ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระราชวังต้องห้าม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 72:
[[ไฟล์:Die_Gartenlaube_(1853)_b_445.jpg|thumb|left|upright|ภาพวาดพระราชวังต้องห้ามในหนังสือเยอรมัน ''The Garden Arbor'' (ค.ศ. 1853)]]
 
เมื่อ[[จักรพรรดิหย่งเล่อ|องค์ชายจูตี้]] พระราชโอรสใน[[จักรพรรดิหงอู่|สมเด็จพระจักรพรรดิหงอู่]]เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ[[จักรพรรดิหย่งเล่อ|สมเด็จพระจักรพรรดิหย่งเล่อ]]แล้ว พระองค์ทรงโปรดให้ย้ายเมืองหลวงจากหนานจิงไปยังปักกิ่ง การก่อสร้างพระราชวังหลวงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ [[พ.ศ. 1949]] และต่อมาจึงกลายมาเป็นพระราชวังต้องห้าม<ref name="Yu 18">p. 18, {{cite book|last=Yu|first=Zhuoyun|title=Palaces of the Forbidden City|year=1984|publisher=Viking|location=New York|isbn=0-670-53721-7}}</ref>
 
การก่อสร้างดำเนินไปเป็นระยะเวลา 14 ปี และใช้กรรมกรมากกว่าหนึ่งล้านคน<ref name="Yang 15">p. 15, {{cite book|last=Yang|first=Xiagui|others=Li, Shaobai (photography); Chen, Huang (translation)|title=The Invisible Palace|year=2003|publisher=Foreign Language Press|location=Beijing|isbn=7-119-03432-4}}</ref> วัสดุที่ถูกนำมาใช้ ประกอบด้วย ท่อนไม้ชั้นเยี่ยมจากไม้ ''Phoebe zhennan'' ({{zh|c={{linktext|楠木}}|p=nánmù}}) ซึ่งพบได้ทางป่าด้านตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และหินอ่อนขนาดใหญ่จากเหมืองใกล้กับปักกิ่ง<ref name="CCTV">{{cite video|people=China Central Television, The Palace Museum|date=2005|url=http://www.cctv.com/history/special/C15041/01/index.shtml|title=Gugong: "I. Building the Forbidden City"|medium=Documentary|location=China|publisher=CCTV}}</ref> พื้นของตำหนักส่วนใหญ่ถูกปูด้วย "อิฐทองคำ" ({{zh|c={{linktext|金|砖}}|p=jīnzhuān}}) ซึ่งเป็นอิฐเผาพิเศษจาก[[ซูโจว]]<ref name="Yang 15"/>
บรรทัด 78:
ตั้งแต่ [[พ.ศ. 1963]] ถึง [[พ.ศ. 2187]] พระราชวังต้องห้ามเป็นศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์หมิง ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2187 พระราชวังแห่งนี้ถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฎที่นำโดย[[หลี่ จื้อเฉิง]] โดยเขาประกาศตัวเองเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่ง[[ราชวงศ์ชุน]]<ref>p. 69, Yang (2003)</ref> แต่ไม่ช้าเขาก็ต้องลี้ภัยออกจากพระราชวังต้องห้ามไปก่อนที่กองทัพซึ่งเป็นกองผสมของอดีตผู้บัญชาการอู่ ซานกุ่ยแห่งราชวงศ์หมิงและกองกำลังแมนจู จะเข้ายึดชิงบางส่วนของพระราชวังต้องห้ามคืน<ref>p. 3734, {{cite book|last=Wu|first=Han|authorlink=Wu Han (PRC)|title=朝鲜李朝实录中的中国史料 (Chinese historical material in the Annals of the Joseon Yi dynasty)|year=1980|publisher=Zhonghua Book Company|location=Beijing|id=CN / D829.312}}</ref>
 
ต่อมาในเดือนตุลาคม กองกำลังแมนจูประสบความสำเร็จอย่างสูงในภาคเหนือของจีน และมีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกขึ้นที่พระราชวังต้องห้าม ในการประกาศการเสวยราชย์ของ[[จักรพรรดิซุ่นจื้อ|สมเด็จพระจักรพรรดิซุ่นจื้อ]]ในฐานะทรงปกครองแผ่นดินจีนทั้งหมดภายใต้[[ราชวงศ์ชิง]]<ref>{{cite news|first=Muoruo|last=Guo|authorlink=Guo Moruo|title=甲申三百年祭 (Commemorating 300th anniversary of the Jia-Sheng Year)|work=New China Daily|date=1944-03-20|language=Chinese}}</ref> ราชสำนักชิงมีการเปลี่ยนแปลงชื่อพระตำหนักบางหลังองค์เพื่อเน้น "ความสามัคคี" มากกว่า "ความยิ่งใหญ่"<ref name="CCTV2"/> สร้าง[[ป้ายชื่อ]]สองภาษา (ภาษาจีนและ[[ภาษาแมนจู]])<ref>{{cite news|title=故宫外朝宫殿为何无满文? (Why is there no Manchu on the halls of the Outer Court?) |url=http://ha.people.com.cn/news/2006/06/16/109613.htm |work=People Net |date=2006-06-16 |accessdate=2007-07-12 |language=Chinese |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20081201185034/http://ha.people.com.cn/news/2006/06/16/109613.htm |archivedate=1 December 2008 |df=dmy }}</ref> และได้นำองค์ประกอบ[[เชมัน]]เข้าสู่พระราชวัง<ref>{{cite web|url=http://125.35.3.4/China/phoweb/BuildingPage/1/B488.htm |title=坤宁宫 (Palace of Earthly Tranquility) |accessdate=2007-07-12 |author=Zhou Suqin |publisher=The Palace Museum |language=Chinese |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20070929095215/http://125.35.3.4/China/phoweb/BuildingPage/1/B488.htm |archivedate=29 September 2007 |df=dmy }}</ref>
 
ในปี พ.ศ. 2403 ระหว่าง[[สงครามฝิ่นครั้งที่สอง]] กองกำลังแองโกล-เฟรนซ์ได้เข้ามายึดครองพระราชวังต้องห้ามและครองไว้จนสิ้นสุดสงคราม<ref name="CCTV11">{{cite video|people=China Central Television, The Palace Museum|date=2005|url=http://www.cctv.com/history/special/C15041/01/index.shtml|title=Gugong: "XI. Flight of the National Treasures"|medium=Documentary|location=China|publisher=CCTV}}</ref> ในปี พ.ศ. 2443 [[พระพันปีฉือสี่]]ทรงลี้ภัยออกจากพระราชวังต้องห้ามในช่วงที่เกิด[[กบฏนักมวย]] และทรงปล่อยให้พระราชวังต้องห้ามถูกยึดครองโดยกองกำลังตามอำนาจในสนธิสัญญาจนถึงปีถัดมา<ref name="CCTV11"/>
บรรทัด 84:
[[ไฟล์:Forbiddencity notopen06.JPG|thumb|ประตูตงหวาเหมินที่ถูกบูรณะปฏิสังขรณ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการการบูรณะ 16 ปี]]
 
หลังจากที่พระราชวังต้องห้ามแห่งนี้เป็นที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิ 24 พระองค์ ในจำนวนนั้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์หมิง 14 พระองค์ และราชวงศ์ชิง 10 พระองค์ พระราชวังต้องห้ามถูกยุติการเป็นศูนย์กลางทางการเมืองของประเทศจีนลงในปี พ.ศ. 2455 พร้อมกับการสละราชสมบัติของสมเด็จพระ[[จักรพรรดิผู่อี๋|สมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋]] จักรพรรดิองค์พระองค์สุดท้ายแห่งมหาจักรวรรดิจีน จากข้อตกลงกับรัฐบาลสาธารณรัฐจีนใหม่ อดีตสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋จะยังคงพำนักทรงประทับอยู่ภายในเขตพระราชฐานชั้นในได้ ในขณะที่เขตพระราชฐานชั้นนอกนั้นยกให้ใช้เป็นสาธารณะ<ref>p. 137, Yang (2003)</ref> จนกระทั่งอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิผู่อี๋ทรงถูกขับออกจากพระราชวังต้องห้ามภายหลังการรัฐประหารในปี พ.ศ. 2467<ref name="Yan4">{{cite book|last=Yan|first=Chongnian|authorlink=Yan Chongnian|title=正说清朝十二帝 (True Stories of the Twelve Qing Emperors)|url=http://culture.people.com.cn/GB/40472/55544/55547/55560/3875789.html|year=2004|publisher=Zhonghua Book Company|location=Beijing|isbn=7-101-04445-X|language=Chinese|chapter=国民—战犯—公民 (National – War criminal – Citizen)}}</ref> พิพิธภัณฑ์พระราชวังถูกก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2468<ref>{{cite news|author=Cao Kun|title=故宫X档案: 开院门票 掏五毛钱可劲逛 (Forbidden City X-Files: Opening admission 50 cents)|url=http://culture.people.com.cn/GB/22226/53974/53977/3750782.html|work=Beijing Legal Evening|publisher=People Net|date=2005-10-06|accessdate=2007-07-25|language=Chinese}}</ref> ในปี พ.ศ. 2476 [[สงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สอง|การบุกรุกจีนของญี่ปุ่น]] ได้บังคับให้ย้ายสมบัติประจำชาติภายในพระราชวังต้องห้ามออกไป<ref>See map of the evacuation routes at: {{cite web|url=http://www.npm.gov.tw/en/administration/about/tradition.htm|title=National Palace Museum – Tradition & Continuity|accessdate=2007-05-01|publisher=National Palace Museum}}</ref> ส่วนหนึ่งของสมบัติถูกส่งกลับคืนเมื่อสิ้นสุด[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]<ref>{{cite web|url=http://www.npm.gov.tw/en/administration/about/tradition.htm|title=National Palace Museum – Tradition & Continuity|accessdate=2007-05-01|publisher=National Palace Museum}}</ref> แต่อีกส่วนหนึ่งถูกอพยพไปยังไต้หวันในปี พ.ศ. 2491 ภายใต้คำสั่งของ[[เจียง ไคเชก]] เมื่อ[[พรรคก๊กมินตั๋ง]]ปราชัยในสงครามกลางเมืองจีน สมบัติที่มีขนาดค่อนข้างเล็กแต่มีคุณภาพสูงถูกเก็บไว้จนถึงปี พ.ศ. 2508 มันถูกนำมันมาจัดแสดงแก่สาธารณะอีกครั้ง เป็นสมบัติชิ้นหลักของ[[พิพิธภัณฑ์พระราชวังแห่งชาติ]]ใน[[ไทเป]]<ref name="Three">{{cite news|title=三大院长南京说文物 (Three museum directors talk artefacts in Nanjing)|url=http://www.people.com.cn/GB/paper447/10416/949293.html|work=Jiangnan Times|publisher=People Net|date=2003-10-19|accessdate=2007-07-05|language=Chinese|deadurl=yes|archiveurl=https://web.archive.org/web/20081201133727/http://www.people.com.cn/GB/paper447/10416/949293.html|archivedate=1 December 2008|df=dmy-all}}</ref>
 
หลังจากการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี พ.ศ. 2492 ความเสียหายบางประการได้เกิดขึ้นกับพระราชวังต้องห้ามเนื่องจากถูกกวาดล้างในการปฏิวัติที่กระตือรือร้นจนเกินไป<ref>{{cite news|first=Jie|last=Chen|title=故宫曾有多种可怕改造方案 (Several horrifying reconstruction proposals had been made for the Forbidden City)|url=http://news.eastday.com/eastday/node81741/node81803/node112035/userobject1ai1829390.html|work=Yangcheng Evening News|publisher=Eastday|date=2006-02-04|accessdate=2007-05-01|language=Chinese}}</ref> ในช่วงของ[[การปฏิวัติทางวัฒนธรรม]] อย่างไรก็ตาม การทำลายล้างเพิ่มเติมถูกป้องกันเมื่อนายกรัฐมนตรี[[โจว เอินไหล]]ส่งกองทัพออกไปปกป้องพระราชวังต้องห้าม<ref>{{cite news|first=Yinming|last=Xie|author2=Qu, Wanlin|title="文化大革命"中谁保护了故宫 (Who protected the Forbidden City in the Cultural Revolution?)|url=http://cpc.people.com.cn/GB/68742/69115/69120/5005812.html|work=CPC Documents|publisher=People Net|date=2006-11-07|accessdate=2007-07-25|language=Chinese}}</ref>