ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล ดีบีซีออน→ดิบิซิออน |
ล เอสปาญา→เอสปัญญา |
||
บรรทัด 52:
'''สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา''' ({{lang-ca|Futbol Club Barcelona}}) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า '''บาร์เซโลนา''' หรือคุ้นเคยในอีกชื่อว่า '''บาร์ซา''' ({{lang-ca|Barça}}) เป็น[[สโมสรฟุตบอล]]อาชีพสเปน ตั้งอยู่ที่เมือง[[บาร์เซโลนา]] [[แคว้นกาตาลุญญา]] [[ประเทศสเปน]] เล่นอยู่ใน[[ลาลิกา]]
สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาเป็นผู้ชนะเลิศในถ้วยสเปนปัจจุบัน เป็นสโมสรสเปนที่ประสบความสำเร็จในฟุตบอลสเปน ในแง่ของจำนวนถ้วยรางวัลภายในประเทศและทุกถ้วย โดยชนะเลิศในการแข่ง[[ลาลิกา]] 26 สมัย ชนะเลิศใน[[โกปาเดลเรย์]] 30 สมัย ชนะเลิศใน[[ซูเปร์โกปาเดเอส
นอกจากนั้นยังเป็นสโมสรยุโรปสโมสรเดียวที่แข่งในฟุตบอลระหว่างทวีปในทุกฤดูกาลตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 และเป็น 1 ใน 3 สโมสรที่ไม่เคยตกชั้นใน[[ลาลิกา]] ร่วมกับทีม[[แอทเลติกบิลบาโอ]]และ[[สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด|เรอัลมาดริด]] ในปี ค.ศ. 2009 เป็นสโมสรสเปนสโมสรแรกที่ได้ถือครองแชมป์ 3 รางวัล คือ ลาลิกา, โกปาเดลเรย์ และแชมเปียนส์ลีก และในปีเดียวกันนี้ยังเป็นสโมสรฟุตบอลสโมสรแรกที่ชนะในการแข่งขัน 6 รางวัลในปีเดียวกัน เพิ่มอีก 3 ถ้วยคือ [[ซูเปร์โกปาเดเอส
ก่อตั้งในชื่อ '''ฟุตบอลคลับบาร์เซโลนา''' ใน ค.ศ. 1899 โดยกลุ่มของนักฟุตบอล[[สวิตเซอร์แลนด์|สวิส]] [[อังกฤษ]] และ[[สเปน]] นำโดย[[ฌูอัน กัมเป]] สโมสรถือเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมกาตาลาและนิยมกาตาลา โดยมีคำขวัญทางการว่า "Més que un club" (แปลว่า มากกว่าสโมสร) ส่วนเพลงประจำสโมสรคือเพลง "[[กันดัลบาร์ซา]]" เขียนโดยเฌามา ปิกัส และ[[ฌูแซ็ป มาริอา อัสปินัส]] และที่แตกต่างจากสโมสรอื่นคือ ผู้สนับสนุนทีมเป็นเจ้าของและบริหารทีมบาร์เซโลนา ถือเป็นสโมสรฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นอันดับ 2 ในด้านของรายได้ ที่มีรายได้ประจำปี 398 ล้านยูโร<ref>{{Cite web|url=http://www.deloitte.com/view/en_GB/uk/industries/sportsbusinessgroup/sports/football/deloitte-football-money-league-2011/c774a9e481a7d210VgnVCM1000001a56f00aRCRD.htm|title=Top 20 clubs
บรรทัด 79:
ในวันอาทิตย์ที่ฝนตกของปี ค.ศ. 1951 กลุ่มคนออกจากสนามกีฬาเลสกอตส์ด้วยเท้าเปล่า หลังจากสโมสรชนะ[[ราซิงเดซานตันเดร์]] โดยปฏิเสธการขึ้นรถรางและสร้างความประหลาดใจให้กับเจ้าหน้าที่ของจอมพลฟรันซิสโก ฟรังโก การประท้วงรถรางเกิดขึ้นในบาร์เซโลนาซึ่งก็ได้รับการสนับสนุนจากแฟนทีมบาร์เซโลนา เหตุการณ์ที่เกิดเช่นนี้ทำให้แสดงให้เห็นความเป็นอะไรที่มากกว่ากาตาลุญญา ชาวสเปนหัวก้าวหน้ามองว่าสโมสรเป็นผู้พิทักษ์ซึ่งซื่อสัตย์ต่อสิทธิและเสรีภาพ<ref>Ferrand, Alain; McCarthy, Scott. p. 90.</ref><ref>Witzig, Richard. p. 408.</ref>
ผู้จัดการ เฟอร์ดินานด์ เดาชีก ({{lang-sk|Ferdinand Daučík}}) และ [[ลัสโซล คูบาลา]] นำทีมให้ได้รับถ้วย 5 รางวัล รวมถึงในลาลิกา, โกปาเดลเฆเนราลิซิโม (ต่อมาใช้ชื่อว่า โกปาเดลเรย์), [[ละตินคัป]], [[ซูเปร์โกปาเดเอส
=== กลุบเดฟุตบอลบาร์เซโลนา (1957–1978) ===
[[ไฟล์:Camp Nou des de l'helicòpter.jpg|thumb|right|alt=Barcelona stadium seen from above. It is a large and asymmetrically shaped dome.|สนามกีฬากัมนอว์ สนามการแข่งขันของสโมสรที่เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1957 ด้วยทุนจากผู้สนับสนุนสโมสร<ref>Ball, Phil. p. 111.</ref>]]
บรรทัด 98:
[[ไฟล์:Johan Cruijff 1982.jpg|thumb|left|alt=photo of Johan Cruyff|upright|[[โยฮัน ไกรฟฟ์]] นำทีมชนะในลาลิกา 4 สมัยติดต่อกัน ในฐานะผู้จัดการทีมของบาร์เซโลนา]]
ในปี ค.ศ. 1988 [[โยฮัน ไกรฟฟ์]] ได้กลับมายังสโมสรในฐานะผู้จัดการทีมและเขาได้รวบรวมทีมที่รู้จักในชื่อ ทีมในฝัน เขาได้รวมนักฟุตบอลสเปนอย่าง [[ชูเซบ กวาร์ดีโอลา]], [[โคเซ มารี บาเกโร]] และ [[ตซีกี เบกีริสไตน์]] และยังเซ็นสัญญากับดาราจากต่างประเทศอย่าง [[โรนัลด์ กุมัน]] ({{lang-nl|Ronald Koeman}}), [[ไมเคิล เลาดรูป]] ({{lang-da|Michael Laudrup}}), [[โรมารีอู]], และ [[ฮริสโต ชตอยชคอฟ]] ({{lang-bg|Hristo Stoichkov}})<ref>Ball, Phil. pp. 106–107.</ref> ภายใต้คำแนะนำของไกรฟฟ์ บาร์เซโลนาชนะในการแข่งขันลาลิกา 4 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1991 ถึง 1994 ชนะ[[ซามพ์โดเรีย]]ในนัดชิงชนะเลิศทั้งใน[[ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ]] 1989 และ[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก|ถ้วยยุโรป]] 1992 ที่[[สนามกีฬาเวมบลีย์]] สโมสรยังชนะในโกปาเดลเรย์ ในปี ค.ศ. 1990, [[ยูฟ่าซูเปอร์คัพ]] ในปี ค.ศ. 1992 และชนะใน[[ซูเปร์โกปาเดเอส
[[บ็อบบี ร็อบสัน]] เข้ามาแทนที่ไกรฟฟ์ในระยะเวลาสั้น ๆ ในฤดูกาล 1996–97 ฤดูกาลเดียว เขานำโรนัลโดมาจาก[[พีเอสวีไอนด์โฮเวิน]] และยังชนะใน 3 ถ้วยคือ โกปาเดลเรย์, ยูฟ่าซูเปอร์คัพ และซูเปร์โกปาเดเอส
=== นูเญซออก ลาปอร์ตาเข้ามา (2000–2008) ===
บรรทัด 107:
การจากไปของนูเญซและวาน กัล ไม่สามารถเปรียบได้กับการจากไปของ [[ลูอิช ฟีกู]] ซึ่งในตอนนั้นอยู่ในฐานะรองกัปตันทีม ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบและชาวกาตาลาถือว่าเป็นพวกเดียวกับเขา แต่แล้วแฟนบาร์ซาก็ต้องคลุ้มคลั่งเมื่อฟีกูตัดสินใจย้ายไปอยู่กับทีมคู่แข่งอย่างเรอัลมาดริด เมื่อเขามาเยือนสนามกัมนอว์ เขาก็ต้องพบกับการตอบรับอย่างศัตรูอย่างสุดโต่ง ในการกลับมาเยือนครั้งแรกของเขา ผู้สนับสนุนสโมสรต่างก่อกวนอย่างเสียสติ มีการโยนขวดวิสกีลงมาในสนาม<ref>Ball, Phil. p. 19.</ref> ส่วนประธานสโมสร [[ชูอัง กัสปาร์ต]] เข้ามาทำหน้าที่แทนนูเญซ ในปี ค.ศ. 2000 เขาดำรงตำแหน่ง 3 ปี สโมสรเริ่มตกต่ำลงและผู้จัดการทีมเปลี่ยนเข้าเปลี่ยนออกหลายครั้ง วาน กัลมารับหน้าที่ผู้จัดการทีมเป็นครั้งที่ 2 กัสปาร์ตไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ และในปี ค.ศ. 2003 เขาและวาน กัล ลาออกจากสโมสร<ref>Ball, Phil. pp. 109–110.</ref>
หลังจากในยุคแห่งความผิดหวังของกัสปาร์ต สโมสรก็ฟื้นกลับมาอีกครั้ง จากประธานหนุ่มคนใหม่ [[ชูอัน ลาปอร์ตา]] และผู้จัดการทีมหนุ่มคนใหม่ อดีตนักฟุตบอลชาวดัตช์ [[ฟรังก์ ไรการ์ด]] ({{lang-nl|Frank Rijkaard}}) ในส่วนของนักฟุตบอล มีนักฟุตบอลต่างชาติไหลบ่าเข้ามารวมกับนักฟุตบอลสเปน ทำให้สโมสรกลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง บาร์ซาชนะในลาลิกาและซูเปร์โกปาเดเอส
ในฤดูกาล 2005–06 บาร์เซโลนาก็ยังคงรักษาตำแหน่งแชมป์ในลีกและถ้วย[[ซูเปร์โกปาเดเอส
บาร์ซาชนะ[[แอทเลติกบิลบาโอ]]ในรอบชิงชนะเลิศโกปาเดลเรย์ 2009 กับจำนวนประตู 4–1 ทำลายสถิติเป็นผู้ชนะมากที่สุดถึง 25 ครั้งสำหรับการแข่งขันนี้ อีก 3 วันต่อมาก็ชนะเรอัลมาดริดในลาลิกาทำให้บาร์เซโลนาเป็นผู้ชนะเลิศในฤดูกาล 2008–09 และจบฤดูกาลด้วยการชนะแชมป์ปีที่แล้วของแชมเปียนส์ลีก [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] 2–0 ที่สนาม[[สตาดีโอโอลิมปีโก]] ที่[[กรุงโรม]] เป็นชัยชนะครั้งที่ 3 ในแชมเปียนส์ลีก และเป็นทีมสเปนทีมแรกที่ได้ 3 ถ้วยในฤดูกาลเดียวกัน<ref>{{cite web|url=http://soccernet.espn.go.com/columns/story?id=646187&sec=europe&root=europe&&cc=5739|title=One title closer to the treble|date=14 May 2009|publisher=[[ESPN]]|first=Eduardo|last=Alvarez|accessdate=30 May 2009}}</ref><ref>{{Cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport2/hi/football/europe/8060878.stm|title=Barcelona 2–0 Man Utd|date=27 May 2009|publisher=BBC Sport|accessdate=30 May 2009}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.thesportreview.com/tsr/2009/05/pep-guardiola-barcelona/|title=Pep Guardiola's love affair with Barça continues|date=19 May 2009|publisher=Thesportreview.com|accessdate=31 May 2009}}</ref> สโมสรยังชนะการแข่งขันซูเปร์โกปาเดเอส
=== ยุคของกวาร์ดีโอลา (2008–2012) ===
บรรทัด 168:
บาร์เซโลนาถือสถิติผู้ครองแชมป์มากที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป คือ 90 แชมป์
บาร์เซโลนายังถือสถิติผู้ครองแชมป์มากที่สุดในการแข่งขัน [[ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก]] (3), [[ยูฟ่าซูเปอร์คัพ]] (5), [[โกปาเดลเรย์]] (28) และ [[ซูเปร์โกปาเดเอส
นักฟุตบอลที่สามารถคว้าแชมป์กับทีมบาร์เซโลนาได้มากที่สุด คือ [[ลิโอเนล เมสซิ]] และ [[อันเดรส อีเนียสตา]] ครองสถิติร่วมกันที่ 29 แชมป์
บรรทัด 256:
| [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1910|1909–10]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1912|1911–12]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1913|1912–13]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1920|1919–20]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1922|1921–22]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1925|1924–25]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1926|1925–26]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1928|1927–28]], [[1942 Copa del Generalísimo|1941–42]], [[1951 Copa del Generalísimo|1950–51]], [[1952 Copa del Generalísimo|1951–52]], [[1952–53 Copa del Generalísimo|1952–53]], [[1957 Copa del Generalísimo|1956–57]], [[1958–59 Copa del Generalísimo|1958–59]], [[1962–63 Copa del Generalísimo|1962–63]], [[1967–68 Copa del Generalísimo|1967–68]], [[1970–71 Copa del Generalísimo|1970–71]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1977–78|1977–78]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1980–81|1980–81]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1982–83|1982–83]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1987–88|1987–88]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1989–90|1989–90]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1996–97|1996–97]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 1997–98|1997–98]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2008–09|2008–09]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2011–12|2011–12]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2014–15|2014–15]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2015–16|2015–16]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2016–17|2016–17]], [[โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2017–18|2017–18]]
|-
! scope=col|[[ซูเปร์โกปาเดเอส
|bgcolor="gold"|'''13'''
| [[ซูเปร์โกปาเดเอส
|-
! scope=col|[[โกปาเอบาดัวร์เต]]
|