ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปืนกลมือ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Matable (คุย | ส่วนร่วม)
Wedjet (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 12:
 
== ประวัติศาสตร์ ==
ในช่วงต้นของคริสต์ทศวรรษที่ 20 มีการทดลองเปลี่ยน[[ปืนพก]]จาก[[อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ|กึ่งอัตโนมัติ]]ให้เป็น[[อาวุธปืนอัตโนมัติ|อัตโนมัติเต็มรูปแบบ]] กระสุนของปืนพกก็ถูกพัฒนาไปในเวลาเดียวกันในช่วง[[สงครามโลกครั้งที่ 1]] โดย[[อิตาลี]], [[เยอรมนี]], และ[[สหรัฐอเมริกา]]
 
พวกมันเริ่มเป็นที่นิยมในคริสต์ทศวรรษที่ 1920 และ 1930 ในฐานะอาวุธในตัวเลือกของทั้งเหล่าอาชญากรและตำรวจในอเมริกา ด้วยชื่อเสียงอันโด่งดังของ[[ปืนกลมือทอมป์สัน]] มันมักถูกเรียกว่า"ทอมมี่กัน" (''Tommy Gun'') ปืนกลมือเริ่มเป็นที่สะดุดตาด้วยการเป็นอาวุธรบในแนวหน้าใน[[สงครามโลกครั้งที่ 2]] ปัจจุบันปืนกลมือถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยตำรวจ หน่วยสวาท คอมมานโดทางทหาร และหน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้าย<ref>[http://www.saf.org/LawReviews/Howe1.html saf.org]</ref>ในหลายๆ สถานการณ์
 
=== คริสต์ทศวรรษที่ 19 ถึงคริสต์ทศวรรษที่ 1920 ===
[[ไฟล์:Submachine gun M1928 Thompson.jpg|thumb|right|แบบจำลองของ[[ปืนกลมือทอมป์สัน|ทอมป์สัน]]กับแมกกาซีนแบบกล่อง]]
อาวุธอัตโนมัติแบบแรกที่ใช้กระสุนของปืนพกคือ[[ปืนกลแม็กซิม]]รุ่นที่ลดขนาดลงมา มันถูกใช้เพื่อสาธิตในการตลาดในคริสต์ทศวรรษที่ 19 ช่วงแรกของปืนกลมือมีเอกลักษณ์เป็นชิ้นส่วนของเหล็ก โดยมีแร่งอยู่ท้ายลำกล้อง ปืนกลมือปรากฏตัวในช่วงหลังของสงครามโลกครั้งที่ 1 ครั้งแรกที่เห็นมันทำหน้าที่คือใน[[สงครามสนามเพลาะ]] ที่ที่ซึ่งระเบิดมือ ปืนพก และ[[ดาบปลายปืน]]มักถูกใช้งาน
 
ชาวอิตาเลี่ยนได้พัฒนา[[ปืนกลอากาศยานวิลลาร์-เพอร์โซซา|วิลลาร์ เพอร์โซซา]]ในปีพ.ศ. 2458 มันถูกพิจารณาว่าเป็นปืนกลมืออันแรก เนื่องจากมันยิงกระสุนของปืนพก (9 ม.ม.กลิเซนติ) เดิมทีถูกพัฒนาให้เป็นปืนกลสำหรับอากาศยาน บางครั้งก็ถูกใช้โดยทหารราบ ทั้งสองสำหรับการจู่โจมในระยะใกล้และใช้เป็น[[ปืนกลขนาดเบา]] การออกแบบของมันในท้ายสุดก็ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นปืนกลมือ[[เบเร็ตต้า 1918]]
บรรทัด 28:
ปืนกลมือทอมป์สันได้อยู่ในการพัฒนาในช่วงใกล้เคียงกับเบิร์กมันน์และเบเร็ตต้า แต่การพัฒนานั้นก็ถูกพักในปีพ.ศ. 2460 เมื่อสหรัฐฯและนักออกแบบอาวุธ (ทอมป์สัน) ได้เข้าสู่สงคราม การออกแบบสมบูรณ์ในภายหลังและใช้ระบบภายในที่ต่างจากเอ็มพี18 หรือเบเร็ตต้า แต่มันก็พลาดโอกาสในการเป็นปืลกลมือที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะกระบอกแรก แต่มันก็กลายเป็นอาวุธพื้นฐานและมีการใช้งานที่ยาวนานกว่าอีกสองแบบ
 
=== คริสต์ทศวรรษที่ 1920 ถึงคริสต์ทศวรรษที่ 1950 ===
[[ไฟล์:Maschinenpistole MP40.jpg|thumb|ปืนกลมือเอ็มพี40 ยืดพานท้าย]]
[[ไฟล์:Submachine gun Type 100.jpg|thumb|ปืนกลมือ แบบ 100]]
[[ไฟล์:M3GreasegunVWM.jpg|thumb|ปืนกลมือ เอ็ม3]]
ในปีระหว่างสงคราม ปืนกลมือกลายมาเป็นที่โด่งดังในหมุ่เหล่าอาชญากร อย่าง เจมส์ แคกนี่ที่มักใช้[[ปืนกลมือทอมป์สัน]]แบบแมกกาซีนกลม ทำให้ทางทหารหลีกเลี่ยงการใช้ปืนนี้ มันยังถูกใช้โดยตำรวจ แต่อาชญากรหลายคนชอบใช้[[เอ็ม1918 บราวน์นิ่งออโตเมติกไรเฟิล]] ถึงกระนั้นปืนกลมือก็เป็นที่ชื่นชอบในทางทหารมากมาย ด้วยการที่หลายประเทศเริ่มออกแบบของพวกเขา โดยเฉพาะในคริสต์ทศวรรษที่ 1930
 
ในสหภาพโซเวียต พีพีดี-40 และ พีพีดี34/38 ได้ถูกพัฒนาขึ้น ในฝรั่งเศส เอ็มเอเอสได้ถูกพันาให้เป็น เอ็มเอเอส-38 ในเยอรมนีได้มีการพัฒนาบางส่วนของ[[เอ็มพี18]] ชื่อว่าเอ็มพี28/2 และเอ็มพี34 นอกจากนั้น นาซีเยอรมันได้ปรับแต่งเอ็มพี38 มันไม่ใช้ไม้และมีพานท้ายแบบโลหะที่พับได้ อิตาลีได้พัฒนาไปไกลกว่านั้น ด้วยจำนวนของการออกแบบที่มาก ด้วยการมีราคาที่ต่ำ คุณภาพหรือน้ำหนัก
บรรทัด 40:
อังกฤษได้พัฒนา[[ปืนกลมือแลนเชสเตอร์]] มีพื้นฐานมาจากเอ็มพี28/2 แต่เนื่องด้วยอัตราการผลิตที่ต่ำและราคาที่แพงทำให้นำไปสู่การสร้างปืนที่ง่ายกว่า, ถูกกว่าและรวดเร็วกวาส ปืนกลมือสเตน ปืนสเตนนั้นถูกมากในช่วงจบของสงครามโลกครั้งที่ 2 นาซีเยอรมันเริ่มผลิตรุ่นเลียนแบบของพวกเขาเอง อังกฤษยังใช้เอ็ม1928 ทอมป์สัน และรวมทั้งเอ็ม1 ที่พัฒนาแล้วอีกมากมาย หลังจากสงคราม สเตนถูกแทนที่ด้วย[[ปืนกลมือสเตอร์ลิ่ง]]
 
อเมริกาและพันธมิตรได้ใช้ปืนกลมือทอมป์สัน โดยเฉพาะ[[ปืนกลมือทอมป์สัน เอ็ม1|เอ็ม1]]ซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับแมกกาซีนแบบกลม เนื่องจากทอมป์สันยังมีราคาแพงในการผลิต [[ปืนกลมือเอ็ม3|ปืนกลมือ เอ็ม3]] จึงถูกสร้างขึ้นมาในปีพ.ศ. 2485 ตามมาด้วยการพัฒนาเอ็ม3เอ1ในปีพ.ศ. 2484 เอ็ม3นั้นไม่ได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเลย แต่มันถูกสร้างขึ้นด้วยเหล็กราคาถูก ทำให้มันสามารถสร้างได้มากกว่า มันสามารถยิงได้กระสุนแบบ.45 เอพีซี ซึ่งทอมป์สันและ[[ปืนพกโคลท์ เอ็ม1911]]ใช้ยิง หรือประสุนแบบ 9 ม.ม.ลูเกอร์ ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายอักษะ มันเป็นหนึ่งในปืนกลมือที่ประจำการยาวนานที่สุดในสงคราม ถูกผลิตจนถึงคริสต์ทศวรรษที่ 1960 และประจำการอยู่ในกองทัพของสหรัฐฯจนถึงคริสต์ทศวรรษที่ 1980
 
ฟินแลนด์ได้พัฒนาปืนกลมือ เอ็ม/31 ก่อนจะถึงสงครามฤดูหนาว ซึ่งมันถูกใช้มากมาย อาวุธนี้ใช้กระสุนแบบ 9 ม.ม.พาราเบลลัม ตั้งแต่แมกกาซีนแบบกลมด้วยความจุ 70 นัด (แม้ว่าบ่อยครั้งที่จะใช้จุมากถึง 74 นัด) แม้ว่าอเมริกาจะใช้แมกกาซีนแบบแท่งกับทอมป์สัน และชาวรัซเซียขนแมกกาซีนแบบกลมไม่มากนัก (ปกติมักจะแค่หนึ่ง และที่เหลือก็จะเป็นแบบแท่ง) ปืนกลมือของฟินแลนด์มักใช้แมกกาซีนแบบกลมมากกว่า และมีโอกาสขัดลำกล้องน้อยกว่าแบบแท่ง อาวุธนี้ถูกใช้จนกระทั่งจบสงครามแลปแลนด์ และในช่วงสงครามสงบในคริสต์ทศวรรษที่ 1990
 
เมื่อจบสงครามโลกครั้งที่ 2 สหภาพโซเวียตได้เก็บปืนกลมือไว้มากมาย อย่าง[[พีพีเอสเอช-41]] ซึ่งทหารราบทั้งกองพันสามารถอาจแทบไม่มีอาวุธชนิดอื่นเลย กองทหารของเยอรมันได้ตั้งกองทหารที่รับผิดชอบเรื่องปืนกลมือ การค้นพบเริ่มขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอัตราการยิงที่สูงเป็นประสิทธิภาพที่ดี แต่เพราะว่าความแม่นยำที่น้อย มันจึงส่งผลให้เกิดการพัฒนา[[ปืนเล็กยาวจู่โจม]]ขึ้นมา
 
=== คริสต์ทศวรรษที่ 1950 ถึงปัจจุบัน ===
[[ไฟล์:FN-P90.JPG|thumb|left|150px|[[เอฟเอ็น พี90]] ตัวอย่างของอาวุธป้องกันตัวและปืนกลมือที่ถูกพัฒนาในปีค.ศ. 1980]]
ปืนกลมือได้มีการพัฒนาตนเองในเรื่องการลดการหยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิงในกรณีที่ซึ่งอาวุธบรรจุด้วยกระสุนที่มีความเร็วต่ำกว่าเสียง แบบมากมายของสเตนและ[[เฮคเลอร์แอนด์คอช เอ็มพี5]]รุ่นใหม่ได้ถูกผลิตด้วยตัวหยุดแบบสมบูรณ์ และอาวุธแบบนี้มักถูกใช้โดย[[หน่วยรบพิเศษ]]และตำรวจ หลังจาก[[สงครามเกาหลี]]จบลง บทบาทของปืนกลมือในกองทัพก็ลดลงไปด้วย ทั้งปืนกลมือและปืนเล็กยาวถูกแทนที่โดย[[ปืนเล็กยาวจู่โจม]]แบบใหม่ อย่าง[[ซีเออาร์-15]] และ[[เฮคเลอร์แอนด์คอช เอชเค53]]
ปืนกลมือถูกใช้โดย[[หน่วยรบพิเศษ]]และ[[หน่วยต่อต้านผู้ก่อการร้าย]]ที่ปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่เป็นเมืองหรือในบริเวณที่คับแคบ และเป็นอาวุธป้องกันตัวของลูกเรือในเครื่องบิน พลประจำยานเกราะ และทหารเรือ แม้ว่าปืนกลมือมีความกระชับสำหรับผู้ใช้ แต่มันก็ยังต้องแข่งขันกับปืนคาร์บินและปืนเล็กยาวจู่โจมที่มีความยาวสั้น อำนาจของปืนกลมือในการรักษากฎหมายได้ถูกลดลงโดยการพัฒนาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1990 ปัจจัยอย่างการใช้ประโยชน์ที่มากของ[[ปืนเล็กยาวจู่โจม]]และคาร์บิน และการใช้ที่เพิ่มขึ้นของเกราะลำตัวได้ผสมผสานกันจนถึงขีดสุดของปืนกลมือ ปืนเล็กยาวจู่โจมและคาร์บินได้เข้ามาแทนที่ปืนกลมือในบางบทบาท อย่างไรก็ตาม ปืนเล็กยาวจู่โจมก็ไม่ได้แทนที่อย่างสมบูรณ์ เพราะน้ำหนักของมัน มันยังมีปากกระบอกที่ใหญ่กว่า แรงถีบที่มากกว่าและดูเหมือนว่าการทะลุทะลวงของมันจะมากเกินไป เนื่องจากกระสุนของมัน
 
ผู้ที่จะมาแทนที่ปืนกลมือก็ยังมี[[อาวุธป้องกันบุคคล]]หรือพีดีดับบลิว (''Personal Defense Weapon, PDW'') และปืนที่คล้ายปืนพกกลซึ่งยิงกระสุนแบบเจาะเกราะ พีดีดับบลิวทำงานคล้ายปืนกลมือและมักถูกจำแนกว่าเป็นอย่างเดียวกัน อย่างไรก็ตาม กระสุนแบบพิเศษของอาวุธป้องกันตัวนั้นไม่สามารถนำไปใช้ได้กับปืนพกและปืนเล็กยาวแบบทั่วไป และมันมีประสิทธิภาพน้อยกว่ากระสุนของปืนเล็กยาวเมื่อเจอกับเป้าหมายที่ไม่ได้หุ้มเกราะ แนวทางของปืนกลมือยุคใหม่นั้นจะมีน้ำหนักเบาขึ้น เป็นอาวุธที่มีขนาดเล็กและอาจใช้พลาสติก