ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อานแห่งเบรอตาญ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Mda (คุย | ส่วนร่วม)
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 3:
| สี =#3CC
| ภาพ = ภาพ: BNF - Latin 9474 - Jean Bourdichon - Grandes Heures d'Anne de Bretagne - f. 3r - Anne de Bretagne entre trois saintes (détail).jpg
| พระนามาภิไธย = แอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส
| พระมเหสีใน = [[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]]<br />[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 แห่งฝรั่งเศส]]<br />[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส]]
| วันประสูติ = [[25 มกราคม]] [[ค.ศ. 1477]]
| ที่ประสูติ = [[นองซ์น็องต์]] [[ฝรั่งเศส]]
| วันสิ้นพระชนม์ = [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1514]]
| ที่สิ้นพระชนม์ = [[บลัวส์บลัว]] [[ฝรั่งเศส]]
| ราชวงศ์ = [[ราชวงศ์วาลัวส์ลัว|วาลัวส์ลัว]]
| พระอิสริยยศ =
| พระบิดา = [[ฟรองซัวส์ที่ 2 ดยุกแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ]]
| พระมารดา = [[มาร์กาเร็ตแห่งฟัวซ์ ดัชเชสแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ]]
| พระโอรส/ธิดา = [[โคลดแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส]]<br />[[เรเนแห่งฝรั่งเศส]]
| ราชาภิเษก =
| ระยะเวลาเป็นราชินี = แม็กซิมิลเลียนที่ 1:[[9 กันยายน]] [[ค.ศ. 1488]] - [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1514]]<br />ชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8: [[6 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1491]] - [[7 เมษายน]] [[ค.ศ. 1498]]<br />หลุยส์ที่ 12: [[8 มกราคม]] [[ค.ศ. 1499]] - [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1514]]
}}
 
'''แอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส''' ({{lang-fr|'''Anne de Bretagne'''}}; [[ภาษาเบรตองเบรอตง|เบรอตง]]: '''Anna Vreizh''';{{lang-en|'''Anne of Brittany'''}}) ([[25 มกราคม]] [[ค.ศ. 1477]] - [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1514]]<ref>Genealogics - Leo van de Pas, Anne Duchesse de Bretagne[http://genealogics.org/getperson.php?personID=I00003789&tree=LEO]</ref>) แอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญเป็นสมเด็จพระราชินีใน[[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]]ระหว่างวันที่ [[9 กันยายน]] [[ค.ศ. 1488]] ถึงวันที่ [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1514]]; ใน[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 แห่งฝรั่งเศส]]ระหว่างวันที่ [[6 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1491]] ถึงวันที่ [[7 เมษายน]] [[ค.ศ. 1498]] และใน[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส]] ระหว่างวันที่ [[8 มกราคม]] [[ค.ศ. 1499]] ถึงวันที่ [[9 มกราคม]] [[ค.ศ. 1514]]
 
แอนน์อานประสูติเมื่อวันที่ [[25 มกราคม]] [[ค.ศ. 1477]] ที่[[นองซ์น็องต์]]ใน[[ฝรั่งเศส]]เป็นพระธิดาของ[[ฟรองซัวส์ที่ 2 ดยุกแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ]] และ[[มาร์กาเร็ตแห่งฟัวซ์ ดัชเชสแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ]] (Margaret of Foix) เมื่อพระบิดาเสียชีวิตแอนน์อานก็เป็นดัชเชสแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญอย่างเต็มตัว และเป็นเคานเทสแห่งนองซ์เคานเทสแห่งน็องต์, มงท์ฟอร์ต และริชมงท์ และไวท์เคานเทสแห่งลีมอชส์ ซึ่งทำให้ทรงเป็นสตรีผู้มีอำนาจและฐานะมั่งคั่งที่สุดในยุโรป
 
== ชีวิตเบื้องต้น ==
แอนน์อานทรงเป็นธิดาคนเดียวของดยุกฟรองซัวส์แห่งบริตานีฟรองซัวส์แห่งเบรอตาญและมาร์กาเร็ตที่รอดมาจโต เมื่อยังทรงพระเยาว์พระองค์ทรงได้รับเลี้ยงดูเพื่อเตรียมตัวเป็นทายาทของดัชชีแห่งบริตานีดัชชีแห่งเบรอตาญ ทรงได้รับการศึกษาอย่างดีภายใต้พระอาจารย์ ฟรองซัวส์ เดอ ดินอง (Françoise de Dinan), เลดี้แห่งลาวาลและชาโตบริอองท์ (Lady of Laval and Chateaubriant) และกวีฌอง เมชิโนท์ (Jean Meschinot)
 
เมื่อมาถึง[[สงครามสืบครองบริตานีสืบครองเบรอตาญ]] (Breton War of Succession) ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 14 บริตานีก็ใช้เบรอตาญก็ใช้[[กฎบัตรซาลลิค|กฎบัตรซาลลิคแปลง]]ที่อนุญาตให้สตรีสืบอำนาจของอาณาจักรได้ถ้าผู้มีสิทธิฝ่ายชายสิ้นชีวิตกันไปหมด เมื่อแอนน์อานประสูติพระบิดาก็เป็นเพียงทายาทชายคนเดียวของบริตานีของเบรอตาญที่เหลืออยู่ของ[[ตระกูลเดรอซ์]] (House of Dreux) สงครามสืบอาณาจักรยุติลงด้วยการตกลงว่าในเมื่อไม่มีทายาทชาย ทายาทของ Joanna of Penthievre ก็เป็นผู้สืบเชื้อสายต่อไป แต่ร้อยปีหลังจากนั้นข้อตกลงนี้ก็ถูกลืมกันไป ฉะนั้นเมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1486 เมื่อบิดาของแอนน์อานพยายามให้แอนน์อานเป็นที่ยอมรับว่าเป็นทายาท แต่การแต่งงานของแอนน์อานกลายเป็นปัญหาทางการเมือง ดยุกฟรานซิสผู้ไม่ต้องการให้บริตานีเบรอตาญกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศสก็พยายามหาคู่ที่สามารถต่อต้านอำนาจของฝรั่งเศสได้
 
ดินแดนบริตานีดินแดนเบรอตาญกลายเป็นที่ต้องการของหลายฝ่ายที่ทำให้แอนน์อานมีผู้ประสงค์จะแต่งงานด้วยมากมาย แอนน์อานได้รับการหมั้นหมายอย่างเป็นทางการไว้กับ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 แห่งอังกฤษ|เอ็ดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์]]พระราชโอรสของ[[สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ]]ในปี ค.ศ. 1483 แต่เจ้าชายหายตัวไปอย่างไม่มีร่องรอยไม่นานหลังจากที่พระราชบิดาเสด็จสวรรคตและสันนิษฐานกันว่าสิ้นพระชนม์ ผู้อื่นที่ต้องการจะเสกสมรสกับแอนน์อานก็ได้แก่[[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์]], Alain d'Albret, ฌอง เดอ ชาลองส์ (Jean de Châlons) (เจ้าชายแห่งออเรนจ์) และแม้แต่[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส|หลุยส์ ดยุกแห่งออร์เลอองส์]]ผู้ขณะนั้นมีภรรยาแล้ว
 
ในปี ค.ศ. 1488 กองทัพของดยุกฟรองซัวส์ได้รับความพ่ายแพ้ต่อฝรั่งเศสใน[[ยุทธการแซงต์โอแบงดูคอร์มิเยร์ (ค.ศ. 1488)|ยุทธการแซงต์โอแบงดูคอร์มิเยร์]] (Battle of Saint-Aubin-du-Cormier) ซึ่งเป็นการยุติสงคราม “Guerre folle” ใน[[สนธิสัญญาเซเบล]] (Treaty of Sablé) ของการยุติสงครามดยุกฟรองซัวส์ถูกบังคับให้ตกลงว่าการแต่งงานของลูกสาวต้องได้รับการอนุมัติโดยพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศส ดยุกฟรองซัวส์เสียชีวิตไม่นานหลังจากนั้นเมื่อวันที่ [[9 กันยายน]] [[ค.ศ. 1488]] หลังจากตกจากหลังม้า แอนน์อานจึงกลายเป็น[[ดยุกแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ|ดัชเชส]] บริตานีเบรอตาญเข้าสู่วิกฤติกาลใหม่ที่นำไปสู่สงครามฝรั่งเศส-บริตานีเบรอตาญ
== ดัชเชสแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ ==
[[ไฟล์:Blois cominus et eminus.JPG|thumb|260px|left|เม่นแห่งบริตานีแห่งเบรอตาญหน้าประตู[[วังบลัวส์บลัว]] (Château de Blois)]]
 
สิ่งแรกที่สำคัญที่จำเป็นต้องทำสำหรับแอนน์อานคือการหาสามีที่ถ้าดีก็ควรจะเป็นผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อฝรั่งเศสและมีอำนาจพอที่จะรักษาความเป็นอิสระของบริตานีได้ด้วยของเบรอตาญได้ด้วย [[สมเด็จพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|พระจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียน]] ถือว่าเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุด [[การเสกสมรสโดยฉันทะ]]ของพระองค์กับจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนเกิดขึ้นที่[[แรนน์แรน]]เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1490 ซึ่งทรงได้รับพระอิสริยยศเป็น “จักรพรรดินีแห่งโรมัน” แต่เป็นการเสกสมรสที่นำมาซึ่งปัญหาร้ายแรง ฝรั่งเศสนอกจากจะถือว่าเป็นการท้าทายโดยตรงและก็ยังเป็นการละเมิด[[สนธิสัญญาเซเบล]]ที่พระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสมิได้รับการปรึกษาและอนุมัติการเสกสมรส นอกจากนั้นก็ยังทำให้บริตานีเบรอตาญตกไปเป็นของฝ่ายศัตรูของฝรั่งเศสอีกดัวย การเสกสมรสเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะด้วย เพราะในขณะนั้นแฮ็บสเบิร์กมัวยุ่งอยู่กับปัญหาในฮังการีจนไม่อาจหันมาสนใจกับบริตานีได้เบรอตาญได้ และฝ่ายคาสตีลกัสติยาก็มัวแต่ยุ่งอยู่กับการต่อสู้ในกรานาดา แม้ว่าทั้งคาสตีลกัสติยาและอังกฤษจะส่งกองทหารมาหนุนกองทัพของบริตานีบ้างของเบรอตาญบ้าง แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดที่ต้องการจะต่อสูในสงครามอย่างออกหน้าออกตากับฝรั่งเศส ในฤดูใบไม้ผลิของปี ค.ศ. 1491 นายพลหลุยส์ที่ 2 แห่ง Trémoille และ[[พระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 แห่งฝรั่งเศส]]ก็นำทัพมาล้อมเมืองแรนน์แรน
 
เมื่อพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนมิได้ส่งกำลังมาช่วยแรนน์แรนก็เสียเมือง แอนน์อานจึงต้องมาหมั้นกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 ทันที่ที่แรนน์แรนและเดินทางพร้อมกับกองทหารอารักขาของพระองค์ไปยัง[[วังลองเชส์]] (Château de Langeais) เพื่อไปทำการเสกสมรส ทางออสเตรียก็ได้แต่ประท้วงว่าเป็นการแต่งงานที่ไม่ถูกต้องเพราะเจ้าสาวมิได้เต็มใจ และเจ้าสาวแต่งงานโดยถูกต้องตามกฎหมายกับพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแล้ว และพระเจ้าชาร์ลส์ชาร์ลเองก็ทรงหมั้นกับ[[มาร์เกอรีตแห่งออสเตรีย]]พระธิดาของพระจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนเองแล้ว แต่แอนน์อานก็ต้องเสกสมรสกับพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1491
 
ต่อมาการแต่งงานก็ได้รับการอนุมัติว่าถูกต้องโดย[[สมเด็จพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 8]] เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1492 สัญญาการเสกสมรสระบุว่าฝ่ายใดที่เสียชีวิตก่อนผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะได้รับดินแดนบริตานีดินแดนเบรอตาญ แต่ระบุต่อไปว่าถ้าพระเจ้าชาร์ลส์ชาร์ลเสด็จสวรรคตโดยไม่มีรัชทายาท แอนน์อานต้องแต่งงานกับผู้ครองราชย์ต่อจากพระองค์ซึ่งเป็นโอกาสที่สองที่ฝรั่งเศสสามารถผนวกดินแดนบริตานีดินแดนเบรอตาญได้อย่างถาวร
 
== เป็นแม่หม้ายและแต่งงานใหม่ ==
[[ไฟล์:Court of the Ladies of Queen Anne of Brittany.jpg|220px|thumb|ราชสำนักของพระราชินีแอนน์อาน เป็นภาพของสตรีร้องไห้เมื่อสามีต้องเดินทางไปสงครามในอิตาลี--หนังสือ "Epistres Envoyées au Roi" (คริสต์ศตวรรษที่ 16)]]
เมื่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1498 แอนน์อานมีพระชนมายุได้ 21 พรรษาและยังไม่มีพระโอรสธิดา ตามการระบุในสัญญาพระองค์ต้องทรงเสกสมรสกับพระมหากษัตริย์องค์ใหม่[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 12 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าหลุยส์ที่ 12]] แต่ขณะนั้นพระองค์มีพระอัครมเหสีแล้ว--[[ฌานน์ สมเด็จพระราชินีแห่งฝรั่งเศส]] พระราชธิดาใน[[พระเจ้าหลุยส์ที่ 11 แห่งฝรั่งเศส|พระเจ้าหลุยส์ที่ 11]] และพระขนิษฐาของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1498 แอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญก็ทรงตกลงเสกสมรสกับพระเจ้าหลุยส์ถ้าพระองค์ทรงสามารถหาทางประกาศให้การแต่งงานกับฌานน์เป็นโมฆะได้ภายในหนึ่งปี ถ้าแอนน์อานทรงพนันว่าพระเจ้าหลุยส์ไม่ทรงสามารถทำได้พระองค์ก็ทรงแพ้ การแต่งงานครั้งแรกของพระเจ้าหลุยส์ได้รับการประกาศให้เป็นโมฆะโดยพระสันตะปาปาก่อนจะสิ้นปีนั้น
 
ในระหว่างนั้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1498 แอนน์อานเดินทางกลับไปปกครองบริตานีไปปกครองเบรอตาญ ทรงมอบตำแหน่งอัครมหาเสนาบดีคืนให้กับฟิลิปป์ เดอ มงท์ทอบัง (Philippe de Montauban) และทรงระบุให้เจ้าชายแห่งออเรนจ์เป็น Lieutenant General แห่งบริตานีแห่งเบรอตาญ และทรงสั่งให้ตีเหรียญกษาปณ์ที่ประทับตราพระนามของพระองค์เอง และเสด็จประพาสบริเวณต่างๆ ในอาณาจักร พระราชกรณียกิจต่างๆ ทำให้ทรงเป็นที่นิยมกันในบรรดาไพร่ฟ้าประชาชนในบริตานีเบรอตาญ
 
แอนน์อานเสกสมรสครั้งที่สามเมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1499 ทรงฉลองพระองค์ขาวซึ่งเป็นการแนะนำประเพณีการแต่งตัวด้วยชุดขาวต่อมาของผู้เป็นเจ้าสาว ข้อตกลงในการเสกสมรสครั้งนี้แตกต่างจากครั้งที่สองเป็นอย่างมาก ครั้งนี้พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุขึ้น เป็นพระราชินีหม้าย และทรงมีความต้องการที่ให้ได้รับการยอมรับว่าทรงเป็นดัชเชสที่มีอาณาจักรปกครองเป็นของพระองค์เอง แม้ว่าพระราชสวามีพระองค์ใหม่จะทรงมีอำนาจปกครองบริตานีอำนาจปกครองเบรอตาญ แต่ทรงยอมรับตำแหน่งสวามีของดยุก (duke consort) และทรงยอมรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของพระอัครมเหสีในฐานะ “ดัชเชสแห่งบริตานี”แห่งเบรอตาญ” และทรงออกคำสั่งต่างในนามของแอนน์อาน
 
ในฐานะดัชเชสแอนน์อานทรงเป็นผู้พยายามรักษาความเป็นอิสระของอาณาจักรบริตานีอาณาจักรเบรอตาญอย่างเหนียวแน่น แอนน์อานทรงจัดการสมรสของพระธิดาโคลดกับ[[สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์|ชาร์ลส์แห่งลักเซ็มเบิร์กชาร์ลแห่งลักเซ็มเบิร์ก]] ในปี 1501 เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์อันมั่นคงระหว่างฝรั่งเศส-สเปน และการพยายามให้ฝรั่งเศสได้รับชัยชนะในสงครามกับอิตาลี พระเจ้าหลุยส์มีพระราชประสงค์จะหย่าร้างกับแอนน์อานเมื่อทรงเห็นว่าแอนน์อานไม่มีท่าทีที่จะมีรัชทายาทให้พระองค์ พระองค์จึงทรงจัดการหมั้นหมายโคลดกับรัชทายาทของราชบัลลังก์ฝรั่งเศส แต่แอนน์อานไม่ทรงยอมตกลงเพราะทรงต้องการรักษาความเป็นอิสระของบริตานีของเบรอตาญจากฝรั่งเศสและยังคงยืนยันที่จะจัดงานแต่งงานของโคลดกับชาร์ลส์แห่งลักเซ็มเบิร์กชาร์ลแห่งลักเซ็มเบิร์ก แต่โคลดก็แต่งงานกับฟรองซัวส์ปีหนึ่งหลังจากแอนน์อานสิ้นพระชนม์
 
== สิ้นพระชนม์ ==
[[ไฟล์:Coeur Anne.JPG|thumb|220px|ผอบหัวใจของแอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญ]]
แอนน์อานสิ้นพระชนม์กลางฤดูหนาวของปี ค.ศ. 1513-ค.ศ. 1514 เมื่อวันที่ 9 มกราคม ด้วยพระโรคนิ่วที่[[พระราชวังบลัวส์บลัว]] พระร่างถูกบรรจุที่[[มหาวิหารแซงต์เดอนีส์]] พระราชพิธีศพของพระองค์เป็นพิธีที่ยาวนานเป็นพิเศษถึง 40 วันและมีอิทธิพลต่อพระราชพิธีศพต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 18 [[เรควีเอ็ม]]ของแอนน์อานเขียนโดย[[โยฮันเนส พริโอริส]] (Johannes Prioris) คีตกวีคนสำคัญ<ref>For a historical and musicological perspective on Prioris's Requiem, read {{cite conference
| first = Eugeen
| last = Schreurs
บรรทัด 68:
Recording: ''Johannes Prioris, Missa pro Defunctis,'' [[Capilla Flamenca]], 2003 (Eufoda 1349).
</ref>.
ตามคำสั่งในพระพินัยกรรมแอนน์อานบ่งว่าให้ใส่หัวใจของพระองค์ในผอบทองเคลือบ (enamel gold) ที่ตั้งลอยและนำไปไว้ที่นองซ์น็องต์ (Nantes) ในวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1514 ภาพในห้องเก็บของนักบวชคาร์เมไลท์ในที่บรรจุศพที่สร้างสำหรับพระบิดามารดาของพระองค์ ต่อมาผอบทองนี้ก็ถูกย้ายไปไว้ที่มหาวิหารแซงต์ปิแยร์ หัวใจของแอนน์อานอยู่ในผอบรูปไข่เปิดเป็นสองด้านที่ทำด้วยแผ่นทองที่ประดับด้วยลวดลายและมีบานพับตกแต่ง ด้านบนเป็นมงกุฎลิลลีและดอกจิก และมีคำจารึกว่า “En ce petit vaisseau De fin or pur et munde Repose ung plus grand cueur Que oncque dame eut au munde Anne fut le nom delle En France deux fois royne Duchesse des Bretons Royale et Souveraine.” ผอบสร้างโดยช่างทองที่ไม่ทราบนามของราชสำนักที่บลัวส์บลัวที่อาจจะวาดโดยฌอง แปเรอาล (Jean Perréal) ในปี ค.ศ. 1792 National Convention ก็สั่งให้นำผอบของพระองค์ออกจากที่บรรจุ, เอาสิ่งของที่บรรจุอยู่ภายในทิ้ง และนำผอบไปรักษาไว้เป็นส่วนหนึ่งของสมบัติมีค่าของวัดและส่งไปยังนองซ์น็องต์เพื่อนำไปหลอม แต่แทนที่จะถูกส่งไปผอบก็ถูนำไปเก็บไว้ที่หอสมุดแห่งชาติและถูกนำกลับไปนองซ์ในปีน็องต์ในปี ค.ศ. 1819 ไปเก็บในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ และในที่สุดก็ได้เก็บรักษาไว้ที่[[พิพิธภัณฑ์โดเบร]] (Dobrée Museum) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896
 
นอกจากนั้นพินัยกรรมของแอนน์อานยังระบุให้เรเนพระธิดาองค์รองเป็นทายาทแห่งอาณาจักรบริตานีอาณาจักรเบรอตาญต่อจากพระองค์ แต่พระสวามีไม่ทรงทำตามและระบุให้พระโคลดพระธิดาองค์โตให้เป็นดัชเชสแห่งบริตานีแทนที่แห่งเบรอตาญแทนที่ และจับโคลดแต่งงานกับฟรองซัวส์
 
== สัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ==
[[ไฟล์:Boucher - anne.jpg|thumb|220px|พระราชินีแอนน์อานโดยประติมากร[[ฌอง โบแชร์]] (Jean Boucher) ค.ศ. 1915]]
เมื่อพระราชินีแอนน์อานยังทรงพระชนม์อยู่ทางราชสำนักของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 ก็สร้างภาพพจน์ของพระองค์ว่าเป็นพระราชินีที่ทรงมีคุณธรรมอันดีเลิศผู้ทรงเป็นสัญลักษณ์ของการสมานความสัมพันธ์อันราบรื่นระหว่างราชอาณาจักรฝรั่งเศสและดัชชีแห่งบริตานีดัชชีแห่งเบรอตาญ แต่นักประวัติศาสตร์อีกสองสามร้อยปีต่อมามีความคิดเห็นเกี่ยวกับพระราชินีแอนน์อานที่แตกต่างออกไปจากที่ทราบกัน และบรรยายพระลักษณะทางร่างกายและจิตใจที่ไม่สนับสนุนหลักฐานทางประวัติศาสตร์
 
ในปี ค.ศ. 1991 ในโอกาสครบรอบห้าร้อยปีของการเสกสมรสระหว่างพระราชินีแอนน์อานและพระเจ้าชาร์ลส์ที่ชาร์ลที่ 8 ก็มีการฉลองกันที่ลองเจส์ แต่ในแรนน์แรนที่เป็นเมืองที่ถูกล้อมและต้องเสียเมืองและพระราชินีแอนน์อานให้แก่ฝรั่งเศสก็แทบจะไม่มีผู้ใดกล่าวถึงโอกาสนั้น
 
พระราชินีแอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญทรงเป็นผู้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของบริตานีของเบรอตาญที่สุดคนหนึ่งจะเป็นรองก็แต่เพียง[[นักบุญอิโวแห่งแคร์มาร์แต็ง]] (Ivo of Kermartin) เท่านั้น ที่จะเห็นได้จากการตั้งชื่อสถานที่ค้าขาย, โรงแรม และถนนตามพระนามของพระองค์ในบริตานีเบรอตาญ
 
== อ้างอิง ==
บรรทัด 84:
 
== ดูเพิ่ม ==
* [[ราชวงศ์วาลัวส์ลัว]]
 
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{คอมมอนส์-หมวดหมู่-บรรทัด|Anne of Brittany|แอนน์แห่งบริตานีอานแห่งเบรอตาญ}}
{{birth|1477}}
{{death|1514}}