ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดีร์ก เกอวต์"

| name = ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์

| caption = ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์ กับ[[เฟแนร์บาห์เชสปอร์กูลือบือ|เฟแนร์บาห์เช]]ในปี ค.ศ. 2012

| fullname = ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์<ref>{{cite web|title=FIFA World Cup South Africa 2010 – List of Players|url=http://www.fifa.com/mm/document/tournament/competition/01/22/85/78/fwc_2010_squadlists.pdf|publisher=Fédération Internationale de Football Association (FIFA)|accessdate=8 June 2013|format=PDF}}</ref>

| years5 = 2015–2017 |clubs5 = [[ไฟเยอโนร์ด]] |caps5 = 063 |goals5 = 031

'''ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์''' ({{lang-nl|Dirk Kuijt}}, {{IPA-nl|ˈdɪr ˈkœy̆t|pron|Nl-Dirk Kuyt.oga}}) เกิดเมื่อวันที่ [[22 กรกฎาคม]] [[ค.ศ. 1980]] ที่เมือง[[กัตไวก์อานเซ]] [[ประเทศเนเธอร์แลนด์]] เล่นในตำแหน่ง[[กองหน้า]]และ[[ปีกขวา]]ให้กับ[[เฟแนร์บาห์เชสปอร์กูลือบือ|สโมสรฟุตบอลเฟแนร์บาห์เช]]ในปัจจุบัน

เกยต์เคาต์เกิดที่เมืองแห่งชายทะเลคือเมือง[[กัตไวก์อานเซ]] ที่ประเทศ[[เนเธอร์แลนด์]] โดยมีคุณพ่อทำอาชีพชาวประมง เกยต์เคาต์ชื่นชอบฟุตบอลตั้งแต่เด็ก เพราะเป็นกีฬาที่ง่ายและกำลังมีความนิยมในสมัยนั้น โดยคุณพ่อของเขาก็สนับสนุนให้เกยต์เคาต์เล่นฟุตบอลเพื่อความสุขของลูกและเพื่ออนาคตของตนและลูก เกยต์เคาต์จึงเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 5 ปี และได้เข้ามาเล่นในสโมสรฟุตบอลเยาวชนของประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยเล่นให้กับ[[สโมสรฟุตบอลควิกบอยส์]]และผ่านมา 13 ปี ในปี [[ค.ศ. 1998]] เกยต์เคาต์ทำประตูไปได้ 3 ประตู ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจครั้งแรกของเขาในเล่นฟุตบอล

เยาวชนหลังจากนั้น เกยต์เคาต์ได้เข้าสู่วงการฟุตบอลยุโรปแบบเต็มตัวตั้งแต่ อายุ 18 ปี

เกยต์เคาต์ได้มาเล่นสโมสรฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ [[สโมสรฟุตบอลยูเทรกต์]]ในประเทศ[[เนเธอร์แลนด์]]ตั้งแต่ฤดูกาล 1998-2003 และในฤดูกาล 2002-2003 โดยเกยต์เคาต์ทำประตูไปได้ 66 จาก 184 และยังพาทีมยูเทรกต์คว้าแชมป์[[ดัตช์คัพ]]ด้วยการทำแฮตทริกของเขา 3 ลูก โดยชนะ[[อาเอฟเซ อายักซ์|อายักซ์อัมสเตอร์ดัม]]ไป 4-1 ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นสถิติแรกที่เขาภาคภูมิใจในการมาเล่นสโมสรอาชีพเป็นครั้งแรก และเกยต์เคาต์ขอย้ายไปเล่นกับ[[สโมสรฟุตบอลไฟเยอโนร์ด]]ในเวลาต่อมา

ในปี [[ค.ศ. 2003]] เกยต์เคาต์ได้ย้ายมาอยู่[[สโมสรฟุตบอลไฟเยอโนร์ด]] เมือง[[รอตเทอร์ดาม|โรตเตอร์ดัม]] และได้เป็นกัปตันทีมอีกด้วย เกยต์อยู่กับเฟเออโนร์ดเคาต์อยู่กับเฟเออโนร์ดจนถึงปี [[ค.ศ. 2006]] เล่นไป 122 นัด ยิงไป 83 ประตู และยังได้รับรางวัลดีเด่นจากราชสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ด้วยการเป็น "กัปตันทีมดีเด่น" ในฤดูกาล 2003-2004 และ 2005-2006 จึงทำให้เป็นความสนใจของ[[ราฟาเอล เบนิเตซ]] ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล และซื้อเกยต์เคาต์ด้วยค่าตัว 12 ล้านปอนด์ มาอยู่กับ[[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล]]ใน[[พรีเมียร์ลีก]]

[[ไฟล์:Kuyt Alonso Liverpool.jpg|200px|right|thumb|ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์ กับ [[ชาบี อาลอนโซ]] ลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล ในเดือนเมษายน 2007]]

เกยต์เคาต์ได้ย้ายมาสู่[[แอนฟีลด์]]ในปี [[ค.ศ. 2006]] ในวันที่ 26 สิงหาคม ค.ศ. 2006 เกยต์เคาต์ได้ลงเล่นนัดแรกให้กับลิเวอร์พูล โดยลงสนามเป็นตัวสำรองในนัดที่เจอกับ [[สโมสรฟุตบอลเวสต์แฮมยูไนเต็ด|เวสต์แฮมยูไนเต็ด]] ต่อมา เกยต์เคาต์ได้ทำประตูแรกให้กับลิเวอร์พูลในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ[[สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด|นิวคาสเซิลยูไนเต็ด]] โดยลิเวอร์พูลชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 2-0<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/sport1/hi/football/eng_prem/5351794.stm |title=Liverpool 2–0 Newcastle |publisher=[[BBC Sport]] |accessdate=21 September 2006 | date=20 September 2006 | first=Ian | last=Hughes}}</ref> ต่อมาลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ[[สโมสรฟุตบอลทอตนัมฮอตสเปอร์|ทอตนัมฮอตสเปอร์]] และเกยต์เคาต์ได้ทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก โดยลิเวอร์พูลชนะไป 3-0 ต่อมา เกยต์เคาต์ได้ทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลแอสตันวิลลา|แอสตันวิลลา]] 3-1 ต่อมา เกยต์เคาต์ได้เล่นในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการใหญ่คือ [[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]] ปี 2006-2007 ระหว่างลิเวอร์พูลกับ[[เอซี มิลาน]] ซึ่งก่อนหน้านั้น 2 ปี ลิเวอร์พูลได้ชิงรายการเดิมกับเอซี มิลาน โดยนัดนั้นลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ แชมป์ครั้งนั้นทำให้ลิเวอร์พูลได้แชมป์เป็นสมัยที่ 5 และนัดนี้ ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์ กองหน้าคนใหม่ก็ต้องผิดหวังเมื่อแพ้เอซีมิลานที่[[กรุงเอเธนส์]] [[ประเทศกรีซ]] 2-1 ถึงแม้เกยต์เคาต์จะตีไข่แตกในนาทีที่ 87 แต่ก็ตามไม่ทัน ทำให้ลิเวอร์พูลพลาดแชมป์ที่จะได้เท่ากับเอซีมิลาน คือ 6 สมัย เกยต์เคาต์ย้ายเข้ามาใน[[แอนฟีลด์]] และถูกเปลี่ยนบทบาทจากกองหน้ากลายมาเป็น[[ปีกขวา]] เกยต์เคาต์เป็นนักฟุตบอลที่ขยัน ทำให้เขายึดตัวจริงในถิ่นแอนฟีลด์และเป็นตัวหลักในชุดใหญ่ของลิเวอร์พูลไปโดยปริยาย

เกยต์เคาต์ทำประตูแรกในฤดูกาล 2007-2008 ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะตูลูสจากฝรั่งเศส 4-0 ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก ต่อมา ในวันที่ 28 สิงหาคม ค.ศ. 2007 เกยต์ได้ยิงเคาต์ได้ยิง 2 [[จุดโทษ]]ช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง [[เอฟเวอร์ตัน]] ที่[[กูดิสันพาร์ก]] 2-1 ต่อมา ในเดือนพฤศจิกายน 2007 เกยต์เคาต์ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะนิวคาสเซิลยูไนเต็ดที่[[เซนต์เจมส์ปาร์ก]] 3-0

ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2008 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เกยต์เคาต์ทำประตูให้ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ [[สโมสรฟุตบอลอินแตร์นาซีโอนาเลมีลาโน|อินเตอร์มิลาน]] 2-0 จบฤดูกาล เกยต์เคาต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 3 ประตูเท่านั้น

ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2008-2009 รอบคัดเลือก เกยต์เคาต์ทำประตูชัยในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ Standard Liège 1-0 ต่อมา ในวันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลบุกไปเยือน[[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี|แมนเชสเตอร์ซิตี]]ที่[[ซิตีออฟแมนเชสเตอร์]] โดยครึ่งแรก ลิเวอร์พูลตามหลัง 0-2 แต่ในครึ่งหลัง [[เฟร์นันโด ตอร์เรส]] ยิง 2 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูลตามตีเสมอ 2-2 และในช่วงนาทีสุดท้าย เกยต์เคาต์ได้ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-2 ต่อมา ในวันที่ 18 ตุลาคม ค.ศ. 2008 ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับวีกันแอทเลติก โดยเกยต์เคาต์ได้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 แต่ครึ่งแรก ลิเวอร์พูลตามหลัง 1-2 แต่ในครึ่งหลังเกยต์เคาต์ ได้ยิงประตูชัยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะไป 3-2 ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์เคาต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 12 ประตูจาก 38 นัด

เกยต์เคาต์ทำประตูแรกในฤดูกาล 2009-2010 ในนัดที่ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลสโตกซิตี|สโตกซิตี]] 4-0 ต่อมา เกยต์เคาต์ทำประตูชัยในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก 2009-2010 รอบแบ่งกลุ่ม ในนัดที่เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ Debrecen 1-0 ต่อมา เกยต์เคาต์ได้ทำประตูที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูลเอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง เอฟเวอร์ตัน ที่กูดิสันพาร์ก 2-1 ต่อมา เกยต์เคาต์ได้ทำประตูที่ 5 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่แพ้ อาร์เซนอล 1-2 ที่แอนฟีลด์

เกยต์เคาต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมอเอฟเวอร์ตัน 2-2 ต่อมา เกยต์ได้ทำเคาต์ได้ทำ[[แฮตทริก]]ครั้งแรกให้กับลิเวอร์พูล ในนัดที่เจอกับคู่ปรับตลอดกาล [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] ที่[[แอนฟีลด์]] โดยลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 3-1 พร้อมกับคว้าลูกบอลกลับบ้านไปครอง<ref>[http://thailand.liverpoolfc.com/photos/why-dirk-is-a-kop-hero 5 เหตุผลที่ทำให้เคาต์เป็นฮีโร่ของเดอะ ค็อป]</ref> ต่อมา เกยต์เคาต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะซันเดอร์แลนด์ที่[[สเตเดียมออฟไลต์]] 2-0 ต่อมาได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3-0 ต่อมาเกยต์เคาต์ได้ยิงจุดโทษช่วยให้ลิเวอร์พูลตีเสมออาร์เซนอลในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 1-1, ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ[[เบอร์มิงแฮมซิตี]] 5-0, ได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลถล่มนิวคาสเซิลยูไนเต็ด 3-0 และได้ยิงประตูช่วยให้ลิเวอร์พูลเอาชนะ[[สโมสรฟุตบอลฟูแลม|ฟูลัม]] 5-2 ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์เคาต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้ 13 ประตูจาก 33 นัด

[[ไฟล์:Dirk Kuyt Liverpool vs Bolton 2011.jpg|thumb|right|200px|เกยต์ในปีเคาต์ในปี [[ค.ศ. 2011]]]]

เกยต์เคาต์ได้มีโอกาสลงเล่นมากขึ้นโดยทำผลงานยอดเยี่ยมในช่วงต้นปี 2012 ด้วยการยิงประตูชัยในนาที 88 ใน[[เอฟเอคัพ]]รอบ 4 ที่ [[แอนฟีลด์]] นัดที่ลิเวอร์พูลพบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด โดยทำสกอร์ให้ลิเวอร์พูลชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดไป 2-1 ต่อมา ในรอบชิงชนะเลิศถ้วย[[ลีกคัพ]] ลิเวอร์พูลเจอกับ[[สโมสรฟุตบอลคาร์ดิฟฟ์ซิตี|คาร์ดิฟฟ์ซิตี]] เกยต์เคาต์ลงมาเป็นตัวสำรองและสามารถทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่สุดท้ายจบด้วยผลเสมอ 2-2 ทำให้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ และเกยต์เคาต์ยิงจุดโทษได้ด้วยและผลคือทำให้ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษ 3-2 และสามารถคว้า[[ลีกคัพ]]มาได้ พอจบฤดูกาล 2011-12 ลิเวอร์พูลจบในอันดับที่ 8 โดยไม่ได้ไปเล่น[[ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก]]ถึง 3 ครั้ง ซึ่งจบฤดูกาล เกยต์เคาต์ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกได้แค่ 2 ประตู เท่านั้น และเกยต์เคาต์ก็ไม่ได้รับโอกาสเป็นตัวจริงทั้งหมด จึงทำให้เกยต์เคาต์ต้องย้ายออกจาก[[สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล]]ไปอยู่[[เฟแนร์บาห์เชสปอร์กูลือบือ|สโมสรฟุตบอลเฟแนร์บาห์เช]]ในวันที่ [[3 มิถุนายน]] [[ค.ศ. 2012]]

{{คอมมอนส์-หมวดหมู่|Dirk Kuijt|ดีร์กเดิร์ก เกยต์เคาต์}}