ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มารีอา มิตเชลล์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
2ndoct (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560
Athikhun.suw (คุย | ส่วนร่วม)
clean up ref
บรรทัด 25:
|footnotes=
|signature=}}
<nowiki> </nowiki>'''มารีอา มิตเชลล์''' ({{lang-en|Maria Mitchell}} เกิดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1818 - 28 มิถุนายน ค.ศ. 1889) เป็น[[นักดาราศาสตร์]] หญิงชาวอเมริกัน ผู้ค้นพบ[[ดาวหาง]] ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ "[[C/1847 T1|ดาวหางมิสมิตเชลล์]]"<ref>{{cite web|url=http://www.biography.com/people/maria-mitchell-9410353|title=Maria Mitchell Biography|publisher=Biography|language=English|accessdate=January 15, 2017}}</ref>โดยการใช้[[กล้องโทรทรรศน์]] ในปี 1847 การค้นพบดาวหางทำให้เธอได้รับพระราชทานรางวัลเหรียญทองจากกษัตริย์ [[พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 แห่งเดนมาร์ก|เฟรดเดอริกที่หกแห่งเดนมาร์ก]] มารีอาเป็นนักดาราศาสตร์คนแรกชาวอเมริกัน ที่เป็นสตรี <ref>{{cite web|url=https://www.womenshistory.org/education-resources/biographies/maria-mitchell|title=Maria Mitchell|last1=|first1=|last2=|first2=|date=|work=|publisher=National Women's History Museum|accessdate=July 11, 2018}}</ref> <ref name="aps">{{cite web|url=http://www.aps.org/publications/apsnews/200610/history.cfm|title=Maria Mitchell Discovers a Comet|last1=|first1=|last2=|first2=|date=|work=This Month in Physics History|publisher=American Physical Society|accessdate=November 1, 2012}}</ref>
 
== ประวัติ ==
บรรทัด 33:
พ่อแม่ของมารีอาเป็นเหมือน[[เควกเกอร์]]คนอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับการศึกษาและยืนกรานที่จะให้มารีอาได้รับการศึกษาเหมือนกับเด็กผู้ชาย อีกทั้งมารีอาก็โชคดีที่พ่อของเธอเป็นครูในโรงเรียนของรัฐ ที่สนใจในวิชาคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์มาโดยตลอด โดยลูกๆ ของเขาทุกคนได้รับการปลูกฝังความรู้ด้าน[[ดาราศาสตร์]]<ref>Gormley, Beatrice. ''Maria Mitchell The Soul of an Astronomer'', pp 4-6. William B. Eerdmans Publishing Co, Grand Rapids, MI, (1995), {{ISBN|0-8028-5264-5}}.</ref> นอกจากนี้เกาะแนนทัคเกตยังเป็นเกาะที่สำคัญ ในการเป็นท่าเรือล่าวาฬ ทำให้เหล่าลูกเรือต้องทิ้งภรรยาของตนไว้บนเกาะเวลาที่ต้องออกทะเลเป็นระยะเวลานาน จึงทำให้ภรรยาของชาวเรือต้องจัดการ กิจการที่บ้านด้วยตนเองในขณะที่สามีอยู่ในทะเล ทำให้ผู้หญิงบนเกาะมีความเท่าเทียมและอิสระมาก
 
ในวัยเด็กมารีอาศึกษาที่โรงเรียนเอลิซาแบท การ์เนอร์ ก่อนจะย้ายมาเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมนอทแกรมมาที่พ่อของเธอเป็นครูใหญ่คนแรก สองปีหลังจากการก่อตั้งโรงเรียน ตอนที่มารีอาอายุ 11 ขวบ พ่อของเธอก็ก่อตั้งโรงเรียนของตัวเองบนถนนโฮเวิร์ด ที่นั่นเธอเป็นทั้งนักเรียนและเป็นผู้ช่วยสอนให้พ่อ<ref>''Among The Stars: The Life of Maria Mitchell''. Mill Hill Press, Nantucket, MA. 2007</ref> ที่บ้านพ่อยังสอนดาราศาสตร์ ให้มารีอาโดยใช้กล้องโทรทรรศน์ส่วนตัว<ref>{{cite web|url=http://www25.uua.org/uuhs/duub/articles/mariamitchell.html|title=Maria Mitchell|publisher=5.uua.org|date=|accessdate=August 4, 2013|deadurl=yes|archiveurl=https://web.archive.org/web/20090503131208/http://www.uua.org/uuhs/duub/articles/mariamitchell.html|archivedate=May 3, 2009|df=}}</ref> ตอนอายุ 12 ครึ่ง เธอก็สามารถช่วยพ่อคำนวณช่วงเวลาการเกิดที่แน่นอนของ[[สุริยุปราคา]] <ref> Gormley เบียทริซ ''Maria Mitchell: วิญญาณของนักดาราศาสตร์'' Eerdmans Publishing Co, MI 1995 </ref>
 
หลังจากที่โรงเรียนของพ่อปิดแล้ว หลังจากนั้นเธอก็เข้าศึกษาที่โรงเรียนเพื่อหญิงสาวของรัฐมนตรี Cyrus Peirce ซึ่งต่อมาเธอทำงานให้กับท่านรัฐมนตรีในฐานะผู้ช่วยสอน ก่อนที่จะไปเปิดโรงเรียนของตัวเองในปี 1835 โรงเรียนของมารีอาอนุญาตให้เด็กที่ไม่ใช่ผิวขาวเข้าเรียนร่วมกับเด็กผิวขาวได้ ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขึ้นเนื่องจากในขณะนั้น โรงเรียนรัฐในท้องถิ่นยังคงแยกเรียนกันอยู่<ref name="bergland">{{cite book|title=Maria Mitchell and the Sexing of Science: An Astronomer Among the American Romantics|date=2008|publisher=Beacon Press|isbn=0807021423|page=29|author=Renée L. Bergland}}</ref> หนึ่งปีต่อมาเธอก็ได้รับงานเป็นบรรณารักษ์คนแรกของห้องสมุด Nantucket Atheneum, <ref name="bergland" /> ซึ่งเธอทำงานมา 20 ปี <ref>{{cite book|title=The biographical dictionary of women in science: Vol. 2: L–Z|date=2000|publisher=Taylor & Francis|isbn=9780415920407|page=901|editor=Marilyn Bailey Ogilvie, Joy Dorothy Harvey|quote=Professional experience: Nantucket Atheneum, librarian (1836–1856)}}</ref>
[[ไฟล์:Mitchell_Maria_telescope.jpg|thumb|<span data-segmentid="91" class="cx-segment">มารีอา มิตเชลล์ (คนนั่ง) ในหอดูดาววิทยาลัยวาสซาร์ กับนักเรียนของเธอ[[Mary Watson Whitney]] (คนยืน), ''circa'' 1877<ref name="FAMOUSAMERICANS2">[[Eva March Tappan|Tappan, Eva March]], [https://books.google.com/books?id=9HMAAAAAYAAJ&printsec=frontcover ''Heroes of Progress: Stories of Successful Americans''], Houghton Mifflin Company, 1921. Cf.[https://books.google.com/books?id=9HMAAAAAYAAJ&printsec=frontcover&dq=Heroes+of+Progress:+Stories+of+Successful+Americans&hl=en&sa=X&ei=Neb5UfrlA8PC4APYv4CoBg&ved=0CDgQ6AEwAA#v=onepage&q=maria%20mitchell&f=false pp.54-60]</ref></span>]]
 
== การค้นพบดาวหางมิสมิตเชลล์ ==
ในคืนวันที่ 1 ตุลาคม 1847 เวลา 22.50 นาฬิกา มารีอาใช้[[กล้องโทรทรรศน์]]หักเห Dollond ที่มีรูรับแสง 3 นิ้ว ทางยาวโฟกัส 46 นิ้ว<ref> AJS, 2nd Ser., v. 5, 1848, p. 83, Wm มิทเชลในวันที่ 1 ตุลาคม ค.ศ. 1847 </ref><ref>Maria Mitchell, Life, Letters, and Journals, compiled by Phebe Mitchell Kendall, 1896, p. 9 & 19.</ref> ค้นพบดาวหาง 1847 VI ปัจจุบันเรียก C/1847 T1 และต่อมารู้จักในชื่อ "[[C/1847 T1|ดาวหางมิสมิตเชลล์]]"<ref>Gormley, Beatrice. ''Maria Mitchell The Soul of an Astronomer'', p 47. William B. Eerdmans Publishing Co, Grand Rapids, MI, (1995), {{ISBN|0-8028-5264-5}}.</ref> <ref>{{cite web|url=https://news.google.com/newspapers?id=8tUmAAAAIBAJ&sjid=ywIGAAAAIBAJ&pg=1284,4846286&dq=maria+mitchell+comet&hl=en|title=Miss Maria Mitchell and the King of Denmark". The National Era (newspaper), March 22, 1849|publisher=News.google.com|date=|accessdate=August 4, 2013}}</ref> การค้นพบของมิตเชลล์ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารภายใต้ชื่อพ่อของเธอ <ref>{{citeweb | url=https://en.wikipedia.org/wiki/Silliman's_Journal Silliman's Journal]></ref> ในเดือนมกราคม 1848 เดือนต่อมาเธอก็ส่งการคำนวณวงโคจรของดาวหาง เพื่อยืนยันว่าสิทธิของเธอในการเป็นผู้ค้นพบคนแรก <ref name=":1">{{Cite book|title=Maria Mitchell and the Sexing of Science|last=Bergland|first=Renée|publisher=Beacon Press|year=2008|isbn=978-0-8070-2142-2|location=Boston, MA|pages=57}}</ref> ในปีนั้นเธอได้รับการเฉลิมฉลองที่ Senaca Falls Convention สำหรับการค้นพบและการคำนวณ<ref name=":1"/>
 
เมื่อหลายปีก่อนหน้าการค้นพบดางหางของมารีอา กษัตริย์ [[พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 6 แห่งเดนมาร์ก]] ได้สร้างรางวัลเหรียญทองให้กับผู้ค้นพบ "[[ดาวหาง]]ด้วย[[กล้องโทรทรรศน์]]" (เพราะมันจางมาก จนแทบจะมองไม่เห็นด้วยได้ตาเปล่า) ทุกคน โดยรางวัลนี้จะมอบให้กับ "ผู้ค้นพบคนแรก" ของดาวหางแต่ละดวง (เพราะว่าดาวหางมักจะถูกค้นพบโดยบุคคลมากกว่าหนึ่งคน) มารีอามิตเชลล์ได้รับรางวัลเหรียญทองนี้และทำให้เธอโด่งดังไปทั่วโลก เนื่องจากมีผู้หญิงเพียงสองคนก่อนหน้านี้ที่ค้นพบ [[ดาวหาง]] คือ[[นักดาราศาสตร์]] Caroline Herschel และ Maria Margarethe Kirch การค้นพบของมารีอาและการได้การยอมรับจากรัฐบาลเดนมาร์ก ทำให้นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันได้รับการยอมรับในยุโรป ซึ่งก่อนหน้านี้นักดาราศาสตร์ชาวอเมริกันมักถูกดูถูกโดยนักดาราศาสตร์ชาวยุโรป
บรรทัด 46:
 
== ความสำเร็จด้านวิชาการ ==
มิตเชลล์และคณะเริ่มบันทึกจุดบนดวงอาทิตย์ด้วยตาในปี ค.ศ.1868 และสามารถถ่ายภาพบันทึกประจำวันได้ ในปี ค.ศ.1873 ช่วยให้สามารถเก็บบันทึกได้แม่นยำยิ่งขึ้น มันเป็นภาพถ่ายธรรมดาภาพแรกๆของดวงอาทิตย์ ที่ทำให้เธอได้รับอนุญาตให้สำรวจ และตั้งสมมติฐานว่าจุดบนดวงอาทิตย์เป็นโพรงมากกว่าที่จะเป็นเมฆลอยบนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ สำหรับสุริยุปราคาเต็มดวงในเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1878 มิทเชลและผู้ช่วยห้าคน เดินทางไปพร้อมกับกล้องโทรทรรศน์ 4 นิ้ว ไปที่เดนเวอร์เพื่อสังเกตการณ์ <ref name="Waxman_Time_2017">{{cite news|last1=Waxman|first1=Olivia|title=Think This Total Solar Eclipse Is Getting a Lot of Hype? You Should Have Seen 1878|url=http://time.com/4880606/total-solar-eclipse-history-1878/|accessdate=August 28, 2017|work=Time|date=August 18, 2017}}</ref>
 
มารีอาเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกให้เป็น สมาชิกของสถาบันเพื่อศิลปะและวิทยาศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1848<ref name="AAAS">{{cite web|title=Book of Members, 1780–2010: Chapter M|url=http://www.amacad.org/publications/BookofMembers/ChapterM.pdf|publisher=American Academy of Arts and Sciences|accessdate=July 29, 2014}}</ref> และ [[สมาคมเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์อเมริกัน|สมาคมอเมริกันเพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์]] ในปี ค.ศ. 1850 ในปี 1881 มารีอารายงานต่อสมาคมเพื่อความก้าวหน้าของสตรี แสดงความประหลาดใจว่าเหตุใดจึงไม่มีผู้หญิงคนใดได้รับเลือกเข้าสู่สถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์อเมริกันหลังจากเธอ<ref name="Kohlstedt1978">{{cite journal|last1=Kohlstedt|first1=Sally Gregory|title=Maria Mitchell: The Advancement of Women in Science.|journal=New England Quarterly|date=1978|volume=51|issue=1|pages=39–63|accessdate=}}</ref></span> <span data-segmentid="122" class="cx-segment">มิตเชลล์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้รับเลือกเข้าสู่ [[American Philosophical Society|สมาคมนักปรัชญาชาวอเมริกัน]] (ปี 1869 ที่ [[Mary Somerville|แมรี่ ซอเมอร์วิลล์]] และ [[Elizabeth Cabot Agassiz|เอลิซาเบธ คาบ๊อต Agassiz]] ได้รับการคัดเลือก) <ref>{{cite web|url=http://www.women-philosophers.com/Elizabeth-Cabot-Cary-Agassiz.html|title=Elizabeth Cabot Cary Agassiz, live and works|publisher=Women-philosophers.com|date=|accessdate=August 4, 2013}}</ref> หลังจากนั้นเธอทำงานให้กับ United States Naval Observatory คำนวณตำแหน่งของ [[ดาวศุกร์|วีนัส]] และเดินทางในยุโรปกับ [[แนแธเนียล ฮอว์ธอร์น|นาธาเนียล ฮอว์ธอร์น]] และครอบครัวของเขา
 
ในปี ค.ศ. 1865 มารีอาได้เป็นศาสตราจารย์ด้าน[[ดาราศาสตร์]]คนแรก ของวิทยาลัยวาสซาร์ เธอยังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นผู้อำนวยการของหอดูดาวแห่งวิทยาลัยวาสซาร์ ด้วยการแนะนำของมิตเชลล์ วิทยาลัยวาสซาร์มีนักเรียนลงทะเบียนเรียนในวิชาคณิตศาสตร์และดาราศาสตร์ มากกว่า[[มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด]]ตั้งแต่ปีค.ศ. 1865 ถึง ค.ศ.1888 ถึงแม้ว่าทางเลือกในการประกอบอาชีพของนักเรียนของเธอจะมีจำกัด แต่เธอก็ไม่เคยมีความสงสัยในความสำคัญของการศึกษาดาราศาสตร์เลย
บรรทัด 60:
มารีอากลายเป็นผู้มีชื่อเสียงหลังจากการค้นพบดาวหางและรางวัลของเธอ มีบทความทางหนังสือพิมพ์หลายร้อยฉบับที่เขียนเกี่ยวกับเธอในทศวรรษถัดมา<ref>{{Cite book|url=https://www.worldcat.org/oclc/180851908|title=Maria Mitchell and the sexing of science : an astronomer among the American romantics|last=1963-|first=Bergland, Renée L.,|date=2008|publisher=Beacon Press|year=|isbn=9780807021422|location=Boston|pages=74|oclc=180851908}}</ref> ที่บ้านเกิดของเธอในแนนทัคเก็ต เธอไดเต้องรับกับนักวิชาการที่มีชื่อเสียงในเวลานั้นหลายคน เช่น [[ราล์ฟ วอลโด เอเมอร์สัน|ราล์ฟ วัลโด อีเมอร์สัน]] [[เฮอร์แมน เมลวิลล์]] [[เฟรเดอริค ดักลาส]] และ [[Sojourner Truth|โซเจอร์เนอร์ ทรูท]]<ref>{{Cite book|url=https://www.worldcat.org/oclc/180851908|title=Maria Mitchell and the sexing of science : an astronomer among the American romantics|last=1963-|first=Bergland, Renée L.,|date=2008|publisher=Beacon Press|year=|isbn=9780807021422|location=Boston|pages=82|oclc=180851908}}</ref>
 
มิทเชลไม่เคยแต่งงาน ใช้ชีวิตใกล้ชิดกับครอบครัวของเธอตลอดชีวิตหลังจากที่เธอเกษียณจากวิทยาลัยวาสซาร์ในปี 1888 เธออาศัยอยู่ที่ เมืองลินน์ [[แมสซาชูเซตส์|รัฐแมสซาชูเซตส์]] กับ เคท น้องสาวและครอบครัวของเธอ <ref>{{cite book|title=Maria Mitchell: The Soul of an Astronomer|date=2004|publisher=Eerdmans Young Readers|isbn=0802852645|pages=116–118|author=Beatrice Gormley}}</ref> มีเอกสารส่วนตัวของเธอก่อนปี 1846 เหลืออยู่น้อยมากครอบครัวมิตเชลล์เชื่อว่าเธอได้เห็นเอกสารส่วนตัวของเพื่อนจากเกาะแนนทัคเก็ต ปลิวว่อนตามถนนตอนไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1846 ทำให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดไฟไหม้ขึ้นอีกครั้งเธอจึงเผาเอกสารของเธอเองเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว <ref>{{cite book|title=Maria Mitchell and the Sexing of Science: An Astronomer Among the American Romantics|date=2008|publisher=Beacon Press|isbn=978-0-8070-2142-2|page=82|author=Renée L. Bergland|quote=Great Fire of 1846 and seeing personal documents}}</ref>
 
== การระลึกถึงและสิ่งสืบเนื่อง ==
มิทเชลเสียชีวิตจากโรคทางสมองเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 1889 ที่อายุ 70 ที่เมือง[[รัฐแมสซาชูเซตส์|ลินน์ รัฐแมสซาชูเซตส์]] เธอถูกฝังที่ ช่อง 411 ใน Prospect Hill Cemetery, Nantucket <ref>{{cite web|url=http://www.prospecthillcemetery.com/home|title=Prospect Hill Cemetery, Nantucket, Massachusetts|publisher=Prospecthillcemetery.com|date=|accessdate=August 4, 2013}}</ref> <ref>{{cite web|title=Maria Mitchell - Retirement and a Return to Lynn|url=http://www.mariamitchell.org/mitchell-house/for-students/295-2/|publisher=Maria Mitchell Association|accessdate=March 29, 2012|deadurl=yes|archiveurl=https://archive.is/20120903202531/http://www.mariamitchell.org/mitchell-house/for-students/295-2/|archivedate=September 3, 2012|df=}}</ref></span> <span data-segmentid="172" class="cx-segment">[[Maria Mitchell Observatory|หอดูดาวมารีอามิตเชลล์]] ในแนนทัคเก็ตตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่เธอ <ref name="Hoffleit">{{cite journal|first=Dorrit|last=Hoffleit|title=The Maria Mitchell Observatory--For Astronomical Research and Public Enlightenment|journal=The Journal of the American Association of Variable Star Observers|volume=30|number=1|page=62|date=2001|url=http://articles.adsabs.harvard.edu/cgi-bin/nph-iarticle_query?2001JAVSO..30...62H&amp;data_type=PDF_HIGH&amp;whole_paper=YES&amp;type=PRINTER&amp;filetype=.pdf|format=pdf|bibcode=2001JAVSO..30...62H}}</ref> หอดูดาวเป็นส่วนหนึ่งของ [[Maria Mitchell Association|สมาคมมารีอามิตเชลล์]] ในแนนทัคเก็ตซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่ออนุรักษ์วิทยาศาสตร์บนเกาะ มีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ พิพิธภัณฑ์บ้านมารีอามิตเชลล์ และห้องสมุดวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงหอดูดาวนอกจากนี้ชื่อของเธอยังได้ไปอยู่ในหอเกียรติยศ [[National Women's Hall of Fame|สตรีแห่งชาติ]] และเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเดือนประวัติศาสตร์สตรีแห่งชาติเมื่อปี 1989 โดย [[National Women's History Project|โครงการประวัติศาสตร์สตรีแห่งชาติ]] <ref>{{citeweb|url=http://www.nwhp.org/biographies/|title=Biographies|publisher=National Women's History Project|date=August 1, 2017}}</ref></span> <span data-segmentid="180" class="cx-segment">ชื่อของเธอได้ถูกนำไปตั้งเป็นชื่อเรือใน [[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ชื่อ ''SS Maria Mitchell''</span> <span data-segmentid="183" class="cx-segment">[[Metro-North Railroad|รถไฟใต้ดิน]] ในนิวยอร์ก[[Metro-North Railroad|เหนือ]] (ระหว่าง ปลายสาย[[Hudson Line (Metro-North)|ฮัดสัน]] ที่สุดที่ [[Poughkeepsie, New York|โพห์คิปซี]] ใกล้วิทยาลัยวาสซาร์) มีรถไฟชื่อ Maria Mitchell Comet เพื่อเป็นเกียรติแด่เธอ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2013 เครื่องมือค้นหาของ Google ให้เกียรติ Maria Mitchell โดย Google Doodle แสดงเธอในรูปแบบการ์ตูนบนหลังคามองผ่านกล้องโทรทรรศน์เพื่อค้นหาดาวหาง<ref>{{cite web|url=https://www.google.com/doodles/maria-mitchells-195th-birthday|title=Maria Mitchell's 195th Birthday|publisher=Google.com|date=|accessdate=May 29, 2014}}</ref><ref>{{cite news|title=Google doodle: Maria Mitchell, first pro female astronomer in U.S.|last=Khan|first=Amina|url=http://www.latimes.com/news/science/sciencenow/la-sci-sn-maria-mitchell-google-doodle-comet-birthday-20130801,0,1578724.story|publisher=[[Los Angeles Times]]|date=August 1, 2013|accessdate=August 12, 2013}}</ref> <ref>{{cite news|title=Google Doodle honors Maria Mitchell, first American female astronomer (+video)|last=Barber|first=Elizabeth|url=http://www.csmonitor.com/Science/2013/0801/Google-Doodle-honors-Maria-Mitchell-first-American-female-astronomer-video|publisher=[[The Christian Science Monitor]]|date=August 1, 2013|accessdate=August 12, 2013}}</ref>
 
== อ้างอิง ==