ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แคทรินแห่งแลงคัสเตอร์"

{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์|ชื่อ=แคทเธอรีนแห่งแลงคัสเตอร์|ภาพ=ภาพ:Catalina-de-Lancaster.jpg|ภาพกว้าง=200px|พระอิสริยยศ=พระราชินีคู่สมรสแห่งกัสติยาและเลออน|ครองราชย์=ค.ศ. 1393–1406|พระราชสมภพ=31 มีนาคม ค.ศ. 1373|พระราชสมภพที่=ปราสาทฮาร์ทฟอร์ดในฮาร์ตฟอร์ดใน[[ฮาร์ตฟอร์ดเชอร์]]|สิ้นพระชนม์=2 มิถุนายน ค.ศ. 1418 (45 พรรษา)|สิ้นพระชนม์ที่=[[บายาโดลิด]]ในกัสติยาและเลออน|ฝังศพ=อาสนวิหารโตเลโด [[แคว้นกัสติยา-ลามันชา]]|พระสวามี=[[พระเจ้าเอนริเกที่ 3 แห่งกัสติยา]]|พระโอรส/ธิดา=[[พระเจ้าฆวนที่ 2 แห่งกัสติยา]]<br>กาตาลินา ดัชเชสแห่งบีบิเยนา<br>[[มารีริอาแห่งกัสติยา สมเด็จพระราชินีแห่งอารากอน]]|ราชวงศ์=แลงคัสเตอร์|พระบิดา=[[จอห์นแห่งกอนต์ ดยุกที่ 1 แห่งแลงแคสเตอร์]]|พระมารดา=[[กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา ดัชเชสแห่งแลงคัสเตอร์]]}}

'''แคทเธอรีนแห่งแลงคัสเตอร์''' ({{Lang-en|Catherine of Lancaster}}) หรือ '''แคทเธอรีน แพลนทาเจเนต''' ({{Lang-en|Catherine Plantagenet}}) เป็นธิดาของ[[จอห์นแห่งกอนต์ ดยุกที่ 1 แห่งแลงแคสเตอร์|จอห์นแห่งกอนท์อนต์ ดยุคที่ 1 แห่งแลงคัสเตอร์]]กับ[[กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา ดัชเชสแห่งแลงคัสเตอร์|กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา]] ชายาคนที่สอง ทรงเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันกับ[[โจแอน โบฟอร์ต เคานเตสแห่งเวสต์มอร์แลนด์เคาน์เตสแห่งเวสต์มอร์แลนด์|โจแอน โบฟอร์ต]], [[พระเจ้าเฮนรีที่ 4 แห่งอังกฤษ]] และ[[ฟิลิปปาแห่งแลงคาสเตอร์ สมเด็จพระราชินีแห่งโปรตุเกส|ฟิลิปปาแห่งแลงคัสเตอร์]] พระองค์อภิเษกสมรสกับ[[พระเจ้าเอนริเกที่ 3 แห่งกัสติยา]]และเลออน และเป็นพระมารดาของ[[พระเจ้าฆวนที่ 2 แห่งกัสติยา]]

แคทเธอรีนแห่งแลงคัสเตอร์เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1373 ที่ปราสาทฮาร์ทฟอร์ดฮาร์ตฟอร์ด ทรงเป็นธิดาบิดาของพระนางคือ[[จอห์นแห่งกอนต์ ดยุกที่ 1 แห่งแลงแคสเตอร์|จอห์นแห่งกอนท์อนต์ ดยุคแห่งแลงคัสเตอร์]]ซึ่งพระโอรสที่มีชีวิตรอดคนที่สามของ[[พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ]]กับ[[ฟิลิปปาฟีลิปแห่งเฮนอลต์แอโน|พระราชินีฟิลิปปาฟีลิปแห่งแอโนต์โน]] ส่วนมารดาของพระองค์พระนางคือ[[กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา ดัชเชสแห่งแลงคัสเตอร์|กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา]] ชายาคนที่สองของจอห์นแห่งกอนท์ซึ่งอนต์ และเป็นพระธิดาของ[[พระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยา|พระเจ้าเปโดรผู้โหดเหี้ยมแห่งกัสติยา]]กับ[[มารีริอา เด ปาดียาดิยา]] จอห์นแห่นกอนท์กับกอนส์งกอนต์กับกอนส์ตันซามีบุตรชายอีกหนึ่งคนชื่อว่าจอห์นซึ่งเสียชีวิตในวัยทารก แคทเธอรีนถูกได้รับการบรรยายไว้ว่ามีผิวสีขาวและดวงตาสีฟ้า ผมของพระองค์พระนางมีสีที่ก้ำกึ่งอยู่ระหว่างสีบลอนด์แดงกับสีน้ำตาลแดง

กอนส์ตันซาแห่งกัสติยา มารดาของแคทเธอรีนเป็นพระธิดาคนโตและทายาทของพระเจ้าเปโดรแห่งกัสติยาที่ไม่มีทายาทชายไว้สืบทอดบัลลังก์ พระเจ้าเปโดรถูก[[พระเจ้าเอนริเกที่ 2 แห่งกัสติยา|เอนริเกแห่งตรัสตราตามารา]] พระอนุชาต่างมารดาซึ่งเป็นบุตรชายนอกสมรสของ[[พระเจ้าอัลฟอลโซที่อัลฟอนโซที่ 11 แห่งกัสติยา]]สังหารและยึดสิทธิ์ขึ้นครองบัลลังก์เป็นพระเจ้าเอนริเกที่ 2 จอห์นแห่งกอนท์อนต์ได้แสดงสิทธิ์ในกัสติยาและเลออนตามสิทธิ์ของภรรยาและยื่นมือเข้าไปแย่งชิงบัลลังก์กัสติยา ต่อมาเมื่อพระเจ้าเอนริเกที่ 2 สิ้นพระชนม์ในวันที่ 29 พฤษภาคม ค.ศ. 1379 ผู้ที่ขึ้นมาสืบทอดบัลลังก์กัสติยาต่อจากพระองค์คือ[[พระเจ้าฆวนที่ 1 แห่งกัสติยา|พระเจ้าฆวนที่ 1]] พระโอรส

[[ไฟล์:Dukeoflancaster.jpg|left|thumb|ภาพการยอมจำนนต่อจอห์นแห่งกอนท์ของซันเตียอนต์ของซานเตียโกเดโกมโปสเตลาเดกอมโปสเตลา หญิงสาวที่นั่งอยู่บนหลังม้าคือแคทเธอรีนแห่งแลงคัสเตอร์]]

จอห์นแห่งกอนท์อนต์ได้วางแผนการหลากหลายวิธีในการรุกรานกัสติยาเพื่ออ้างสิทธิ์ในบัลลังก์ กระทั่งในปี ค.ศ. 1386 พระองค์ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ[[พระเจ้าฌูเอาที่ 1 แห่งโปรตุเกส]]และทำการยกทัพขึ้นฝั่งใน[[คาบสมุทรไอบีเรีย]] วันที่ 9 กรกฎาคม ค.ศ. 1386 จอห์นแห่งกอนท์กับกอนส์อนต์กับกอนส์ตันซาพร้อมด้วยกองเรือแองโกลอังกฤษ-โปรตุเกสขนาดใหญ่ล่องเรือออกจากอังกฤษไปขึ้นฝั่งที่[[อาโกรุญญา]]ทางตอนเหนือของสเปนในวันที่ 29 กรกฎาคม โดยแคทเธอรีนได้ร่วมเดินทางไปสเปนพร้อมกับบิดามารดาด้วย

ตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงเดือนตุลาคม จอห์นแห่งกอนต์ได้ตั้งราชสำนักและสำนักงานสถานทูตขึ้นใน[[โอเรนเซโอว์แรนเซ]]และได้รับการสวามิภักดิ์จากขุนนางกาลิเซียและเมืองส่วนใหญ่ในกาลิเซีย จอห์นมีความหวังว่าจะทำสงครามเอาชนะชาวกัสติยาได้แต่พระองค์ก็ไม่รีบร้อนที่จะทำสงครามจนส่งผลให้ต้องเสียทรัพย์จำนวนมากเป็นค่าใช้จ่ายในกองทัพ ในเดือนพฤศจิกายน พระองค์ได้พบปะกับพระเจ้าฌูเอาที่ 1 แห่งโปรตุเกสและได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการลงมือรุกรานกัสติยาตอนกลางในช่วงต้นปี ค.ศ. 1387 ข้อตกลงถูกได้รับการผนึกความแน่นแฟ้นด้วยการสมรสของพระเจ้าฌูเอาที่ 1 กับฟิลิปปาแห่งแลงคัสเตอร์ ธิดาของจอห์นที่มีกับ[[บลานช์แห่งแลงคัสเตอร์]] ชายาคนแรก

ทว่าทหารหลายคนของจอห์นเริ่มล้มป่วย เมื่อการรุกรานเริ่มต้นขึ้นอังกฤษจึงมีทหารจำนวนน้อยกว่าโปรตุเกสชาติพันธมิตร การสู้รบที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1387 ประสบความล้มเหลว ขณะเดียวกันกองทัพแองโกลอังกฤษ-โปรตุเกสได้ถูกก่อกวนโดยทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศสของพระเจ้าฆวนแห่งกัสติยา ทหารอังกฤษส่วนหนึ่งเสียชีวิตจากโรคร้ายและความเหนื่อยล้า ขณะที่อีกส่วนหนึ่งได้ทิ้งกองทัพหนีไป

จอห์นตัดสินใจรับข้อเสนอยุติความขัดแย้งจากพระเจ้าฆวนที่ 1 แห่งกัสติยาที่เสนอให้ธิดาของพระองค์สมรสกับ[[พระเจ้าเอนริเกที่ 3 แห่งกัสติยา|อินฟันเตเอนริเก]] พระโอรสของพระเจ้าฆวน เงื่อนไขข้อหนึ่งในข้อตกลงกำหนดให้กอนส์ตันซาแห่งกัสติยาสละการอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์กัสติยารวมถึงสินเดิมติดตัวอย่างเมืองโซเรีย, เมืองอัลมาซานอัลมาซัน, เมืองอาเตียซาติเอนซา, เมืองเดซา และเมืองโมลินา ข้อตกลงได้รับข้อสรุปในวันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1388 ที่เมือง[[บายอน]]ใน[[กัสกอญ]]

แคทเธอรีนสมรสกับอินฟันเตเอนริเกแห่งกัสติยาวัย 9 พรรษาที่อาสอาสนวิหารปาเลนเซีย ต่อมาเอนริเกได้สืบทอดบัลลังก์กัสติยาหลังพระบิดาสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1390 ปี ค.ศ. 1393 พระองค์ได้รับการประกาศว่าอยู่ในวัยที่เหมาะสมแก่การปกครองประเทศ สองสามีภรรยามีพระโอรสธิดาด้วยกันสามคน คือ

# [[มารีริอาแห่งกัสติยา สมเด็จพระราชินีแห่งอารากอน|มารีริอาแห่งกัสติยา]] (ประสูติ ค.ศ. 1401) สมรสกับ[[พระเจ้าอัลฟองโซที่ 5 แห่งอารากอง|พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 5 แห่งอารากอน]]และเนเปิลส์

# กาตาลินาแห่งกัสติยา (ประสูติ ค.ศ. 1403/1406) สมรสกับอินฟันเตเอนริเกแห่งอารากอน เคานต์แห่งอัลบูร์เกร์เกและอัมปูเรียสเคานต์แห่งอัลบูร์เกร์เกและอัมปูริอัส

พระเจ้าเอนริเกที่ 3 ได้สิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1406 พินัยกรรมของพระองค์ระบุให้แคทเธอรีน พระมเหสีม่าย กับ[[พระเจ้าเฟร์นันโดที่ 1 แห่งอารากอน|อินฟันเตเฟร์นันโด]] พระอนุชาทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินร่วมกันในช่วงที่พระเจ้าฆวนที่ 2 พระโอรสวัย 2 พรรษายังอยู่ในวัยเยาว์ สิทธิ์ในการดูแลกษัตริย์น้อยตกเป็นของขุนนางสองคนคือดิเอโก โลเปซ เด สตูญญิกาและฆวนซุญญิกา และฆวน เฟร์นันเดซ เด บาลัสโก ทว่าแคทเธอรีนไม่ต้องการปล่อยให้พระโอรสตกอยู่ในการดูแลของทั้งสอง จึงได้เตรียมการตั้งรับอยู่ที่ปราสาทอัลคากาซาร์แห่งเซโกเบีย อินฟันเตเฟร์นันโดได้ช่วยเจรจาเพื่อให้แคทเธอรีนได้สิทธิ์ในการดูแลพระเจ้าฆวน

ความคิดเห็นที่ต่างกันของสองผู้สำเร็จราชการแผ่นดินทั้งสองส่งผลให้เกิดการแบ่งอาณาเขตกันปกครอง ต่อมาเมื่อ[[พระเจ้ามาร์ตีนที่มาร์ตินที่ 1 แห่งอารากอน]] พระมาตุลาของอินฟันเตเฟร์นันโดสิ้นพระชนม์โดยไร้ซึ่งทายาท พระองค์ได้สืบทอดบัลลังก์อารากอนในปี ค.ศ. 1412 แม้จะยังคงทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินร่วมในกัสติยาให้พระภาติยะน้อยต่อไป เมื่อทรงสิ้นพระชนม์ในปี ค.ศ. 1416 แคทเธอรีนได้ขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินแต่เพียงผู้เดียว

การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าเฟร์นันโดทำให้อำนาจของแคทเธอรีนลดน้อยถอยลงเมื่อศัตรูของพระเจ้าเฟรนันเฟร์นันโดไม่ต้องการการสนับสนุนของพระองค์อีกต่อไป พระองค์สละสิทธิ์ในการดูแลกษัตริย์ผู้เป็นพระโอรสหลังประสบอาการเส้นเลือดในสมองตีบ

น้ำหนักตัวของแคทเธอรีนเพิ่มขึ้นอย่างมากจนมากเกินไป อีกทั้งโรคเกาท์เกาต์และปัญหาสุขภาพอื่นๆอื่น ๆ ก็ยิ่งย่ำแย่ บันทึกช่วงบั้นปลายชีวิตของแคทเธอรีนที่เขียนโดยเฟร์นานเฟร์นัน เปเรซ เด กูซมานกุซมัน ซึ่งหลงเหลือมาจนถึงปัจจุบันเล่าว่าพระองค์ตัวสูงมากเมื่อเทียบกับผู้หญิงทั่วไปและมีขนาดตัวที่อ้วน ทรงมีผิวสีขาว เด กูกุซมานมันยังกล่าวอีกว่าทรงมีลักษณะท่าทางคล้ายคลึงกับผู้ชาย

พระราชินีแคทเธอรีนสิ้นพระชนม์ที่[[บายาโดลิด]]ในวันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1418 ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตกในวัย 45 พรรษา ร่างของพระองค์ถูกฝังเคียงข้างพระสวามีที่กาปียาเดโลสเรเยสนูเอโบสปิยาเดโลสเรเยสนูเอโบสในอาสนวิหารโตเลโด

พระเจ้าฆวนที่ 2 พระโอรสของพระองค์ได้สมรสกับ[[อีซาแบลแห่งโปรตุเกส สมเด็จพระราชินีแห่งกัสติยา|อีซาแบลแห่งโปรตุเกส]] พระนัดดาของฟิลิปปาแห่งแลงคัสเตอร์ พระเชษฐภคินีต่างมารดาของแคทเธอรีน ทั้งคู่มีพระธิดาคือ[[สมเด็จพระราชินีนาถอีซาแบลที่อิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยา]] ซึ่งต่อมามีพระธิดาคือ[[กาตาลินาแห่งอารากอน]] พระมเหสีคนแรกของ[[พระเจ้าเฮนรีที่ 8 แห่งอังกฤษ]]ซึ่งถูกได้รับการตั้งชื่อตามพระปัยกี (แคทเธอรีนในภาษาอังกฤษ = กาตาลินาในภาษาสเปน)