ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหมียว เฉียวเหว่ย์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
True009 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
True009 (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 52:
(Pet and Pest 1986), [[กระบี่มังกรหยก]] (The Dragon Sword 1987) และ [[เดชเซียวฮื้อยี้]]ฉบับ [[เหลียงเฉาเหว่ย]] นำแสดง (Two Most Honorable Knights 1988) เพราะเนื่องจากเขาเซ็นสัญญารับงานละครปีต่อปีและได้รับงานแสดงทางด้านภาพยนตร์ไปด้วย ทำให้ความนิยมในตัวเขาค่อย ๆ ลดลงไปเพราะผลงานภาพยนตร์เหล่านั้น ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
 
และในช่วงปีพ.ศ. 2530 เหมียวเฉียวเหว่ย ได้เปิดธุรกิจแว่นตา ที่ทำร่วมกับครอบครัวของแฟนสาว "[[ชี เหม่ยเจิน]]" และยังโดยมียี่ห้อแว่นตาเป็นของตัวเองภายใต้ชื่อว่า '''เอ็มสามบีกิน''' (M3Begin) จนกระทั่งกลางปีพ.ศ. 2531 หลังหมดสัญญากับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี เขาตัดสินใจลาออกจากวงการละครเพื่อไปทุ่มเทให้กับธุรกิจอย่างเต็มที่ แต่ยังคงรับงานแสดงภาพยนตร์บ้างประปราย และในปลายปีพ.ศ. 2533 เขาตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับแฟนสาว ชีเหม่ยเจิน ที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันมานานกว่า 8 ปี และในปีพ.ศ. 2539 เขาก็ประกาศหันหลังให้กับวงการภาพยนตร์ ซึ่งเขาเองก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในวงการจอเงินเท่าใดนัก แต่อย่างไรก็ตามทางด้านธุรกิจแว่นตาของเขากลับประสบความสำเร็จรุ่งเรืองมากมายในเวลาต่อมาและมีการขยายสาขาน้อยใหญ่ทั้งในฮ่องกงและต่างประเทศ จนทำให้เขากลายเป็นเศรษฐีผู้ร่ำรวยมากคนหนึ่ง ส่วนชีวิตทางด้านครอบครัวก็มีความสุขและอบอุ่น ทั้งเหมียวเฉียวเหว่ยและภรรยาถือได้ว่าเป็นคู่รักดาราที่น่าอิจฉาคู่หนึ่งในวงการบันเทิงฮ่องกง และเขาเองก็ยังเป็นพ่อของลูก 2 คนซึ่งเป็นชายและหญิง อีกด้วย
 
ในปีพ.ศ. 2545 ครอบครัวของเขาได้ตัดสินใจเซ้งธุรกิจแว่นตาให้ชาว[[ออสเตรเลีย]] แล้วตัวเขาก็กลับเข้าวงการอีกครั้งในปีพ.ศ. 2547 มาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้ว่าจะหมดยุคทองของเขาไปนานแล้วก็ตาม