ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จอห์นแห่งกอนต์ ดยุกที่ 1 แห่งแลงแคสเตอร์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Darkydury (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2:
{{กล่องข้อมูล ขุนนางอังกฤษ
| color = FireBrick
| name = จอห์นแห่งกอนท์อนต์ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ที่คัสเตอร์ที่ 1
| image = Johnofgaunt.jpg
| caption = <small>จอห์นแห่งกอนท์อนต์ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ที่คัสเตอร์ที่ 1</small>
| titles = ขุนนางอังกฤษ
| birth_date = [[6 มีนาคม]] [[ค.ศ. 1340]]<br />
บรรทัด 11:
| death_place =[[ปราสาทเลสเตอร์]], [[เลสเตอร์เชอร์]]
| father = [[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ]]
| mother = [[ฟิลลิปปาฟีลิปแห่งเอโนลต์แอโน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|ฟิลลิปปาฟีลิปแห่งเอโนลต์แอโน]]
| wife = [[บลานซแห่งแลงคาสเตอร์บลานซแห่งแลงคัสเตอร์]]<br />[[อินแฟนตาคอนแสตนซแห่งคาสตีล|คอนแสตนซกอนส์ตันซาแห่งคาสตีลกัสติยา]]<br />[[แคทเธอริน สวินฟอร์ด]]
| husband =
| children = [[ฟิลลิปปาแห่งแลงคาสเตอร์คัสเตอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส|สมเด็จพระราชินีฟิลลิปปาแห่งโปรตุเกส]]<br />[[เอลิซาเบธ แพลนทาเจเน็ท ดัชเชสแห่งเอ็กซีเตอร์]]<br />[[สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ]]<br />[[แคทเธอรินแห่งแลงคาสเตอร์คัสเตอร์]]<br />[[จอห์น โบฟอร์ต เอิร์ลแห่งซอมเมอร์เซ็ทที่ 1]]<br />[[เฮ็นรี โบฟอร์ต]]<br />[[ทอมัส โบฟอร์ต ดยุคแห่งเอ็กซีเตอร์]]<br />[[โจน โบฟอร์ตดัชเชสแห่งเวสต์มอร์แลนด์]]
| work =
}}
'''จอห์นแห่งกอนท์อนต์ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ที่คัสเตอร์ที่ 1''' ({{lang-en|'''John of Gaunt, 1st Duke of Lancaster'''}}); (6 มีนาคม ค.ศ. 1340 - 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1399) เป็นสมาชิก[[ราชวงศ์แพลนทาเจเน็ท]] โดยทรงเป็นพระโอรสองค์ที่สามของ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ]]และ[[ฟิลลิปปาฟีลิปแห่งเอโนลต์แอโน สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ|พระราชินีฟิลลิปปาฟีลิปแห่งแอโนต์โน]] และเป็นพระเชษฐาของ[[เอ็ดมันด์แห่งแลงลีย์ ดยุคแห่งยอร์คที่ยอร์กที่ 1|เอ็ดมันด์แห่งแลงลีย์ ดยุคที่ 1 แห่งยอร์คยอร์ก]]ผู้เป็นต้น[[ราชสกุลยอร์คยอร์ก]]
 
จอห์นแห่งกอนท์เป็นต้นอนต์เป็นต้น[[ราชสกุลแลงคาสเตอร์คัสเตอร์|ราชสกุลแลงคัสเตอร์]] โดยมีกษัตริย์อังกฤษสามคนที่สืบเชื้อสายมาจากพระองค์ คือ [[พระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 4]], [[พระเจ้าเฮนรีที่ 5 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 5]] และ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 6]]
 
จอห์นแห่งกอนท์เป็นต้น[[ราชสกุลแลงคาสเตอร์|ราชสกุลแลงคัสเตอร์]] โดยมีกษัตริย์อังกฤษสามคนที่สืบเชื้อสายมาจากพระองค์ คือ [[พระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 4]], [[พระเจ้าเฮนรีที่ 5 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 5]] และ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 6]]
 
== วัยเยาว์ ==
จอห์นประสูติในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1340 ทรงเป็นพระโอรสคนที่สี่ของ[[พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3]] แต่เป็นพระโอรสคนที่สามที่มีชีวิตรอด พระองค์ได้ฉายานามมาจากสถานที่ประสูติของพระองค์ คือ เมือง[[เกนต์|เกนท์เกนต์]] หรือเมืองกอนท์อนต์ในภาษาอังกฤษ เดือนกันยายน ค.ศ. 1342 พระองค์ถูกตั้งเป็นเอิร์ลแห่งริชมอนด์ ทรงได้รับการฝึกฝนทักษะทางทหาร ในปี ค.ศ. 1350 จอห์นในวัย 10 พรรษาได้ปรากฏตัวที่สมรภูมิทางเรือวินเชลซีที่ว่ากันว่า[[เฮนรีแห่งกรอสมอนต์ เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์และเลสเตอร์]]ได้ช่วยชีวิตพระองค์ไว้หลังเรือสเปนลำใหญ่ได้โจมเรือที่บรรทุกจอห์นกับ[[เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ|เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์]] พระเชษฐาของจอห์น ในเวลาต่อมาจอห์นในวัย 19 พรรษาได้มีส่วนร่วมในการออกทำศึกกับฝรั่งเศส
 
 
จอห์นประสูติในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1340 ทรงเป็นพระโอรสคนที่สี่ของ[[พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3]] แต่เป็นพระโอรสคนที่สามที่มีชีวิตรอด พระองค์ได้ฉายานามมาจากสถานที่ประสูติของพระองค์ คือ เมือง[[เกนต์|เกนท์]] หรือเมืองกอนท์ในภาษาอังกฤษ เดือนกันยายน ค.ศ. 1342 พระองค์ถูกตั้งเป็นเอิร์ลแห่งริชมอนด์ ทรงได้รับการฝึกฝนทักษะทางทหาร ในปี ค.ศ. 1350 จอห์นในวัย 10 พรรษาได้ปรากฏตัวที่สมรภูมิทางเรือวินเชลซีที่ว่ากันว่า[[เฮนรีแห่งกรอสมอนต์ เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์และเลสเตอร์]]ได้ช่วยชีวิตพระองค์ไว้หลังเรือสเปนลำใหญ่ได้โจมเรือที่บรรทุกจอห์นกับ[[เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายดำ|เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์]] พระเชษฐาของจอห์น ในเวลาต่อมาจอห์นในวัย 19 พรรษาได้มีส่วนร่วมในการออกทำศึกกับฝรั่งเศส
 
 
คนในยุคเดียวกันได้บรรยายถึงจอห์นว่าเป็นคนตัวสูง รูปร่างดี บุตรคนแรกของจอห์นเป็นบุตรสาวนอกสมรสชื่อบลานช์ซึ่งเกิดจากมารี เดอ แซ็งต์ฮิแลร์แห่งแอโน สนมลับของจอห์นที่เป็นนางกำนัลของพระราชินี[[ฟิลิปปาแห่งเฮนอลต์|ฟิลิปปาแห่งแอโน]] พระมารดาของพระองค์
<br />
 
== การสมรสครั้งแรก ==
[[ไฟล์:Marriage of Blanche of Lancaster and John of Gaunt 1359.jpg|left|thumb|ภาพพิธีสมรสของจอห์นแห่งกอนท์กับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์อนต์กับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ในวิหารเรดิง วาดโดยโฮเรส ไรจ์ ปี ค.ศ. 1914 (พิพิธภัณฑ์เรดิง)]]
<br />
วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1359 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ได้จับจอห์นสมรสกับ[[บลานช์แห่งแลงคัสเตอร์]] ทายาทหญิงผู้มั่งคั่งที่[[วิหารเรดิง]]ใน[[บาร์กเชอร์]] บลานช์เป็นธิดาของเฮนรีแห่งกรอสมอนต์ เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์และเลสเตอร์กับอิซาเบล เดอ บูมงต์และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องชั้นที่สามของจอห์น ทั้งคู่ต่างเป็นบุตรของพระปนัดดาของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 3]] บลานช์สืบเชื้อสายมากจาก[[เอ็ดมุนด์หลังกางเขน เอิร์ลที่ 1 แห่งแลงคาสเตอร์คัสเตอร์|เอ็ดมุนด์หลังกางเขน]] เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์ พระโอรสคนสุดท้องของพระเจ้าเฮนรี เชื้อพระวงศ์ทุกคนต่างเข้าร่วมพิธีสมรสในครั้งนี้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ได้มอบของขวัญซึ่งเป็นอัญมณีราคาแพงให้แก่บลานช์วัย 14 ปี
[[ไฟล์:Marriage of Blanche of Lancaster and John of Gaunt 1359.jpg|left|thumb|ภาพพิธีสมรสของจอห์นแห่งกอนท์กับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ในวิหารเรดิง วาดโดยโฮเรส ไรจ์ ปี ค.ศ. 1914 (พิพิธภัณฑ์เรดิง)]]
วันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1359 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ได้จับจอห์นสมรสกับ[[บลานช์แห่งแลงคัสเตอร์]] ทายาทหญิงผู้มั่งคั่งที่[[วิหารเรดิง]]ใน[[บาร์กเชอร์]] บลานช์เป็นธิดาของเฮนรีแห่งกรอสมอนต์ เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์และเลสเตอร์กับอิซาเบล เดอ บูมงต์และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องชั้นที่สามของจอห์น ทั้งคู่ต่างเป็นบุตรของพระปนัดดาของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าเฮนรีที่ 3]] บลานช์สืบเชื้อสายมากจาก[[เอ็ดมุนด์หลังกางเขน เอิร์ลที่ 1 แห่งแลงคาสเตอร์|เอ็ดมุนด์หลังกางเขน]] เอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์ พระโอรสคนสุดท้องของพระเจ้าเฮนรี เชื้อพระวงศ์ทุกคนต่างเข้าร่วมพิธีสมรสในครั้งนี้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ได้มอบของขวัญซึ่งเป็นอัญมณีราคาแพงให้แก่บลานช์วัย 14 ปี
 
เฮนรีแห่งกรอสมอนต์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1361 จอห์นได้สืบทอดดินแดนครึ่งหนึ่งของพ่อตาและได้ครองตำแหน่งเป็นเอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์ พระองค์ยังได้รับยศเป็นบารอนที่ 14 แห่งฮาลตันและลอร์ดที่ 11 แห่งโบวแลนด์ จอห์นได้ดินแดนส่วนที่เหลือของเฮนรีมาครองหลังม็อด เคานเตสแห่งเลสเตอร์ น้องสาวของบลานช์เสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1362 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 พระบิดาของพระองค์ได้พระราชทานยศดยุคแห่งแลงคัสเตอร์ให้แก่พระองค์ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1362
 
เฮนรีแห่งกรอสมอนต์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1361 จอห์นได้สืบทอดดินแดนครึ่งหนึ่งของพ่อตาและได้ครองตำแหน่งเป็นเอิร์ลแห่งแลงคัสเตอร์ พระองค์ยังได้รับยศเป็นบารอนที่ 14 แห่งฮาลตันและลอร์ดที่ 11 แห่งโบวแลนด์ จอห์นได้ดินแดนส่วนที่เหลือของเฮนรีมาครองหลังม็อด เคานเตสแห่งเลสเตอร์ น้องสาวของบลานช์เสียชีวิตในวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1362 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 พระบิดาของพระองค์ได้พระราชทานยศดยุคแห่งแลงคัสเตอร์ให้แก่พระองค์ในวันที่ 13 พฤศจิกายน ค.ศ. 1362
<br />
การสมรสของจอห์นกับบลานช์เป็นการสมรสที่มีความสุข บลานช์เป็นสาวสวยมารยาทงดงามที่มีผมสีอ่อน ทั้งคู่มีบุตรธิดาด้วยกัน 7 คน คือ
 
# [[ฟิลิปปาแห่งแลงคาสเตอร์คัสเตอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส|ฟิลิปปา]] (เกิด 31 มีนาคม ค.ศ. 1360) พระราชินีคู่สมรสของ[[พระเจ้าฌูเอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส]]
# จอห์น (เกิด ค.ศ. 1362/1364) เสียชีวิตในวัยทารก
# [[เอลิซาเบธแห่งแลงคัสเตอร์ ดัชเชสแห่งเอ็กซิเตอร์|เอลิซาเบธแห่งแลงคัสเตอร์]] (เกิด 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1364) สมรสครั้งแรกกับ[[จอห์น แฮสติงส์ เอิร์ลที่ 3 แห่งเพมโบรก]] ต่อมาสมรสครั้งที่สองกับ[[จอห์น ฮอลแลนด์ ดยุคที่ 1 แห่งเอ็กซิเตอร์]] และสมรสครั้งที่สามกับ[[จอห์น คอร์นวอลล์ บารอนที่ 1 แห่งแฟนโฮป]]
เส้น 48 ⟶ 41:
# [[พระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ]] (เกิด 3 เมษายน ค.ศ. 1367)
# อิซาเบลลา (เกิด ค.ศ. 1368) เสียชีวิตในวัยเด็ก
 
 
บลานช์แห่งแลงคัสเตอร์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 กันยายน ค.ศ. 1368 ด้วยโรคกาฬโรคต่อมน้ำเหลืองด้วยวัย 23 ปีที่ปราสาททัตบรีใน[[สแตฟฟอร์ดเชอร์]] ระหว่างที่จอห์นเดินทางไปต่างแดน ร่างของเธอถูกฝังที่อาสนวิหารเซนต์ปอลในกรุงลอนดอน มีบันทึกว่าจอห์นจมอยู่กับความเศร้า
<br />
 
== การสมรสครั้งที่สอง ==
 
 
ตลอดช่วงเวลาหลายปีต่อมาจอห์นได้สู้รบในสงครามหลายครั้ง ทรงสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับเอ็ดเวิร์ดแห่งวูดสต็อคหรือเอ็ดเวิร์ดเจ้าชายดำ พระเชษฐาในการทำ[[สงครามร้อยปี]] พระองค์ได้ออกทำศึกเพื่อช่วยเหลือ[[พระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยา|พระเจ้าเปโดรผู้โหดเหี้ยมแห่งกัสติยา]] สองปีต่อมาทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกองแห่งกาแล และในปี ค.ศ. 1371 ทรงดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพแห่งอากีแตน จอห์นได้สมรสใหม่กับ[[กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา ดัชเชสแห่งแลงคัสเตอร์|กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา]] พระธิดาของพระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยาในปี ค.ศ. 1372 การสมรสครั้งนี้ทำให้พระองค์ได้รับยศเป็นเอิร์ลแห่งริชมอนด์และได้อ้างสิทธิ์ในตำแหน่งกษัตริย์แห่งกัสติยา
 
 
จอห์นสมรสกับกอนส์ตันซาแห่งกัสติยาวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1371 ใน[[กีเยน]]ที่โรเกฟอต์ใกล้กับ[[บอร์โด|บอร์โดซ์]] การสมรสครั้งนี้เป็นการสมรสที่ไร้ซึ่งความรัก แต่กระนั้นทั้งคู่ก็มีบุตรธิดาด้วยกันสองคน คือ
เส้น 64 ⟶ 52:
# จอห์น (เกิด ค.ศ. 1374) เสียชีวิตในวัยทารก
 
ในช่วงปี ค.ศ. 1370–71 เมื่อเจ้าชายดำล้มป่วยระหว่างกำลังทำศึกกับฝรั่งเศสจอห์นได้กลายเป็นผู้บัญชาการกองทัพ ในปี ค.ศ. 1373 พระองค์ได้นำทัพจาก[[กาแล (เมือง)|กาแล]]ไปบอร์โดซ์แต่ประสบความสำเร็จไม่มากนัก หลังการสิ้นพระชนม์ของเอ็ดเวิร์ดเจ้าชายดำ จอห์นแห่งกอนท์อนต์ได้ให้การคุ้มครองจอห์น วีคลิฟฟ์ นักปฏิรูปศาสนา ซึ่งพระองค์อาจทำไปเพราะต้องการยับยั้งอำนาจของคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่กำลังเติบโต
 
ในช่วงปี ค.ศ. 1370–71 เมื่อเจ้าชายดำล้มป่วยระหว่างกำลังทำศึกกับฝรั่งเศสจอห์นได้กลายเป็นผู้บัญชาการกองทัพ ในปี ค.ศ. 1373 พระองค์ได้นำทัพจาก[[กาแล (เมือง)|กาแล]]ไปบอร์โดซ์แต่ประสบความสำเร็จไม่มากนัก หลังการสิ้นพระชนม์ของเอ็ดเวิร์ดเจ้าชายดำ จอห์นแห่งกอนท์ได้ให้การคุ้มครองจอห์น วีคลิฟฟ์ นักปฏิรูปศาสนา ซึ่งพระองค์อาจทำไปเพราะต้องการยับยั้งอำนาจของคริสตจักรโรมันคาทอลิกที่กำลังเติบโต
<br />
 
== อิทธิพลในราชสำนักอังกฤษ ==
 
 
หลังบรรลุการทำสนธิสัญญาพักรบในปี ค.ศ. 1375 พระองค์ได้เดินทางกลับอังกฤษ พระองค์ได้ผูกมิตรกับกลุ่มข้าราชสำนักที่ทุจริตฉ้อฉลซึ่งนำโดยอาลิซ เพอร์เรอร์ สนมลับของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ผู้สูงวัย ในช่วงที่กษัตริย์อยู่ในสภาวะเลอะเลือน จอห์นทำหน้าที่เสมือนผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน การขึ้นครองอำนาจทางการเมืองของพระองค์ทำให้ความไม่พอใจต่ออิทธิพลในอังกฤษของพระองค์ขยายออกไปเป็นวงกว้าง กองทัพอังกฤษประสบความล้มเหลวในสงครามร้อยปี การปกครองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ก็เริ่มไม่เป็นที่นิยมเนื่องจากการเรียกเก็บภาษีที่สูงและความสัมพันธ์ชู้สาวของพระองค์กับอาลิซ เพอร์เรอร์ ความล้มเหลวทางการทหาร, การบริหารราชการที่ทุจริตฉ้อฉล และการวางตัวอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับสภานิติบัญญัติอันดีงามสร้างกระแสเกลียดชังในตัวจอห์น กระทั่งในปี ค.ศ. 1376 กลุ่มของพระองค์ถูกสภานิติบัญญัติอันดีงามขับไล่ออกจากอำนาจ แต่ไม่นานจอห์นก็รวบรวมสมัครพรรคพวกได้อีกครั้ง
 
 
ปี ค.ศ. 1377 พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 สิ้นพระชนม์ด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกที่ชีน ผู้สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์คือ[[พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 แห่งอังกฤษ|พระเจ้าริชาร์ดที่ 2]] พระนัดดาวัย 10 พรรษา หลังหลานชาย (ลูกของพี่น้อง) ขึ้นครองราชย์อิทธิพลในราชสำนักของจอห์นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น จอห์นกลายเป็นผู้ปกครองตัวจริงของอังกฤษในช่วงที่กษัตริย์น้อยอยู่ในวัยเยาว์ ทรงให้คำปรึกษาในการทำสงครามกับฝรั่งเศสและเป็นผู้ดูแลพรมแดนที่ติดกับสกอตแลนด์ ในปี ค.ศ. 1380 พระองค์ได้ทำสนธิสัญญาพักรบกับชาวสกอตแลนด์และได้รับมอบหมายให้ปราบกบฏหลายครั้งในปีต่อมา
 
การตัดสินใจเรื่องการเก็บภาษีที่ไม่ค่อยฉลาดสะสมความไม่พอใจจนก่อเกิดการปฏิวัติชาวนาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1381 จอห์นแห่งกอนท์อนต์ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการในการเรียกเก็บภาษี พระองค์ต้องออกจากลอนดอนในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อหนีความโกรธเคืองของกลุ่มกบฏ ทว่าพระราชวังซาวอยของพระองค์ซึ่งถูกมองว่าเป็นคฤหาสน์ขุนนางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลอนดอนสมัยกลางได้ถูกทำลาย ชิ้นส่วนที่กลุ่มชาวนาไม่สามารถพังหรือเผาได้ถูกโยนลงแม่น้ำ
 
แม้จะถูกข้าราชสำนักฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาว่าทรยศต่อชาติแต่จอห์นก็ยัคงได้รับการหนุนหลังอันล้ำค่าจากพระเจ้าริชาร์ด พระองค์ยังคงรับใช้กษัตริย์ต่อไป จอห์นเป็นผู้เจรจาสันติภาพกับฝรั่งเศสและเป็นผู้จัดการเรื่องพรมแดนที่ติดกันสกอตแลนด์ ทว่าในปี ค.ศ. 1385 พระองค์ได้ขัดแย้งกับกษัตริย์แต่ต่อมาก็ได้คืนดีกัน พระองค์ยังคงทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างกษัตริย์กับฝ่ายตรงข้ามต่อไป
การตัดสินใจเรื่องการเก็บภาษีที่ไม่ค่อยฉลาดสะสมความไม่พอใจจนก่อเกิดการปฏิวัติชาวนาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1381 จอห์นแห่งกอนท์ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการในการเรียกเก็บภาษี พระองค์ต้องออกจากลอนดอนในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อหนีความโกรธเคืองของกลุ่มกบฏ ทว่าพระราชวังซาวอยของพระองค์ซึ่งถูกมองว่าเป็นคฤหาสน์ขุนนางที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในลอนดอนสมัยกลางได้ถูกทำลาย ชิ้นส่วนที่กลุ่มชาวนาไม่สามารถพังหรือเผาได้ถูกโยนลงแม่น้ำ
 
 
แม้จะถูกข้าราชสำนักฝ่ายตรงข้ามกล่าวหาว่าทรยศต่อชาติแต่จอห์นก็ยัคงได้รับการหนุนหลังอันล้ำค่าจากพระเจ้าริชาร์ด พระองค์ยังคงรับใช้กษัตริย์ต่อไป จอห์นเป็นผู้เจรจาสันติภาพกับฝรั่งเศสและเป็นผู้จัดการเรื่องพรมแดนที่ติดกันสกอตแลนด์ ทว่าในปี ค.ศ. 1385 พระองค์ได้ขัดแย้งกับกษัตริย์แต่ต่อมาก็ได้คืนดีกัน พระองค์ยังคงทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างกษัตริย์กับฝ่ายตรงข้ามต่อไป
<br />
[[ไฟล์:John of Gaunt, Duke of Lancaster dining with the King of Portugal - Chronique d' Angleterre (Volume III) (late 15th C), f.244v - BL Royal MS 14 E IV.png|thumb|ภาพวาดดยุคแห่งแลงคัสเตอร์ขณะกำลังร่วมรับประทานมื้อเย็นกับกษัตริย์แห่งโปรตุเกส]]
พระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยา พระบิดาของกอนส์ตันซาถูก[[พระเจ้าเอนริเกที่ 2 แห่งกัสติยา|เอนริเกแห่งกัสติยา]] พระอนุชาต่างมารดาฆาตกรรมและได้แย่งชิงบัลลังก์ที่กอนส์ตันซา พระธิดาคนโตของพระเจ้าเปโดรเป็นทายาทโดยชอบธรรม จอห์นได้เข้าไปพัวพันกับการสู้รบใน[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] เนื่องจากตามกฎของสเปนสามีของทายาทหญิงในบัลลังก์ถือเป็นกษัตริย์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ในปี ค.ศ. 1386 จอห์นได้ออกเดินทางจากอังกฤษไปอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์กัสติยาซึ่งเป็นสิทธิ์โดยชอบธรรมของภรรยา ทรงจับมือเป็นพันธมิตรกับพระเจ้าฌูเอาที่ 1 แห่งโปรตุเกสที่สมรสกับธิดาคนหนึ่งของพระองค์และนำทัพออกทำศึกกับ[[พระเจ้าฆวนที่ 1 แห่งกัสติยา]] พระโอรสที่สืบทอดบัลลังก์ต่อจากพระเจ้าเอนริเกที่ 2 ทว่าความพยายามของจอห์นไม่ประสบความสำเร็จ สุดท้ายในปี ค.ศ. 1388 พระองค์ได้ทำข้อตกลงสันติภาพโดยยกการอ้างสิทธิ์ให้เป็นของแคทเธอรีน ธิดาที่เกิดจากกอนส์ตันซาแห่งกัสติยาซึ่งถูกจับเธอสมรสกับ[[พระเจ้าเอนริเกที่ 3 แห่งกัสติยา]] (ขณะนั้นยังไม่เป็นกษัตริย์) อันเป็นการรวมการอ้างสิทธิ์จากทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน
 
 
ในช่วงที่จอห์นไม่อยู่ การบริหารกิจการภายในที่ผิดพลาดของพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ทำให้อังกฤษตกอยู่ในสงครามกลางเมือง เมื่อเดินทางกลับมาในปี ค.ศ. 1389 จอห์นได้เป็นคนกลางทำให้พระเจ้าริชาร์ดกับกลุ่มลอร์ดผู้อุทธรณ์ซึ่งนำโดย[[โธมัสแห่งวูดสตอก ดยุคที่ 1 แห่งกลอสเตอร์|ธอมัสแห่งวูดสต็อค ดยุคแห่งกลอสเตอร์]] พระอนุชาของพระองค์ประนีประนอมกัน นำไปสู่ยุคแห่งเสถียรภาพ สี่เดือนหลังกลับมาอังกฤษ พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ได้แต่งตั้งจอห์นเป็นดยุคแห่งอากีแตนในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1390
<br />
 
== การสมรสครั้งที่สามและบั้นปลายชีวิต ==
วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1394 กอนส์ตันซาแห่งกัสติยาได้สิ้นพระชนม์ที่ปราสาทเลสเตอร์ ร่างของพระนางถูกฝังที่วิหารเนอวาร์คใน[[เลสเตอร์]] ในช่วงที่พระนางยังมีชีวิตจอห์นได้มีบุตรนอกสมรสสี่คนกับ[[แคทเธอรีน สวีนฟอร์ด]] สนมลับซึ่งเป็นธิดาของเซอร์เพน โรเอ็ตกับภรรยาม่ายของอัศวินฮิวจ์ สวีนฟอร์ด แคทเธอรีนได้เข้ามาอยู่ในครัวเรือนของจอห์นในฐานะพี่เลี้ยงของฟิลิปปากับเอลิซาเบธแห่งแลงคัสเตอร์ ธิดาของจอห์นที่เกิดจากชายาคนแรก ฟิลิปปา เดอ โรเอ็ต น้องสาวของแคทเธอรีนเป็นนางกำนัลในครัวเรือนของพระราชินีฟิลิปปาและได้สมรสกับ[[เจฟฟรีย์ ชอเซอร์]] กวีที่ต่อมาจอห์นได้ให้การอุปถัมภ์
 
[[ไฟล์:Tomb John of Gaunt and Blanche of Lancaster.jpg|thumb|ภาพหลุมฝังศพของจอห์นแห่งกอนท์กับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์อนต์กับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ วาดโดยเวนซ์สลาส ฮอลลาร์ ปี ค.ศ. 1658]]
 
วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1394 กอนส์ตันซาแห่งกัสติยาได้สิ้นพระชนม์ที่ปราสาทเลสเตอร์ ร่างของพระนางถูกฝังที่วิหารเนอวาร์คใน[[เลสเตอร์]] ในช่วงที่พระนางยังมีชีวิตจอห์นได้มีบุตรนอกสมรสสี่คนกับ[[แคทเธอรีน สวีนฟอร์ด]] สนมลับซึ่งเป็นธิดาของเซอร์เพน โรเอ็ตกับภรรยาม่ายของอัศวินฮิวจ์ สวีนฟอร์ด แคทเธอรีนได้เข้ามาอยู่ในครัวเรือนของจอห์นในฐานะพี่เลี้ยงของฟิลิปปากับเอลิซาเบธแห่งแลงคัสเตอร์ ธิดาของจอห์นที่เกิดจากชายาคนแรก ฟิลิปปา เดอ โรเอ็ต น้องสาวของแคทเธอรีนเป็นนางกำนัลในครัวเรือนของพระราชินีฟิลิปปาและได้สมรสกับ[[เจฟฟรีย์ ชอเซอร์]] กวีที่ต่อมาจอห์นได้ให้การอุปถัมภ์
<br />
[[ไฟล์:Tomb John of Gaunt and Blanche of Lancaster.jpg|thumb|ภาพหลุมฝังศพของจอห์นแห่งกอนท์กับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ วาดโดยเวนซ์สลาส ฮอลลาร์ ปี ค.ศ. 1658]]
ปี ค.ศ. 1396 จอห์นได้สมรสกับแคทเธอรีน สวีนฟอร์ดที่[[อาสนวิหารลิงคอล์น]] พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 และศาสนจักรได้ประกาศให้บุตรนอกสมรสของแคทเธอรีนกับจอห์นเป็นบุตรตามกฎหมายแต่ตัดสิทธิ์ไม่ให้สืบทอดบัลลังก์ บุตรของทั้งคู่ได้ใช้นามสกุลโบฟอร์ตซึ่งมาจากตำแหน่งลอร์ดแห่งบูฟอต์ (หรือโบฟอร์ตในภาษาอังกฤษ) ของจอห์นใน[[จังหวัดช็องปาญ|ช็องปาญ]] ราชอาณาจักรฝรั่งเศส โดยบุตรแต่ละคนต่างของทั้งคู่มีบทบาทสำคัญในการเมืองของคริสตศตวรรษที่ 15 ได้แก่
 
เส้น 100 ⟶ 77:
# เฮนรี โบฟอร์ต (เกิด ค.ศ. 1375) เป็นพระคาร์ดินัล
# ธอมัส โบฟอร์ต (เกิด ค.ศ. 1377) ดยุคแห่งเอ็กซิเตอร์
# โจแอน โบฟอร์ด (เกิด ค.ศ. 1379) เคานเตสแห่งเวสต์มอร์แลนด์จากการสมรสกับราล์ฟ เนวิลล์ และเป็นบรรพบุรุษของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 กับพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งราชวงศ์ยอร์คยอร์ก
 
 
ปี ค.ศ. 1397 พระเจ้าริชาร์ดเอาคืนกลุ่มลอร์ดผู้อุทธรณ์ ธอมัส ดยุคแห่งกลอสเตอร์ พระอนุชาของจอห์นถูกจองจำในกาแลเพื่อรอการพิจารณาคดีในข้อหาทรยศต่อชาติ ต่อมาพระองค์ถูกฆาตกรรมตามคำสั่งของพระเจ้าริชาร์ด หลานชาย (ลูกของพี่น้อง) ของพระองค์เอง ปี ค.ศ. 1398 พระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ได้ขับไล่เฮนรีแห่งโบลิงโบรก บุตรชายคนโตของจอห์นออกจากประเทศ
 
จอห์นแห่งกอนท์อนต์ได้สิ้นพระชนม์ที่ปราสาทเลสเตอร์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1399 ด้วยวัย 58 พรรษา ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างกับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ ชายาคนแรกในตำแหน่งของคณะประสานเสียงที่อาสนวิหารเซนต์ปอล รูปแกะสลักหลุมฝังศพของทั้งคู่จับมือกัน สองวันหลังพิธีศพของจอห์นแห่งกอนท์อนต์ พระเจ้าริชาร์ดได้ประกาศเนรเทศเฮนรีแห่งโบลิงโบรกตลอดชีวิต ทรงตัดสิทธิ์ในการสืบทอดมรดกของลูกพี่ลูกน้องและทรัพย์สินที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลของจอห์นแห่งกอนท์อนต์เข้าราชบัลลังก์ ภายหลังเฮนรี โบลิงโบรกได้ล้มล้างบัลลังก์และขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์แลงคัสเตอร์
 
จอห์นแห่งกอนท์ได้สิ้นพระชนม์ที่ปราสาทเลสเตอร์ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1399 ด้วยวัย 58 พรรษา ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างกับบลานช์แห่งแลงคัสเตอร์ ชายาคนแรกในตำแหน่งของคณะประสานเสียงที่อาสนวิหารเซนต์ปอล รูปแกะสลักหลุมฝังศพของทั้งคู่จับมือกัน สองวันหลังพิธีศพของจอห์นแห่งกอนท์ พระเจ้าริชาร์ดได้ประกาศเนรเทศเฮนรีแห่งโบลิงโบรกตลอดชีวิต ทรงตัดสิทธิ์ในการสืบทอดมรดกของลูกพี่ลูกน้องและทรัพย์สินที่ดินอันกว้างใหญ่ไพศาลของจอห์นแห่งกอนท์เข้าราชบัลลังก์ ภายหลังเฮนรี โบลิงโบรกได้ล้มล้างบัลลังก์และขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์แลงคัสเตอร์
<br />
== อ้างอิง ==
 
เส้น 114 ⟶ 89:
 
== ดูเพิ่ม ==
* [[ราชวงศ์แลงคาสเตอร์คัสเตอร์]]
* [[ราชวงศ์แพลนทาเจเน็ท]]
* [[สงครามดอกกุหลาบ]]
เส้น 121 ⟶ 96:
[[หมวดหมู่:บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 1883]]
[[หมวดหมู่:ดยุกแห่งแลงคัสเตอร์|2]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์แลงคัสเตอร์|จอห์นแห่งกอนท์อนต์]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์แพลนแทเจเนต|จอห์นแห่งกอนท์อนต์]]
[[หมวดหมู่:ขุนนางอังกฤษ]]