ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ยามาตะ โนะ โอโรจิ"

'''ยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ''' ({{ญี่ปุ่น|八岐の大蛇|Yamata no Orochi}}) คือชื่อของจอมอสูรในตำนานเทพปกรณัมของญี่ปุ่นโบราณ

เมื่อคราที่[[อิซะนะงิอิซานางิ]] เทพบิดร และ[[อิซะนะซานามิ]] เทพมารดร สร้าง[[ประเทศญี่ปุ่น]]ขึ้นโดยการกวน[[น้ำทะเล]]นั้น ได้เกิดจอมอสูรขึ้นมาในยุคเดียวกันนั้นด้วย คือยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ

ยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ มีลักษณะเป็นงูขนาดใหญ่ ร่างกายของมันใหญ่ปานขุนเขา มีหัวแปดหัว (ด้วยเหตุนี้ จึงชื่อว่ายามาตะ หมายถึง แปดง่าม คือมีหัวทั้งแปด งอกออกมาจากง่ามทั้งแปด) และสามารถพ่นไฟได้

เมื่อยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ ปรากฏตัวขึ้น ไม่ว่าจะไปยังหมู่บ้านใดๆ ก็ตาม จะเกิดการสูญเสียทั้งชีวิตคน และสัตว์เป็นจำนวนมาก แต่ละหมู่บ้านที่ยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ จะผ่านไปนั้น จึงต้องคัดเลือกหญิงสาวมาสังเวยให้แก่ยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ เพื่อทำให้ยามะยามาตะ โนะ โอโรจิ พึงพอใจ จะได้ไม่มาทำลายหมู่บ้าน

ขณะนั้น จอมเทพ [[ซุซะโนะโอะซุูซาโนโอะ]] โนะ มิโคโตะ เทพแห่งวายุ น้องชายของเทพีอามาเทระสุ เทพีแห่งดวงอาทิตย์ ได้ออกเดินทางผจญภัยไปยังแคว้นต่างๆ เมื่อเดินทางมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งขณะนั้น ได้มีการจัดเตรียมเครื่องสังเวย โดยหมู่บ้านนี้ เป็นหมู่บ้านที่ 8 ที่ยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิ จะมาเยือน ซุซะโนะโอะซูซาโนโอะ ได้รู้ดังนั้น จึงอาสาที่จะปราบยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิ เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านให้พ้นภัย

ซุซะโนะโอะซูซาโนโอะ ได้เตรียมสุราไว้ด้วยกันแปดจอก และนำเอาหญิงสาวซ่อนไว้ด้านในสุด โดยให้เงาของหญิงสาวทาบทับสะท้อนลงไปในจอกสุราทั้งแปดจอกนั้น เมื่อยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิมาถึงก็ไล่ดื่มสุราทีละจอกทีละจอก เพราะเห็นเงาของหญิงสาวนั้นสะท้อนอยู่ในเหล้าทุกจอก เมื่อดื่มครบแปดจอก ก็เกิดความเมามาย ซุซะโนะโอะซูซาโนโอะที่ซ่อนตัวอยู่เห็นว่าได้จังหวะเหมาะ จึงกระโจนออกจากที่ซ่อน แล้วใช้ดาบฟาดฟันงูยักษ์ยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิจนหัวขาดหมดสิ้นทั้งแปดหัว และถูกสยบลงได้ในที่สุด

เมื่อยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิถูกกำราบลงแล้ว ซุซะโนะโอะซุูซาโนโอะได้เห็นว่าที่หางของยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจินั้นมีแสงเรืองรองส่องสว่างอยู่ จึงได้ตัดหางของยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิออกดู และพบว่ามีดาบอยู่ในนั้น ดาบที่ซุซะโนะโอะซูซาโนโอะนำออกมาจากปลายหางของยะมะยามาตะ โนะ โอะโระชิโอโรจิ มีชื่อว่าดาบคุซานางิ ซุซะโนะโอะซูซาโนโอะได้นำดาบนั้นมาครอบครองและนำไปถวายให้[[อะอามาเตระสุเตราซุ]]เพื่อขอขมาในภายหลัง