ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กันยา เทียนสว่าง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nstar (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการวิกิลิงก์}}
 
[[ภาพ:Kanya_teansavang.jpg|thumb|กันยา เทียนสว่าง]]
 
'''กันยา เทียนสว่าง''' [[นางสาวไทย|นางสาวสยาม]] [[พ.ศ. 2477]] มีนามสกุลจริงคือ เจียเป็งเซ็ง มีชื่อเล่นว่า "ลูซิล" เป็นธิดาของ นายสละ และนางสนอม บิดาของเธอทำงานเป็นนายท่าเรืออยู่ที่ท่าเขียวไข่กา [[บางกระบือ]] พระนคร เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2457 ที่บ้านปากเกร็ด [[จังหวัดนนทบุรี]] ด้วยเหตุที่หน้าตาคมคาย จมูกโด่งเหมือนฝรั่ง พ่อแม่จึงตั้งชื่อให้ว่า “ลูซิล” เธอได้รับการศึกษาจากโรงเรียนวัดสังเวช [[โรงเรียนราชินี]] และ[[โรงเรียนสตรีวิทยา]] ขณะเข้าประกวดนางสาวสยามมีอายุ 21 ปี ทำงานเป็นครูอยู่ในโรงเรียนประชาบาลทารกานุเคราะห์ ได้ 4 ปีแล้ว
 
ในการประกวด นางสาวสยาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ[[งานฉลองรัฐธรรมนูญ]] ที่ทางรัฐบาลจัดขึ้น ซึ่งในปี พ.ศ. 2477 ซึ่งเป็นการเฉลิมฉลองรัฐธรรมนูญปีที่สอง แต่เริ่มจัดการจัดประกวดเป็นปีแรก การประกวดความงาม มิติใหม่ของงานฉลองรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ดูจะเป็นจุดรวมความสนใจของประชาชนมากที่สุด ด้วยเป็นของใหม่และสีสันอันชวนตื่นตา [[หนังสือพิมพ์ประชาชาติ]]ทยอยลงข่าวคราวการประกวดในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง การจัดงานครั้งนี้มีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ดำเนินการ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดงานอันประกอบด้วยบุคคลที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้นและมีคณะกรรมการตัดสิน อันได้แก่ [[พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา]]และ [[เจ้าพระยารามราฆพ]] เป็นต้น กันยา เทียนสว่าง ได้ตำแหน่งนางสาวพระนคร มาก่อนในคืนวันที่ 9 ธันวาคม และเป็นตัวแทนจังหวัดพระนครเข้าประกวดนางสาวสยามในคืนวันที่ 10 ธันวาคม และตัดสินในคืนวันที่ 12 ธันวาคม รางวัลที่ได้มีมงกุฎ ขันเงิน และล็อกเก็ต ในการประกวดปีแรกนั้นยังไม่มีรางวัลเป็นเงิน
 
หลังพ้นจากตำแหน่ง ได้เข้าทำงานเป็นเจ้าหน้าที่[[หอสมุดแห่งชาติ]] ได้พบกับ ด็อกเตอร์สุจิต หิรัญพฤกษ์ ที่ทำงานอยู่กระทรวงต่างประเทศ พิธีแต่งงานของเธอมีขึ้นเมื่อ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2486 โดยมี[[ดิเรก ชัยนาม|นายดิเรก ชัยนาม]] รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ผู้บังคับบัญชาของฝ่ายชายเป็นเจ้าภาพ ณ บ้านพักของท่าน
 
ชีวิตการครองคู่ของเธอเต็มไปด้วยความรักความเข้าใจอันดีระหว่างกันและกัน เธอมีบุตรธิดา 5 คน คือ สุกันยา (นิมมานเหมินท์) , ทินกร , สุจิตรา , สุวิชา และ สุชาติ ต่อมาสามีของเธอได้เป็น[[สมาชิกผู้แทนราษฎร]]จังหวัดปทุมธานี เป็นผู้ร่วมคณะผู้แทนไทยในการนำประเทศเข้าร่วมเป็นสมาชิก[[องค์การสหประชาชาติ]] และร่วมประชุมสมัชชาใหญ่เป็นครั้งแรก เป็นโฆษกฝ่ายไทยประจำสำนักงานใหญ่ องค์การสหประชาชาติ และครอบครัวเธอดำเนินธุรกิจบริษัทนาคาไข่มุก ทำกิจการเพาะเลี้ยงไข่มุกที่ภูเก็ต
 
กันยา (เทียนสว่าง) หิรัญพฤกษ์ ป่วยด้วยโรคมะเร็งในมดลูก เธอเดินทางไปรักษาตัวที่เยอรมันเพื่อทดลองยาที่เพิ่งค้นพบใหม่ ด้วยความหวังกำลังใจจะหายจากโรคร้าย แต่ยังไม่ทันได้ทำการรักษา สามีก็ต้องประสบมรสุมทางการเมือง เมื่อ เมษายน พ.ศ. 2502 กรณีมีข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังทุจริตเรื่องการพิมพ์ธนบัตร ซึ่งสามีของเธอเป็นเลขานุการรัฐมนตรีฯ เธอรู้ว่าไม่มีโอกาสได้รักษาต่อไปแล้ว เธอจึงกลับมาเป็นขวัญกำลังใจเคียงข้างคู่ชีวิต แม้ว่าในภายหลังผลการสอบสวนจะไม่พบการกระทำผิด เพราะเนื่องจากเป็นเรื่องของการเมืองในขณะนั้น แต่กว่าศาลฎีกาจะพิพากษาก็วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2508 เธอจึงไม่มีโอกาศเห็นสามีผู้เป็นที่รักของเธอพ้นมลทิน
 
กันยา (เทียนสว่าง) หิรัญพฤกษ์ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 ในวัย 46 ปี ร่างของเธอถูกเก็บไว้ ณ สุสาน[[วัดมกุฎกษัตริยาราม]] ไว้นานถึง 21 ปี เพื่อรอการฌาปนกิจพร้อมกับการพระราชทานเพลิงศพด็อกเตอร์สุจิต คู่ชีวิตผู้เป็นที่รักเมื่อ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2524
 
== ดูเพิ่ม ==