ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มารีแห่งมงเปอลีเย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Darkydury (คุย | ส่วนร่วม)
หน้าใหม่: <br />{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์|ชื่อ=มารี|พระอิสริยยศ=เลดีแห่งมง...
 
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
<br />{{กล่องข้อมูล เชื้อพระวงศ์|ชื่อ=มารี|พระอิสริยยศ=เลดีแห่งมงต์เปลลิเยร์เลดีแห่งมงเปอลีเย<br>พระราชินีคู่สมรสแห่งอารากอน|ทรงราชย์=15 มิถุนายน ค.ศ. 1204 – 21 เมษายน ค.ศ. 1213|ประสูติ=ค.ศ. 1182|สิ้นพระชนม์=21 เมษายน ค.ศ. 1213 (30–31 พรรษา)|สิ้นพระชนม์ที่=[[โรม]]|พระสวามี=แรมง จูฟเฟรย์ที่ฌอแฟรที่ 2 แห่งมาร์แซย์<br>แบร์นาด์ที่แบร์นาร์ที่ 4 แห่งกงแม็ง<br>[[พระเจ้าเปโดรที่ 2 แห่งอารากอน]]|พระโอรส/ธิดา=มาทิลดา<br>เปโตรนิยา<br>อันฟันตาซันชา<br>[[พระเจ้าไชเมที่ 1 แห่งอารากอน]]|พระบิดา=กีโยมที่ 8 แห่งมงต์เปลลิเยร์แห่งมงเปอลีเย|พระมารดา=เอฟโดเกีย กอมนินี|ภาพ=ภาพ:Pedro2 marie.jpg|ภาพกว้าง=200px|คำบรรยาย=ภาพการสมรสที่สมบูรณ์ของมารีกับพระเจ้าเปโดรที่ 2}}
 
'''มารีแห่งมงต์เปลลิเยร์แห่งมงเปอลีเย''' ({{Lang-fr|Marie de Montpellier}},; {{Lang-oc|Maria de Montpelhièr}}) เป็นเลดีแห่งมงต์เปลลิเยร์เลดีแห่งมงเปอลีเย ทรงเป็นไวน์เคานเตสแห่งมาร์แซย์ไวเคาน์เตสแห่งมาร์แซย์, เคานเตสแห่งกงแม็ง และพระราชินีแห่งอารากอนจากการสมรสสามครั้งตามลำดับ
 
== ทายาทแห่งมงเปอลีเย ==
<br />
มารีแห่งมงต์เปลลิเยร์แห่งมงเปอลีเยประสูติราวปี ค.ศ. 1182 ทรงเป็นธิดาของกีโยมที่ 8 ลอร์ดแห่งมงต์เปลิเยร์กับเอฟโดเกีย กอมนินี หลานสาว (ลูกของพี่น้อง) ของ[[จักรพรรดิมานูเอลที่ 1 โคมเนนอส|จักรพรรดิมานูอีลที่ 1 กอมนินอสแห่งจักรวรรดิไบเซนไทน์]] ทั้งคู่สมรสกันภายใต้เงื่อนไขว่าบุตรคนแรกของทั้งคู่จะได้สืบทอดตำแหน่งลอร์ดแห่งมงต์เปลลิเยร์แห่งมงเปอลีเยต่อจากกีโยม ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง มารีซึ่งเป็นบุตรคนโตของทั้งคู่จึงได้เป็นทายาทของบิดา
 
ทว่าในเดือนเมษายน ค.ศ. 1187 กีโยมที่ 8 บิดาของพระนางได้ทิ้งมารดาไปสมรสใหม่กับหญิงที่มีชื่อว่าแอนเญ็สอาแญ็สซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติของกษัตริย์แห่งอารากอน ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันแปดคนเป็นชายหกคนและหญิงสองคน แม้เอฟโดเกียจะบวชเป็นแม่ชี[[คณะเบเนดิกติน|คณะเบเนดิกต์]] แต่การสมรสครั้งที่สองของกีโยมได้ถูกประกาศให้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้พี่น้องต่างมารดาทุกคนของมารีกลายเป็นบุตรนอกสมรส มารีจึงยังคงเป็นทายาทแห่งมงต์เปลลิเยร์ต่อไปแห่งมงเปอลีเยต่อไป
== ทายาทแห่งมงต์เปลลิเยร์ ==
 
 
มารีแห่งมงต์เปลลิเยร์ประสูติราวปี ค.ศ. 1182 ทรงเป็นธิดาของกีโยมที่ 8 ลอร์ดแห่งมงต์เปลิเยร์กับเอฟโดเกีย กอมนินี หลานสาว (ลูกของพี่น้อง) ของ[[จักรพรรดิมานูเอลที่ 1 โคมเนนอส|จักรพรรดิมานูอีลที่ 1 กอมนินอสแห่งจักรวรรดิไบเซนไทน์]] ทั้งคู่สมรสกันภายใต้เงื่อนไขว่าบุตรคนแรกของทั้งคู่จะได้สืบทอดตำแหน่งลอร์ดแห่งมงต์เปลลิเยร์ต่อจากกีโยม ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง มารีซึ่งเป็นบุตรคนโตของทั้งคู่จึงได้เป็นทายาทของบิดา
 
 
ทว่าในเดือนเมษายน ค.ศ. 1187 กีโยมที่ 8 บิดาของพระนางได้ทิ้งมารดาไปสมรสใหม่กับหญิงที่มีชื่อว่าแอนเญ็สซึ่งมีศักดิ์เป็นญาติของกษัตริย์แห่งอารากอน ทั้งคู่มีบุตรด้วยกันแปดคนเป็นชายหกคนและหญิงสองคน แม้เอฟโดเกียจะบวชเป็นแม่ชี[[คณะเบเนดิกติน|คณะเบเนดิกต์]] แต่การสมรสครั้งที่สองของกีโยมได้ถูกประกาศให้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้พี่น้องต่างมารดาทุกคนของมารีกลายเป็นบุตรนอกสมรส มารีจึงยังคงเป็นทายาทแห่งมงต์เปลลิเยร์ต่อไป
<br />
 
== การสมรสทั้งสามครั้ง ==
มารีสมรสครั้งแรกตอนพระชนมายุ 10 หรือ 11 พรรษาในปี ค.ศ. 1192 กับไวส์เคานต์แรมงไวเคานต์แรมง จูฟเฟรย์ที่ฌอแฟรที่ 2 แห่งมาร์แซย์ แต่ก็กลายเป็นม่ายในปลายปีนั้น บิดากับมารดาเลี้ยงจับพระนางสมรสใหม่อีกครั้งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1197 กับเคานต์แบร์นาด์ที่เคานต์แบร์นาร์ที่ 4 แห่งกงแม็งและบังคับให้พระนางสละสิทธิ์ในมงต์เปลลิเยร์มงเปอลีเยให้กีโยม บุตรชายที่เกิดจากแอนเญ็สอาแญ็ส มารีกับแบร์นาด์แบร์นาร์มีบุตรสาวด้วยกันสองคนคือมาทิลดากับเปโตรนิยา ทว่าพระองค์มีชีวิตสมรสแบบหนึ่งสามีหลายภรรยาเนื่องจากแบร์นาด์แบร์นาร์ยังอยู่กินกับภรรยาอีกคนสอง สุดท้ายการแต่งงานของทั้งคู่ถูกประกาศให้เป็นโมฆะในปี ค.ศ. 1201 ส่งผลให้การสละสิทธิ์ในมงต์เปลลิเยร์มงเปอลีเยของพระนางเป็นโมฆะไปด้วย แม้บิดาจะไม่ยอมรับว่าพระนางเป็นทายาทและแสดงออกเหมือนกีโยมเป็นทายาทของตนก็ตาม
 
เมื่อบิดาถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1202 กีโยมที่ 9 น้องชายต่างมารดาของมารีได้ทำการยึดอำนาจ แม้พระนางจะพยายามแสดงสิทธิ์ของตนแต่ก็ไม่เป็นผล วันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1204 มารีสมรสใหม่อีกครั้งกับ[[พระเจ้าเปโดรที่ 2 แห่งอารากอน]] ในวันเดียวกันนั้นชาวเมืองมงต์เปลลิเยร์เมืองมงเปอลีเยได้ก่อปฏิวัติต่อกีโยมที่ 9 ทำให้มารีได้รับการยอมรับเป็นเลดีแห่งมงต์เปลลิเยร์เลดีแห่งมงเปอลีเย ในการสมรสครั้งที่สามพระนางมีบุตรอีกสองคน คือ ซันชา พระธิดาที่สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 1 พรรษา และไชเม พระโอรสที่ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็น[[พระเจ้าไชเมที่ 1 แห่งอารากอน|พระเจ้าไชเมที่ 1 ผู้พิชิต]] พระเจ้าเปโดรที่ 2 เป็นสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระนาง พระองค์พยายามที่จะหย่ากับพระนางเพื่อสมรสใหม่กับ[[มารีแห่งมอนแฟร์ราโต สมเด็จพระราชินีนาถแห่งเยรูซาเล็ม|มารีแห่งมอนแฟร์ราโต พระราชินีแห่งเยรูซาเล็ม]] แต่ก็ไม่อยากเสียดินแดนของมารีไปไว้ พระนางจึงต้องต่อสู้กับพระสวามี
 
แม้จะถูกทรยศครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มารีมีผู้สนับสนุนคนสำคัญที่ไว้ใจได้หนึ่งกลุ่มกับอีกหนึ่งคน คือ [[อัศวินเทมพลาร์|กลุ่มอัศวินเทมพลาร์]]และ[[สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3]] ที่เข้าข้างมารีและไม่ยินยอมให้พระเจ้าเปโดรหย่า หลังเดินทางไปหาสมเด็จพระสันตะปาปาที่โรมมารีล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ที่โรมในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1213 เป็นไปได้ว่าพระนางอาจถูกวางยาพิษ ไม่กี่เดือนต่อมาพระเจ้าเปโดรที่ 2 สิ้นพระชนม์ที่สมรภูมิมูเรต์มูว์แรในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1213 ไชเม พระโอรสคนเดียวของทั้งคู่สืบทอดตำแหน่งต่อทั้งในมงต์เปลลิเยร์มงเปอลีเยและอารากอน
มารีสมรสครั้งแรกตอนพระชนมายุ 10 หรือ 11 พรรษาในปี ค.ศ. 1192 กับไวส์เคานต์แรมง จูฟเฟรย์ที่ 2 แห่งมาร์แซย์ แต่ก็กลายเป็นม่ายในปลายปีนั้น บิดากับมารดาเลี้ยงจับพระนางสมรสใหม่อีกครั้งในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1197 กับเคานต์แบร์นาด์ที่ 4 แห่งกงแม็งและบังคับให้พระนางสละสิทธิ์ในมงต์เปลลิเยร์ให้กีโยม บุตรชายที่เกิดจากแอนเญ็ส มารีกับแบร์นาด์มีบุตรสาวด้วยกันสองคนคือมาทิลดากับเปโตรนิยา ทว่าพระองค์มีชีวิตสมรสแบบหนึ่งสามีหลายภรรยาเนื่องจากแบร์นาด์ยังอยู่กินกับภรรยาอีกคนสอง สุดท้ายการแต่งงานของทั้งคู่ถูกประกาศให้เป็นโมฆะในปี ค.ศ. 1201 ส่งผลให้การสละสิทธิ์ในมงต์เปลลิเยร์ของพระนางเป็นโมฆะไปด้วย แม้บิดาจะไม่ยอมรับว่าพระนางเป็นทายาทและแสดงออกเหมือนกีโยมเป็นทายาทของตนก็ตาม
 
 
เมื่อบิดาถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1202 กีโยมที่ 9 น้องชายต่างมารดาของมารีได้ทำการยึดอำนาจ แม้พระนางจะพยายามแสดงสิทธิ์ของตนแต่ก็ไม่เป็นผล วันที่ 15 มิถุนายน ค.ศ. 1204 มารีสมรสใหม่อีกครั้งกับ[[พระเจ้าเปโดรที่ 2 แห่งอารากอน]] ในวันเดียวกันนั้นชาวเมืองมงต์เปลลิเยร์ได้ก่อปฏิวัติต่อกีโยมที่ 9 ทำให้มารีได้รับการยอมรับเป็นเลดีแห่งมงต์เปลลิเยร์ ในการสมรสครั้งที่สามพระนางมีบุตรอีกสองคน คือ ซันชา พระธิดาที่สิ้นพระชนม์ด้วยวัยเพียง 1 พรรษา และไชเม พระโอรสที่ต่อมาขึ้นครองราชย์เป็น[[พระเจ้าไชเมที่ 1 แห่งอารากอน|พระเจ้าไชเมที่ 1 ผู้พิชิต]] พระเจ้าเปโดรที่ 2 เป็นสามีที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระนาง พระองค์พยายามที่จะหย่ากับพระนางเพื่อสมรสใหม่กับ[[มารีแห่งมอนแฟร์ราโต สมเด็จพระราชินีนาถแห่งเยรูซาเล็ม|มารีแห่งมอนแฟร์ราโต พระราชินีแห่งเยรูซาเล็ม]] แต่ก็ไม่อยากเสียดินแดนของมารีไปไว้ พระนางจึงต้องต่อสู้กับพระสวามี
 
 
แม้จะถูกทรยศครั้งแล้วครั้งเล่า แต่มารีมีผู้สนับสนุนคนสำคัญที่ไว้ใจได้หนึ่งกลุ่มกับอีกหนึ่งคน คือ [[อัศวินเทมพลาร์|กลุ่มอัศวินเทมพลาร์]]และ[[สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 3]] ที่เข้าข้างมารีและไม่ยินยอมให้พระเจ้าเปโดรหย่า หลังเดินทางไปหาสมเด็จพระสันตะปาปาที่โรมมารีล้มป่วยและสิ้นพระชนม์ที่โรมในวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 1213 เป็นไปได้ว่าพระนางอาจถูกวางยาพิษ ไม่กี่เดือนต่อมาพระเจ้าเปโดรที่ 2 สิ้นพระชนม์ที่สมรภูมิมูเรต์ในวันที่ 14 กันยายน ค.ศ. 1213 ไชเม พระโอรสคนเดียวของทั้งคู่สืบทอดตำแหน่งต่อทั้งในมงต์เปลลิเยร์และอารากอน
<br />
 
== อ้างอิง ==