ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไข้เหลือง"

ไวรัสไข้เหลืองมีขนาด 40-50 [[นาโนเมตร]] เป็น[[ไวรัส]]ชนิด[[อาร์เอ็นเอไวรัส]][[Sense (molecular biology)|เซนส์]]บวก มีปลอกหุ้ม อยู่ใน[[Family (biology)|แฟมิลี]][[Flaviviridae|ฟลาวิไวริดี]] ติดต่อผ่านทางการถูก[[ยุง]]ตัวเมียที่มีเชื้อกัด อาจเป็นยุงไข้เหลือง [[ยุงลาย]] หรือยุงอื่นๆอื่น ๆ บางชนิด พบในพื้นที่[[เขตร้อน]]ของ[[ทวีปอเมริกาใต้]]และ[[ทวีปแอฟริกา]]และ[[Subtropics|พื้นที่ข้างเคียง]] แต่ไม่พบใน[[ทวีปเอเชีย]] โฮสต์ของไวรัสไข้เหลืองคือลิง[[ไพรเมท]]รวมถึง[[มนุษย์]]และยุงบางชนิด เชื่อว่าโรคนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่แอฟริกา ระบาดมายังอเมริกาใต้พร้อมกับ[[การค้าทาส]]ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ต่อมาในศตวรรษที่ 17 เริ่มมีบันทึก[[การระบาดครั้งใหญ่]]หลายครั้งในอเมริกา แอฟริกา และ[[ยุโรป]] จนในศตวรรษที่ 19 ไข้เหลืองก็ถูกยกระดับเป็น[[โรคติดต่อ]]ที่อันตรายที่สุดโรคหนึ่ง

[[วัคซีน]]ไข้เหลืองที่ปลอดภัยและใช้ได้ผลนั้นผลิตสำเร็จตั้งแต่กลางศตวรรษที่ 20 บางประเทศยังกำหนดให้นักท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนนี้ก่อนเข้าประเทศ เนื่องจากเป็นโรคที่ยังไม่มีวิธีการรักษาจำเพาะจึงมีความจำเป็นต้องจัดให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงได้มีโอกาสเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง พร้อมๆพร้อม ๆ กับลดจำนวนยุงและลดโอกาสถูกยุงกัด ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา จำนวนผู้ป่วยไข้เหลืองเริ่มเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง จึงจัดอยู่ในกลุ่ม''โรคอุบัติซ้ำ'' (re-emerging disease) เชื่อว่าเป็นผลจากสภาพสังคมและสงครามในหลายๆ ประเทศในแอฟริกา