ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 525:
ผลของสงครามโลกครั้งที่ 1 คือฝ่ายพันธมิตรซึ่งได้แก่[[จักรวรรดิอังกฤษ]] [[ฝรั่งเศส]] [[อิตาลี]] และ[[สหรัฐอเมริกา]]ได้รับชัยชนะ นัก[[ชาตินิยม]]ได้รับกระแสนิยมในอิสรภาพมากขึ้น โดย[[ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา]] [[วูดโรว์ วิลสัน]] กล่าวในสุนทรพจน์ "ประเด็นทั้งสิบสี่" ว่า ''โอกาสแห่งอิสรภาพและเสรีภาพได้มาอยู่ในกำมือของเราแล้ว เราจะพัฒนาของเราเอง'' ในทางกลับกัน [[จักรพรรดิคาร์ลที่ 1 แห่งออสเตรีย|จักรพรรดิคาร์ล]] จักรพรรดิแห่งออสเตรีย-พระราชาธิบดีแห่งฮังการี ได้ทรงเปิดวาระประชุมในสภาอิมพีเรียล โดยมีพระบรมราชานุญาตให้มีการก่อตั้งสมาพันธรัฐพร้อมด้วยการตั้งสภาย่อยเป็นของตนเอง เพื่อรักษาความเป็นจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ขณะที่หลายฝ่ายเริ่มไม่ไว้วางใจในเสรีภาพหลังจากจบสงครามแล้ว
 
เมื่อวันที่[[14 ตุลาคม]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ [[บารอนสเตฟาน วอน ราเจ็คส์]] ได้พยายามที่จะพิสูจน์ศรัทธาที่มีต่อจักรวรรดิ โดยจักรพรรดิคาร์ลได้ทรงประกาศเรื่องอนาคตของพระราชวงศ์อิมพีเรียล 2 วันหลังจากที่ออสเตรียกลายเป็นสหภาพ-สหพันธรัฐ ซึ่งประกอบด้วยอีก 4 ประเทศคือ [[ประเทศเยอรมนี|เยอรมันเยอรมนี]] [[สาธารณรัฐเช็ก|เช็ก]] สลาฟใต้ และ[[ยูเครน]] ส่วน[[ประเทศโปแลนด์]]นั้นได้รับเอกราชอย่างเต็มตัว
 
ประเทศหลายประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิต่างก็ประกาศเอกราช ไม่ขึ้นตรงต่อจักรวรรดิอีกต่อไป โดยกลุ่มประเทศแรกที่ประกาศเอกราชนั้นคือ โบฮีเมีย โมราเวีย ซีลีเซีย กาลิเซีย และบูโกวินา โดยรวมประเทศทั้งหมดเป็น[[สาธารณรัฐเชโกสโลวักที่ 1]] เมื่อวันที่[[28 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2461]] ต่อมาวันที่[[29 ตุลาคม]] สลาฟใต้ได้ประกาศเอกราชและก่อตั้ง[[รัฐแห่งชาวสโลวีน โครแอต และเซิร์บ]] ต่อมา รัฐบาลฮังการีได้ประกาศสิ้นสุดความสัมพันธ์ทางสหภาพกับออสเตรียเมื่อวันที่ [[31 ตุลาคม]] ส่งผลให้ประเทศทุกประเทศที่เป็นของออสเตรีย-ฮังการี แตกแยกไปก่อตั้งประเทศเป็นของตนเอง จะมีอยู่ส่วนน้อยที่ยังขึ้นตรงต่อจักรวรรดิอยู่ เช่น เขตพื้นที่แถบอัลไพน์และดานูบ