ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลิโอเนล เมสซิ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
อัลเมรีอา→อัลเมริอา
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
อัสปัญญอล→อัสปัญญ็อล
บรรทัด 70:
ในฤดูกาลนี้ เมสซิพัฒนาจนกระทั่งได้เป็นตัวจริงของทีมสำรอง ทีม B (Barcelona B) อย่างสม่ำเสมอ
 
และในตุลาคม 2004 นักเตะจากทีมชุดใหญ่ขอให้ผู้ฝึกของทีมขณะนั้นคือ [[ฟรังก์ ไรการ์ด]] เลื่อนชั้นให้เขามาเล่นกับทีมชุดใหญ่ เนื่องจาก[[รอนัลดีนโย]] ไปเล่นในตำแหน่งปีกซ้ายแล้ว [[ฟรังก์ ไรการ์ด]] ปรับตำแหน่งการเล่นของเมสซิให้เล่นทางขวา ซึ่งจะทำให้เขาสามารถตัดเข้ากลาง และยิงประตูด้วยขาซ้าย ข้างที่ถนัดได้<ref>https://www.ft.com/content/cfa0d296-8672-11e0-9d5c-00144feabdc0</ref> เมสซิเล่นเกมลีก นัดแรกในวันที่ 16 ตุลาคม 2004 ในนัดพบกับ[[แอร์ราเซเด อัสปัญญอลอัสปัญญ็อล]] โดยถูกเปลี่ยนตัวลงสนาม ในนาทีที่ 82 ตอนนั้นเขาอายุ 17 ปี 114 วัน ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ที่เล่นให้กับ[[สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา]] และเป็นผู้เล่นสโมสรที่อายุน้อยที่สุดที่เล่นใน[[ลาลิกา]] แต่ต่อมาสถิตินี้ถูกทำลายโดยเพื่อนร่วมทีมบาร์เซโลนา [[โบยาน เกอร์กิช]]
 
และเมื่อเขาทำประตูแรกในทีมชุดใหญ่ให้กับสโมสรที่แข่งกับ[[อัลบาเซเตบาลอมเปีย]] เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2005 ขณะที่เมสซิอายุ 17 ปี 10 เดือน 7 วัน ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในลาลิกา ให้กับทีมบาร์เซโลนา<ref>{{cite web | url = http://www.fcbarcelona.com/web/english/noticies/futbol/temporada07-08/10/n071016101878.html | title = Meteoric rise in three years | accessdate = 3 May 2008 | publisher = fcbarcelona.com}}</ref> แต่สถิติก็ถูกทำลายอีกครั้งโดยโบยาน เกอร์กิชในปี ค.ศ. 2007 ที่ยิงประตูจากการจ่ายของเมสซิ<ref>{{cite web | url = http://www.fcbarcelona.cat/web/english/noticies/futbol/temporada07-08/10/n071020101276.html | title = Krkic enters the record books | accessdate = 16 July 2009 | date= 21 October 2007 | publisher = fcbarcelona.cat|last = Nogueras | first = Sergi}}</ref> เมสซิพูดเกี่ยวกับอดีตผู้ฝึกของเขาฟรังก์ ไรการ์ดว่า "ผมจะไม่มีวันลืมความจริงที่ผมได้เปิดตัวอาชีพของผมนี้ ว่าเขาได้สร้างความเชื่อมั่นในตัวผมขณะที่ผมอายุเพียง 16 หรือ 17 ปี"<ref>{{cite web|url=http://www.soccerway.com/news/2009/December/10/messi-rijkaard-gave-us-more-freedom/|title=Messi: "Rijkaard gave us more freedom"|date=10 December 2009|publisher=soccerway.com}}</ref>
บรรทัด 105:
 
เมสซิยังพิสูจน์ถึงความเป็น "[[ดิเอโก มาราโดนา|มาราโดนา]]คนใหม่" ที่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง โดยเกือบจะโด่งดังเท่ามาราโดนา ในการทำประตูในฤดูกาลเดียวกัน<ref name="maradonalike">{{cite news |url=http://www.telegraph.co.uk/sport/football/european/2311407/The-greatest-goal-ever.html |title=The greatest goal ever? |date= 20 April 2007 |publisher= Daily Telegraph | last = Lowe| first = Sid | accessdate= 7 July 2009 | location=London}}</ref> เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 2007 เขายิง 2 ประตูใน[[โกปาเดลเรย์]] ในรอบรองชนะเลิศที่แข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลเฆตาเฟ]] ที่มีความคล้ายคลึงกับประตูที่มีชื่อเสียงของมาราโดนา ในครั้งแข่งกับ[[ฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ|ทีมชาติอังกฤษ]] ใน[[ฟุตบอลโลก 1986]] ที่[[เม็กซิโก]] ที่เรียกว่า "ประตูแห่งศตวรรษ"<ref>{{cite web| url=http://soccernet.espn.go.com/news/story?id=423002&cc=3888 | title= Messi dazzles as Barça reach Copa Final | publisher=ESPN Soccernet| date= 18 April 2007}}</ref> สื่อต่าง ๆ ของโลกต่างเปรียบเทียบเขากับมาราโดนา และสื่อสเปนเรียกเมสซิว่า "เมสซิโดนา"<ref>{{cite web| url=http://www.hindu.com/2007/07/14/stories/2007071455691800.htm | title= Can ‘Messidona’ beat Maradona? | publisher= The Hindu | date= 14 July 2007}}</ref> เขายิงในระยะเดียวกับมาราโดนา ที่ 62 เมตร (203 ฟุต) หลบคู่ต่อสู้ในจำนวนเดียวกัน (6 คน รวมถึงผู้รักษาประตู) และทำประตูได้ในตำแหน่งที่คล้ายกันมาก และวิ่งไปยังธงมุมสนาม เหมือนอย่างที่มาราโดนาทำไว้ในเม็กซิโกเมื่อ 21 ปีก่อน<ref name="maradonalike"/>
ในงานแถลงข่าวหลังการแข่งขัน เพื่อนร่วมทีม [[เดโก]] พูดว่า "เป็นการทำประตูที่ดีที่สุด ที่ผมเคยเห็นในชีวิตของผม"<ref>{{cite news |url=http://www.telegraph.co.uk/sport/main.jhtml?xml=/sport/2007/04/20/sfnmes20.xml |title=The greatest goal ever? |last=Lowe |first=Sid |publisher= Daily Telegraph |date= 20 April 2007 |accessdate= 7 May 2007 | location=London}}</ref> ในการแข่งกับ[[แอร์ราเซเด อัสปัญญอลอัสปัญญ็อล]] เมสซิทำประตูที่คล้ายกับ "[[หัตถ์พระเจ้า]]" ของมาราโดนา ในฟุตบอลโลกนัดแข่งกับทีมชาติอังกฤษรอบก่อนชิงชนะเลิศ เมสซิดีดตัวไปที่ลูกบอลและใช้มือของเขายิงประตูผ่านผู้รักษาประตู[[Idriss Carlos Kameni|คาร์ลอส คาเมนี]] (Carlos Kameni)<ref name="Hand of Messi">{{cite news | url=http://www.timesonline.co.uk/tol/sport/football/european_football/article1910271.ece |title=Hand of Messi saves Barcelona |last=Mitten |first=Andy |publisher= Times Online |date= 10 June 2007 |accessdate=12 January 2008 | location=London}}</ref> และถึงแม้ว่าผู้เล่นของอัสปัญญอลอัสปัญญ็อลจะประท้วงและภาพช้าจากโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่าเป็นแฮนด์บอล แต่ผู้ตัดสินก็ยังถือว่าเป็นประตู<ref name="Hand of Messi"/>
 
[[ไฟล์:Messi 22 Sep 07 v Sevilla.JPG|thumb|เมสซิทำประตูให้กับบาร์เซโลนา 2–0 ในนัดเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลเซบิยา|เซบิยา]] ที่สนาม[[กัมนอว์]] เมื่อวันที่ 22 กันยายน ค.ศ. 2007]]
บรรทัด 178:
เมื่อเมสซิหายดีแล้ว เขายิงประตูในนัดเสมอกับ[[เอร์เรเซเดมายอร์กา]] 1–1 จากนั้นยิงอีก 1 ประตูในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลโคเปนเฮเกน]] ช่วยให้ทีมชนะในบ้าน 2–0<ref>{{cite web | url = http://www.goal.com/es-la/match/50397/barcelona-vs-copenhague/report Barcelona 2–0 | title = Champions: Messi pone al Barcelona como líder de su grupo (2–0) | publisher = Goal.com | date = 20 October 2010 | accessdate = 20 October 2010}}</ref> เขายังคงยิงประตูอย่างต่อเนื่อง ในนัดเจอกับซาราโกซาและเซบิยา เมื่อเริ่มเดือนพฤศจิกายนเขายิงประตูโดยไปเยือนโคเปนเฮเกน เสมอ 1–1 และไปเยือน[[สโมสรฟุตบอลเฆตาเฟ]]ชนะ 3–1 ที่เขาช่วยจ่ายบอลให้ดาบิด บิยาและ[[เปโดร โรดรีเกซ เลเดสมา|เปโดร โรดรีเกซ]] ยิง<ref>{{cite web | url = http://www.goal.com/es-la/match/47782/getafe-vs-barcelona/report | title = Liga BBVA: Un gol de Messi encarriló el camino a la victoria para los azulgrana en el Coliseo | publisher = Goal.com | date = 7 November 2010 | accessdate = 7 November 2010}}</ref> ในนัดต่อไปเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลบิยาร์เรอัล|บิยาร์เรอัล]] เขายิงประตูที่น่าแปลกใจจากการร่วมมือกับเปโดร ทำให้นำ 2–1 จากนั้นก็ยิงอีกประตู ทำให้บาร์เซโลนาชนะ 3–1 และเป็นนัดที่ 7 ติดต่อกันที่เมสซิยิงประตู ทำลายสถิติตัวเขาเองที่เคยยิงได้ 6 นัดติดต่อกัน ในนัดพบกับอูเดอัลเมริอา เขาทำแฮตทริกครั้งที่ 2 ของฤดูกาลในนัดเยือนที่ชนะไป 8–0 ประตูที่ 2 ในนัดนี้เป็นประตูที่ 100 ในลาลิกาของเขา<ref>{{cite web | url = http://www.entradasfcbarcelona.com/?p=3389 | title = Jornada 12 – UD Almería 0-8 FC Barcelona | publisher = www.entradasfcbarcelona.com | date = 20 November 2010 | accessdate = 22 November 2010}}</ref> เขายิงประตูได้ 9 นัดติดต่อกัน (รวมถึง 10 นัดติดต่อกันในนัดกระชับมิตรแข่งกับ[[ฟุตบอลทีมชาติบราซิล|ทีมชาติบราซิล]]) โดยไปเยือนพานาทีไนกอส ชนะ 3–0<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=731275&idseccio_PK=803 | title = El Barça pasa a octavos... ¡y ahora, a por el Madrid! | publisher = www.sport.es | date = 24 November 2010 | accessdate = 24 November 2010}}</ref>
 
ในนัด[[เอลกลาซิโก]]เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน เมสซิยิงประตูช่วยให้บาร์เซโลนาชนะ 5–0 และเมสซิยังช่วยส่งลูกยิงประตูให้กับบิยา 2 ครั้ง<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=731648&idseccio_PK=1402 | title = El Barça humilla al Madrid con otra 'manita' histórica | publisher = www.sport.es | date = 29 November 2010 | accessdate = 29 November 2010}}</ref> ในนัดถัดมาเขาทั้งยิงและช่วยจ่ายลูกยิงให้นัดเจอกับโอซาซูนา<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=732026&idseccio_PK=803 | title = El Barça, sin bajar del autocar | publisher = www.sport.es | date = 4 December 2010 | accessdate = 4 December 2010}}</ref> เขาตอกย้ำรอยเดิมโดยการยิงประตูในนัดแข่งกับ[[เรอัลโซเซียดัด]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=732565&idseccio_PK=803 | title = De manita en manita se va a por la Liga | publisher = www.sport.es | date = 12 December 2010 | accessdate = 12 December 2010}}</ref>ในนัดดาร์บีที่แข่งกับแอร์ราเซเด อัสปัญญอลอัสปัญญ็อล บาร์เซโลนาชนะ 1-5 เขาช่วยส่งจ่ายลูกยิงให้กับเปโดรและบิยา คนละหนึ่งประตู<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=733024&idseccio_PK=803&h= | title = Messi, 17 goles y 9 asistencias | publisher = www.sport.es | date = 19 December 2010 | accessdate = 19 December 2010}}</ref> ประตูแรกในปี ค.ศ. 2011 ของเขา แข่งกับ[[เดปอร์ติโบเดลาโกรุญญา]] ยิงจากลูกฟรีคิก ในนัดที่ชนะ 4–0 โดยการไปเยือน ซึ่งเขาก็ยังช่วยยิงลูกจ่ายประตูให้กับทั้งเปโดรและบิยาอีกครั้ง<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=734249&idseccio_PK=803 | title = Otro recital de campeón | publisher = www.sport.es | date = 8 January 2011 | accessdate = 9 January 2011}}</ref>
[[ไฟล์:Messi Crack.jpg|thumb|350px|right|เมสซิแสดงความดีใจ หลังลากเดี่ยวครึ่งสนาม ไปยิงเป็นประตูสุดสวย เกมแชมป์เปี้ยนส์ลีก เลกแรก นัดเยือน กับเรอัลมาดริด 2011]]
เมสซิได้รับรางวัล[[ฟีฟ่าบาลงดอร์]] 2010 ชนะเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง [[ชาบี]]และอินิเอสตา<ref>{{cite web | url = http://www.fifa.com/ballondor/news/newsid=1360028/index.html |title= Lionel Messi wins the first FIFA Ballon d'Or |date=10 January 2011 |accessdate=10 January 2011}}</ref> โดยเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนี้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/9356019.stm|title=Argentina's Lionel Messi wins Fifa Ballon d'Or award |date=10 January 2011 |accessdate=10 January 2011|work=BBC News}}</ref> 2 วันถัดหลังได้รับรางวัล เขายิงแฮตทริกแรกของปี และเป็นแฮตทริกที่ 3 ในฤดูกาล ในนัดแข่งกับ[[เรอัลเบติส]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=734569&idseccio_PK=803 |title= 'Manita' de oro |date=12 January 2011 |accessdate=13 January 2011}}</ref> กลับมาสู่ในลีก เขายิงประตูในครึ่งหลัง โดยยิงประตูที่ 2 ของทีม จากจุดโทษในนัดแข่งกับ[[ราซินเดซันตันเดร์]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=735280&idseccio_PK=803 |title= El Barça golea al Racing y mete más presión al Madrid |date=22 January 2011 |accessdate=22 January 2011}}</ref> หลังจากยิงประตูเขาแสดงข้อความบนเสื้อในเขียนว่า "สุขสันต์วันเกิด คุณแม่"<ref>{{cite web | url = http://www.huffingtonpost.com/2011/01/26/lionel-messi-fined-mom-happy-birthday_n_814088.html |title= Lionel Messi Fined For Wishing Mother Happy Birthday |date=26 January 2011 |accessdate=26 January 2011}}</ref> เขายิงประตูด้วยความมั่นใจในนัดแข่งกับอัลเมริอา ใน[[โกปาเดลเรย์]]รอบรองชนะเลิศ<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=735563&idseccio_PK=803 |title= 'Manita' de goles y un pie en la final |date=26 January 2011 |accessdate=26 January 2011}}</ref> จากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ก็ยิงอีกครั้งในนัดแข่งกับ[[สโมสรฟุตบอลเอร์กูเลส|เอร์กูเลส]]<ref>{{cite web | url = http://www.sport.es/default.asp?idpublicacio_PK=44&idioma=CAS&idnoticia_PK=735762&idseccio_PK=803 |title= Hércules sufrió la ira de los Dioses |date=29 January 2011 |accessdate=29 January 2011}}</ref> ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ บาร์เซโลนาสร้างสถิติใหม่ โดยการชนะติดต่อกันมากที่สุดในลีก โดยชนะติดต่อกัน 16 ครั้ง หลังจากที่ทีมชนะ[[สโมสรฟุตบอลอัตเลติโกมาดริด|อัตเลติโกมาดริด]] 3–0 ที่สนามกัมนอว์<ref>{{citeweb|url=http://www.marca.com/2011/02/05/futbol/equipos/barcelona/1296946785.html|title=Barça set 16 wins consecutive league wins|publisher=[[MARCA]].com|language=Spanish|date= 5 February 2011 |accessdate= 5 February 2011}}</ref> เมสซิยิงแฮตทริกเพื่อแสดงความมั่นใจว่าชัยชนะจะอยู่ที่ทีมเขา หลังจบการแข่งขันเขาพูดว่า "เป็นเกียรติที่สามารถทำลายสถิติที่ยิ่งใหญ่ที่ทำขึ้นเหมือนอย่าง[[อัลเฟรโด ดี สเตฟาโน]]" และ "ถ้าสถิตินี้ยังคงมีไปอีกนานเพราะว่ามันซับซ้อนที่จะชนะและเราก็สามารถทำถึงมันโดยชนะในทีมที่ยาก กับสถานการณ์อันเลวร้าย ซึ่งก็ทำให้มันยิ่งยากขึ้น"<ref>{{citeweb|url=http://www.marca.com/2011/02/06/futbol/equipos/barcelona/1296948365.html|title=Messi talks about the record|publisher=[[MARCA]].com|language=Spanish|date= 5 February 2011 | accessdate= 5 February 2011}}</ref>
บรรทัด 218:
ในวันที่ 30 มีนาคม 2013 เกมลีกนัดไปเยือนเซลตาบิโก ซึ่งเมสซิทำได้ 1 ประตู นับเป็นนัดที่ 19 ติดต่อกัน แต่นั่นทำให้เกิดสถิติใหม่สำหรับตัวเขาอีกเช่นกัน คือ เขายิงประตูทีมในลีกได้ครบทุกทีม เพราะ ลาลิกามี 20 ทีม เมื่อยิงประตูได้ 19 นัดติดต่อกัน นั่นหมายถึงการยิงประตูคู่ต่อสู้ทุกทีมในลีกได้ <ref>https://www.thairath.co.th/content/335906</ref> โดยในเกมนี้ เมสซิ สวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมบาร์เซโลนาครั้งแรก ในการแข่งขันอย่างเป็นทางการอีกด้วย
 
ในวันที่ 11 พฤษภาคม 2013 บาร์เซโลนาได้แชมป์ลาลิกาโดยปริยาย จากการเสมอของเรอัลมาดริดกับอัสปัญญอลอัลมาดริดกับอัสปัญญ็อล ทั้งที่ยังเหลือเกมให้เล่นอีกถึง 4 เกม ในวันต่อมา เมสซิลงเล่นเกมเยือนกับอัตเลติโกมาดริดแต่ต้องออกจากสนามไปในครึ่งหลังจากอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อขาขวาและจะไม่ลงเล่นเกมที่ยังเหลืออยู่อีก ทำให้เมสซิต้องหยุดสถิติยิงติดต่อกันมากที่สุดในลีกไว้ที่ 21 นัด
 
แต่อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ได้เล่นเกมส์ที่เหลือ แต่เมสซิก็ยังคงเป็นดาวซัลโวสูงสุดของลาลิกาในฤดูกาลนี้ที่ 46 ประตู ได้รับรางวัลปิชิชิ และรองเท้าทองคำเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
บรรทัด 261:
วันที่ 27 กันยายน 2014 เมสซิทำ 2 ประตูได้ในเกมลีก นัดเปิดบ้านรับ [[กรานาดา]] ทำให้เขาทำประตูในระดับอาชีพทะลุ 400 ประตู ด้วยวัยเพียง 27 ปี โดย 401 ประตูนี้ มาจากการลงสนาม 524 นัด แบ่งเป็นยิงให้ บาร์เซโลนา 359 ประตู และทีมชาติอาร์เจนตินา 42 ประตู ในเกมนี้เมสซิทำแอสซิสต์เพิ่มได้อีก 2 แอสซิสต์ ทำให้จำนวนแอสซิสต์ในระดับอาชีพของเขาอยู่ที่จำนวน 201 แอสซิสต์
 
วันที่ 18 ตุลาคม 2014 เมสซิทำประตูที่ 250 ในลาลิกาของตัวเองได้สำเร็จ ในนัดพบกับ[[เอย์บาร์]] เป็นการฉลองครบ 10 ปี ในการลงเล่นนัดแรกให้กับบาร์เซโลนาชุดใหญ่เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2004 โดยเป็นเกมดาร์บีที่แข่งขันกับอัสปัญญอลอัสปัญญ็อล และเมสซิได้ลงข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของเขาว่า
"ผมอยากจะขอกล่าวคำขอบคุณไปยังครอบครัว เพื่อน ๆ เพื่อนร่วมทีม ทีมงานของสโมสรบาร์เซโลนาสำหรับการสนับสนุนอันน่าเหลือเชื่อตลอดช่วงเวลา 10 ปี ผมมีความสุขทุก ๆ เวลาที่ได้ก้าวลงเล่นในสนาม สวมเสื้อสีนี้ ได้ใช้เวลาในช่วงเวลาอันน่าทึ่ง และผมก็จะพยายามพัฒนาฝีเท้า และคว้าแชมป์รางวัลให้กับทีมเพิ่มมากขึ้นอีก ขอกอดทุก ๆ คน เลโอ"
 
บรรทัด 383:
วันที่ 26 สิงหาคม 2017 เมสซี่ยิงประตูแรกของฤดูกาล ในเกมลีกที่บุกไปเยือนอลาเบส โดยเมสซี่ยิงคนเดียว 2 ประตู ช่วยให้บาร์เซโลนาเอาชนะอลาเบสไปได้ โดยประตูแรกนั้นเป็นประตูที่ 350 จาก 384 เกมในลาลิกาของเขา โดยแน่นอนว่าเมสซี่ซึ่งเป็นดาวซัลโวตลอดกาลของลาลิกาอยู่แล้ว จะต้องเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ลาลิกาที่สามารถทำได้ <ref>http://www.siamsport.co.th/football/laliga/view/21294</ref>
 
วันที่ 9 กันยายน 2017 เมสซี่ยิงแฮตทริกแรกของฤดูกาลได้ ในเกมลีก ดาร์บี้กาตาลา เปิดบ้านรับ[[แอร์ราเซเด อัสปัญญอลอัสปัญญ็อล]] ซึ่งช่วยให้บาร์เซโลนาเอาชนะไปได้อย่างสวยหรู 5-0 ประตู
 
ใน 3 วันถัดมา วันที่ 12 กันยายน 2017 ในเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม บาร์เซโลนาเปิดบ้านรับการมาเยือนของ[[สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส]] และสามารถเอาชนะไปได้ 3-0 ประตู โดยเมสซี่ยิงได้ 2 ประตูในนัดนี้ ซึ่งเป็นการยิงผ่านมือผู้รักษาประตูมือฉมังอย่าง[[จันลุยจี บุฟฟอน]] ได้เป็นครั้งแรก