ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ช้างตระกูลพรหมพงศ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลบเฟซบุ๊ค
Tris T7 (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขตัวเลขและเพิ่มส่วนดูเพิ่ม
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
บรรทัด 1:
{{issues|ปรับภาษา=yes|เพิ่มอ้างอิง=yes|จัดรูปแบบ=yes}}
'''ช้างตระกูลพรหมพงศ์''' เป็นหนึ่งช้างเผือกสี่ตระกูลซึ่งสร้างโดยมหาเทพ พระพรหมใน[[วิชาไตรเทพ]]ของ[[ศาสนาพราหมณ์]] โดยตำราพระ[[คชศาสตร์]] และตำรานารายณ์ประทมสินธุ์ ได้กล่าวถึงการกำเนิด[[ช้างมงคล]]ว่า [[พระนารายณ์]]บรรทมบนเกษียรสมุทร บังเกิดดอกบัวจากพระอุทรมี 8 กลีบ ๑๗๓173 เกสร จึงนำไปถวายพระอิศวร ที่เขาไกรลาศ พระอิศวรแบ่งเกสรดอกบัวนั้นประทานแก่พระองค์เอง พระอิศวร รับเกสรไว้ 8 เกสร ประทานแก่ พระพรหม จำนวน ๒๔24 เกสร ประทานแก่ พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ จำนวน 8 เกสร และประทานแก่พระอัคคีหรือพระเพลิง จำนวน ๑๓๕135 เกสร
 
พระอิศวร พระพรหม พระวิษณุ และพระเพลิง มหาเทพทั้ง 4 ต่างสร้างช้างเผือกตระกูลต่างๆต่าง ๆ 4 ตระกูล จากดอกบัวนั้น[[ดอกบัว]]ให้เป็น[[โลก]] พระพรหม พระอิศวร พระวิษณุและพระอัคนี มหาเทพทั้ง 4 ทรงเนรมิตช้างจากกลีบและเกสรบัว ที่พระนารายณ์ประทาน และสามารถแบ่งช้างมงคลเป็น 4 ตระกูล ตามนามแห่งเทพผู้ให้กำเนิด คือ
 
1. [[ช้างตระกูลพรหมพงศ์]] สร้างขึ้นโดย [[พระพรหม]] อันพระพรหมให้บังเกิดด้วยเกสรประทุมชาติ์ ช้างตระกูลนี้เมื่อมาสู่พระบารมีย่อมให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางวัตถุและวิทยาการต่างๆต่าง ๆ พระพรหมได้สร้าง
 
ช้างประจำทิศทั้ง 8 ด้วยเกสรดอกบัวทั้ง 8 คือ เกสรที่
 
1. [[ช้างไอยราพต]]อยู่[[ทิศบูรพา]] เกสรหนึ่งทิ้งออกไปข้างทิศบูรพา เกิดเป็นช้างชื่อไอยราพต สมบูรณด้วยลักษณะ ๑๕15 ประการ สีกายดุจสีเมฆเมื่อคลุ้มฝน เท้าทั้ง 4 เท้ากลมดังกงฉัตร เล็บเสมอ หน้าสูงท้ายต่ำอย่างสิงห์ ตัวใหญ่กว่าช้างทั้งปวง ตาใหญ่ดังดาวประกายพฤกษ งายาวขึ้นขวางวงดังภุชงค์นาค หลังราบดังคันธนูปลายหูปรบหน้า หลัง ถึงกัน โขมดทั้ง 2 สูง เสียงดุจเสียงสังข์ หาง บังคลองต้องด้วยลักษณะ ๑๕15 ประการ
 
2. [[ช้างบุณฑริก]]อยู่[[ทิศอาคเนย์]] เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศอาคเนย์ บังเกิดเป็นช้างชื่อบุณฑริกมีลักษณะ 5 ประการ สีกายดังดอกบัวขาว งาใหญ่สั้นสีดังสังข์ เล็บงามคือทอง ท้องมัวดังฝนคร่ำ กลิ่นหอมดังดอกสัตบงกช พร้อมด้วยลักษณะ
 
3. [[ช้างพราหมณ์โลหิต]]อยู่[[ทิศทักษิณ]] เกสรหนึ่งไปประดิษฐานอยู่ทิศทักษิณ บังเกิดเป็นช้างชื่อพราหมณโลหิต มีลักษณะ 5 ประการ สีกายดังสีโลหิต งาใหญ่คอกลม เสียงดุจเสียงแตรแตร้น พร้อมด้วยลักษณะ
 
4. [[ช้างกระมุท]]อยู่[[ทิศหรดี]] เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศหรดี ให้บังเกิดเป็นช้างชื่อกระมุท มีลักษณะ 5 ประการ สีดังดอกกระมุท ตัวสูงโสตรยาวกลมหูอ่อน เสียงดุจเสียงแตรงอน งางอนขึ้นขวาดังพระจันทร์ เมื่อขึ้น 3 ค่ำ พร้อมด้วยลักษณะ
 
5. [[ช้างอัญชัน]]อยู่[[ทิศประจิม]] เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศประจิม ให้บังเกิดเป็นช้างชื่ออัญชัน มีลักษณะ 5 ประการ สัดังอัญชันงาใหญ่ตรง คอใหญ่เสียงดังลมพัดในปล้องไม้ไผ่ พร้อมด้วยลักษณะ 5 ประการ
 
6. [[ช้างบุษปทันต์]]อยู่[[ทิศพายัพ]] เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศพายัพ บังเกิดเป็นช้างชื่อบุษปทันต์ มีลักษณะ 7 ประการ สีดังหมากสุกผิวเนื้อเลอียด มีกระหน้าตัวใหญ่งามงาน้อยขึ้นขวา เสียงดังเสียงเมฆ พร้อมด้วยลักษณะ
 
7. [[ช้างเสาวโภค]]อยู่[[ทิศอุดร]] เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศอุดร บังเกิดเป็นช้างชื่อเสาวโภม มีลักษณะ 5 ประการ สีดังตองแก่ สูงสัณฐานดังใส่เสื้อ เท้าทั้ง 4 ดังตองอ่อน ตัวกลมหน้าใหญ่งาน้อยยาว เสียงดังเสียงนกกเรียนพร้อมด้วยลักษณะ
 
8. [[ช้างสุประดิษฐ์]]อยู่[[ทิศอิสานอีสาน]] เกสรหนึ่งทิ้งไปข้างทิศอิสาน บังเกิดเป็นช้างสุปรดิษฐ์ มีลักษณ 9 ประการ สีเนื้อดังสีเมฆเมื่อสนธยา ผนฎท้องดังผนฎท้องงู งาซื่อสีขาวบริสุทธิ์ดังผ้าขาวที่เนื้ออ่อนดังสีบัวแดง ขนปากยาว อัณฑโกษอ่อน เต้ามันอ่อน ร้องเสียงดังเสียงฟ้า พร้อมด้วยลักษณะ 9 ประการ
นอกจากนี้พระพรหมยังได้สร้างช้างอีก ๑๐10 หมู่ คือ
 
1. [[ฉัททันต์หัตถี]] กายสีขาว หางเท้าสันหลังสีแดง งาเป็นแขนง เป็นพญาช้าง มีกำลังสูงสุดเหาะไปในอากาศได้ เดินรวดเร็วมาก มีผิวกายขาวบริสุทธิ์ดุจสีเงินยวง ว่ามีฤทธิ์เดชมาก แม้นจะเหาะไปในนภากาศก็ได้ ถ้าจะไปทางบกก็ไปได้รวดเร็ว คือในระยะทางสามล้านหกแสนหนึ่งหมื่นสามร้อยสิบโยชน์นั้น ช้างฉัททันต์ใช้เวลาเดินทางเพียง 3 นาทีเท่านั้นเอง เร็วกว่าจรวดที่สหรัฐอเมริกา หรือรัฐเซียส่งไปโลกพระจันทร์มากมายนัก และกำลังของช้างตระกูลฉัททันต์นี้ เหนือกว่าช้างใดๆใด ๆ ช้างตระกูลอุโบสถ ๑๐10 เชือก จึงจะมีกำลังเท่าพญาช้าง ฉัททันทต์นี้เชือกหนึ่ง
 
2. [[อุโบสถหัตถี]] กายดั่งสีทองนพคุณ เดินได้รวดเร็ว เหาะไปในอากาศได้ อยู่บริเวณป่ากรรณิการ์ ส่วนหนึ่งของป่าหิมพานต์ มีนางช้าง ปีตวรรณ เป็นบริวาร มีลักษณะสูงใหญ่สง่างาม ผิวดังสีทอง มีฤทธิ์เหาะไปในอากาศไค้ เดินทางบกช้ากว่าช้างฉัททันต์ มีช้างสีเหลืองเป็นบริวาร อยู่ในป่าหิมพานต์ พญาช้างอุโบสถย่อมจะนำเอาลูกมายกให้เป็นภรรยาพญาช้างฉัททันต์ และถือกันว่าพญาช้างอุโบสถนั้น สมควรเป็นพาหนะของพระมหาจักรพรรดิ์เท่านั้น
 
3. [[เหมหัตถี]] กายดั่งสีรัศมีทอง มีกำลังมาก คือช้างทอง มีลักษณะสูงใหญ่ มีสีตัวเหลืองดังทอง มีหมู่ช้างพลายพังเป็นบริวารเป็นอันมาก แต่กำลังน้อยกว่าช้างอุโบสถ ช้างเหมหัตถี ๑๐10 เชือก จึงจะเท่าช้างอุโบสถเชือกหนึ่ง
 
4. [[มงคลหัตถี]] กายสีดังสีดอกอัญชัญ ฤทธิ์น้อยกว่าช้างเหมหัตถี
 
5. [[คันธหัตถี]] กายสูงใหญ่ ผิวตัวดังไม้กฤษณา กลิ่นตัวและมูตรคูตหอมหวนชื่นใจ ช้างตระกูลคันธหัตถีนี้ว่ามีกำลังมากเหมือนกัน แต่ยังน้อยกว่าช้างมงคลหัตถี
 
6. [[ปิงคัลหัตถี]] หรือ ปิงคลหัตถี หรือบิงคลหัตถี กาย สีตาและเล็บ เป็นสีเหลืองเหลือบน้ำตาล ดั่งสีตาแมว ลักษณะสูงสง่างาม สีตัวเหลืองอ่อนดังสีตาแมวมีช้างเป็นบริวารมาก แต่กำลังน้อยกว่าพญาช้างคันธหัตถี
 
7. [[ตามพหัตถี]] หรือ ดามพหัตถี กายสีดั่งทองแดง ขนหางคล้ายดอกบัวแดง ลักษณะสูงใหญ่ มีอานุภาพห้าวหาญในการศึก แต่มีกำลังน้อยกว่าพญาช้างปิงคัลหัตถี
 
8. [[บัณฑรหัตถี]] หรือ นาคันธรหัตถี ช้างตระกูลปัณฑรนาเคนทร์หรือปัณฑรหัตถี ว่ามีสีตัวดังเขาไกรลาส ไกรลาส คือ หมายถึงสีขาวนั่นเอง เพราะเขาไกรลาสนั้นว่ากันว่ามีหิมะจับขาวไปหมด กายสีดั่งรัศมีเงิน มีอีกชื่อหนึ่งว่า นาคันธร ห้าวหาญองอาจในการสงคราม
 
9. [[คังไคยหัตถี]] หรือ ช้างคับเคยยนาเคนทร์ กายดั่งสีน้ำไหล (สีเขียวน้ำทะเล) มีลักษณะสูงใหญ่ สมบูรณ์งดงาม เกิดบริเวณลุ่มน้ำคงคา
 
๑๐10. [[กาลวกะหัตถี]] กาลาวกหัตถี กายสีดำดังปีกอีกา
 
== ดูเพิ่ม ==
* [[ช้างตระกูลอิศวรพงศ์]]
 
== อ้างอิง ==