ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าย็องโจแห่งโชซ็อน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 117:
 
== ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายโนนนและฝ่ายโซนน ==
พระเจ้าย็องโจประสูติพระราชสมภพเมื่อค.ศ. 1694 เป็นพระโอรสของ[[พระเจ้าซุกจง]] กับ[[พระสนมซุกบิน ตระกูลชเว]] ได้รับพระนามเป็น '''องค์ชายย็อนอิง''' (연잉군 延礽君) ทรงเป็นองค์ชายที่ขุนนางฝ่ายตะวันตกให้การสนับสนุน มีพระเชษฐาต่างพระราชมารดาซึ่งเป็นพระโอรสของพระสนมฮีบิน ตระกูลชัง เมื่อปลายรัชสมัยพระเจ้าซุกจงขุนนางแตกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายตะวันตก (노론, 老論) สนับสนุนองค์ชายย็อนอิง ขณะที่ฝ่ายใต้ (소론, 少論) สนับสนุนองค์ชายรัชทายาท เมื่อค.ศ. 1720 พระเจ้าซุกจงสวรรคต องค์ชายรัชทายาทขึ้นครองราชย์เป็น[[พระเจ้าคย็องจงแห่งโชซ็อน|พระเจ้าคย็องจง]]
 
แต่ทว่าพระเจ้าคย็องจงมีพระพลานามัยที่ไม่สู้จะดีนัก ทรงใช้เวลาทั้งรัชสมัยส่วนใหญ่ไปกับการประชวรทำให้ทรงว่าราชการไม่ได้ และอำนาจจึงตกแก่ขุนนางฝ่ายโซนน ที่สำคัญพระเจ้าคย็องจงทรงไม่มีพระโอรสไว้สืบทอดราชบัลลังก์ ขุนนางฝ่ายโนนนจึงยื่นฎีกาถวายขอให้แต่งตั้งองค์ชายย็อนอิงเป็น พระอนุชารัชทายาท (왕세제, 王世弟) ซึ่งพระเจ้าคย็องจงก็ทรงอนุมัติเมื่อค.ศ. 1721 แต่เมื่อขุนนางฝ่ายโนนนพยายามจะผลักดันพระอนุชารัชทายาทขึ้นมาอีกขั้นโดยการขอให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ขุนนางโซนนจึงกล่าวหาว่าฝ่ายโนนนกำลังพยายามจะผลักดันให้องค์ชายย็อนอิงขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทนพระเจ้าคย็องจง จึงเกิดการกวาดล้างขุนนางฝ่ายโนนนเมื่อค.ศ. 1722 ที่เรียกว่า '''การลงทัณฑ์ปีชินอิม''' (신임옥사, 辛壬獄事) ขุนนางฝ่ายโนนนถูกประหารชีวิตและเนรเทศ<ref>Jae Un-Kang, Jae Eun-Kang. ''The land of scholars: two thousand years of Korean Confucianism''.</ref> รวมถึงพระสนมโซฮุน ตระกูลอี ซึ่งเป็นพระสนมของพระอนุชารัชทายาท (ภายหลังได้เป็น พระสนมช็องบิน ตระกูลอี 정빈 이씨, 靖嬪 李氏) และเป็นมารดาขององค์ชายคย็องอี (경의군, 敬義君 ภายหลังเป็น องค์ชายรัชทายาทฮโยจัง) ถูกสำเร็จโทษไปในคราวนี้ด้วย