ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
เซบีย่?า→เซบิยา
บรรทัด 92:
ในปี ค.ศ. 1978 [[ชูเซบ ยุยส์ นูเญซ]] เป็นประธานสโมสรที่ได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิกสโมสร การเลือกตั้งเช่นนี้ใกล้เคียงกับการเปลี่ยนแปลงของสเปนที่เปลี่ยนมาเป็นระบอบประชาธิปไตยในปี ค.ศ. 1974 หลังจบสิ้นระบบเผด็จการของจอมพลฟรังโก เป้าหมายหลักของนูเญซคือการพัฒนาบาร์ซาสู่สโมสรระดับโลกโดยให้ความมั่นคงกับสโมสรทั้งในและนอกสนาม จากคำแนะนำของไกรฟฟ์ นูเญซได้เลือก[[ลามาซีอา]]เป็นสถาบันเยาวชนของบาร์เซโลนาเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ค.ศ. 1979<ref name="sport1">{{cite web|url=http://www.sport.es/es/noticias/barca/20100818/masia-como-laboratorio/840127.shtml |title=La Masia, como un laboratorio |publisher=SPORT.es |accessdate=19 August 2010 |language=Spanish |author=Perarnau, Martí |date=18 August 2010}}</ref> เขาดำรงตำแหน่งประธานเป็นเวลานาน 22 ปี และมีผลต่อภาพลักษณ์ของบาร์เซโลนาอย่างมาก นูเญซได้ถือนโยบายอย่างเคร่งครัดที่เกี่ยวข้องกับค่าจ้างทำงานและวินัย โดยให้ค่าตัวนักฟุตบอลอย่าง [[เดียโก มาราโดนา]], [[โรมารีอู]], [[โรนัลโด]] เท่ากับจำนวนเงินที่พวกเขาต้องการ<ref name="fcbarcelona4">{{cite web|url=http://www.fcbarcelona.com/web/english/club/historia/etapes_historia/etapa_4.html |title=History part IV |publisher=FC Barcelona |accessdate=15 March 2010}}</ref><ref>Ball, Phil p. 85.</ref>
 
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1979 สโมสรชนะใน[[ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ]]ครั้งแรก โดยชนะทีม[[ฟอร์ทูนาดึสเซลดอร์ฟ]] 4–3 ในนัดชิงชนะเลิศที่แข่งที่เมือง[[บาเซิล]] ที่มีผู้ชมแฟนสโมสรเดินทางมาชมมากกว่า 30,000 คน ต่อมาในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1982 มาราโดนาเซ็นสัญญาด้วยค่าตัวสถิติโลกสมัยนั้น กับจำนวนเงิน 5 ล้านปอนด์ กับ[[สโมสรฟุตบอลโบคาจูเนียส์]]<ref>Dobson, Stephen; Goddard, John A. p. 180.</ref> ในฤดูกาลถัดมา ภายใต้การดูและของผู้จัดการทีม [[เซซาร์ ลุยส์ เมนอตตี|เมนอตตี]] บาร์เซโลนาชนะการแข่งขันโกปาเดลเรย์โดยชนะเรอัลมาดริด ในยุคของมาราโดนากับบาร์ซาค่อนข้างสั้น ต่อมาไม่นานเขาก็ย้ายไปอยู่กับ[[โซซีเอตาสปอร์ตีวากัลโชนาโปลี|นาโปลี]] ในการเริ่มฤดูกาล 1984–85 สโมสรได้จ้าง [[เทอร์รี เวเนเบิลส์]] เป็นผู้จัดการทีม และเขาสามารถนำทีมชนะในลาลิกาได้ พร้อมกับลูกทีมจากการนำโดยกองกลางชาวเยอรมัน [[แบร์นด์ ชุสเทอร์]] ในฤดูกาลถัดมาสโมสรเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในถ้วยยุโรปอีกครั้ง แต่ก็แพ้ไปในการยิงจุดโทษกับ[[สโมสรฟุตบอลสแตอาวาบูคูเรชตี]] ({{lang-ro|Steaua Bucureşti}}) ที่เมือง[[เซบีบิยา]]<ref name="fcbarcelona4"/>
 
หลัง[[ฟุตบอลโลก 1986]] ผู้ทำประตูสูงสุด [[แกรี ไลน์เคอร์]] ได้เซ็นสัญญากับสโมสร พร้อมกับผู้รักษาประตู [[อันโดนี ซูบีซาร์เรตา]] แต่สโมสรก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับเมื่อมีชุสเทอร์ ต่อมาเวเนเบิลส์ถูกไล่ออกเมื่อเริ่มฤดูกาล 1987–88 และได้ [[ลุยส์ อาราโกเนส]] มาแทน นักฟุตบอลต่อต้านต่อประธานสโมสรนูเญซ ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า เอสเปเรีย ({{lang-es|Hesperia}}) และจบฤดูกาลด้วยชัยชนะ 1–0 ในการแข่งโกปาเดลเรย์ ชิงชนะเลิศกับ[[เรอัลโซเซียดัด]]<ref name="fcbarcelona4"/>
บรรทัด 160:
และผู้ทำประตูสูงสุดในลีก ([[ลาลิกา]]) ของบาร์เซโลนา ก็คือ [[ลิโอเนล เมสซิ]] (2004 - ปัจจุบัน) จำนวนประตูในลีกนับถึงฤดูกาล 2015-2016 คือ 312 ประตู เมสซิทำลายสถิติเดิมของ [[เซซาร์ โรดรีเกซ อัลบาเรซ|เซซาร์ โรดรีเกซ]] จำนวน 195 ประตูในลาลิการระหว่างปี ค.ศ. 1942 ถึง 1955<ref>{{cite web|title=LFP – Barcelona Seasons|url=http://www.lfp.es/?tabid=113&Controltype=plan&IDEquipo=5&IDTemporada=028&IDDivision=1|publisher=[[Liga de Fútbol Profesional]] Tables for other seasons may be obtained using the "Other searches" button|accessdate=8 August 2010}}</ref> โดยการทำ 2 ประตู ในนัดพบกับ [[เรอัลเบติส]] วันที่ 9 ธันวาคม 2012 มีนักฟุตบอลเพียง 4 คนที่ทำประตูได้มากกว่า 100 ประตูในลีกให้กับบาร์เซโลนา คือ [[ลิโอเนล เมสซิ]] (312), เซซาร์ โรดรีเกซ (195), [[ลัสโซล คูบาลา]] (131), และ [[ซามูแอล เอโต]] (108)
 
นอกจากนี้ '''ลิโอเนล เมสซิ''' (312 ประตูในลีก ''updated season 2015-2016'') ยังถือครองสถิติ ผู้ทำประตูสูงสุดในลาลิกาสเปนปัจจุบันอีกด้วย โดยการทำลายสถิติเดิมตั้งแต่ปี 1995 ของ [[เตลโม ซาร์ร่า]] นักฟุตบอลจากทีม [[อัตเลติกเดบิลบาโอ]] จำนวน 251 ประตู ในนัดที่ทำแฮตทริก เกมบาร์เซโลนาพบกับ[[เซบีบิยา]] วันที่ 22 พฤศจิกายน 2014<ref>http://www.goal.com/th/news/4259/%E0%B8%9F%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%99/2014/11/23/6408861/%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B4%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8B%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B9%82%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%99</ref>
 
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2009 จำนวนการยิงประตูของบาร์เซโลนา ถึง 5,000 ประตู โดยเมสซิยิงในนัดแข่งกับ[[ราซินเดซันตันเดร์]] ที่บาร์ซาชนะ 2–1<ref>{{cite web|url=http://www.fifa.com/worldfootball/clubfootball/news/newsid=1012195.html |title=Messi propels 5,000-goal Barcelona |publisher=FIFA|date=2009-02-01 |accessdate=13 March 2010}}</ref>