ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คุรุรามทาส"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Chainwit. (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 5:
เมื่อท่านอายุได้ 12 ปี ภัย เชธา และคุณยายของท่านได้ย้ายไปอาศัยเมืองโกอินทรวาล (Goindval) ซึ่งทำให้ทั้งสองได้พบกับ[[คุรุอมรทาส]] คุรุศาสดาองค์ที่ 3 ของซิกข์<ref name="Mandair2013p38"/> ซึ่งภัย เชธา ได้ขอรับตัวเข้าเป็นศิษย์ของท่านคุรุและช่วยปรณิบัติอย่างดี ต่อมาท่านได้สมรสกับลูกสาวของท่านคุรุและเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลท่านคุรุอมรทาสอย่างเป็นทางการ ท่านคุรุได้แต่งตั้งให้ภัย เชธา เป็นคุรุศาสดาผู้สืบทอดองค์ต่อไป (องค์ที่ 4) และมอบชื่อใหม่ว่า "คุรุรามทาส" (Guru Ram Das) อันแปลว่า "ทาสหรือผู้รับใช้ของพระผู้เป็นเจ้า"<ref name="Mandair2013p38"/><ref name=eosramdas/><ref>{{cite book|author=Shakti Pawha Kaur Khalsa|title=Kundalini Yoga: The Flow of Eternal Power |url=https://books.google.com/books?id=E6ZgJvdMEzYC&pg=PA76 |year=1998|publisher=Penguin|isbn=978-0-399-52420-2|page=76}}</ref>
 
คุรุรามดาสได้เข้าสู่การเป็นผู้นำจิตวิญญาณศาสนาซิกข์ในปี ค.ศ. 1574 และเสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1581 ที่บ้านเกิดของท่านในเมืองโกอินทรวาล<ref>{{cite book|author=Arvind-pal Singh Mandair|title=Religion and the Specter of the West: Sikhism, India, Postcoloniality, and the Politics of Translation |url=https://books.google.com/books?id=dzeCy_zL0Q8C&pg=PA251 |year=2013|publisher=Columbia University Press|isbn=978-0-231-51980-9|pages=251–252}}</ref> ระหว่างที่ท่านดำเนินการเผยแผ่ศาสนา ท่านได้รับการปรณิบัติและเคารพอย่างดีจากบุตร-ธิดาของท่านคุรุอมรทาสผู้ล่วงลับ และได้ย้ายหลักแหล่งและตั้งศูนย์กลางของชาวซิกข์ขึ้นใหม่ที่ดินแดนที่ท่านคุรุอมรทาสเรียกว่า "คุรุ ขาจักร" (Guru-ka-Chak)<ref name="Mandair2013p38"/> เมืองแห่งนี้ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "รามดาสปุระ" หรือ "รามทาสปุระ" (เมืองของท่านรามดาส) (Ramdaspur) และได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นเมือง[[อมฤตสาร์]] จวบจนปัจจุบัน ซึ่งเมืองอมฤตสาร์แห่งนี้ในปัจจุบันได้เป็นเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สถานที่แสวงบุญและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวซิกข์ อันเป็นที่ตั้งของ[[หริมันทิรสาหิบ]] หรือ สุวรรณวิหาร ซึ่งท่านได้เริ่มขุดสระน้ำ "สระน้ำอมฤทธิ์" ไว้<ref name="McLeod1990p28">{{cite book|author=W.H. McLeod|title=Textual Sources for the Study of Sikhism |url=https://books.google.com/books?id=7xIT7OMSJ44C&pg=PA28 |year=1990|publisher=University of Chicago Press|isbn=978-0-226-56085-4|pages=28–29}}</ref><ref name="ShackleMandair2013xv"/> ผลงานที่ท่านสร้างไว้นอกจากการตั้งเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ "อมฤตสาร์" แล้ว ท่านยังขยาย "มันจิ" องค์กรเพื่อสนับสนุนและรับบริจาคเพื่อพัฒนาการเผยแผ่ศาสนาซิกข์ ให้กว้างใหญ่และเป็นที่ยอมรับมากขึ้น<ref name="Mandair2013p38"/> ท่านได้แต่งตั้งบุตรของท่านเองเป็นคุรุศาสดาองค์ต่อไป คือ[[คุรุอาร์จัน]] ซึ่งเป็นคุรุองค์แรกที่ถูกแต่งตั้งโดยสืบเชื้อสายจากบิดาของตน<ref name="ShackleMandair2013xv">{{cite book|author1=Christopher Shackle|author2=Arvind Mandair|title=Teachings of the Sikh Gurus: Selections from the Sikh Scriptures |url=https://books.google.com/books?id=VvoJV8mw0LwC |year=2013|publisher=Routledge|isbn=978-1-136-45101-0|pages=xv–xvi}}</ref><ref name="McLeod2009p86">{{cite book|author=W. H. McLeod|title=The A to Z of Sikhism|url=https://books.google.com/books?id=vgixwfeCyDAC&pg=PA86 |year=2009|publisher=Scarecrow Press|isbn=978-0-8108-6344-6|page=86}}</ref>
 
ชื่อของท่านถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของ[[ท่าอากาศยานนานาชาติศรีคุรุรามทาสจี]] (Sri Guru Ram Dass Jee International Airport) ซึ่งเป็นท่าอากาศยานนนานาชาติประจำเมืองอมฤทธิสาร์ และชื่อของวิทยาลัยการจัดการและเทคโนโลบีคุรุรามทาส (Guru Ram Das Institute of Management and Technology; GRDIMT) ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง[[เดห์ราดุน]] [[รัฐอุตตราขัณฑ์]]
 
== อ้างอิง ==