย จะมีสิทธิทูลเกล้าฯ ถวายเรื่องราวหรือถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษได้ <ref> จุลนิติ, http://web.senate.go.th/lawdatacenter/includes/FCKeditor/upload/Image/b/all/all18.pdf สารพันปัญหากฎหมาย, หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขอพระราชการอภัยโทษ, จุลนิติ พ.ย. - ธ.ค. ๕๒, นางสาวอริยพร โพธิใส</ref> <ref>[https://freedom.ilaw.or.th/RoyalPardon2013 ขอพระราชทานอภัยโทษ" ช่องว่างบนเส้นทางสู่อิสรภาพ]
บีไอลอว์, เข้าถึงวันที่ เมื่อ 9 ตุลาคม 2013 </ref>
บรรทัด 239:
ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกพระองค์ว่า "ในหลวง" ซึ่งคาดว่าย่อมาจาก "ใน ([[พระบรมมหาราชวัง]]) หลวง" หรืออาจออกเสียงเพี้ยนมาจากคำว่า "นายหลวง" ซึ่งแปลว่า "เจ้านายผู้เป็นใหญ่"
พระบาทสมเด็จพระ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงจัดตั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริกว่า 4,741 โครงการ<ref>{{cite web|url=http://www.rdpb.go.th/Projects |title=โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ|accessdate=6 สิงหาคม พ.ศ. 2561}}</ref> นอกจากนี้ยังเสด็จเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดาร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่สำคัญที่สุดจนทำให้พระองค์ทรงเป็นที่สรรเสริญในประเทศไทย คือ ปรัชญา[[เศรษฐกิจพอเพียง]]<ref name="autogenerated2006"/> ซึ่งพระองค์ได้ปฏิบัติพระองค์เองเป็นแบบอย่าง โปรดให้มีการการปลูกข้าว การเลี้ยงโคนม การเพาะพันธุ์ปลานิลขึ้นในสวนจิตรลดา ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในด้านการประหยัด ตัวอย่างเช่น ทรงใช้ดินสอเดือนละ 1 แท่ง หรือการใช้ยาสีพระทนต์จดหมดหลอด นอกจากนั้นยังไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับใด ๆ เลย ยกเว้นแต่นาฬิกาข้อมือ<ref>{{cite news| url=http://www.chaoprayanews.com/2013/04/12/“ในหลวง”-แสดงให้เห็นถึง/ | work=เจ้าพระยา | title=“ในหลวง” แสดงให้เห็นถึงความประหยัด | date=12 เมษายน พ.ศ. 2556 | accessdate=20 มิถุนายน พ.ศ. 2558}}</ref>
บรรทัด 250:
=== กีฬา ===
{{บทความหลัก2|การเล่นกีฬาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช}}
พระบาทสมเด็จพระ
=== ดนตรี ===
บรรทัด 459:
* ในปี พ.ศ. 2550 [[องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก]] (World Intellectual Property Organization) แถลงข่าวการทูลเกล้าฯ ถวาย "เหรียญรางวัลผู้นำโลกด้านทรัพย์สินทางปัญญา" (Global Leaders Award)<ref>ห้องข่าว WIPO [http://www.wipo.int/pressroom/en/articles/2007/article_0004.html King of Thailand to Receive WIPO's First Global Leaders Award]</ref> โดยนายฟรานซิส เกอร์รี่ ผู้อำนวยการใหญ่เป็นผู้นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ณ พระราชวังไกลกังวล ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552 เพื่อเทิดพระเกียรติที่ทรงมีบทบาทและผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่โดดเด่น และพระองค์ทรงเป็นผู้นำโลกคนแรกที่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญรางวัลดังกล่าว<ref>มติชนรายวัน วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11267 [http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01p0101140152§ionid=0101&selday=2009-01-14 เทิดพระเกียรติ]{{Dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref>
* วันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555 [[สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติ]] (International Union of Soil Sciences-IUSS) นำโดยอดีตเลขาธิการสหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินนานาชาติทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม (The Humanitarian Soil Scientist)<ref>[http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000047473 สหภาพวิทยาศาสตร์ทางดินฯ ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดินเพื่อมนุษยธรรม]{{dead link|date=August 2018}}</ref> เป็นพระองค์แรกของโลก<ref>'''เดลินิวส์'''. ฉบับที่ 22,832, วันอังคารที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2555. ISSN 16860004. หน้า 1, 15</ref>
=== พระยศทหาร ===
บรรทัด 501:
| [[สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี]] || 2 เมษายน พ.ศ. 2498 || colspan="4" style="text-align:center;"| มิได้เสกสมรส
|-
|rowspan="2" | [[สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี|สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี]] ||rowspan="2" | 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2500 ||rowspan="2" | พ.ศ. 2525<br><small>หย่า พ.ศ. 2539</small> ||rowspan="2" | [[วีระยุทธ ดิษยะศริน]] || [[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์]]||
|-
|[[พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ]] ||
|