ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถานะออกซิเดชัน"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
ล เคาะวรรค |
||
บรรทัด 1:
'''สถานะออกซิเดชัน''' ({{lang-en|oxidation state}}) เป็นสมบัติที่สำคัญของอะตอมเมื่อเกิดเป็นสารประกอบ เนื่องจากสมบัติทางเคมีและกายภาพหลายอย่างสามารถอธิบายโดยใช้สถานะออกซิเดชัน ตลอดระยะเวลาผ่านมามีการนิยามคำว่า สถานะออกซิเดชันที่หลากหลายและยังมีข้อสับสนเกี่ยวกับคำว่า '''สถานะออกซิเดชัน''' (oxidation state) และ '''เลขออกซิเดชัน''' (oxidation number) ที่พบในหนังสือแบบเรียน
== ประวัติ ==
บรรทัด 9:
==นิยาม==
มีการนิยามคำว่าสถานะออกซิเดชันมากมายตามหนังสือ
=== นิยามอย่างง่ายตาม IUPAC Gold Book ===
บรรทัด 21:
#ในสารประกอบทั่วไป [[ไฮโดรเจน]]มีสถานะออกซิเดชันเท่ากับ +1 และ[[ออกซิเจน]]มีสถานะออกซิเดชันเท่ากับ -2 '''ยกเว้น''' ใน [[สารประกอบไฮไดรด์]]ของโลหะกัมมันต์ เช่น LiH ไฮโดรเจนมีสถานะออกซิเดชันเท่ากับ -1 และใน[[สารประกอบเปอร์ออกไซด์]]ออกซิเจนมีสถานะออกซิเดชันเท่ากับ -1 เช่น H<sub>2</sub>O<sub>2</sub> เป็นต้น
ผลรวมเลขคณิตของสถานะออกซิเดชันของอะตอม
=== นิยามทางวิทยาศาสตร์ตาม IUPAC Technical Report ===
พาเวล กาเรน (Pavel Karen) และคณะได้เสนอการกำหนดนิยามของคำว่าสถานะออกซิเดชันและตีพิมพ์ในวารสารของ [[สหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศ|IUPAC]] ในปี ค.ศ. 2014 ในลักษณะรายงานทางเทคนิค (Technical Report)<ref>Toward a comprehensive definition of oxidation state (IUPAC Technical Report)., Pure and Applied Chemistry. Volume 86, Issue 6, Pages 1017–1081, ISSN (Online) 1365-3075, ISSN (Print) 0033-4545, DOI: 10.1515/pac-2013-0505, 2014 </ref> โดยได้กำหนดให้นิยามคำว่า ‘สถานะออกซิเดชัน’ โดยทั่วไปว่า
“สถานะออกซิเดชัน คือ ประจุของอะตอมหลังจากการประมาณแบบไอออนิกของพันธะของอะตอมนั้น”
บรรทัด 37:
====วิธีการกำหนดสถานะออกซิเดชัน====
วิธีการกำหนดสถานะออกซิเดชันทำได้โดยกำหนดให้สถานะออกซิเดชันเท่ากับประจุของอะตอมหลังจากการแบ่งแยกพันธะอย่างเสมอภาคระหว่างอะตอมชนิดเดียวกันและการแบ่งแยกพันธะระหว่างอะตอมต่างชนิดกันด้วยการพิจารณาค่าอิเล็กโทรเนกาติวิตีที่วัดโดยวิธีของอัลเลน '''ยกเว้น''' กรณีที่อะตอมที่มี[[อิเล็กโตรเนกาทิวิตี]]สูงกว่าอะตอมนั้นสร้างพันธะแบบกลับในฐานะลิแกนด์แบบ[[ทฤษฎีกรด–เบส|กรดลิวอิส]]ซึ่งอะตอมนั้นไม่ได้รับอิเล็กตรอนที่สร้างพันธะนั้นๆ หรืออาจจะใช้[[การคำนวณผลรวมพันธะเวเลนซ์]] (Bond Valence Sum Calculation; BVS) และวิธี
|