ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าจิงกูจา"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 37:
หลังจากพระเจ้าจิงกูจาครองราชย์เพียง 5 ปี ก็ถูกเชื้อพระวงศ์พระองค์หนึ่ง คือ [[พระเจ้าหม่องหม่อง|หม่องหม่อง]] โอรสของ[[พระเจ้ามังลอก]] ก่อ[[รัฐประหาร]]ยึดพระราชวังในระหว่างที่พระองค์เสด็จไปสักการะพระพุทธรูปสิงหดอที่ทางเหนือ โดยความช่วยเหลือของขุนนางและเชื้อพระวงศ์หลายคน (เชื่อว่ารวมทั้ง[[อะแซหวุ่นกี้]]ที่ทนต่อการบริหารราชการของพระองค์ไม่ได้) แต่แรกพระเจ้าจิงกูจาคิดจะหนีไปอาศัยอยู่เมืองกะแซ แต่เป็นห่วงพระราชชนนีจึงลอบลงมาใกล้เมืองอังวะ แล้วมีหนังสือเข้าไปทูลให้ทราบว่าจะหนีไปเมืองกะแซ แต่พระราชชนนีเขียนห้ามปรามว่า "ลูกเกิดมาในเศวตฉัตรกรุงอังวะนี้ หากจะต้องตาย ก็ตายเสียในกรุงอังวะอย่างพระมหากษัตริย์เถิด ที่จะหนีไปพึ่งใบบุญเมืองน้อย ให้เขาส่งกองทัพตามไปจับนั้นไม่ควร" พระเจ้าจิงกูจาจึงได้สติ เกิดความองอาจ แกล้วกล้า ทรงเดินนำเหล่าข้าราชบริพารกลับมา ประหนึ่งเสด็จกลับจากการประพาสคืนสู่พระนคร พวกไพร่พลที่รักษาประตูเมืองเห็นพระเจ้าจิงกูจาเสด็จกลับมาโดยไม่หวาดหวั่นต่อภัยอันตราย ก็พากันเกรงกลัวในพระบรมเดชานุภาพ ไม่มีใครกล้าจับหรือต่อสู้ แม้เสด็จเข้ามาในตัวเมืองแล้วก็ไม่มีใครต้านทานพระองค์เลย พออะตวนหวุ่นซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อตาคนหนึ่งของพระองค์ทราบเข้าก็เกิดบันดาลโทสะ เนื่องจากพระองค์เคยเมามายแล้วฆ่าพระสนมเอกลูกสาวของอะตวนหวุ่น เขาจึงคุมรี้พลของตนมาล้อมจับพระเจ้าจิงกูจา จากนั้นอะตวนหวุ่นจึงลงมือสังหารพระเจ้าจิงกูจาสิ้นพระชนม์ที่เมืองอังวะนี้เอง พอ[[พระเจ้าปดุง]]ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาของพระเจ้าจิงกูจาทราบความว่าอะตวนหวุ่นฆ่าพระเจ้าจิงกูจา ก็ทรงพระพิโรธเป็นอย่างมาก เนื่องจากควรนำตัวมาถวายโดยละม่อม ไม่ควรจะฆ่าฟันเจ้านายโดยพลการ ให้เอาตัวอะตวนหวุ่นไปประหารชีวิตเสีย
พระเจ้าจิงกูจามีชื่อเรียกใน[[ภาษาพม่า]]ว่า
==อ้างอิง==
|