ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อุดม ทรงแสง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 15:
 
== ประวัติ ==
อุดม ทรงแสง เกิดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2478 ที่[[จังหวัดสมุทรสงคราม]] แล้วต่อมาอาศัยที่[[อำเภอบ้านโป่ง]] [[จังหวัดราชบุรี]] เป็นบุตรคนที่ 4 ในบรรดาพี่น้อง 6 คน ในครอบครัวที่ประกอบอาชีพเป็นนักแสดงลิเก โดยเริ่มเล่นลิเกคณะแรกที่อุดมรับบทตั้งแต่อายุ 13 ปี และได้เริ่มเป็นพระเอกก็คือลิเกในคณะศิลป์ส่งเสริม พร้อมกับมีการบรรเลงและร้องเพลงขับกล่อมผู้ชมลิเกก่อนการแสดงนับเป็นคณะลิเกคณะแรกของเมืองไทยจนเป็นต้นแบบให้กับคณะลิเกในยุคปัจจุบัน ในระหว่างที่เป็นนักแสดงลิเกด้วยความที่ชื่นชอบเรื่องดนตรีจึงสามารถเล่นเครื่องดนตรีที่ใช้ในการแสดงลิเกได้ทุกชิ้น และมีความสนใจใน[[แซกโซโฟน]] จึงได้ซื้อแซกโซโฟนมาฝึกเล่นด้วยตนเอง
 
เวลาต่อมา พ่อดมได้ตัดสินใจทิ้งคณะลิเกและหนีเข้ากรุงเทพพร้อมกับแซกโซโฟนคู่ใจเพราะได้ยินคำพูดจากผู้ชมลิเกที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งว่าพ่อดมแก่เกินไปที่จะเป็นพระเอก จากนั้นได้เข้าร่วมวงดนตรีลูกทุ่งของ[[เพลิน พรหมแดน]] นักร้องลูกทุ่งชื่อดังในยุคนั้นในตำแหน่งเครื่องเป่าพร้อมกับให้ลูกชายคนที่ 2 นพดล ทรงแสง (จิ้ม) ลูกชายคนที่ 2 เข้าร่วมวงอีกคนในตำแหน่งมือกลองแต่ ในระหว่างนั้นพ่อดมและจิ้มได้เริ่มหันมาแสดงตลกแทนตลกในคณะที่หยุดพักกระทั่ง เพลิน พรหมแดน ยุบวงดนตรีพ่อดมจึงตัดสินใจก่อตั้งคณะตลกคณะชวนชมขึ้น
 
ใน พ.ศ. 2525 ขณะอายุได้ 47 ปีพ่อดมได้ก่อตั้งคณะตลกคณะชวนชมขึ้นในรูปแบบตลกครอบครัวแต่ไม่ได้รับความนิยมมากนักจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น[[ชวนชื่น]] ทำให้เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาโดยมีทั้งรับงานแสดงตลกตามที่ต่างๆ รวมไปถึงก่อตั้งบริษัทรับจัดงานแสดง โชว์ และผลิตรายการโทรทัศน์ออกมามากมายอีกด้วย และเวลาต่อมาด้วยอายุที่มากขึ้นพ่อดมจึงตัดสินใจยกคณะให้ จิ้ม ชวนชื่น เป็นผู้ดูแลแทนแต่พ่อดมก็ยังร่วมแสดงตลกกับชาวคณะอยู่เสมอกระทั่งจิ้มได้ตัดสินใจยุบคณะชวนชื่นในที่สุด
 
นอกจากนี้ พ่อดมยังได้ประพันธ์เพลงไว้หลายบทเพลง และบทเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับพ่อดมมากที่สุดคือเพลง ''พิษรักพิษณุโลก'' เดิมพ่อดมตั้งใจแต่งเอาไว้ให้จิ้มไว้ตอนอายุ 14 ปี ภายหลังได้ถูกนำไปประกอบภาพยนตร์เรื่อง ''[[คนปีมะ]]'' ขับร้องโดย [[สีหนุ่ม เชิญยิ้ม]] เป็นผู้ขับร้องเป็นคนแรก ต่อมา [[สันติ ดวงสว่าง]] และ [[หนู มิเตอร์]] ได้นำเพลงนี้ไปขับร้องใหม่