ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นาซีเยอรมนี"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
HakanIST (คุย | ส่วนร่วม)
ย้อนการแก้ไขของ 124.122.86.198 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย HakanIST
ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว
บรรทัด 1:
{{บทความคัดสรร}}
ÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁÁ
{{กล่องข้อมูล อดีตประเทศ
| native_name = ''Großdeutsches Reich''<br>''โกรสส์ดอยท์เชิสไรช์''
| conventional_long_name = [[ไรช์เยอรมัน|ไรช์มหาเยอรมัน]]
| common_name = นาซีเยอรมนี
| continent = ยุโรป
| country = เยอรมนี
| era = [[สมัยระหว่างสงคราม]]/<br />[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]
| event_start = [[มัคท์แอร์ไกรฟุง]]
| year_start = ค.ศ. 1933
| date_start = 30 มกราคม 1933
| event_end = [[ตราสารยอมจำนนของเยอรมนี|ล่มสลาย]]
| year_end = 1945
| date_end = 8 พฤษภาคม
| event1 = [[ไกลช์ชัลทุง]]
| date_event1 = 27 กุมภาพันธ์ 1933
| event2 = [[อันชลุสส์]]
| date_event2 = 13 มีนาคม 1938
| event3 = [[การบุกครองโปแลนด์]]
| date_event3 = 1 กันยายน 1939
| p1 = สาธารณรัฐไวมาร์
| flag_p1 =Flag of Germany (3-2 aspect ratio).svg
| s1 = เยอรมนีภายใต้การยึดครองของสัมพันธมิตร{{!}}เยอรมนีที่ถูกยึดครอง
| flag_s1 = Flag of Germany (1946-1949).svg
| border_s1 = no
| s2 = ออสเตรียภายใต้การยึดครองของสัมพันธมิตร{{!}}ออสเตรียที่ถูกยึดครอง
| flag_s2 = Flag of Austria.svg
| s3 = สาธารณรัฐประชาชนโปแลนด์
| flag_s3 = Flag of Poland (1928-1980).svg
| s4 = สาธารณรัฐเชโกสโลวัก (1945–48){{!}}เชโกสโลวาเกีย
| flag_s4 = Flag of Czechoslovakia.svg
| s5 = สหภาพโซเวียต
| flag_s5 = Flag of the Soviet Union (1923-1955).svg
| s6 = รัฐบาลชั่วคราวแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส{{!}}ฝรั่งเศส
| flag_s6 = Flag of France.svg
| s7 = เบลเยียม
| flag_s7 = Flag of Belgium.svg
| s8 = สหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวีย
| flag_s8 = Flag of SFR Yugoslavia.svg
| image_flag = Flag of Germany (1935–1945).svg
| flag = ธงชาตินาซีเยอรมนี
| flag_type = ธงชาติ
| image_coat = Reichsadler.svg
| symbol = ตราแผ่นดินของเยอรมนี
| symbol_type = ตราแผ่นดินไรช์
| image_map = German Reich 1942.svg
| image_map_caption = ดินแดนของไรช์แผ่ไพศาลที่สุดในปลายปี ค.ศ. 1942
{{plainlist | style = padding-left: 0.6em; text-align: left; |
*{{Legend|#008000|เยอรมนี{{efn|name=annexed}}}}
{{legend|#00a400|[[รัฐอารักขาแห่งโบฮีเมียและมอเรเวีย|รัฐในอารักขาโบฮีเมียและโมราเวีย]]และ[[เขตปกครองสามัญ|เขตปกครองในโปแลนด์]]}}
*{{Legend|#55c255|[[ไรชส์คอมมิสซาเรียท|ดินแดนยึดครองฝ่ายพลเรือน]]}}
*{{Legend|#a5dfa5|[[ฝ่ายปกครองทหาร (นาซีเยอรมนี)|ดินแดนยึดครองที่ฝ่ายทหารบริหาร]]}}
{{legend|#d1efd1|ดินแดนยึดครองของฟินแลนด์ ([[สงครามต่อเนื่อง]])}}
}}
| image_map2 = Grossdeutsches Reich NS Administration 1944.png
| image_map2_caption = เขตการปกครองในประเทศเยอรมนี พฤษภาคม 1944
| national_motto =
| national_anthem = {{plainlist |
* ''[[ดัสลีดแดร์ดอยท์เชิน|ดอยท์ชลันท์อือเบอร์อัลเลส]]''<br />{{small|เพลง ''"เยอรมันเหนือทุกสรรพสิ่ง"''}}<br /><center>[[ไฟล์:Deutschlandlied.ogg]]</center>
* ''[[ฮอสท์-เวสเซิล-ลีด]]''<br>{{small|เพลง ''"ฮอสท์ เวสเซิล"''}}<br /><center>[[ไฟล์:Песня Хорста Весселя.ogg]]</center>
}}
| capital = [[เบอร์ลิน]]
| latd = 52|latm=31|latNS=N|longd=13|longm=24|longEW=E
| largest_city = เบอร์ลิน
| common_languages = [[ภาษาเยอรมัน|เยอรมัน]]
| government_type = [[รัฐพรรคการเมืองเดียว]] [[นาซี|ชาติสังคมนิยม]] [[เผด็จการเบ็ดเสร็จ]]
| title_leader = [[ประมุขแห่งรัฐ]]
| leader1 = [[เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค]] {{small|(ประธานาธิบดี)}}
| year_leader1 = 1933–1934
| leader2 = [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]] {{small|([[ฟือเรอร์]])}}<ref name=infob>ตำแหน่งถือว่าว่างลงอย่างเป็นทางการ ตำแหน่งของฮิตเลอร์ คือ ฟือเรอร์อุนด์ไรช์สคันซเลอร์ ตั้งแต่สิงหาคม 1934<br />[http://www.documentarchiv.de/ns/stobrhpt.html Gesetz über das Staatsoberhaupt des Deutschen Reichs]ม 1 August 1934: "§ 1 ตำแหน่งไรช์สแพรซิเดนท์ถูกรวมเข้ากับไรช์สคันซเลอร์ ฉะนั้นสิทธิที่ผ่านมาของไรช์สแพรซิเดนท์จึงส่งผ่านมายังฟือเรอร์อุนด์ไรช์สคันซเลอร์ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ เขาแต่งตั้งผู้ช่วย"</ref>
| year_leader2 = 1934–1945
| leader3 = [[คาร์ล เดอนิทซ์]] {{small|(ประธานาธิบดี)}}
| year_leader3 = 1945
| title_deputy = [[นายกรัฐมนตรีเยอรมนี|นายกรัฐมนตรี]]
| deputy1 = [[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]
| year_deputy1 = 1933–1945
| deputy2 = [[โยเซฟ เกิบเบิลส์]]
| year_deputy2 = 1945
| deputy3 = [[ลุทซ์ กรัฟ ชเวริน ฟอน โครซิจค์]]
| year_deputy3 = 1945
| stat_area1 = 470083
| stat_area2 = 633786
| stat_area3 = 753687
| stat_area4 = 1925268
| stat_pop1 = 60000000
| stat_pop2 = 69314000
| stat_pop4 = 147197000
| stat_year1 = 1934
| stat_year2 = 1939
| stat_year4 = 1941
| ref_area1 = <ref name="สถิติ1">น.อ. ปรีชา ศรีวาลัย, '''สงครามโลกครั้งที่ ๑-๒ และสงครามเกาหลี''', สำนักพิมพ์โอเดียนสตาร์, หน้า 95</ref>
| ref_area2 = {{efn|name=statistics}}
| ref_area4 = <ref name="สถิติ3">น.อ. ปรีชา ศรีวาลัย, '''สงครามโลกครั้งที่ ๑-๒ และสงครามเกาหลี''', สำนักพิมพ์โอเดียนสตาร์, หน้า 117</ref>
| ref_pop1 = <ref name="สถิติ1"/>
| ref_pop2 = {{sfn|Statistisches Jahrbuch|2006|p=34}}
| ref_pop4 = <ref name="สถิติ3"/>
| currency = [[ไรชส์มาร์ค]]
|legislature = [[ไรชส์ทาค (นาซีเยอรมนี)|ไรชส์ทาค]]
| today = {{flag|เยอรมนี}}<br />{{flag|ออสเตรีย}}<br />{{flag|โปแลนด์}}<br />{{flag|สาธารณรัฐเช็ก}}<br />{{flag|ฝรั่งเศส}}<br />{{flag|เบลเยียม}}<br />{{flag|สโลวีเนีย}}
| footnotes =
}}
{{ใช้ปีคศ|width=313px}}
 
'''นาซีเยอรมนี''' ({{lang-en|Nazi Germany}}) หรือ '''[[ไรช์|ไรช์ที่สาม]]''' ({{lang-de|Drittes Reich}}) หรือชื่ออย่างเป็นทางการคือ '''[[ไรช์เยอรมัน]]''' ({{lang-de|Deutsches Reich}}) เป็นชื่อเรียกยุคหนึ่งใน[[ประวัติศาสตร์เยอรมนี]]ระหว่างปี 1933 ถึง 1945 เมื่อประเทศเยอรมนีอยู่ภายใต้การควบคุมระบอบ[[เผด็จการ]]ของ[[อดอล์ฟ ฮิตเลอร์]]และ[[พรรคนาซี]] ในการปกครองของฮิตเลอร์ ประเทศเยอรมนีกลายเป็นรัฐ[[ฟาสซิสต์]]ซึ่งควบคุมแทบทุกแง่มุมของชีวิต นาซีเยอรมนีล่มสลายหลังฝ่ายสัมพันธมิตรพิชิตเยอรมนีในเดือนพฤษภาคม 1945 ซึ่งยุติ[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ในทวีปยุโรป
ตเลอร์เป็น[[ฟือเรอร์]] (ผู้นำ) เยอรมนีเพียงผู้เดียว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดรวมอยู่ในมือของฮิตเลอร์ และคำของเขาอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง รัฐบาลมิได้เป็นหน่วยที่ร่วมมือประสานกัน หากแต่เป็นหมู่กลุ่มแยกต่าง ๆ ที่แก่งแย่งอำนาจและความนิยมจากฮิตเลอร์ ท่ามกลาง[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] นาซีฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและยุติการว่างงานขนานใหญ่โดยใช้รายจ่ายทางทหารอย่างหนักและ[[เศรษฐกิจแบบผสม]]<ref name=":0">{{cite book|author1=Robert O. Paxton|author2=Julie Hessler|title=Europe in the Twentieth Century|url=http://books.google.com/books?id=M5wTncOaHEQC&pg=PA286|year=2011|publisher=Cengage|page=286}}</ref> มีการดำเนินการโยธาสาธารณะอย่างกว้างขวาง รวมการก่อสร้าง[[เอาโทบาน]] การคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจส่งเสริมความนิยมของรัฐบาลให้เพิ่มพูนขึ้นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐไวมาร์ [[เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค]]แต่งตั้งฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1933 จากนั้น พรรคนาซีเริ่มกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและรวบอำนาจ ฮินเดินบวร์คถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 1934 และฮิตเลอร์เป็นผู้เผด็จการแห่งเยอรมนีโดยการรวมอำนาจและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดี มีการจัดการลงประชามติทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1934 ทำให้ฮิตเลอร์เป็น[[ฟือเรอร์]] (ผู้นำ) เยอรมนีเพียงผู้เดียว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดรวมอยู่ในมือของฮิตเลอร์ และคำของเขาอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง รัฐบาลมิได้เป็นหน่วยที่ร่วมมือประสานกัน หากแต่เป็นหมู่กลุ่มแยกต่าง ๆ ที่แก่งแย่งอำนาจและความนิยมจากฮิตเลอร์ ท่ามกลาง[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] นาซีฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและยุติการว่างงานขนานใหญ่โดยใช้รายจ่ายทางทหารอย่างหนักและ[[เศรษฐกิจแบบผสม]]<ref name=":0" /> มีการดำเนินการโยธาสาธารณะอย่างกว้างขวาง รวมการก่อสร้าง[[เอาโทบาน]] การคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจส่งเสริมความนิยมของรัฐบาลให้เพิ่มพูนขึ้นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐไวมาร์ [[เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค]]แต่งตั้งฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1933 จากนั้น พรรคนาซีเริ่มกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและรวบอำนาจ ฮินเดินบวร์คถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 1934 และฮิตเลอร์เป็นผู้เผด็จการแห่งเยอรมนีโดยการรวมอำนาจและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดี มีการจัดการลงประชามติทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1934 ทำให้ฮิตเลอร์เป็น[[ฟือเรอร์]] (ผู้นำ) เยอรมนีเพียงผู้เดียว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดรวมอยู่ในมือของฮิตเลอร์ และคำของเขาอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง รัฐบาลมิได้เป็นหน่วยที่ร่วมมือประสานกัน หากแต่เป็นหมู่กลุ่มแยกต่าง ๆ ที่แก่งแย่งอำนาจและความนิยมจากฮิตเลอร์ ท่ามกลาง[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] นาซีฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและยุติการว่างงานขนานใหญ่โดยใช้รายจ่ายทางทหารอย่างหนักและ[[เศรษฐกิจแบบผสม]]<ref name=":0" /> มีการดำเนินการโยธาสาธารณะอย่างกว้างขวาง รวมการก่อสร้าง[[เอาโทบาน]] การคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจส่งเสริมความนิยมของรัฐบาลให้เพิ่มพูนขึ้นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐไวมาร์ [[เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค]]แต่งตั้งฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1933 จากนั้น พรรคนาซีเริ่มกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและรวบอำนาจ ฮินเดินบวร์คถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 1934 และฮิตเลอร์เป็นผู้เผด็จการแห่งเยอรมนีโดยการรวมอำนาจและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดี มีการจัดการลงประชามติทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1934 ทำให้ฮิตเลอร์เป็น[[ฟือเรอร์]] (ผู้นำ) เยอรมนีเพียงผู้เดียว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดรวมอยู่ในมือของฮิตเลอร์ และคำของเขาอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง รัฐบาลมิได้เป็นหน่วยที่ร่วมมือประสานกัน หากแต่เป็นหมู่กลุ่มแยกต่าง ๆ ที่แก่งแย่งอำนาจและความนิยมจากฮิตเลอร์ ท่ามกลาง[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] นาซีฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและยุติการว่างงานขนานใหญ่โดยใช้รายจ่ายทางทหารอย่างหนักและ[[เศรษฐกิจแบบผสม]]<ref name=":0" /> มีการดำเนินการโยธาสาธารณะอย่างกว้างขวาง รวมการก่อสร้าง[[เอาโทบาน]] การคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจส่งเสริมความนิยมของรัฐบาลให้เพิ่มพูนขึ้นประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐไวมาร์ [[เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค]]แต่งตั้งฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1933 จากนั้น พรรคนาซีเริ่มกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและรวบอำนาจ ฮินเดินบวร์คถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 1934 และฮิตเลอร์เป็นผู้เผด็จการแห่งเยอรมนีโดยการรวมอำนาจและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดี มีการจัดการลงประชามติทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1934 ทำให้ฮิตเลอร์เป็น[[ฟือเรอร์]] (ผู้นำ) เยอรมนีเพียงผู้เดียว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดรวมอยู่ในมือของฮิตเลอร์ และคำของเขาอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง รัฐบาลมิได้เป็นหน่วยที่ร่วมมือประสานกัน หากแต่เป็นหมู่กลุ่มแยกต่าง ๆ ที่แก่งแย่งอำนาจและความนิยมจากฮิตเลอร์ ท่ามกลาง[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] นาซีฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและยุติการว่างงานขนานใหญ่โดยใช้รายจ่ายทางทหารอย่างหนักและ[[เศรษฐกิจแบบผสม]]<ref name=":0" /> มีการดำเนินการโยธาสาธารณะอย่างกว้างขวาง รวมการก่อสร้าง[[เอาโทบาน]] การคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจส่งเสริมความนิยมของรัฐบาลให้เพิ่มพูนขึ้น
 
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐไวมาร์ [[เพาล์ ฟ็อน ฮินเดินบวร์ค]]แต่งตั้งฮิตเลอร์เป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 1933 จากนั้น พรรคนาซีเริ่มกำจัดคู่แข่งทางการเมืองและรวบอำนาจ ฮินเดินบวร์คถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 1934 และฮิตเลอร์เป็นผู้เผด็จการแห่งเยอรมนีโดยการรวมอำนาจและตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีกับประธานาธิบดี มีการจัดการลงประชามติทั่วประเทศเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 1934 ทำให้ฮิตเลอร์เป็น[[ฟือเรอร์]] (ผู้นำ) เยอรมนีเพียงผู้เดียว อำนาจเบ็ดเสร็จทั้งหมดรวมอยู่ในมือของฮิตเลอร์ และคำของเขาอยู่เหนือกฎหมายทั้งปวง รัฐบาลมิได้เป็นหน่วยที่ร่วมมือประสานกัน หากแต่เป็นหมู่กลุ่มแยกต่าง ๆ ที่แก่งแย่งอำนาจและความนิยมจากฮิตเลอร์ ท่ามกลาง[[ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่]] นาซีฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและยุติการว่างงานขนานใหญ่โดยใช้รายจ่ายทางทหารอย่างหนักและ[[เศรษฐกิจแบบผสม]]<ref>{{cite book|author1=Robert O. Paxton|author2=Julie Hessler|title=Europe in the Twentieth Century|url=http://books.google.com/books?id=M5wTncOaHEQC&pg=PA286|year=2011|publisher=Cengage |page=286}}</ref> มีการดำเนินการโยธาสาธารณะอย่างกว้างขวาง รวมการก่อสร้าง[[เอาโทบาน]] การคืนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจส่งเสริมความนิยมของรัฐบาลให้เพิ่มพูนขึ้น
 
คตินิยมเชื้อชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง [[การต่อต้านยิว]] เป็นลักษณะหัวใจของนาซีเยอรมนี โดยถือว่า[[กลุ่มชนเจอร์แมนิก]]หรือเชื้อชาตินอร์ดิก (Nordic race) เป็นเชื้อชาติอารยันซึ่งบริสุทธิ์ที่สุด ฉะนั้นจึงเป็น[[ชนชาติปกครอง]] (master race) ชาวยิวและชนกลุ่มอื่นที่ถือว่าไม่พึงปรารถนาถูกเบียดเบียนหรือฆ่า และการค้านการปกครองของฮิตเลอร์ถูกปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม สมาชิกฝ่ายค้านเสรีนิยม สังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ถูกฆ่า จำคุกหรือเนรเทศ โบสถ์คริสต์ก็ถูกกดขี่เช่นกัน โดยผู้นำหลายคนถูกจำคุก การศึกษามุ่งเน้นชีววิทยาเชื้อชาติ นโยบายประชากร และสมรรถภาพทางกายสำหรับราชการทหาร โอกาสในอาชีพและการศึกษาของสตรีถูกตัดทอน มีการจัดนันทนาการและการท่องเที่ยวผ่านโครงการ[[ความแข็งแรงผ่านความรื่นเริง]] (Strength Through Joy) มีการใช้[[โอลิมปิกฤดูร้อน 1936]] เป็นตัวนำเสนอไรช์ที่สามในเวทีระหว่างประเทศ รัฐมนตรีโฆษณาการ [[โยเซฟ เกิบเบิลส์]] ใช้ภาพยนตร์ การชุมนุมมวลชน และวาทศิลป์จับจิตของฮิตเลอร์เพื่อควบคุมมติมหาชนอย่างได้ผล<ref>{{cite book|author=Peter Watson|title=Modern Mind: An Intellectual History of the 20th Century|url=http://books.google.com/books?id=JVdMSavwwHoC&pg=PA328|year=2002|publisher=HarperCollins|page=328}}</ref> รัฐบาลควบคุมการแสดงออกทางศิลปะ โดยสนับสนุนศิลปะบางรูปแบบ แต่ขัดขวางหรือห้ามศิลปะรูปแบบอื่น<ref>{{cite book|author=Stephen J. Lee|title=Weimar and Nazi Germany|url=http://books.google.com/books?id=eRDg5_Ay_PcC&pg=PA56|year=1996|publisher=Heinemann|page=56}}</ref>
 
เริ่มตั้งแต่ปลายคริสต์ทศวรรษ 1930 นาซีเยอรมนีเรียกร้องดินแดนอย่างก้าวร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ และขู่ทำสงครามหากไม่สนองข้อเรียกร้อง เยอรมนียึด[[ออสเตรีย]]และ[[เชโกสโลวาเกีย]]ในปี 1938 และ 1939 ฮิตเลอร์ทำ[[สนธิสัญญาโมโลตอฟ-ริบเบนทรอพ|สนธิสัญญาไม่รุกราน]]กับ[[โจเซฟ สตาลิน]] และ[[การบุกครองโปแลนด์|บุกครองโปแลนด์]]ในเดือนกันยายน 1939 เป็นการเปิดฉาก[[สงครามโลกครั้งที่สอง]]ในทวีปยุโรป เยอรมนีเข้าเป็นพันธมิตรกับอิตาลีและ[[ฝ่ายอักษะ]]ที่เล็กกว่าและพิชิตทวีปยุโรปส่วนใหญ่เมื่อถึงปี 1940 และคุกคาม[[สหราชอาณาจักร]] ไรช์ซคอมมิสซารีอัทควบคุมพื้นที่ที่ถูกพิชิตอย่างโหดร้ายและมีการสถาปนาการปกครองของเยอรมนีในประเทศโปแลนด์ที่เหลืออยู่ ชาวยิวและกลุ่มอื่นที่ถือว่าไม่พึงปรารถนาถูกจำคุกใน[[ค่ายกักกันนาซี|ค่ายกักกัน]]และค่ายกำจัดนาซี การนำนโยบายเชื้อชาติของระบอบไปปฏิบัติลงเอยด้วยการสังหารชาวยิวและชนกลุ่มน้อยอื่นเป็นอันมากใน[[ฮอโลคอสต์]]
 
หลังการรุกรานสหภาพโซเวียตในปี 1941 นาซีเยอรมนีก็เริ่มเป็นรอง และปราชัยทางทหารสำคัญหลายครั้งในปี 1943 การทิ้งระเบิดทางอากาศต่อประเทศเยอรมนีทวีขึ้นในปี 1944 และฝ่ายอักษะถอยจากยุโรปตะวันออกและยุโรปใต้ หลังการบุกครองฝรั่งเศสของสัมพันธมิตร ประเทศเยอรมนีถูกโซเวียตจากทิศตะวันออกและฝ่ายสัมพันธมิตรจากทิศตะวันตกพิชิตและยอมจำนนในหนึ่งปี การที่ฮิตเลอร์ปฏิเสธยอมรับความปราชัยนำให้โครงสร้างพื้นฐานของเยอรมนีถูกทำลายล้างขนานใหญ่และการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสงครามเพิ่มในเดือนท้าย ๆ ของสงคราม ฝ่ายสัมพันธมิตรผู้กำชัยริเริ่ม[[การขจัดนาซี|นโยบายขจัดความเป็นนาซี]] (denazification) และนำผู้นำนาซีที่เหลือรอดหลายคนมาพิจารณาคดีอาชญากรรมสงครามใน[[การพิจารณาคดีเนือร์นแบร์ก]] ส่วนประเทศเยอรมนีถูกยึดครองโดยมหาอำนาจฝ่ายสัมพันธมิตรคือ [[ฝรั่งเศส]] [[สหภาพโซเวียต]] [[สหรัฐอเมริกา]] และ[[สหราชอาณาจักร]]<ref>{{Citation
| last = Keegan
| first = John
| author-link =
| last2 = k
| first2 =
| author2-link =
| title = The Second World War
| place = Glenfield, Auckland 10, New Zealand
| publisher = Hutchinson
| year = 1989
| volume =
| edition =
| url =
| doi =
| id =
| isbn = }}</ref>
 
คตินิยมเชื้อชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง [[การต่อต้านยิว]] เป็นลักษณะหัวใจของนาซีเยอรมนี โดยถือว่า[[กลุ่มชนเจอร์แมนิก]]หรือเชื้อชาตินอร์ดิก (Nordic race) เป็นเชื้อชาติอารยันซึ่งบริสุทธิ์ที่สุด ฉะนั้นจึงเป็น[[ชนชาติปกครอง]] (master race) ชาวยิวและชนกลุ่มอื่นที่ถือว่าไม่พึงปรารถนาถูกเบียดเบียนหรือฆ่า และการค้านการปกครองของฮิตเลอร์ถูกปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม สมาชิกฝ่ายค้านเสรีนิยม สังคมนิยมและคอมมิวนิสต์ถูกฆ่า จำคุกหรือเนรเทศ โบสถ์คริสต์ก็ถูกกดขี่เช่นกัน โดยผู้นำหลายคนถูกจำคุก การศึกษามุ่งเน้นชีววิทยาเชื้อชาติ นโยบายประชากร และสมรรถภาพทางกายสำหรับราชการทหาร โอกาสในอาชีพและการศึกษาของสตรีถูกตัดทอน มีการจัดนันทนาการและการท่องเที่ยวผ่านโครงการ[[ความแข็งแรงผ่านความรื่นเริง]] (Strength Through Joy) มีการใช้[[โอลิมปิกฤดูร้อน 1936]] เป็นตัวนำเสนอไรช์ที่สามในเวทีระหว่างประเทศ รัฐมนตรีโฆษณาการ [[โยเซฟ เกิบเบิลส์]] ใช้ภาพยนตร์ การชุมนุมมวลชน และวาทศิลป์จับจิตของฮิตเลอร์เพื่อควบคุมมติมหาชนอย่างได้ผล<ref>{{cite book|author=Peter Watson|title=Modern Mind: An Intellectual History of the 20th Century|url=http://books.google.com/books?id=JVdMSavwwHoC&pg=PA328|year=2002|publisher=HarperCollins|page=328}}</ref> รัฐบาลควบคุมการแสดงออกทางศิลปะ โดยสนับสนุนศิลปะบางรูปแบบ แต่ขัดขวางหรือห้ามศิลปะรูปแบบอื่น<ref>{{cite book|author=Stephen J. Lee|title=Weimar and Nazi Germany|url=http://books.google.com/books?id=eRDg5_Ay_PcC&pg=PA56|year=1996|publisher=Heinemann|page=56}}</ref>
== ชื่อ ==
ชื่ออย่างเป็นทางการของรัฐ คือ ดอยท์เชิสไรช์ ("ไรช์เยอรมัน") ตั้งแต่ปี 1933 ถึง 1943 และโกรสดอยท์เชิสไรช์ ("ไรช์มหาเยอรมัน") ตั้งแต่ปี 1943 ถึง 1945 ในภาษาอังกฤษมักแปลคำว่าดอยท์เชิสไรช์เป็นจักรวรรดิเยอรมัน<ref name="van Wie 1999">{{cite book|last=van Wie|first=Paul D.|title=Image, History and Politics: The Coinage of Modern Europe| year = 1999| publisher = University Press of America "|location = Lanham, Md|isbn = 978-0-7618-1221-0 | page=37 }}</ref> ซึ่งคำว่า "ไรช์" นี้มีความหมายว่า "แผ่นดิน" อันหมายถึงอาณาจักรของ[[ไกเซอร์]]