ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เอลซิด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2:
{{รอการตรวจสอบ}}
[[ไฟล์:Spain Burgos statue the Cid.jpg|thumb|อนุสาวรีย์เอลซิดในเมืองบูร์โกส]]
[[ไฟล์:El cid sword.JPG|thumb|ดาบของเอลซิด ปัจจุบันอยู่ในพิพิธภัณฑสถาน La Real Armeríaคลังอาวุธหลวงในกรุง[[มาดริด]]]]
[[ไฟล์:Cid horse.jpg|thumb|ภาพเอลซิด ขณะอยู่ในอิริยาบถขี่ม้า]]
'''เอลซิด''' ({{lang-es|El Cid}})''' เป็นขุนศึกชาวสเปนผู้เก่งกาจคนหนึ่ง เกิดใน [[พ.ศ. 1586]] ([[ค.ศ. 1043]]) ที่หมู่บ้านบีบิบาร์ ในเมือง[[บูร์โกส]] อาณาจักรคาสตีลกัสติยา เกิดในตระกูลขุนนางสเปน มีชื่อจริงว่า '''โรดรีโกดริโก ดีอัซดิอัซ เด บีบิบาร์''' ({{lang|es|Rodrigo Díaz de Vivar}})''' โรดรีริโกได้รู้จักและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ[[พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 แห่งคาสตีลกัสติยา|เจ้าชายซานโชซันโช]] รัชทายาทแห่งอาณาจักรคาสตีลกัสติยาในฐานะเจ้านายและข้ารับใช้มาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่นานทั้งคู่ก็สนิทสนมกันจนแทบจะเรียกว่าเป็นสหายกันก็ได้
 
โรดรีริโกจงรักภักดีต่อเจ้าชายซานโชมากซันโชมาก ดังจะเห็นได้จากใน [[พ.ศ. 1606]] ([[ค.ศ. 1063]]) อาณาจักรคาสตีลกัสติยามีสงครามกับอาณาจักรอารากอน เพราะต้องการแย่งชิงดินแดนซาราโกซา สงครามครั้งนี้ไม่สามารถตัดสินได้ในสมรภูมิรบ เพราะต่างฝ่ายต่างเข้มแข็งจนไม่มีใครเอาชนะใครได้ จึงตกลงกันว่า ให้แต่ละฝ่ายส่งตัวแทนมา 1 คนมาประลองกันแบบ 1:1 ใครชนะจะได้ดินแดนซาราโกซาไป ฝ่ายคาสตีลกัสติยานั้น โรดรีริโกอาสาไปเป็นตัวแทนประลอง และในวันจริงนั้น แม้คู่ต่อสู้จากอารากอนจะมีร่างกายกำยำ แรงเยอะ และตัวโตกว่าโรดรีริโกอย่างมาก แต่โรดรีริโกก็สามารถชนะได้ ทำให้คาสตีลกัสติยาชนะในสงครามนี้ ทหารของคาสตีลกัสติยาจึงให้ฉายาจากการสร้างวีรกรรมของเขา คือ "เอลซิดกัมเปอาดอร์" (El Cid Campeador) โดย El Cid มีที่มาจากคำใน[[ภาษาอาหรับถิ่นอันดาลูเซีย]]ว่า "อัลซีด" (''al-sīd'') แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า "The Lord" ส่วน Campeador นั้นเป็น[[ภาษาสเปน]] แปลว่า "Champion" ซึ่งฉายาเอลซิดก็เป็นชื่อที่คนส่วนใหญ่ที่รู้จักโรดรีริโกใช้เรียกเขามาจนถึงปัจจุบัน
 
หลังจากสงครามกับอารากอนแล้ว อาณาจักรคาสตีลกัสติยายังพบสงครามใหม่อีกครั้ง ครั้งนี้เป็นสงครามกับแขกมัวร์ (เป็นส่วนหนึ่งของ[[การพิชิตดินแดนคืน]]หรือ ''Reconquista'' ของชาวคริสต์ใน[[คาบสมุทรไอบีเรีย]]) ผลคือกองทัพคาสตีลกัสติยาภายใต้การนำของเจ้าชายซานโชที่ซันโชที่ 2 และโรดรีโกดริโก ชนะแทบทุกครั้ง ทำให้คาสตีลกัสติยามีเมืองขึ้นและแผ่ขยายอาณาเขตไปได้กว้างขวาง แต่[[พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1 แห่งเลออน|พระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 1]] กษัตริย์แห่งคาสตีลกัสติยาและพระชนก (พ่อ) ของเจ้าชายซานโชซันโชได้เสด็จสวรรคตใน [[พ.ศ. 1608]] ([[ค.ศ. 1065]]) โดยที่ก่อนจะเสด็จสวรรคต พระองค์ได้ทรงจัดสรรดินแดนให้พระโอรสและพระธิดาได้แบ่งกันไปปกครอง โดยเจ้าชายซานโชซันโช เจ้านายเอลซิดได้ขึ้นครองบัลลังก์คาสตีลกัสติยา
 
แต่ไม่นาน พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 ทรงเห็นว่า [[พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 แห่งคาสตีลกัสติยา|พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6]] พระอนุชา (น้องชาย) ของพระองค์ที่ได้ไปปกครองอาณาจักรเลออนนั้น ขาดความสามารถในการปกครอง ประกอบกับคาสตีลกัสติยามีสงครามกับแขกมัวร์ ควรรวมคาสตีลกัสติยาและเลออนเข้ากับคาสตีลอนเข้ากับกัสติยาดีกว่า เพื่อที่อาณาจักรคาสตีลกัสติยาจะได้เข้มแข็ง ดังนั้น พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 จึงทรงเปิดศึกแย่งชิงดินแดนเลออนกับพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 ใน [[พ.ศ. 1608]] นั้นเอง
 
ศึกแย่งชิงเลออนดำเนินมาจนถึง [[พ.ศ. 1615]] ([[ค.ศ. 1072]]) พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 ทรงมีชัยต่อพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 และผนวกอาณาจักรคาสตีลกัสติยากับเลออนได้สำเร็จ ต่อไปก็ต้องทรงสังหารพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 เพื่อให้กษัตริย์ของอาณาจักรคาสตีลกัสติยา-เลออนมีเพียงพระองค์เดียว คือพระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 แต่ว่าพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 ทรงลี้ภัยไปยังอาณาจักรซาโมรา เพื่อขอความช่วยเหลือกับ[[พระราชินีอูร์รากาแห่งคาสตีลกัสติยา|พระนางอูร์รากา]] พระกนิษฐา (น้องสาว) ของพระองค์ พระนางอูร์รากาและพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 จึงสมคบคิดกันลอบปลงพระชนม์พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 เสียใน [[พ.ศ. 1615]] นั้นเอง แผนการลอบสังหารในครั้งนี้ทรงมอบให้ทหารอาสาผู้ภักดีต่อพระนางอูร์รากาและพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 ทำอย่างลับ ๆ ทำให้ไม่มีใครรู้ว่าพระนางอูร์รากาและพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2
 
เมื่อพระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 เสด็จสวรรคตแล้ว ก็ไม่มีใครเหมาะสมจะเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรคาสตีลกัสติยา-เลออนมากไปกว่าพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 และเข้าพิธีเพื่อสถาปนาเป็นกษัตริย์แห่งคาสตีลกัสติยา-เลออน แต่ในพิธีแต่งตั้งพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 เอลซิดไม่คุกเข่าถวายพระพร เพราะเขาคลางแคลงใจว่าพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 และขอร้องให้พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 สาบานต่อหน้าพระ[[คัมภีร์]]ว่า ทรงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบปลงพระชนม์พระเจ้าซานโชที่ซันโชที่ 2 (แต่ความจริงแล้วพระองค์กับพระนางอูร์รากาทรงมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก) แต่พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 ได้ทรงสาบานออกมาอย่างเต็มพิธี เอลซิดจึงยอมรับอำนาจและถวายตัวเข้าเป็นข้ารับใช้พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6
 
เอลซิดแต่งงานกับคีเมนาฆิเมนา เด โอเบียโดบิเอโด พระญาติของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 ใน [[พ.ศ. 1617]] ([[ค.ศ. 1074]]) มีบุตรด้วยกัน 3 คน ชื่อ กริสตีสตินา, มารีริอา และดีเอโกดิเอโก โรดรีเกซดริเกซ
 
เอลซิดรับใช้พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 อย่างจงรักภักดีเรื่อยมา จนพระเจ้าอัลฟอนโซไว้วางใจดูแลเลี้ยงดูอย่างดี ทำให้ขุนนางอื่น ๆ เกิดความอิจฉาเอลซิด จึงกล่าวหาเอลซิด ว่ายักยอกเครื่องบรรณาการที่เก็บมาจากรัฐ[[เซบีบิยา]] พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 จึงสั่งเนรเทศเอลซิดออกจากอาณาจักรคาสตีลกัสติยา-เลออน
 
เมื่อเอลซิดถูกเนรเทศจึงเดินทางไปยัง[[ซาราโกซา]] ซึ่งผู้ครองเมืองได้ให้การต้อนรับเอลซิดเป็นอย่างดี ขณะที่พำนักอยู่ที่เมืองนี้ ได้รับจ้างทำสงครามอยู่เรื่อย ๆ จนกระทั่งใน [[พ.ศ. 1629]] ([[ค.ศ. 1086]]) ปัญหาสงครามระหว่างแขกมัวร์กับอาณาจักรคาสตีลกัสติยา-เลออนหนักขึ้น พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 เริ่มต้านแขกมัวร์ไม่อยู่ ใน [[พ.ศ. 1635]] ([[ค.ศ. 1092]]) พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 ได้ส่งสาส์นขอความช่วยเหลือให้เอลซิดกลับมาทำงานให้พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 และคำตอบจากเอลซิดคือ จะไม่รบให้กับพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 แต่จะรบให้อาณาจักรคาสตีลกัสติยา-เลออน โดยมีตนเป็นผู้นำและเจ้าของทัพเพียงคนเดียว ไม่ขึ้นต่อพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 6 เริ่มช่วยรบใน [[พ.ศ. 1635]] นั้นเอง
 
การรบระหว่างแขกมัวร์ดำเนินไปเรื่อย ๆ แต่ส่วนใหญ่เอลซิดเป็นผู้ชนะ แต่ในที่สุด ในศึกครั้งหนึ่งที่เมือง[[บาเลนเซีย]]ซึ่งเขารบกับแขกมัวร์เพื่อรับใช้อาณาจักรคาสตีลกัสติยา-เลออนอยู่นั้น เอลซิดพลาดท่าถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตในวันที่ [[10 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 1642]] แต่ภรรยาของเขาก็นำร่างของเขาขึ้นไปกับม้าคู่ใจ เพื่อไม่ให้ทหารรู้ว่าเอลซิดเสียชีวิตแล้ว เพราะอาจเสียขวัญ และก็ชนะ กษัตริย์อาหรับชื่อ เบน [[ยูซุฟ [ชายที่ไม่เคยเปิดหน้าให้ใครดูอิบน์ ตาชฟีน]] ได้ในที่สุด ร่างของเอลซิดและภรรยา (คีเมนาฆิเมนา) ถูกฝังไว้ที่[[มหาอาสนวิหารบูร์โกส]]
{{เกิดปี|1586}}{{ตายปี|1642}}
 
เข้าถึงจาก "https://th.wikipedia.org/wiki/เอลซิด"