ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไรส์โอวอยส์ออฟโรดีเซีย"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
หน้าใหม่: {{กล่องข้อมูล เพลงชาติ | title = "Rise, O Voices of Rhodesia" | transcription = ไรส์โอว๊อยส์อ...
(ไม่แตกต่าง)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:43, 29 พฤศจิกายน 2561

"ไรส์โอว๊อยส์ออฟโรดีเซีย" (" Rise, O Voices of Rhodesia" or "Voices of Rhodesia") เสียงแห่งโรดีเซีย เป็นเพลงชาติของ โรดีเซีย และ ซิมบับเวโรดีเซีย (เปลี่ยนชื่อเป็น ซิมบับเว เมื่อ ค.ศ. 1980) มีสถานะรัฐที่ได้รับการรับรองอย่างไม่สมบูรณ์ ระหว่าง ค.ศ. 1974 และ ค.ศ. 1979. โดยยืมทำนองเพลง "ปีติศังสกานท์" ("Ode to Joy"), เป็นผลงานของ ลูทวิช ฟัน เบทโฮเฟิน อยู่ในบทเพลงซิมโฟนีหมายเลข 9, ปัจจุบันเพลงปีติศังสกานท์ ใช้เป็น เพลงประจำสหภาพ ของ สหภาพยุโรป เมื่อ ค.ศ. 1972 (แม้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นเพลงชาติทวีปยุโรปก็ตาม). โดยมีความยาว[[[ห้องเสียง]]ถึง 16 บาร์ เรียบเรียงโดย ร้อยเอก เคน แมคโดนัล, ผู้ควบคุมวงดุริยางค์ กรมทหารปืนเล็กยาวโรดีเซีย. ทางรัฐบาลได้มีการประกวดเนื้อเพลงชาติ โดย มารี บลูม of Gwelo ชนะการประกวดบทร้องของเพลงชาติ.

ไรส์โอว๊อยส์ออฟโรดีเซีย
"Rise, O Voices of Rhodesia"
ชื่ออื่น"Voices of Rhodesia"[1]
เนื้อร้องมารี บลูม, 1974[1]
ทำนองลูทวิช ฟัน เบทโฮเฟิน, 1824[2] (arranged by Ken MacDonald, 1974)
รับไปใช้สิงหาคม 1974; 49 ปีที่แล้ว (1974-08)[1]
เลิกใช้ธันวาคม 1979; 44 ปีที่แล้ว (1979-12)
ตัวอย่างเสียง
"ไรส์โอว๊อยส์ออฟโรดีเซีย" (บรรเลง)

ความล้มเหลวในการประกาศอิสรภาพฝ่ายเดียว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ค.ศ. 1965, เมื่อโรดีเชียสถาปนาตนเองใหม่ภายใต้การถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์เป็นรัฐ "ซิมบับเวโรดีเชีย" ซึ่งไม่ได้รับการรับรอง ก่อนจะย้อนมาเป็นสถานะอาณานิคมโดยความตกลงแลงคัสเตอร์ในเดือนธันวาคม โดย สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐ "ก็อดเซฟเดอะควีน" จึงมีสถานะเป็นเพลงชาติ. ในช่วงเวลาดังกล่าว โรดีเซียมีสถานะเป็นสาธารณรัฐ เมื่อ ค.ศ. 1965, ในช่วงที่มีความผันผวนทางการเมือง โดย ก็อดเซฟเดอะควีน ใช้เพลงคำนับสำหรับพิธีการที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์แห่งสหราชอาณาจักร ในฐานะพระประมุขแห่งอาณานิคมและพระราชวงศ์อังกฤษ ส่วน ไรส์โอว๊อยส์ออฟโรดีเซีย ใช้เป็นเพลงชาติ ตั้งแต่ ค.ศ. 1974. ใช้สืบเนื่องจนถึง ธันวาคม ค.ศ. 1979, ก่อนที่สหราชอาณาจักรเข้าปกครอง ดินแดนอาณานิคมเพียงระยะเวลาสั้นๆ ก่อนกการประกาศเอกราชของซิมบับเวเพียง 5 เดือน.

ประวัติ

ภูมิหลัง

เนื้อร้อง

 
น้ำตกวิคตอเรีย. Historian J L Fisher ใช้เป็นแนวคิดหลักในการประพันธ์เนื้อร้อง "magnificent landscape".[3]

The lyrics officially adopted were as follows:[4]

Rise, O voices of Rhodesia,
God may we Thy bounty share.
Give us strength to face all danger,
And where challenge is, to dare.
Guide us, Lord, to wise decision,
Ever of Thy grace aware,
Oh, let our hearts beat bravely always
For this land within Thy care.

Rise, O voices of Rhodesia,
Bringing her your proud acclaim,
Grandly echoing through the mountains,
Rolling o'er the far flung plain.
Roaring in the mighty rivers,
Joining in one grand refrain,
Ascending to the sunlit heavens,
Telling of her honoured name.

อ้างอิง

เชิงอรรถ
  1. 1.0 1.1 1.2 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ nfbpwr142
  2. Buch 2004, p. 1
  3. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ fisher60
  4. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ africaresearch
หนังสือพิมพ์ และ สื่อสารมวชน
  • Bullivant, Michael (12 ธันวาคม 2007). "Zimbabwe music lovers in harmony". The Daily Telegraph. London: Telegraph Media Group. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2012. {{cite news}}: |ref=harv ไม่ถูกต้อง (help)
  • Nyoka, Justin V J (18 กรกฎาคม 1970). "Smith regime doing away with last British influences". The Afro-American. Baltimore, Maryland. p. 22. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2012. {{cite news}}: |ref=harv ไม่ถูกต้อง (help)
  • "Zimbabwe athlete sings own anthem". London: BBC. 19 กรกฎาคม 2004. สืบค้นเมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2012.
  • "Rhodesia picks Ode to Joy". The Vancouver Sun. Vancouver, British Columbia: Postmedia News. 30 สิงหาคม 1974. p. 12. สืบค้นเมื่อ 25 มกราคม 2012.
บรรณานุกรม

แหล่งข้อมูลอื่น

แม่แบบ:National anthems of Africa แม่แบบ:Rhodesian topics แม่แบบ:Beethoven symphonies แม่แบบ:Symphony No. 9

แม่แบบ:Use South African English