ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลิโอเนล เมสซิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แอตเลติโก ?มาดริด→อัตเลติโกเดมาดริด
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
อัตเลติโก ?มาดริด→อัตเลติโกเดมาดริด
บรรทัด 120:
==== ฤดูกาล 2008–09 ====
[[ไฟล์:039 men at work UEFA 2009, Rome.jpg|thumb|left|เมสซิ ในนัดชิงชนะเลิศการแข่งขันแชมเปียนส์ลีก 2009]]
หลังจากที่[[รอนัลดีนโย]]ออกจากสโมสรไป เมสซิก็สวมเสื้อเบอร์ 10 แทน<ref>{{cite news|url=http://www.goal.com/en/news/8/main/2008/08/04/803776/messi-inherits-ronaldinhos-no-10-shirt|title=Messi Inherits Ronaldinho's No. 10 Shirt|last=Sica|first=Gregory|publisher=Goal.com|date= 4 August 2008 |accessdate= 2 June 2009}}</ref> เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ในนัดการแข่งขันแชมเปียนส์ลีก แข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลชาคห์ตาร์โดเนตสค์]] เมสซิยิงได้ 2 ประตูใน 7 นาทีสุดท้าย โดยเปลี่ยนตัวแทน[[เธียร์รี อองรี]] พลิกสถานการณ์จากแพ้ 1–0 ไปเป็นชนะ 2–1 ให้กับบาร์เซโลนา<ref>{{cite news|url=http://soccernet.espn.go.com/report?id=254681&cc=5739|title=Late Messi brace nicks it|publisher=ESPN Soccernet|date= 1 October 2008 |accessdate= 29 May 2009}}</ref> และเกมในลีกนัดถัดมา แข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลอัตเลติโกเดมาดริด]] ที่ถือเป็นการปะทะกับมิตรสหายที่ดีของเมสซิ คือ [[เซร์ฆิโอ อาเกวโร]]<ref>{{cite news|url=http://bleacherreport.com/articles/65327-barcelona-6-1-atletico-madrid-match-report-and-player-ratings|title=Barcelona 6–1 Atletico Madrid| last = Osaghae | first = Efosa |publisher=Bleacher Report|date= 4 October 2008 |accessdate= 31 May 2009}}</ref> เมสซิยิงประตูจากการเตะ[[ฟรีคิก]] และยังช่วยส่งบอลยิงประตูให้กับบาร์เซโลนา ชนะ 6–1<ref>{{cite news|url=http://soccernet-assets.espn.go.com/report?id=252817&league=ESP.1&cc=5739|title=Goal rush for Barcelona|publisher=ESPN Soccernet|date= 4 October 2008 |accessdate= 31 May 2009}}</ref> เมสซิยิงตุงตาข่ายอีกครั้งในนัดแข่งกับเซบิยา โดยยิงลูกวอลเลย์ในระยะ 23 เมตร (25 หลา) และจากนั้นก็เลี้ยงลูกผ่านผู้รักษาประตูและยิงประตูจากมุมแคบได้<ref>{{cite news|url=http://www.fifa.com/worldfootball/clubfootball/news/newsid=964294.html|title= Messi magical, Real miserable |publisher=FIFA|date= 29 November 2008 |accessdate= 2 June 2009}}</ref> เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 2008 ในการแข่งเอลกลาซิโกนัดแรกของฤดูกาล เมสซิยิงประตูที่ 2 ในนัดที่บาร์เซโลนาชนะ[[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] 2–0<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport1/hi/football/europe/7776472.stm|title= Barcelona 2–0 Real Madrid |publisher=BBC Sport|date= 13 December 2008 |accessdate= 29 May 2009}}</ref>
 
เมสซิได้รับคะแนนโหวตเป็นลำดับที่ 2 ในรางวัลผู้เล่นแห่งปีของฟีฟ่า (FIFA World Player of the year) ปี 2008 ด้วยคะแนน 678 คะแนน<ref name="Gala 2008"/> และได้รับเสียงโหวตเป็นลำดับ 2 ในการประกาศรางวัล[[บัลลงดอร์]] ปี 2008 เช่นเดียวกัน เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันที่เขาติดอันดับผู้เข้าชิง 3 คนสุดท้าย
 
เมสซิยิงแฮตทริกแรกในปี ค.ศ. 2009 ในโกปาเดลเรย์ ในนัดแข่งกับอัตเลติโกเดมาดริด โดยบาร์เซโลนาชนะไป 3-1<ref>{{cite news|url=http://www.shanghaidaily.com/sp/article/2009/200901/20090107/article_387234.htm|title=Messi scores hat trick in Barca's 3–1 win over Atletico|publisher= Shanghai Daily |date= 7 January 2009 |accessdate= 29 May 2009}}</ref> เมสซิยิงอีกประตูสำคัญ 2 ประตู เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 โดยลงมาในฐานะตัวสำรองในครึ่งหลัง ช่วยให้บาร์เซโลนาชนะราซินเดซันตันเดร์ 1–2 หลังจากที่ตามอยู่ 1–0 และประตูการยิงที่ 2 ของเขาถือเป็นประตูที่ 5000 ในลีกของสโมสรบาร์เซโลนา<ref>{{cite web | url = http://www.google.com/hostednews/afp/article/ALeqM5iZaLqalXOwOJ2FwjihA3svGql1Mw | title = Supersub Messi fires 5,000-goal Barcelona to comeback victory | publisher = AFP | date = 1 February 2009 | accessdate = 1 February 2009}}</ref> ในการแข่งครั้งที่ 29 ในลาลิกา เมสซิยิงประตูที่ 30 ของฤดูกาล นับในทุกการแข่งขัน ทำให้ทีมชนะ 6–0 ต่อ[[สโมสรฟุตบอลมาลากา]]<ref>{{cite news|url=http://english.aljazeera.net/sport/2009/03/2009322164115611397.html|title=Barcelona hit Malaga for six|publisher=Al Jazeera English|date= 23 March 2009 |accessdate= 2 June 2009}}</ref> เมื่อวันที่ 8 เมษายน ค.ศ. 2009 เขายิง 2 ประตูในนัดแข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก]] ในแชมเปียส์ลีก เขายิงเป็นประตูที่ 8 ในการแข่งถ้วยนี้<ref>{{cite news|url=http://www.usatoday.com/sports/soccer/2009-04-09-2372732048_x.htm|title=Barcelona returns to earth with league match|publisher= USA Today |date= 9 April 2009 |accessdate= 7 July 2009|last=Logothetis|first=Paul}}</ref> เมื่อวันที่ 18 เมษายน เมสซิยิงประตูที่ 20 ของฤดูกาลในนัดชนะเฆตาเฟ 1–0 ทำให้บาร์เซโลนายังคงมีคะแนนอันดับสูงสุดในลีกและนำเรอัลมาดริด 6 คะแนน<ref>{{cite news|url=http://www.shanghaidaily.com/sp/article/2009/200904/20090419/article_398171.htm|title=Messi leads Barcelona to 1–0 win over Getafe|publisher= Shanghai Daily |date=19 April 2009 |accessdate= 2 June 2009}}</ref>
 
เมื่อใกล้จบฤดูกาล เมสซิยิง 2 ประตู (ประตูที่ 35 และ 36 ในทุกการแข่งขัน) นำ 6–2 ชนะเหนือเรอัลมาดริด ที่สนาม[[ซานเตียโก เบร์นาเบว]]<ref>{{cite news|url=http://www.guardian.co.uk/football/2009/may/02/la-liga-real-madrid-barcelona|title=Barcelona run riot at Real Madrid and put Chelsea on notice|last=Lowe|first=Sid|publisher= The Guardian |date= 2 May 2009 |accessdate= 31 May 2009 | location=London}}</ref> ที่ถือเป็นการแพ้มากที่สุดของเรอัลมาดริดตั้งแต่ ค.ศ. 1930<ref>{{cite news|url=http://www.goal.com/en/news/12/spain/2009/05/03/1244468/real-madrid-fan-poll-says-barcelona-loss-is-most-painful-in-club|title=Real Madrid Fan Poll Says Barcelona Loss Is Most Painful In Club History|last=Macdonald|first=Paul|publisher=Goal.com|date= 3 May 2009 |accessdate= 31 May 2009}}</ref> หลังยิงประตู เขาวิ่งไปหาเหล่าคนดูและกล้อง และแสดงเสื้อบาร์เซโลนาและแสดงเสื้อทีเชิร์ตอีกตัวที่เขียนว่า ''Síndrome X Fràgil'' เป็นภาษากาตาลาหมายถึง [[กลุ่มอาการโครโมโซมเอกซ์เปราะบาง]] (Fragile X syndrome) เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อเด็กที่ป่วยจากอาการดังกล่าว<ref>{{cite news|url=http://www.goal.com/en/news/12/spain/2009/05/02/1242691/what-lionel-messis-t-shirt-at-the-bernabeu-meant|title=What Lionel Messi's T-Shirt At The Bernabeu Meant|publisher=Goal.com|last=Macdonald|first=Ewan|date= 2 May 2009|accessdate= 2 June 2009}}</ref>
บรรทัด 174:
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2010 เมสซิยิงแฮตทริก ในนัดเปิดฤดูกาลของเขาในชัยชนะ 4–0 เหนือเซบิยา ในการชิงถ้วย[[ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา]] ทำให้บาร์เซโลนาได้ถ้วยแรกของฤดูกาล หลังจากแพ้ 1–3 ในการแข่งนัดแรก<ref>{{cite web | url = http://www.goal.com/en/match/45971/barcelona-vs-sevilla/report Barcelona 4–0 | title = Sevilla: Brilliant Blaugrana Outclass Rojiblancos To Lift Supercopa | publisher = Goal.com | date = 22 August 2010 | accessdate = 22 August 2010}}</ref> เขาเริ่มต้นฤดูกาลในลาลิกา ด้วยการยิงประตูในนาทีที่ 3 ในนัดแข่งกับราซินเดซันตันเดร์ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2010 เขายังคงแสดงฝีมือยอดเยี่ยมในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในนัดแบ่งกลุ่ม แข่งกับ[[พานาทีไนกอส]] (Panathinaikos) โดยเขายิงได้ 2 ประตู และยังช่วยส่งลูกยิงประตูอีก 2 ลูก และยังยิงเข้ากรอบประตูใน 2 ครั้ง
 
เมื่อวันที่ 19 กันยายน ค.ศ. 2010 เมสซิได้รับอาการบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าเนื่องจากการเข้าแย่งลูกจากกองหลัง[[สโมสรฟุตบอลอัตเลติโกเดมาดริด]] [[โตมัส อุยฟาลูซี]] (Tomáš Ujfaluši) ในนาทีที่ 92 ในนัดที่ 3 ที่[[สนามกีฬาบิเซนเต กัลเดรอน]] โดยเริ่มแรกนั้นเกรงว่าเมสซิจะบาดเจ็บจากข้อเท้าแตกและทำให้เขาไม่สามารถลงแข่งได้อย่างน้อย 6 เดือน แต่จากผลเอ็มอาร์ไอแสดงให้เห็นในวันถัดไปในบาร์เซโลนาว่า เกิดการเคล็ดที่เอ็นภายในและภายนอกที่ข้อเท้าขวา<ref>{{cite web|url=http://www.fcbarcelona.cat/web/english/noticies/futbol/temporada10-11/09/20/n100920113021.html|title=Messi injured|publisher=FCBarcelona.cat|date= 20 September 2010 |accessdate= 22 September 2010}}</ref> เพื่อนร่วมทีม ดาบิด บิยา ออกมากล่าวว่า "การเข้าแย่งลูกปะทะเมสซิเป็นสิ่งที่หยาบคาย" หลังจากดูวิดีโอที่เล่นแล้ว เขายังเชื่อว่า "ไม่ได้กระแทกให้เจ็บ"<ref>{{cite web|url=http://www.fcbarcelona.cat/web/english/noticies/futbol/temporada10-11/09/20/n100920113025.html|title=Villa on Messi's injury|publisher=FCBarcelona.cat|date= 20 September 2010|accessdate= 22 September 2010}}</ref> จากเหตุนี้ทำให้สื่อวิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วและนำไปสู่การถกเถียงเรื่องความเท่าเทียมกันในการปกป้องผู้เล่นในเกม
 
เมื่อเมสซิหายดีแล้ว เขายิงประตูในนัดเสมอกับ[[เอร์เรเซเดมายอร์กา]] 1–1 จากนั้นยิงอีก 1 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลโคเปนเฮเกน]] ช่วยให้ทีมชนะในบ้าน 2–0<ref>{{cite web | url = http://www.goal.com/es-la/match/50397/barcelona-vs-copenhague/report Barcelona 2–0 | title = Champions: Messi pone al Barcelona como líder de su grupo (2–0) | publisher = Goal.com | date = 20 October 2010 | accessdate = 20 October 2010}}</ref> เขายังคงยิงประตูอย่างต่อเนื่อง ในนัดเจอกับซาราโกซาและเซบิยา เมื่อเริ่มเดือนพฤศจิกายนเขายิงประตูโดยไปเยือนโคเปนเฮเกน เสมอ 1–1 และไปเยือน[[สโมสรฟุตบอลเฆตาเฟ]]ชนะ 3–1 ที่เขาช่วยจ่ายบอลให้ดาบิด บิยาและ[[เปโดร โรดรีเกซ เลเดสมา|เปโดร โรดรีเกซ]] ยิง<ref>{{cite web | url = http://www.goal.com/es-la/match/47782/getafe-vs-barcelona/report | title = Liga BBVA: Un gol de Messi encarriló el camino a la victoria para los azulgrana en el Coliseo | publisher = Goal.com | date = 7 November 2010 | accessdate = 7 November 2010}}</ref> ในนัดต่อไปเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล|บิยาร์เรอัล]] เขายิงประตูที่น่าแปลกใจจากการร่วมมือกับเปโดร ทำให้นำ 2–1 จากนั้นก็ยิงอีกประตู ทำให้บาร์เซโลนาชนะ 3–1 และเป็นนัดที่ 7 ติดต่อกันที่เมสซิยิงประตู ทำลายสถิติตัวเขาเองที่เคยยิงได้ 6 นัดติดต่อกัน ในนัดพบกับอูเดอัลเมริอา เขาทำแฮตทริกครั้งที่ 2 ของฤดูกาลในนัดเยือนที่ชนะไป 8–0 ประตูที่ 2 ในนัดนี้เป็นประตูที่ 100 ในลาลิกาของเขา<ref>{{cite web | url = http://www.entradasfcbarcelona.com/?p=3389 | title = Jornada 12 – UD Almería 0-8 FC Barcelona | publisher = www.entradasfcbarcelona.com | date = 20 November 2010 | accessdate = 22 November 2010}}</ref> เขายิงประตูได้ 9 นัดติดต่อกัน (รวมถึง 10 นัดติดต่อกันในนัดกระชับมิตรแข่งกับ[[ฟุตบอลทีมชาติบราซิล|ทีมชาติบราซิล]]) โดยไปเยือนพานาทีไนกอส ชนะ 3–0<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=731275&idseccio_PK=803 | title = El Barça pasa a octavos... ¡y ahora, a por el Madrid! | publisher = www.sport.es | date = 24 November 2010 | accessdate = 24 November 2010}}</ref>
บรรทัด 180:
ในนัด[[เอลกลาซิโก]]เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เมสซิยิงประตูช่วยให้บาร์เซโลนาชนะ 5–0 และเมสซิยังช่วยส่งลูกยิงประตูให้กับบิยา 2 ครั้ง<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=731648&idseccio_PK=1402 | title = El Barça humilla al Madrid con otra 'manita' histórica | publisher = www.sport.es | date = 29 November 2010 | accessdate = 29 November 2010}}</ref> ในนัดถัดมาเขาทั้งยิงและช่วยจ่ายลูกยิงให้นัดเจอกับโอซาซูนา<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=732026&idseccio_PK=803 | title = El Barça, sin bajar del autocar | publisher = www.sport.es | date = 4 December 2010 | accessdate = 4 December 2010}}</ref> เขาตอกย้ำรอยเดิมโดยการยิงประตูในนัดแข่งกับ[[เรอัลโซเซียดัด]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=732565&idseccio_PK=803 | title = De manita en manita se va a por la Liga | publisher = www.sport.es | date = 12 December 2010 | accessdate = 12 December 2010}}</ref>ในนัดดาร์บีที่แข่งกับแอร์ราเซเด อัสปัญญ็อล บาร์เซโลนาชนะ 1-5 เขาช่วยส่งจ่ายลูกยิงให้กับเปโดรและบิยา คนละหนึ่งประตู<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=733024&idseccio_PK=803&h= | title = Messi, 17 goles y 9 asistencias | publisher = www.sport.es | date = 19 December 2010 | accessdate = 19 December 2010}}</ref> ประตูแรกในปี ค.ศ. 2011 ของเขา แข่งกับ[[เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา]] ยิงจากลูกฟรีคิก ในนัดที่ชนะ 4–0 โดยการไปเยือน ซึ่งเขาก็ยังช่วยยิงลูกจ่ายประตูให้กับทั้งเปโดรและบิยาอีกครั้ง<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=734249&idseccio_PK=803 | title = Otro recital de campeón | publisher = www.sport.es | date = 8 January 2011 | accessdate = 9 January 2011}}</ref>
[[ไฟล์:Messi Crack.jpg|thumb|350px|right|เมสซิแสดงความดีใจ หลังลากเดี่ยวครึ่งสนาม ไปยิงเป็นประตูสุดสวย เกมแชมป์เปี้ยนส์ลีก เลกแรก นัดเยือน กับเรอัลมาดริด 2011]]
เมสซิได้รับรางวัล[[ฟีฟ่าบาลงดอร์]] 2010 ชนะเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง [[ชาบี]]และอินิเอสตา<ref>{{cite web | url = http://www.fifa.com/ballondor/news/newsid=1360028/index.html |title= Lionel Messi wins the first FIFA Ballon d'Or |date=10 January 2011 |accessdate=10 January 2011}}</ref> โดยเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/9356019.stm|title=Argentina's Lionel Messi wins Fifa Ballon d'Or award |date=10 January 2011 |accessdate=10 January 2011|work=BBC News}}</ref> 2 วันถัดหลังได้รับรางวัล เขายิงแฮตทริกแรกของปี และเป็นแฮตทริกที่ 3 ในฤดูกาล ในนัดแข่งกับ[[เรอัลเบติส]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=734569&idseccio_PK=803 |title= 'Manita' de oro |date=12 January 2011 |accessdate=13 January 2011}}</ref> กลับมาสู่ในลีก เขายิงประตูในครึ่งหลัง โดยยิงประตูที่ 2 ของทีม จากจุดโทษในนัดแข่งกับ[[ราซินเดซันตันเดร์]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=735280&idseccio_PK=803 |title= El Barça golea al Racing y mete más presión al Madrid |date=22 January 2011 |accessdate=22 January 2011}}</ref> หลังจากยิงประตูเขาแสดงข้อความบนเสื้อในเขียนว่า "สุขสันต์วันเกิด คุณแม่"<ref>{{cite web | url = http://www.huffingtonpost.com/2011/01/26/lionel-messi-fined-mom-happy-birthday_n_814088.html |title= Lionel Messi Fined For Wishing Mother Happy Birthday |date=26 January 2011 |accessdate=26 January 2011}}</ref> เขายิงประตูด้วยความมั่นใจในนัดแข่งกับอัลเมริอา ใน[[โกปาเดลเรย์]]รอบรองชนะเลิศ<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=735563&idseccio_PK=803 |title= 'Manita' de goles y un pie en la final |date=26 January 2011 |accessdate=26 January 2011}}</ref> จากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ก็ยิงอีกครั้งในนัดแข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลเอร์กูเลส|เอร์กูเลส]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=735762&idseccio_PK=803 |title= Hércules sufrió la ira de los Dioses |date=29 January 2011 |accessdate=29 January 2011}}</ref> ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ บาร์เซโลนาสร้างสถิติใหม่ โดยการชนะติดต่อกันมากที่สุดในลีก โดยชนะติดต่อกัน 16 ครั้ง หลังจากที่ทีมชนะ[[สโมสรฟุตบอลอัตเลติโกเดมาดริด|อัตเลติโกเดมาดริด]] 3–0 ที่สนามกัมนอว์<ref>{{citeweb|url=http://www.marca.com/2011/02/05/futbol/equipos/barcelona/1296946785.html|title=Barça set 16 wins consecutive league wins|publisher=[[MARCA]].com|language=Spanish|date= 5 February 2011 |accessdate= 5 February 2011}}</ref> เมสซิยิงแฮตทริกเพื่อแสดงความมั่นใจว่าชัยชนะจะอยู่ที่ทีมเขา หลังจบการแข่งขันเขาพูดว่า "เป็นเกียรติที่สามารถทำลายสถิติที่ยิ่งใหญ่ที่ทำขึ้นเหมือนอย่าง[[อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน]]" และ "ถ้าสถิตินี้ยังคงมีไปอีกนานเพราะว่ามันซับซ้อนที่จะชนะและเราก็สามารถทำถึงมันโดยชนะในทีมที่ยาก กับสถานการณ์อันเลวร้าย ซึ่งก็ทำให้มันยิ่งยากขึ้น"<ref>{{citeweb|url=http://www.marca.com/2011/02/06/futbol/equipos/barcelona/1296948365.html|title=Messi talks about the record|publisher=[[MARCA]].com|language=Spanish|date= 5 February 2011 | accessdate= 5 February 2011}}</ref>
 
หลังจากไม่ได้ทำประตูใน 2 นัด เขายิงประตูในชัยชนะเหนือ[[อัตเลติกเดบิลบาโอ]]ที่บาร์เซโลนาชนะ 2–1<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=737389&idseccio_PK=803 |title= Messi saca al Barça de la boca de los 'leones' |date=20 February 2011 |accessdate=21 February 2011}}</ref> ในสัปดาห์ต่อมาเขายิงประตู เป็นผู้นำในลีกฤดูกาลนี้ ในนัดแข่งกับ[[เอร์เรเซเดมายอร์กา|มายอร์กา]] 3–0 ในการไปเยือน.<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=737818&idseccio_PK=803 |title= El Barça desactiva el 'efecto Laudrup' |date=27 February 2011 |accessdate=27 February 2011}}</ref> สร้างสถิติเทียบเท่าทีมจากแคว้นบาสก์ เรอัลโซเซียดัด ในฤดูกาล 1979–80 ที่ชนะ 19 ครั้งติดต่อกันในฐานะทีมเยือน แต่สถิตินี้ก็ถูกทำลายไปในอีก 3 วันต่อมาเมื่อเมสซิยิงประตูเดียวในชัยชนะการไปเยือน[[สโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย|บาเลนเซีย]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=738138&idseccio_PK=803 |title= El Barça prende la mecha de la Liga en Mestalla |date=2 March 2011 |accessdate=2 March 2011}}</ref> เมื่อวันที่ 8 มีนาคม เมสซิยิง 2 ประตูในนัดเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล|อาร์เซนอล]] ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกที่สนามกัมนอว์ โดยประตูแรกเมสซิใช้เท้ากระดกบอลข้ามศีรษะผู้รักษาประตูในระยะกระชั้น ก่อนจะตวัดบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม 2 ประตูของเมสซิช่วยให้บาร์เซโลนาชนะด้วยประตูรวม 3–1 และเข้าสู่รอบก่อนชิงชนะเลิศ<ref>{{cite web|url=http://www.sbnation.com/soccer/2011/3/8/2038314/fc-barcelona-vs-arsenal-fc-2011-champions-league-lionel-messi-penalty|title=FC Barcelona Vs. Arsenal 2011: Lionel Messi Penalty Puts Barca Ahead - SBNation.com|accessdate=8 March 2011}}</ref> หลังจากไม่สามารถยิงประตูได้ร่วมเดือน เขายิงประตูในนัดแข่งกับอัลเมริอา ประตูที่ 2 เป็นประตูที่ 47 ในฤดูกาลนี้ของเขา เทียบเท่าสถิติการทำประตูในฤดูกาลก่อนของเขา<ref>{{cite web|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/20110409/messi-desatasco-barca-antes-del-clasico/968326.shtml|title=Messi desatascó al Barça antes del clásico|accessdate=9 April 2011}}</ref> เขาทำลายสถิติเมื่อวันที่ 12 เมษายน ค.ศ. 2011 โดยยิงประตูในชัยชนะเหนือ[[สโมสรฟุตบอลชาคห์ตาร์โดเนตสค์|ชาคห์ตาร์โดเนตสค์]] ในการแข่งยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ทำให้เขาถือสถิติผู้ทำประตูสูงสุดในฤดูกาลเดียวของบาร์เซโลนา<ref>{{cite web|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/20110412/tramite-resuelto-ahora-por-madrid/971705.shtml|title=Trámite resuelto y ahora... ¡a por el Madrid!|accessdate=13 April 2011}}</ref> เขายิงประตูที่ 8 ใน[[เอลกลาซิโก]] เสมอ 1–1 ที่สนาม[[ซานเตียโก เบร์นาเบว]] เมื่อวันที่ 23 เมษายน เมสซิยิงประตูที่ 50 ของฤดูกาลในนัดแข่งกับ[[กลุบอัตเลติโกโอซาซูนา|โอซาซูนา]] 2–0 ในบ้าน เมื่อเขาออกมาเปลี่ยนตัวในนาทีที่ 60<ref>{{cite web|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/20110416/madrid-titulo/976392.shtml|title=Un punto que vale una Liga|accessdate=16 April 2011}}</ref>
บรรทัด 188:
==== ฤดูกาล 2011–12 ====
[[ไฟล์:Lionel Messi Player of the Year 2011.jpg|thumb|225px|upright|เมสซิขณะยิงประตูในนัดชิงถ้วยฟิฟ่าคลับเวิร์ลคัพกับซานโตส 2011]]
ในการแข่งขันชิงถ้วย[[ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา]] 2011 เมสซิยิงประตู 3 ประตู และช่วยจ่ายลูกยิงประตูอีก 2 ประตู ทำให้มีผลประตูรวม 5–4 ชนะทีมเรอัลมาดริดไปได้<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/20110818/messi-salvo-futbol/1120978.shtml|title=Messi salvó al fútbol|date=17 August 2011|work=Sport.es |accessdate=17 August 2011}}</ref> ในนัดถัดมาอย่างเป็นทางการเขายิงประตูอีกครั้งหลังจากการส่งหลังผิดพลาดของ[[เฟรดี กัวริน]] และได้ช่วยส่งประตูให้[[เซสก์ ฟาเบรกัส]]ยิงประตู ทำให้ชนะโปร์ตู 2-0 ในการแข่งขัน[[ยูฟ่าซูเปอร์คัพ]]<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/20110826/super-messi-supercopa-barca/1130917.shtml|title=Súper Messi da la Supercopa al Barça|date=26 August 2011|work=Sport.es |accessdate=26 August 2011}}</ref> เมื่อเริ่มฤดูกาลในลาลิกา เมสซิยิง 2 ประตูในนัดแข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล|บิยาร์เรอัล]]<ref>{{cite news|url=http://www.fcbarcelona.cat/web/english/futbol/temporada_11-12/arxiu_partits/lliga/jornada02/Barcelona_Villarreal/partit.html|title=Liga Champions: new and improved version|date=29 August 2011|work=fcbarcelona.cat |accessdate=29 August 2011}}</ref> และเขายังสามารถยิงแฮตทริกได้ต่อเนื่องในฐานะทีมเหย้ากับ[[กลุบอัตเลติโกโอซาซูนา|โอซาซูนา]]<ref>{{cite news|url=http://www.fcbarcelona.cat/web/english/futbol/temporada_11-12/arxiu_partits/lliga/jornada04/Barcelona_Osasuna/partit.html|title=Super 8 (8-0)|date=17 September 2011|work=fcbarcelona.cat |accessdate=17 September 2011}}</ref>และ[[สโมสรฟุตบอลอัตเลติโกเดมาดริด|อัตเลติโกเดมาดริด]]<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/esta-liga-dos-sino-messi-1160317|title=Esta Liga no es de dos sino de Messi|date=25 September 2011|work=Sport.es |accessdate=25 September 2011}}</ref>
 
ในวันที่ 28 กันยายน เมสซิยิง 2 ประตูใน[[แชมเปียนส์ลีก]]ใน 2 นัดแรกของฤดูกาล แข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลบาเตโบรีซอฟ]]<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/barca-aficiona-las-manitas-1164552|title=El Barça se aficiona a las 'manitas'|date=28 September 2011|work=Sport.es |accessdate=28 September 2011}}</ref> ทำให้เขาเป็นผู้ยิงประตูสูงสุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของบาร์เซโลนา เทียบเท่ากับ[[ลัสโซล คูบาลา]] กับ 194 ประตู ในทุกการแข่งขันที่เป็นการแข่งขันอย่างเป็นทางการ<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/messi-igualo-kubala-1164601|title=Messi iguala a Kubala y afirma que sería "hermoso" superar a César|date=28 September 2011|work=Sport.es |accessdate=28 September 2011}}</ref> แต่ต่อมาเขาก็ทำลายสถิตินี้โดยยิงอีก 2 ประตูเมื่อแข่งกับ[[ราซินเดซันตันเดร์]]<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/barca-consolida-liderato-con-otro-recital-messi-1183586|title=El Barça consolida su liderato con otro recital de Messi|date=16 October 2011|work=Sport.es |accessdate=16 October 2011}}</ref> และเหลืออีกประตูเดียวก็ถึง 200 ประตู เมื่อเขายิงแฮตทริกในนัดแข่งที่บ้าน แข่งกับ[[เอร์เรเซเดมายอร์กา|มายอร์กา]] และยิงได้แซงหน้าคูบาลา ที่จำนวน 132 ประตู<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/messi-responde-otra-vez-1201140|title=1, 2, 3... Messi responde otra vez|date=29 October 2011|work=Sport.es |accessdate=29 October 2011}}</ref> เขายิงประตูที่ 200 ให้กับบาร์เซโลนา และอีก 2 ลูก เป็นแฮตทริกในนัดแข่งกับ[[วิกตอเรียเปิลเซน]] (Viktoria Plzeň) ในแชมเปียนส์ลีก<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/messi-infalible-hat-trick-octavos-1204309|title=Messi es infalible: hat trick... ¡y a octavos!|date=1 November 2011|work=Sport.es |accessdate=1 November 2011}}</ref> เมสซิยิงประตูแรกของเขาได้ใน[[ซานมาเมส]] ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ทำให้เสมอกับ[[อัตเลติกเดบิลบาโอ]] 2–2<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/rey-leon-messi-salvo-punto-1210460|title=El 'rey león' Messi salvó un punto|date=6 November 2011|work=Sport.es |accessdate=6 November 2011}}</ref> นัดต่อมาเขายิงประตูในนัดแข่งกับ[[เรอัลซาราโกซา]]<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/barca-vacuna-del-virus-fifa-con-goleada-1228710|title=El Barça se vacuna del virus FIFA con goleada|date=20 November 2011|work=Sport.es |accessdate=20 November 2011}}</ref> เขายิงจุดโทษให้ทีมชนะในการเยือน 3–2 แข่งกับ[[เอซี มิลาน]] ในรอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีก<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/victoria-campeon-del-barca-san-siro-1235882|title=Victoria de campeón del Barça en San Siro|date=23 November 2011|work=Sport.es |accessdate=23 November 2011}}</ref> เขายิงประตูได้ครั้งแรกกับ[[ราโยบาเยกาโน]] ในนัดชนะที่บ้าน 4–0<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/alexis-maravilla-barca-golea-1245226|title=Alexis maravilla y el Barça golea|date=29 November 2011|work=Sport.es |accessdate=29 November 2011}}</ref> จากนั้นยิง 1 ประตู นัดแข่งกับ[[เลบันเตอูเด]] ทำให้ทีมชนะในบ้าน 5-0<ref>{{cite news|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/huracan-barca-engulle-levante-antes-del-clasico-1251438|title=El huracán Barça engulle al Levante antes del Clásico|date=3 December 2011|work=Sport.es |accessdate=3 December 2011}}</ref>
บรรทัด 218:
ในวันที่ 30 มีนาคม 2013 เกมลีกนัดไปเยือนเซลตาบิโก ซึ่งเมสซิทำได้ 1 ประตู นับเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน แต่นั่นทำให้เกิดสถิติใหม่สำหรับตัวเขาอีกเช่นกัน คือ เขายิงประตูทีมในลีกได้ครบทุกทีม เพราะ ลาลิกามี 20 ทีม เมื่อยิงประตูได้ 19 นัดติดต่อกัน นั่นหมายถึงการยิงประตูคู่ต่อสู้ทุกทีมในลีกได้ <ref>https://www.thairath.co.th/content/335906</ref> โดยในเกมนี้ เมสซิ สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมบาร์เซโลนาครั้งแรก ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการอีกด้วย
 
ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2013 บาร์เซโลนาได้แชมป์ลาลิกาโดยปริยาย จากการเสมอของเรอัลมาดริดกับอัสปัญญ็อล ทั้งที่ยังเหลือเกมให้เล่นอีกถึง 4 เกม ในวันต่อมา เมสซิลงเล่นเกมเยือนกับอัตเลติโกเดมาดริดแต่ต้องออกจากสนามไปในครึ่งหลังจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาขวาและจะไม่ลงเล่นเกมที่ยังเหลืออยู่อีก ทำให้เมสซิต้องหยุดสถิติยิงติดต่อกันมากที่สุดในลีกไว้ที่ 21 นัด
 
แต่อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้เล่นเกมส์ที่เหลือ แต่เมสซิก็ยังคงเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลาลิกาในฤดูกาลนี้ที่ 46 ประตู ได้รับรางวัลปิชิชิ และรองเท้าทองคำเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
บรรทัด 272:
หลังจากพ่ายแพ้ เกมลีกนัดเยือนกับ [[เรอัลโซเซียดัด]] ในวันที่ 4 มกราคม 2015 ที่อาโนเอต้า ทำให้บาร์เซโลนาพลาดโอกาสขึ้นเป็นจ่าฝูงลาลิกา โดย [[ลุยส์ เอนรีเก]] ผู้ฝึกของบาร์เซโลนาตัดสินใจไม่ส่งผู้เล่นตัวจริงหลายคนลงเล่นในเกมสำคัญนี้ เช่น เมสซิ [[เนย์มาร์]] [[ปิเก]] ทำให้มีข่าวลือเกี่ยวกับความไม่ลงรอยกันของนักเตะตัวหลักของทีมหลายคน
 
แต่ในระหว่างมรสุมข่าวลือเหล่านั้น ในวันที่ 11 มกราคม 2015 เกมลีก นัดเปิดบ้านรับ [[อัตเลติโกเดมาดริด]] เมสซิก็ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลาย ด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของเมสซิ ช่วยบาร์เซโลนาเอาชนะอัตเลติโกเดมาดริดไปอย่างสวยงาม กลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัว โดยกองหน้าของทีมทั้ง 3 คน เมสซิ [[เนย์มาร์]] และ [[หลุยซ์ ซัวเรซ]] ทำประตูได้ทั้ง 3 คน โดยเมสซิเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัดของนัดนี้ โดยก่อนเริ่มเกมนี้มีการมอบรางวัลดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของลาลิกาให้แก่เมสซิด้วย หลังจากนั้นเมสซิออกมาให้สัมภาษณ์ครั้งแรกเกี่ยวกับข่าวลือที่ออกมา โดยเขาปฏิเสธความคิดเรื่องจะย้ายทีม และปฏิเสธเกี่ยวกับความไม่ลงรอยกันของนักเตะและผู้ฝึก
 
วันที่ 12 มกราคม 2015 เมสซิได้เสียงโหวตเป็นที่ 2 ในการประกาศรางวัล [[ฟีฟ่าบาลงดอร์]] 2014
บรรทัด 286:
วันที่ 6 พฤษภาคม 2015 เมสซิโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นที่กล่าวขานและชื่นชมไปทั่วโลก ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 4 ทีมสุดท้าย เลกแรก ที่คัมป๋นูว์ กับ [[บาเยิร์นมิวนิก]] โดนเมสซิยิงคนเดียว 2 ประตู และทำแอสซิสต์ในเนย์มาร์อีก 1 ประตู โดยประตูที่ 2 ที่เขายิงนั้นได้รับคำเลือกให้เป็น Goal of the season ของยูฟ่าอีกด้วย 2 ประตูนี้ทำให้เมสซิแซงหน้า คริสเตียโน โรนัลโด กลับขึ้นไปเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาล และในฤดูกาลนี้ของยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกอีกด้วย
 
วันที่ 17 พฤษภาคม 2015 เมสซิยิงประตูชัย ให้บาร์เซโลนาเอาชนะ [[อัตเลติโกเดมาดริด]] ทำให้บาร์เซโลนาเป็นแชมป์ลาลิกาในฤดูกาลนี้ทันที โดยไม่ต้องรอลุ้นนัดสุดท้ายกับ เดปอร์ติโบลาโกรุญญา
 
วันที่ 30 พฤษภาคม 2015 เมสซิทำ 2 ประตู ช่วยให้บาร์เซโลนา เอาชนะ [[อัตเลติกเดบิลบาโอ]] ในนัดชิงชนะเลิศ เป็นแชมป์[[โกปาเดลเรย์]] ในฤดูกาลนี้ โดยประตูแรกของเขานั้น เป็นประตูสุดสวยได้รับการกล่าวขานว่าเป็นประตูที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การแข่งขัน [[โกปาเดลเรย์]] ทั้งยังได้เข้าชิง เป็น 3 ประตูสุดท้าย [[รางวัลปุชกาช]]อีกด้วย
บรรทัด 357:
วันที่ 11 มกราคม 2017 ในการแข่งขัน[[โกปาเดลเรย์]] รอบ 16 ทีมสุดท้าย เลก 2 เมสซิ ยิงประตูจากฟรีคิกอีก ช่วยให้ทีมผ่านเข้ารอบไปได้อย่างฉิวเฉียด แม้จะแพ้มาในเลกแรก และทำให้เขาก้าวข้าม โรนัลด์ คูมัน ขึ้นไปนำดาวซัลโวจากฟรีคิกสูงสุดของบาร์เซโลนาที่ 27 ประตูทันที<ref>http://www.bangkoksoccer.com/News/7146-%E0%B9%81%E0%B8%8B%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8B%E0%B9%88%E0%B8%B2.html</ref> หลังจากนั้น 3 วัน ในวันที่ 14 มกราคม 2017 เมสซิก็สร้างสถิติใหม่อีก โดยยิงประตูที่ 2 ในเกมลีก เปิดบ้านรับ ลาส พัลมาส ทำให้เขาทำสถิติเทียบเท่า [[ราอุล กอนซาเลซ]] ในการยิงประตูคู่แข่งได้ถึง 35 ทีมในลีกสูงสุดของสเปน<ref>http://www.siamsport.co.th/football/laliga/view.php?code=170115102025</ref>
 
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 [[อัตเลติโกเดมาดริด]]เปิดบ้านรับบาร์เซโลนา ในเลกแรก เกม[[โกปาเดลเรย์]] รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมสซิ ปั่นไกลเป็นประตูสุดสวย ช่วยให้บาร์เซโลนาเก็บชัยชนะได้ 1-2 ประตู และทำให้เขาเลื่อนตำแหน่งในทำเนียบดาวซัลโวสูงสุดในการแข่งขันถ้วย[[โกปาเดลเรย์]] ขึ้นไปเทียบเท่ากับ [[อัลเฟรโด ดิ เอสเตฟาโน]] ที่ 43 ประตู 3 วันถัดมา วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2017 เมสซิยิงฟรีคิกได้ ในเกมลีกเปิดบ้านรับ[[อัตเลติกเดบิลบาโอ]] เป็นประตูจากฟรีคิกประตูที่ 4 ของฤดูกาล ฉลองการแข่งขันนัดที่ 700 (รวมสโมสรและทีมชาติ) ในชีวิตค้าแข้งของเขา
 
วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2017 เมสซิยิงประตูชัยให้บาร์เซโลนาเอาชนะ[[อัตเลติโกเดมาดริด]] ไปได้ 1-2 ในเกมลีก นัดเยือน สร้างสถิติทำประตูในลีกได้เกิน 20 ประตูต่อฤดูกาล ใน 9 ฤดูกาลติดต่อกัน<ref>http://www.sport.es/es/noticias/barca/messi-novena-temporada-marcando-mas-goles-liga-5866935</ref> และยังเป็นชัยชนะที่ 400 นับตั้งแต่ขึ้นทีมชุดใหญ่มาอีกด้วย<ref>http://www.marca.com/en/football/barcelona/2017/02/27/58b423db268e3e47088b465e.html</ref>
 
วันที่ 1 มีนาคม 2017 เมสซิฉลองการลงเล่นเป็นตัวจริงให้บาร์เซโลนาในการแข่งขันอย่างเป็นทางการครบ 500 นัด ด้วยการทำประตูจากลูกโหม่ง และทำแอสซิสต์อีก 1 ประตู ในเกมลีก นัดเหย้า บาร์เซโลนาเอาชนะเอสปอร์ตินเดฆิฆอนไปได้ 6-1 ประตู
บรรทัด 367:
วันที่ 23 เมษายน 2017 ศึกใหญ่ในตำนาน เกมลีก [[เอลกลาซิโก]] บาร์เซโลนาออกไปเยือน สนามซานเตียโก เบร์นาเบว ของเรอัลมาดริด โดยผลของเกมนี้เป็นที่จับตามองอย่างมาก เนื่องจากบาร์เซโลนาและเรอัลมาดริด อยู่ในช่วงขับเคี่ยวแย่งชิงแชมป์ลาลิกา โดยเกมนี้บาร์เซโลนาสามารถเอาชนะเรอัลมาดริดไปได้อย่างสุดมันส์ 2-3 ประตู ด้วยฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงของเมสซิ โดยเลี้ยงหลบกองหลัง 3 คนไปยิงประตูสุดสวย ตีเสมอให้บาร์เซโลนาในครึ่งแรก และยิงประตูชัยเสียบมุมอย่างเฉียบขาดได้ใน 16 วินาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา เมสซิเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำนัดในนัดนี้ไปอย่างไร้ข้อกังขา และทั้ง 2 ประตูในนัดนี้ยังเป็นประตูสำคัญในชีวิตค้าแข้งของเขาอีกด้วย โดยประตูแรกทำให้เขาก้าวข้าม[[อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน]] ขึ้นไปนำเป็นดาวซัลโวในศึก[[เอลกลาซิโก]] ในเกมลีกอย่างเดี่ยว ๆ ที่ 15 ประตู และขยับขึ้นเป็น 16 ประตูจากประตูชัย และยังขยับสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลในเกม[[เอลกลาซิโก]]ทุกรายการแข่งขัน ที่เขาเป็นเจ้าของเดิมอยู่แล้ว ไปที่ 23 ประตูอีกด้วย ส่วนประตูชัยในนาทีสุดท้ายนั้นเป็นประตูที่ 500 ของเขาที่ยิงให้บาร์เซโลนา ตลอดอาชีพการค้าแข้งในเกมที่เป็นทางการ ซึ่งเมสซิฉลองประตูด้วยการถอดเสื้อออกแล้วชูเสื้อโชว์ชื่อและหมายเลขบนเสื้อ หลังจบเกมนี้เมสซิได้รับเสียงชื่นชมมากมาย โดยชื่อของเขาติดเป็นอันดับ 1 คำที่ถูกใช้มากที่สุดในโซเชียลมีเดียขณะนั้นด้วย<ref>http://www.soccersuck.com/boards/topic/1494452</ref><ref>http://www.soccersuck.com/boards/topic/1494536</ref>
 
วันที่ 27 พฤษภาคม 2017 [[สนามกีฬาบิเซนเต กัลเดรอน]]ของ[[อัตเลติโกเดมาดริด]] ได้ถูกยืมมาใช้ในการแข่งขันในนัดชิงชนะเลิศถ้วย[[โกปาเดลเรย์]] ระหว่างบาร์เซโลนา และ[[เดปอร์ติโบอาลาเบส]] โดยเมสซิทำประตูแรกให้บาร์เซโลนาขึ้นนำ และแอสซิสต์สุดสวยโดยลากหลบ 4 กองหลัง แล้วส่งให้ปาโก้ อัลกาแซร์ ยิงประตูตอกฝาโลง ทำให้บาร์เซโลนาเอาชนะ[[เดปอร์ติโบอาลาเบส]] ไปได้ 3-1 คว้ารางวัลชนะเลิศรายการนี้ไปครองอย่างสวยงาม โดยแชมป์รายการนี้ เป็นแชมป์ที่ 30 ของเมสซิกับบาร์เซโลนา ถือเป็นนักฟุตบอลที่ได้แชมป์กับบาร์เซโลนามากที่สุด ซึ่งสถิตินี้เมสซิถือครองร่วมกับ[[อันเดรส อินิเอสตา]]
 
เมสซิจบฤดูกาลนี้ด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลาลิกาที่ 37 ประตู ได้รับรางวัลปิชิชิ (Pichichi) มีคะแนนและจำนวนประตูสูงสุดในทำเนียบรางวัลรองเท้าทองคำยุโรปอีกด้วย และยังเป็นดาวซัลโวในการแข่งขันถ้วย[[โกปาเดลเรย์]]ที่ 5 ประตู ยิงรวมทุกรายการ 54 ประตู จากการแข่งขัน 52 นัด<ref>http://www.siamsport.co.th/football/laliga/view.php?code=170530082601</ref> โดยเมสซิได้รับรางวัลรองเท้าทองคำครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้ว เป็นสถิติได้รับรางวัลรองเท้าทองคำมากที่สุด ถือครองร่วมกับคริสเตียโน โรนัลโด
บรรทัด 442:
ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ปี 2012 แมตช์ที่อาร์เจนตินาคว้าชัยเหนือเอกวาดอร์ 4 ประตูต่อ 0 เมสซิได้ยืนยันข่าวลือการตั้งท้องของแฟนสาว โดยการฉลองประตูของเขาด้วยการยัดลูกบอลใส่เสื้อบริเวณหน้าท้อง และในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 โรกูโซได้ให้กำเนิดบุตรชายคนแรกของพวกเขา คือ เตียโก เมสซิ โดยในวันนั้นเมสซิได้รับอนญาตให้งดซ้อม และอยู่เฝ้าแฟนสาวจนกระทั่งคลอดลูกชาย โดยเมสซิได้เคยให้สัมภาษณ์ว่า วันนั้นเขาร้องไห้เพราะ เตียโกเป็นเด็กคลอดยาก เขารู้สึกว่ามันใช้เวลานานมาก กลัวและกังวลไปหมดจนกระทั่งลูกคลอดออกมาอย่างปลอดภัย เขาได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า "วันนี้ฉันเป็นผู้ชายที่มีความสุขที่สุดในโลก ลูกชายของฉันถือกำเนิดแล้ว ขอบคุณพระเจ้าสำหรับของขวัญชิ้นนี้ ขอบคุณครอบครัวของฉันสำหรับกำลังใจและการสนับสนุนของพวกเขา รักพวกคุณทุกคน"<ref>[https://www.fcbarcelona.com/football/first-team/news/2012-2013/thiago-messi-has-been-born]</ref>
 
ในเดือน เมษายน ค.ศ. 2015 เมสซิได้ยืนยันข่าวการตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 ของแฟนสาวอีกครั้ง โดยการลงรูปลูกชายคนโตเตียโก กำลังจุมพิตหน้าท้องมารดาที่กำลังตั้งครรภ์ ผ่านทางอินสตาแกรมของเขาโดยเขียนข้อความว่า "กำลังรอลูกอยู่อย่างใจจดใจจ่อ ติอากี้ แม่ และพ่อ พวกเรารักลูกนะ" <ref>https://www.instagram.com/p/2GTd7TvM4_/</ref> และลูกชายอีกคนของพวกเขา มาเตโอ เมสซิ ก็ได้ลืมตาดูโลกในวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 2015 เช่นเดียวกับคราวลูกชายคนโต เมสซิได้รับอนญาตให้งดซ้อมเพื่ออยู่เป็นเพื่อแฟนสาว และในวันรุ่งขึ้นแม้ไม่ได้ซ้อม เขาสามารถลงสนามเป็นตัวสำรอง ซุปเปอร์ซับ ในการแข่งขันนัดสำคัญ และยิงประตูชัยให้บาร์เซโลนาบุกไปเยือนเอาชนะอัตเลติโกเดมาดริดไปได้ 1-2 โดยเมสซิได้ทำท่าดูดนิ้วแทนความหมายการดูดนมของเด็กทารก เสมือนการยกประตูชัยนี้เพื่อฉลองการเกิดของลูกชาย<ref>http://www.mirror.co.uk/sport/football/match-reports/atletico-madrid-1-2-barcelona-6433025</ref>
 
และในวันที่ 15 ตุลาคม 2017 โรกูโซ ได้แจ้งข่าวผ่านทางอินสตาแกรมว่าพวกเขากำลังมีลูกคนที่ 3 โดยโรกูโซได้ลงภาพครอบครัวซึ่ง ติอาโก ลูกชายคนโต และเมสซีซึ่งกำลังอุ้มมาเตโอลูกชายคนรองอยู่ ต่างสัมผัสหน้าท้องของเธอ พร้อมลงข้อความว่า "ครอบครัว 5 คน" กำหนดคลอดคือ ช่วงสัปดาห์ที่ 2-3 ในเดือนมีนาคม 2018 แต่โรกูโซมีอาการน้ำคร่ำแตก จำเป็นต้องคลอดก่อนกำหนดเล็กน้อย ซีโร เมสซี่ ลูกชายคนที่ 3 ของพวกเขาจึงถือกำเนิดในวันที่ 10 มีนาคม 2018 เดิมเมสซี่ต้องร่วมเดินทางไปกับทีมเพื่อแข่งขันเกมลีก นัดเยือนกับมาลากาในวันนั้น แต่เมื่อภรรยาต้องคลอดก่อนกำหนดอย่างกะทันหัน เขาจึงขอถอนตัว ไม่ร่วมเดินทางไปแข่งขัน ซึ่งได้รับอนุญาตจาก[[เอร์เนสโต บัลเบร์เด]]เรียบร้อยแล้ว<ref>http://global.espn.com/football/barcelona/story/3413102/lionel-messi-out-of-barcelona-squad-to-face-malaga-due-to-birth-of-third-child</ref> เมสซีได้ลงรูปผ่านทางเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมต้อนรับซีโรในวันนั้นด้วยข้อความว่า "ยินดีต้อนรับ "ซีโร" ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ทั้งแม่และลูกปลอดภัยดี พวกเรากำลังมีความสุขมาก"<ref>https://www.instagram.com/p/BgJMXQFn4hq/?taken-by=leomessi</ref>