ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Heuristics (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: '''เจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดี''' (ขำ บุนนาค - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2356 ...
 
Heuristics (คุย | ส่วนร่วม)
ใส่ภาพ
บรรทัด 1:
[[ภาพ:Tipakornvong 1.JPG|thumb|250px|เจ้าพระยาทิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค)]]
'''เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดี''' (ขำ บุนนาค - [[1 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2356]] - [[พ.ศ. 2413]]) ขุนนางชั้นผู้ใหญ่[[สมัยรัตนโกสินทร์]] ผู้ช่วยปลัดกรมท่า ปลัด[[กรมพระตำรวจ]] ผู้สำเร็จราชการในกิจการต่างประเทศ นักเขียน[[พระราชพงศาวดาร]] ผู้แต่งและผู้ตีพิมพ์หนังสือรวมทั้ง[[หนังสือแสดงกิจจานุกิจ]] หนังสือไทยเล่มแรกที่อธิบายความรู้ทาง[[วิทยาศาสตร์]] [[ภูมิศาสตร์]]และ[[ศาสนา]]ที่ทันสมัยที่สุดในขณะนั้น
 
 
== กำเนิด การศึกษาและชีวิตในวัยเยาว์ ==
เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดีเป็นบุตร[[สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์]] (ดิศ บุนนาค) และมารดา รอด เกิดเมื่อวันศุกร ขึ้น 7 ค่ำเดือน 11 ในสมัย[[พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย]] เป็นน้องต่างมารดาของ[[สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์]] (ช่วง บุนนาค)มีพี่น้องร่วมมารดาหนึ่งคน ชื่อ พุก
 
 
== ชีวิตราชการ ==
เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดีเข้ารับราชการในแผ่นดิน[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]]ในตำแหน่งนายพลพัน[[มหาดเล็กหุ้มแพร]] ต่อมาได้เลื่อนเป็นจหมื่นราชามาตย์พลขันธ์ ปลัดพระกรมตำรวจ
 
ถึงสมัยรัชกาลที่4 ได้เลื่อนยศเป็นเจ้าพระยา ช่วยราชการกรมเจ้าท่า (ช่วยท่านบิดา) เมื่อ [[พ.ศ. 2394]] เมื่อท่านบิดาคือสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ซึ่งว่าราชการกรมท่าถึงแก่พิราลัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าราชการกรมท่าแทนเมื่อ [[พ.ศ. 2408]] และเลื่อนให้เป็น ''เจ้าพระยารวิวงศ์มหาโกศาธิบดี'' แต่ทรงเปลี่ยนให้ใหม่เป็นเจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดีในภายหลัง เนื่องจากทรงพบว่านามที่ทรงตั้งให้เป็น "[[กาลกรรณี]]"
 
เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดีลาออกจากราชการสมัยปลายรัชกาลที่ 4 เมื่อวันที่ [[29 มกราคม]] [[พ.ศ. 2410]] เนื่องจากมีปัญหาป่วยด้วยโรคตา ครั้นเมื่อถึงสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้า]]อยู่หัว ได้ทรงโปรดให้เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดีกลับเข้ารับราชการอีกครั้งหนึ่งด้วยเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่มีประสบการณ์สูง เป็นผู้มีอัธยาศัยดี เที่ยงธรรม จึงโปรดสถาปนาให้มีอำนาจได้สำเร็จราชการในกิจการต่างประเทศ เป็นที่ปรึกษาคิดอ่านราชการแผ่นดินด้วย เจ้าพระยาทิพากรวงษ์มหาโกษาธิบดีรับราชการต่อมาได้อีกเพียง 2 ปี ก็ถึงแก่พิราลัย
 
== ผลงาน ==
'''เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดี''' รับราชกาลมาถึง 3 แผ่นดิน เมื่อครั้งเป็นจหมื่นราชามาตย์ดำรงตำแหน่งปลัดกรมพระตำรวจ ได้ทำการปราบปรามโจรผู้ร้ายสำคัญ ๆ มากมาย รวมทั้งการจับผู้ร้ายแถบด่านปัจจมิตร เมื่อ [[พ.ศ. 2380]] ซึ่งจับผู้ร้ายได้มากถึง 30 คน ครั้งเมื่อทรงโปรดให้ไปจับ[[ฝิ่น]]ทางหัวเมืองปักษ์ใต้ก็สามารถปราบและจับฝิ่นได้ตั้งแต่[[ประจวบคีรีขันธ์]]ไปถึงเมือง[[ถลาง]] นำฝิ่นที่จับได้มาเผาที่หน้าพระที่นั่งสุทธาสวรรค์ ซึ่งได้โปรดเกล้าให้นำกลักฝิ่นมาหล่อเป็น[[พระพุทธรูป]]พระประธานใน[[ศาลาการเปรียญ]][[วัดสุทัศน์เทพวราราม]] เมื่อระหว่าง [[พ.ศ. 2387]] ถึง [[พ.ศ. 2391]] ก็ได้ทำการปราบปราม[[อั้งยี่]]ขายฝิ่นตั้งแต่ปากน้ำ[[บางปะกง]] หัวเมืองชายทะเลตะวันตก รวมทั้งการปราบ[[จีนตั้วเหี่ย]]ที่เมือง[[ฉะเชิงเทรา]]
 
ในด้านการต่างประเทศเจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดีได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในคณะผู้แทน 5 ท่านเจรจากับ[[เซอร์ จอห์น บาวริง]] ในพระนาม ซึ่งผู้แทนคณะนี้ประกอบด้วย[[สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงวงศาธิราชสนิท]] สมเด็จเจ้าพระยาบรมบรมมหาประยูรวงศ์ผู้บิดา [[สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ]] สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ และเจ้าพระยารวิวงศ์โกษาธิบดี (ยศของเจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดีขณะนั้น)
 
ในด้านงานก่อสร้าง
 
=== งานด้านการค้นคว้า การเขียนและการประพันธ์ ===
 
== ดูเพิ่ม ==
* ''ชมรมสายสกุลบุนนาค'' [http://www.bunnag.in.th/prarajpannuang001003.html]
 
== อ้างอิง ==
# ''วิมล พงศ์พิพัฒน์'' '''เจ้าพระยาทิพากรวงษ์วงศ์มหาโกษาธิบดี''' สารานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม 14 พ.ศ. 2527 -2528 หน้า 8681