ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอกซ์บอกซ์ (เครื่องเล่นวิดีโอเกม)"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ป้ายระบุ: ทำกลับ |
||
บรรทัด 3:
| logo = [[ไฟล์:Xbox logo.png|200px]]
| image = [[ไฟล์:Xbox-console.jpg|220px]]
| image = [[ภาพ:Stop hand nuvola blue.svg|150px]]
| manufacturer = [[ไมโครซอฟท์]]
| type = [[เครื่องเล่นวิดีโอเกม]]
เส้น 26 ⟶ 27:
รุ่นถัดมาของเอกซ์บอกซ์คือ [[เอกซ์บอกซ์ 360]] วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน ปี 2548 ทำให้ เอกซ์บอกซ์ก็ถูกยุติการทำตลาดในเวลาถัดมาไม่นานเริ่มจากในประเทศที่ไมโครซอฟท์ไม่ประสบความสำเร็จมากนักอย่างญี่ปุ่น ส่วนประเทศอื่น ๆ เริ่มหยุดจำหน่ายในปีถัดมา<ref name="Story of Xbox - VG247">{{cite web|url=http://www.vg247.com/2011/08/02/the-xbox-story-part-1-the-birth-of-a-console/|title=The Xbox Story, Part 1: The Birth of a Console|last=Garratt|first=Patrick|date=August 5, 2011|publisher=vg247.com|accessdate=June 26, 2013}}</ref>โดยเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรปของเอกซ์บอกซ์ คือเกม ''[[เส้าหลิน สุดยอดพลังแห่งเพลงมวย]]'' ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2550 และเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือคือเกม ''[[Madden NFL 09]]'' ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2551 การให้การสนับสุนสำหรับเอกซ์บอกซ์ที่หมดอายุนั้นสิ้นสุดลงในวันที่ 2 มีนาคม 2551 บริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์สำหรับเอกซ์บอกซ์สิ้นสุดเมื่อ 15 เมษายน 2552
==
ในปี 2541 วิศวกร 3 คนจากทีม[[ไดเรกต์เอกซ์|ไดเรกเอกซ์]]ของไมโครซอฟท์ ได้แก่ Kevin Bachus, Seamus Blackley, Ted Hase และผู้นำทีมไดเรกเอกซ์ในเวลานั้นอย่าง Otto Berkes ร่วมทีมกันเพื่อทำการแกะแล็ปท็อปยี่ห้อ [[Dell]] เพื่อสร้างตัวต้นแบบของเกมคอนโซลที่มีพื้นฐานซอฟต์แวร์เป็นซอฟต์แวร์จากไมโครซอฟท์ โดยทีมนี้หวังว่าจะสามารถสร้างเกมคอนโซลที่สามารถมีอาร์ดแวร์มาตรฐานเทียบเท่ากับเกมคอนโซลตัวถัดไปจากโซนีอย่าง เพลย์สเตชัน 2 ซึ่งพวกเขามองว่าได้ดึงนักพัฒนาบางส่วนไปจากการพัฒนาเกมบนวินโดว์ โดยหลังจากทำการประกอบเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ทีมนี้ได้เข้าไปพบกับ [[Ed Fries]] ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายธุรกิจเกมของไมโครซอฟท์ ณ เวลานั้น เพื่อนำเสนอ "ไดเรกเอกซ์ บอกซ์" ตัวต้นแบบ ซึ่งเป็นเกมคอนโซลที่มีพื้นฐานมาจากเทคโนโลยีไดเรกเอกซ์ซึ่งพัฒนาโดยกลุ่มของ Berkes โดยหลังจากได้เห็นผลิตภัณฑ์แล้ว Fries จึงได้ตัดสินใจสนับสนุนไอเดียของทีมที่จะสร้างเกมคอนโซลที่มีพื้นฐานมาจากไมโครซอฟท์ ไดเรกเอกซ์ขึ้น<ref name=seattletimes_20110525>{{cite news |title=Last of Xbox Dream Team, Otto Berkes Is Moving On |first=Brier |last=Dudley |date=May 25, 2011 |newspaper=The Seattle Time |publisher=Seattle Times Co |page=A12 |quote= Berkes and Hase were among a group of four who first pushed Microsoft to develop a Windows-based gaming system to compete with Sony's PlayStation 2, which was luring game companies from the Windows platform in the late 1990s. The other two were Seamus Blackley, who left in 2002, and Kevin Bachus, who left in 2001.}}</ref><ref name=seattletimes_20110524>{{cite news |title= Exclusive: Microsoft loses last Xbox founder, mobile PC visionary |first=Brier |last=Dudley |url=http://seattletimes.nwsource.com/html/technologybrierdudleysblog/2015137144_its_the_end_of_an.html |newspaper=The Seattle Times |publisher=Seattle Times Co |date=May 24, 2011 |accessdate=May 25, 2011 |quote= In 1998, Berkes and his team ordered a few Dell laptops, took them apart and built the first prototypes of a Windows gaming console. In order to appeal to young people, the name zBar (pronounced zed-BAH)
ระหว่างการพัฒนา ชื่อเดิมของเกมคอนโซลเครื่องนี้อย่าง ไดเรกเอกซ์ บอกซ์ ถูกย่อให้เหลือเพียง "เอกซ์บอกซ์" ทั้งนี้ฝ่ายการตลาดของไมโครซอฟท์ไม่ได้ชอบชื่อนี้และพยายามเสนอชื่ออื่นขึ้นมาทดแทน ระหว่างการทดสอบในวงจำกัด ชื่อ "เอกซ์บอกซ์" นั้นเป็นหนึ่งในรายการชื่อที่เป็นไปได้ที่จะแสดงให้เห็นว่าชื่อนี้จะไม่เป็นที่นิยมต่อผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามภายหลังการทดสอบกลับพบว่าชื่อ "เอกซ์บอกซ์" นั้นเป็นที่ต้องการมากกว่าชื่ออื่น ๆ ทำให้ชื่อ "เอกซ์บอกซ์"กลายเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์นี้<ref name=gamasutra_2009-08-14>{{cite web |url=http://www.gamasutra.com/php-bin/news_index.php?story=24831 |title=Interview: Former Microsoft Exec Fries Talks Xbox's Genesis |first=Leigh |last=Alexander |date=August 14, 2009 |work=Gamasutra |publisher=UBM TechWeb |archiveurl=https://www.webcitation.org/5yxGkLXlW?url=http://www.gamasutra.com/php-bin/news_index.php?story=24831 |archivedate=May 25, 2011 |accessdate=May 25, 2011 |quote=Direct X-Box, of course, was truncated to 'Xbox,' -- and "marketing hated the name," says Fries. "They went off and created this whole, long list of better names for the machine." In focus testing, the marketing team left the name 'Xbox' on that long list simply as a control, to demonstrate to everyone why it was a horrible name for a console. "Of course, 'Xbox' outscored, in focus testing, everything they came up with. They had to admit it was going to be the Xbox." |deadurl=yes |df=mdy-all }}</ref>
เส้น 35 ⟶ 36:
เอกซ์บอกซ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2543 ในงาน [[Game Developers Conference]]<ref>{{cite web |url=http://www.microsoft.com/en-us/news/features/2000/03-10xbox.aspx |title=Xbox Brings "Future-Generation" Games to Life |publisher=[[Microsoft]] |date=March 10, 2000 |accessdate=August 12, 2013}}</ref> ผู้เข้าชมต่างประทับใจในเทคโนโลยีของมัน โดย ณ ช่วงเวลาที่บิล เกตส์ทำการประกาศเอกซ์บอกซ์ สถานการณ์ยอดขายของเซก้า ดรีมแคสต์กำลังลดลงและโซนี เพลย์สเตชัน 2 กำลังวางขายในประเทศญี่ปุ่น<ref name="xboxtimeline1">{{cite web|first=Steven L. |last=Kent |url=http://archive.gamespy.com/articles/january04/Xboxtimeline/ |title=Xbox Timeline |publisher=GameSpy.com |date=February 16, 2004 |accessdate=May 3, 2009 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20090425202720/http://archive.gamespy.com/articles/january04/Xboxtimeline/ |archivedate=April 25, 2009 }}</ref> ทั้งนี้เกตส์ได้พูดคุยกับประธานของเซก้า [[Isao Okawa]] เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการให้เอกซ์บอกซ์สามารถเข้ากันได้กับเกมของดรีมแคสต์ แต่การเจรจาล้มเหลวหลังการเจรจาถึงความเป็นไปได้ว่าจะใช้บริการเซก้าเน็ตในการออนไลน์หรือไม่<ref>{{cite web|url=http://kotaku.com/5447897/how-xbox-could-have-helped-the-dreamcast-survive|title=How Xbox Could Have Helped The Dreamcast Survive|first=Brian|last=Ashcraft|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref>
ตัวเครื่องเอกซ์บอกซ์เปิดตัวสู่สาธารณะชนโดยเกตส์และนักมวยปล้ำอาชีพ [[ดเวย์น จอห์นสัน|เดอะ
และเนื่องจากความนิยมอันมหาศาลของเครื่องเล่นวิดีโอเกมในประเทศญี่ปุ่น ไมโครซอฟท์จึงชะลอการเปิดตัวเอกซ์บอกซ์ในทวีปยุโรปก่อน เพื่อมุ่งเน้นการทำตลาดไปยังตลาดเครื่องเล่นเกมในญี่ปุ่นก่อน ซึ่งแม้ว่าการเปิดตัวในยุโรปจะล้าช้า ก็ได้รับการพิสูจน์ทางยอดขายแล้วว่าประสบความสำเร็จมากกว่าการจัดจำหน่ายเครื่องเอกซ์บอกซ์ในประเทศญี่ปุ่น
กลยุทธ์ของไมโครซอฟท์เพื่อจัดจำหน่ายเอกซ์บอกซ์มีประสิทธิภาพอย่างมาก อย่างเช่นในการเตรียมการสำหรับจัดจำหน่าย ไมโครซอฟท์เข้าซื้อ[[บันจี]]และใช้เกม''เฮโล: คอมแบท อีโวลด์'' เป็นเกมวางจำหน่ายพร้อมเครื่อง เนื่องจากในเวลานั้นวิดีโอเกมชุด''พยัคฆ์ร้าย 007 รหัสลับทลายโลก'' สำหรับ [[นินเทนโด 64]] เป็นหนึ่งในเกมแนวมุมมองบุคคลที่หนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในระดับทั่วไปที่ปรากฏในเครื่องเล่นวิดีโอเกมเช่นเดียวกับเกม ''เพอร์เฟค ดาร์ก'' และ ''[[เมดัล ออฟ ออเนอร์]]'' โดยเฮโล: คอมแบ
===
ในปี 2545 องค์กร Independent Television Commission (ITC) จากสหราชอาณาจักร ทำการแบนโฆษณาสำหรับเอกซ์บอกซ์ในสหราชอาณาจักร หลังจากได้รับร้องเรียนว่าโฆษณาตัวนี้ทำให้เกิดความน่ารังเกียจ ความตกใจและมีรสนิยมไม่ดี โดยภาพในโฆษณาแสดงให้เห็นถึงมารดาให้กำเนิดเด็กทารกคนหนึ่งซึ่งถูกปล่อยออกจากท้องเหมือนกระสุนปืน พุ่งผ่านหน้าต่างและผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว จากนั้นจบลงที่เด็กคนที่พุ่งออกไปกลายเป็นชายแก่ตกลงบนหลุมฝังศพของเขาพร้อมคำโปรยว่า "ชีวิตมันสั้น เล่นให้มากกว่า"<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/entertainment/2028725.stm |title='Shocking' Xbox advert banned|accessdate=July 18, 2007|date=June 6, 2002|publisher=[[BBC News Online]]}}</ref>
===
รุ่นถัดไปของเอกซ์บอกซ์ เครื่องเอกซ์บอกซ์ 360 เปิดเผยครั้งแรกอย่างเป็นทางการเมื่อ 12 พฤษภาคม 2548 บนช่อง [[MTV]] โดยเป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมยุคถัดไปเครื่องแรกที่ประกาศออกมา เอกซ์บอกซ์วางจำหน่ายเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2548 Nvidia ยุติการผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิกสำหรับเอกซ์บอกซ์ในเดือนสิงหาคม 2548 ซึ่งถือเป็นการยุติการผลิตเอกซ์บอกซ์เครื่องใหม่<ref>{{cite web |url=http://www.ft.com/cms/s/0/08fce29a-c334-11d9-abf1-00000e2511c8.html |publisher=Financial Times |title=Nvidia ends shipments of chips for Xbox |accessdate=August 12, 2013}}</ref> โดยเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในทวีปยุโรปของเอกซ์บอกซ์ คือเกม ''[[เส้าหลิน สุดยอดพลังแห่งเพลงมวย]]'' ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2550 และเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือคือเกม ''[[Madden NFL 09]]'' ซึ่งวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2551 การให้การสนับสนุนสำหรับเอกซ์บอกซ์ที่หมดการประกันนั้นสิ้นสุดลงในวันที่ 2 มีนาคม 2551 <ref>{{cite web|url=https://www.engadget.com/2009/02/27/psa-microsoft-ends-original-xbox-support-on-march-2/|title=PSA: Microsoft ends original Xbox support on March 2|last=de Matos|first=Xav|date=February 27, 2009|accessdate=December 10, 2015}}</ref> และบริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์สำหรับเอกซ์บอกซ์นั้น สิ้นสุดการให้บริการเมื่อ 15 เมษายน 2552<ref>{{cite web|url=http://www.1up.com/news/xbox-live-cut-original-xbox|title=Xbox Live to Cut Off Original Xbox Support on April 15|last=Pereira|first=Chris|date=February 5, 2015|accessdate=December 10, 2015|deadurl=yes|archiveurl=https://web.archive.org/web/20151222173251/http://www.1up.com/news/xbox-live-cut-original-xbox|archivedate=December 22, 2015|df=mdy-all}}</ref>
เอกซ์บอกซ์ 360 สนับสนุนการเล่นวิดีโอเกมจากเอกซ์บอกซ์จำนวนหนึ่ง สำหรับผู้เล่นที่มีฮาร์ดไดรฟ์อย่างเป็นทางการของเอกซ์บอกซ์ 360 โดยรายชื่อเกมเอกซ์บอกซ์ที่เล่นได้บน 360 ถูกเพิ่มมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2550 โดยเซฟบนเครื่องเอกซ์บอกซ์ไม่สามารถย้ายมายังเอกซ์บอกซ์ 360 ได้ แม้ว่าบริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์สำหรับเอกซ์บอกซ์สิ้นสุดเมื่อ 15 เมษายน 2552 แต่ทว่ายังสามารถใช้บริการออนไลน์ผ่านทั้งเอกซ์บอกซ์และเอกซ์บอกซ์ 360 ได้ผ่านชุดซอฟต์แวร์ [[XLink Kai]] นอกจากนี้ในงาน E3 2017 ได้มีการประกาศว่า[[เอกซ์บอกซ์วัน]] สนับสนุนการเล่นวิดีโอเกมจากเอกซ์บอกซ์จำนวนหนึ่งเช่นเดียวกัน
==
เอกซ์บอกซ์เป็นเครื่องเล่นวิดีโอเกมเครื่องแรกที่มีฮาร์ดดิสก์อยู่ภายในตัว สำหรับใช้เพื่อเก็บเซฟเกมและดาวน์โหลดเนื้อหาจากยริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์ ซึ่งเป็นการทำลายระบบเมมโมรี่การ์ดที่เป็นที่นิยม ณ เวลานั้น (ก่อนหน้านี้ในเครื่องคอนโซลเก่า ๆ เช่นเครื่องอมิก้า ซีดี 32 ใช้การจัดเก็บบนหน่วความจำแฟลชที่ฝังอยู่ภายใน เครื่องอื่น ๆ เช่นเทอร์โบกราฟ-ซีดี เซก้า ซีดีและเซก้า แซทเทิร์น ใช้ระบบเก็บข้อมูลแบบใช้ไฟเลี้ยงจนถึงปี 2544) นอกจากนี้ผู้ใช้เอกซ์บอกซ์ยังสามารถทำการริบเพลงจากซีดีเพลงลงฮาร์ดดิสก์ได้และฮาร์ดดิสก์ยังใช้เป็นที่เก็บเพลงประกอบบางเพลงในบางเกม<ref>{{cite web |url = http://support.microsoft.com/kb/909942 |title = Xbox: Description of custom soundtracks |accessdate = January 13, 2008 |date = April 25, 2007 |publisher = Microsoft Knowledge Base}}</ref>
เอกซ์บอกซ์ยังเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเกมชิ้นแรกที่รองรับเทคโนโลยีการถอดรหัสเนื้อหาอินเตอร์แอคทีฟจากดอลบีโดยตรง ซึ่ง
การที่เอกซ์บอกซ์มีพื้นฐานฮาร์ดแวร์มาจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่และหนักกว่าเครื่องเล่นวิดีโอเกมอื่น ๆ ในรุ่นเดียวกัน การที่เครื่องใหญ่อันเนื่องมาจากไดร์ฟซีดีและดีวีดีที่เทอะทะ ขนาดของฮาร์ดดิสก์ที่มีขนาด 3.5 นิ้ว นอกจากนี้เอกซ์บอกซ์ยังเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของคุณสมบัติด้านความปลอดภัยเช่นการให้สายแยกของตัวบังคับออกจากเครื่องเมื่อถูกดึงอย่างแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องตกจากที่สูง
ในระหว่างการพัฒนาเอกซ์บอกซ์ ได้มีการปรับปรุงฮาร์ดแวร์ภายในหลายครั้งเพื่อป้องกันการแก้ไขชิพจากบุคคลภายนอก เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการผลิตและเพื่อทำให้ไดร์ฟดีวีดีมีความไว้วางใจได้ (เนื่องจากในบางเครื่องที่ใช้ในการทดสอบพบว่าเกิดปัญหาอ่านแผ่นผิดพลาดระหว่างที่ใช้ไดร์ฟดีวีดีของ Thomson) แม้ในเครื่องที่ผลิตออกมาช่วงหลัง ๆ จะใช้ไดร์ฟดีวีดียี่ห้อ Thomson รุ่น TGM-600 และไดร์ฟดีวีดียี่ห้อ Philips รุ่น VAD6011 แต่ยังพบถึงปัญหาที่ไดร์ฟไม่สามารถที่จะอ่านแผ่นดีวีดีรุ่นใหม่ ๆ ได้และยัง
ในปี 2545 ไมโครซอฟท์และ [[Nvidia]] เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการเกี่ยวกับข้อพิพาทเกี่ยวกับการกำหนดราคาชิพของ Nvidia สำหรับเอกซ์บอกซ์<ref name="eetimes-chip-dispute">{{cite web|url=http://www.eetimes.com/electronics-news/4094562/Microsoft-takes-Nvidia-to-arbitration-over-pricing-of-Xbox-processors|title= Microsoft takes Nvidia to arbitration over pricing of Xbox processors|accessdate=June 29, 2006|date=April 29, 2002|publisher=[[EE Times]]}}</ref> ไมโครซอฟท์ยื่นฟ้องต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา โดยระบุว่าไมโครซอฟท์ต้องการส่วนลด 13 ล้านเหรียญสำหรับการจัดส่งชิบในปีงบประมาณ 2545 ของ Nvidia ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อตกลงที่บริษัททั้งสองได้ทำขึ้น นอกจากนี้ยังมีคำร้องว่าต้องการให้มั่นใจอีกว่าชิปที่ผลิตออกมาในอนาคตจะได้รับการลดราคาตามข้อตกลงที่ทำก่อนหน้าและ Nvidia จะผลิตอย่างเต็มที่ตามคำสั่งซื้อจากไมโครซอฟท์โดยไม่มีข้อจำกัดทางปริมาณการผลิต เรื่องนี้ได้รับการตัดสินเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2546 โดยไมโครซอฟท์โดยทั้งสองฝ่ายต่างทำข้อตกลงกันใหม่<ref>{{cite web|url=http://www.eetimes.com/electronics-news/4090108/Microsoft-and-Nvidia-settle-Xbox-chip-pricing-dispute|title=Microsoft and Nvidia settle Xbox chip pricing dispute|accessdate=June 29, 2006|date=February 6, 2003|publisher=[[EE Times]]}}</ref>
เส้น 63 ⟶ 64:
การ์ดหน่วยความจำแบบถอดได้ขนาด 8 MB สามารถใช้เสียบเข้ากับตัวบังคับ เพื่อใช้สำหรับการนำเซฟเกมไปใช้กับเครื่องเล่นอื่น ซึ่งสามารถคัดลอกจากฮาร์ดดิสก์ของเอกซ์บอกซ์ได้ผ่านหน้าต่างตัวจัดการเซฟของเอกซ์บอกหรือทำการเซฟระหว่างเล่นเกม โดยเซฟส่วนมากของเกมบนเอกซ์บอกซ์สามารถโอนถ่ายลงสู่การ์ดและเล่นบนเครื่องเอกซ์บอกซ์อื่นได้ แต่ทว่าเซฟเอกซ์บอกซ์บางเซฟติดลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกข้อมูลบัญชีของเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์เพื่อนำไปใช้กับเครื่องอื่นได้อีกด้วย
===
เอกซ์บอกซ์ใช้หน่วยประมวลผลกลางคือ ซีพียู เพนเทียม III แบบปรับแต่ง ความเร็ว 733 เมกะเฮิร์ตซ์ แบบ 32 บิต โดยความเร็วฟรอนต์ไซด์บัสแบบ GTL+อยู่ที่ 133 เมกะเฮิร์ตซ์แบบ 64 บิตมีแบนด์วิดท์ที่ 1.06
สำหรับหน่วยประมวลผลทางกราฟิกนั้นได้แก่ Nvidia NV2A ความเร็ว 233 เมกะเฮิร์ตซ์ ซึ่งมีความสามารถในการประมวลผลจำนวนจุดลอยตัวที่ 7.3 กิกะฟล็อป มีความสามารถในการคำนวณทางเรขาคณิตได้สูงสุด 115 ล้านจุดต่อวินาที มีอัตราการแสดงภาพสูงสุดที่ 932 ล้านพิกเซลต่อวินาที มีความสามารถในการแสดงผลในทางทฤษฎีที่ 29 ล้านพิกเซล 32-pixel triangles ต่อวินาที แต่ด้วยข้อจำกัดของแบนด์วิธ ทำให้จะมีอัตราการแสดงผลจริงอยู่ที่ระหว่าง 250-700 ล้านพิกเซลต่อวินาทีพร้อมทั้งคุณสมบัติในการ กำหนดตำแหน่งในแกนที่ 3 การเพิ่มการรับรู้ของระยะทางโดยการแรเงาวัตถุที่ห่างไกลแตกต่างกัน
การเพิ่มผลจากสิ่งพิเศษหรือ
===
ตัวควบคุมของเอกซ์บอกซ์ประกอบไปด้วยอนาล็อก 2 ชิ้น แผ่นควบคุมทิศทางแบบกดแรงดัน อะนาล็อกทริกเกอร์สองปุ่ม ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มเริ่ม ช่องเสียบอุปกรณ์เสริมสองปุ่มและปุ่มแอ็คชันแบบ 8 บิต (ได้แก่ปุ่ม A/สีเขียว ปุ่ม B/สีแดง ปุ่ม X/สีน้ำเงิน ปุ่ม Y/สีเหลือง ปุ่มสีขาวและดำ)<ref>{{cite web| url = http://euc.jp/periphs/xbox-controller.en.html |title = Inside Xbox 360 Controller}}</ref> โดยตัวควบคุมแบบมาตรฐาน (มีชื่อเล่นจากขนาดว่า "Fatty"<ref name="nickname">{{cite web|title=Xbox 360 Wireless Controller Tour |url=http://gear.ign.com/articles/613/613588p1.html |publisher=IGN |accessdate=July 2, 2011 |date=May 13, 2005 |quote=the original "Fatty" Xbox controller didn't have a specific public name}}</ref> อีกชื่อคือ "Duke"<ref name="nickname2">{{cite web |title=Xbox's original beast of a controller making a comeback? |url=http://news.cnet.com/8301-17938_105-20071383-1/xboxs-original-beast-of-a-controller-making-a-comeback/ |publisher=CNET |accessdate=October 16, 2011 |date=June 15, 2005 |quote=Anyone who purchased the original Xbox during its launch window quickly came to know its behemoth of a controller, now nicknamed "Duke."}}</ref>) เป็นตัวควบคุมที่มีมาภายในกล่องมาสำหรับเอกซ์บอกซ์ทุกเครื่อง ยกเว้นที่จัดจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น ตัวควบคุมได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นมีขนาดใหญ่เมื่อเทียบกับตัวควบคุมเกมวิดีโอเกมอื่น ๆ ในตลาด ทำให้ตัวควบคุมนี้ได้รับรางวัล "ความผิดพลาดแห่งปี" จากนิตยสาร [[Game Informer]]ในปี 2544<ref>Games of 2001. ''[[Game Informer]]'' (January 2002, pg. 48).</ref> นอกจากนี้หนังสือบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ยังบันทึกว่าเป็นตัวควบคุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบันทึกสถิติโลกกินเนสส์ฉบับเกมเมอร์เมื่อปี 2551 และถูกจัดให้เป็นตัวควบคุมที่แย่ที่สุดจากการจัดอันดับของ [[IGN]]<ref>{{cite web |title=Top 10 Tuesday: Worst Game Controllers |url=http://xbox360.ign.com/articles/690/690449p1.html |publisher=IGN |accessdate=August 7, 2009 |date=February 21, 2006}}</ref>
ตัว "Controller S" (มีชื่อเรียกระหว่างการพัฒนาว่า "Akebono") เป็นตัวควบคุมที่เล็กและเบากว่านั้น แต่เดิมเป็นตัวบังคับแบบมาตรฐานที่แถมไปในชุดจัดจำหน่ายของเอกซ์บอกซ์ในประเทศญี่ปุ่น<ref>Ninja Beach Party. ''[[Official Xbox Magazine]]'' (October 2002, issue 11, pg. 44).</ref> ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่มีมือขนาดเล็ก<ref>{{cite web|author=Christopher Buecheler chrisb@gamespy.com |url=http://archive.gamespy.com/hardware/march02/xboxcontrollers/ |title=GameSpy.com - Hardware: Xbox Controller S |publisher=Web.archive.org |date=June 24, 2008 |accessdate=November 11, 2010 |archiveurl = https://web.archive.org/web/20080624085615/http://archive.gamespy.com/hardware/march02/xboxcontrollers/ |archivedate = June 24, 2008}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.gamer20.com/features/150/4 |title=Xbox Retrospective: All-Time Top Xbox News |publisher=Gamer 2.0 |accessdate=November 11, 2010 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20100503155438/http://www.gamer20.com/features/150/4 |archivedate=May 3, 2010 }}</ref> โดยตัวควบคุม "Controller S" นั้นวางจำหน่ายในประเทศอื่น ๆ หลังจากความต้องการที่มีอย่างมากและในปี 2545 ก็ได้กลายเป็นตัวบังคับแบบมาตรฐานที่แถมไปในชุดจัดจำหน่ายของเอกซ์บอกซ์ทั่วโลก โดยที่ตัวบังคับเดิมที่มีขนาดใหญ่ยังมีวางจำหน่ายในรูปแบบอุปกรณ์เสริม
==ซอฟท์แวร์==
===
เอกซ์บอกซ์ใช้ระบบปฏิบัติการเฉพาะที่ปรับปรุงมาจาก[[เคอร์เนล]]ของวินโดวส์ โดย[[ส่วนต่อประสานโปรแกรมประยุกต์]]มีลักษณะคล้ายกับที่พบ [[ไมโครซอฟท์ วินโดวส์]]เช่น[[ไดเรกเอกซ์]] 8.1 โดย
[[ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้]]ของเอกซ์บอกซ์นั้นเรียกว่าเอกซ์บอกซ์ แดชบอร์ดซึ่งประกอบไปด้วย ซอฟต์แวร์เล่นสื่อที่สามารถเล่นซีดีเพลง ริบซีดีสู่ฮาร์ดดิสก์ในเอกซ์บอกซ์และเล่นเพลงในฮาร์ดดิสก์ที่ริบจากซีดี นอกจากนี้ยังให้ผู้ใช้จัดการเซฟเกม เพลงและเนื้อหาดาวน์โหลดจากบริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์ ให้ผู้ใช้ลงชื่อเข้าใช้และจัดการบัญชีของพวกเขา แดชบอร์ดนั้นสามารถใช้ได้เฉพาะระหว่างที่ผู้ใช้ไม่ได้เล่นเกมหรือภาพยนตร์เท่านั้น โดยสีของแดชบอร์ดมีสีเขียวและดำซึ่งเป็นสีเดียวกับบนตัวเครื่องเอกซ์บอกซ์ ตอนที่เอกซ์บอกซ์วางจำหน่ายในปี 2544 เอกซ์บอกซ์ ไลฟ์ยังไม่เปิดให้บริการ ทำให้คุณสใบัติในส่วนออนไลน์ยังไม่สามารถใช้ได้
เอกซ์บอกซ์ ไลฟ์เปิดให้บริการในปี 2545 แต่ในการที่จะเข้าถึงบริการได้นั้น ผู้ใช้ต้องทำการซื้อชุดเริ่มต้นสำหรับเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์ ซึ่งประกอบไปด้วยชุดหูฟัง และบัตรสมัครสมาชิกเพิ่มเติม. ระหว่างที่เอกซ์บอกซ์ยังคงได้รับการสนับสนุนจากไมโครซอฟท์ เอกซ์บอกซ์ แดชบอร์ดได้รับการอัปเดตผ่านเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์หลายครั้งเพื่อลดการโกงและเพิ่มคุณสมบัติ
===
เอกซ์บอกซ์วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2544 เกมวางจำหน่ายที่ได้รับความนิยมพร้อมเครื่องอย่าง
แม้ว่าเอกซ์บอกซ์จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทภายนอกที่แข็งแกร่งตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แต่เกมเอกซ์บอกซ์ในช่วงต้นจำนวนมากไม่ได้ใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีประสิทธิภาพจนเต็มที่แม้ว่าจะวางจำหน่ายไปเป็นปี โดยเกมเวอร์ชันเอกซ์บอกซ์ของเกมที่ลงให้กับเครื่องเล่นวิดีโอเกมหลายเครื่องนั้นมักจะมาพร้อมกับการเพิ่มคุณสมบัติเล็กน้อยหรือการปรับปรุงด้านกราฟิกเพื่อแยกความแตกต่างจากเครื่องเพลย์สเตช้น 2 และเกมคิวบ์ ซึ่งทำให้จุดขายหลักของเอกซ์บอกซ์ไม่ได้รับการใส่ใจมาก ในช่วงเวลาสั้น ๆ โซนีโต้กลับเอกซ์บอกซ์ด้วยการรักษาเกมที่เป็นที่รอคอยอย่างมากให้เป็นเกมที่ลงเฉพาะเพลย์สเตชัน 2 ในช่วงเวลาหนึ่งอย่างเกมชุด
ในปี 2545 และ 2546 การวางขายเกมที่มีชื่อเสียงสูงช่วยให้โมเมนตัมของเอกซ์บอกซ์ดีขึ้นและแยกตัวออกจากออกจากเพลย์สเตชัน 2 ไมโครซอฟท์ยังเข้าซื้อกิจการของแรร์ที่ทำเกมฮิตจำนวนมากบนเครื่องนินเทนโด 64 เพื่อที่จะขยายพอร์ตโฟลิโอของบริษัทเกมภายใน<ref name="ign.com">{{cite web|url=http://www.ign.com/articles/2002/09/24/microsoft-buys-rare|title=Microsoft Buys Rare|first=Aaron|last=Bouldling|date=September 24, 2002|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> บริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์เริ่มให้บริการช่วงหลังปี 2545 พร้อมกับเกมอย่าง ''โมโตจีพี'' ''เมชแอสซอล'' และ''ทอม แคลนซี่ส์ โกสต์ รีคอน'' โดยเกมขายดีและได้รับคำวิจารณ์ในแง่บวกหลายเกมก็ออกตามมาเช่นทอม แคลนซี สปลินเตอร์ เซลล์และ ''[[สตาร์ วอร์ส: ไนทส์ออฟดิโอลด์รีพับลิค (วิดีโอเกม)|สตาร์ วอร์ส: ไนทส์ออฟดิโอลด์รีพับลิค]]'' เมื่อข้อตกลงของ [[Take-Two Interactive]] ที่จะทำเกมลงเฉพาะกับโซนีมีการแก้ไขเพื่อให้ ''[[Grand Theft Auto III|แกรนด์เธฟต์ออโต III]]'' และภาคต่อวางจำหน่ายบนเอกซ์บอกซ์ บริษัทจัดจำหน่ายอื่นก็เริ่มที่จะนำเกมลงเอกซ์บอกซ์ โดยออกวางจำหน่ายห่างจากเวอร์ชันเพลย์สเตชัน 2 หลายเดือน
ปี 2547 เป็นปีที่เกมเฉพาะเครื่อง ''[[เฟเบิล]]''<ref>{{cite web|url=http://www.gamerankings.com/xbox/516688-fable/index.html|title=Fable for Xbox - GameRankings|publisher=|accessdate=December 30, 2016}}</ref> และ [[
ปี 2548 มีเกมเฉพาะเครื่องที่ได้รับความนิยมอย่าง ''[[Conker: Live & Reloaded]]'' และ [[Forza Motorsport (video game)|''ฟอร์ซ่ามอเตอร์สปอร์ต'']] นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ยังได้เริ่มวางจำหน่ายเอกซ์บอกซ์ 360 ซึ่งเป็นรุ่นถัดมา เกมอย่าง ''[[Kameo: Elements of Power]]'' และ ''[[Perfect Dark Zero|เพอร์เฟคดาร์ก ซีโร่]]'' ซึ่งเดิมทีนั้นถูกพัฒนาเพื่อลงเอกซ์บอกซ์<ref name="ign.com"/> กลายเป็นเกมวางจำหน่ายพร้อมเครื่องเอกซ์บอกซ์ 360 แทน โดยเกมสุดท้ายที่วางจำหน่ายสำหรับเอกซ์บอกซ์ได้แก่เกม ''[[Madden NFL 09]]'' ซึ่งวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2551
==
ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2545 ไมโครซอฟท์เปิดให้บริการเอกซ์บอกซ์ ไลฟ์ ที่
==
{| class="wikitable" style="float:right; margin:0 0 0.5em 1em;"
|-
! ภูมิภาค
! จำนวนที่ขายได้<br /><small>
! วันจำหน่ายครั้งแรก
|-
เส้น 127 ⟶ 128:
ยอดขายของเอกซ์บอกซ์ในแต่ละเดือนนั้นทั้งหมดแทบจะตามหลังยอดขายของเพลย์สเตชัน 2 ยกเว้นในเดือนเมษายน 2547 ที่เอกซ์บอกซ์ขายดีกว่าเพลย์สเตชัน 2 ในสหรัฐอเมริกา<ref>{{cite web |url=http://uk.gamespot.com/news/xbox-officially-outsells-ps2-in-us-6099369 |archive-url=https://archive.is/20130628041554/http://uk.gamespot.com/news/xbox-officially-outsells-ps2-in-us-6099369 |dead-url=yes |archive-date=June 28, 2013 |title=Xbox officially outsells PS2 in US |publisher=[[CBS Interactive]] |work=GameSpot.com |date=May 26, 2004 |accessdate=August 12, 2013 |first=Tor |last=Thorsen }}</ref> แม้จะมียอดขายห่างจากเพลย์สเตชัน 2 เป็นอย่างมาก เอกซ์บอกซ์ถือว่าประสบความสำเร็จ (อย่างมากในทวีปอเมริกาเหนือ) มียอดขายในอันดับสองของเครื่องเล่นวิดีโอเกมรุ่นที่ 6 อย่างมั่นคง
===
แม้จะมีการประชาสัมพันธ์อย่างหนักในประเทศญี่ปุ่น<ref>{{cite web |url=http://thegia.psy-q.ch/sites/www.thegia.com/news/0202/n22a.html |title=Xbox launches in Japan |publisher=The Gaming Intelligence Agency |date=February 22, 2002 |accessdate=August 12, 2013 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20131212122449/http://thegia.psy-q.ch/sites/www.thegia.com/news/0202/n22a.html |archivedate=December 12, 2013 |df=mdy-all }}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.theage.com.au/articles/2002/02/22/Japan-xbox.htm |title=Xbox unleashed in Japan |publisher=The Age Company Ltd. |date=February 22, 2002 |accessdate=August 12, 2013}}</ref>แต่ทว่ายอดขายในประเทศนี้ดูแย่เป็นอย่างมาก
โดยรุ่นถัดมาอย่างเอกซ์บอกซ์ 360 สามารถขายได้ 1.6 ล้านเครื่องในเดือนกุมภาพันธ์ 2014<ref>{{cite web|last=Phillips |first=Tom |url=http://www.eurogamer.net/articles/2014-02-26-wii-u-has-finally-overtaken-xbox-360-in-japan |title=Wii U has finally overtaken Xbox 360 in Japan • |publisher=Eurogamer.net |date=February 26, 2014 |accessdate=April 25, 2014}}</ref>
เส้น 139 ⟶ 140:
* [http://www.xbox.com/ Official Xbox website]
* {{dmoz|Games/Video_Games/Console_Platforms/Microsoft/Xbox}}
==
{{รายการอ้างอิง|2}}
|