ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประวัติวิชากายวิภาคศาสตร์"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
AlphamaBot (คุย | ส่วนร่วม) ล →แหล่งข้อมูลอื่น: add category using AWB |
ล Museum quality photograph original colours |
||
บรรทัด 34:
=== คริสต์ศตวรรษที่ 17 และ 18 ===
[[ไฟล์:Rembrandt
การศึกษาวิชากายวิภาคศาสตร์มีความเฟื่องฟูในคริสต์ศตวรรษที่ 17 และ [[คริสต์ศตวรรษที่ 18|18]] โดยมีการประดิษฐ์แท่นพิมพ์ช่วยในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เนื่องจากการศึกษากายวิภาคศาสตร์จะเกี่ยวกับการสังเกตและภาพวาด นักกายวิภาคศาสตร์จะมีชื่อเสียงหรือไม่จึงขึ้นกับฝีมือการวาดภาพของเขาโดยไม่จำเป็นต้องเชี่ยวชาญภาษาละติน<ref>http://www.nlm.nih.gov/dreamanatomy/da_info.html</ref> ศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคนก็ศึกษาวิชากายวิภาคศาสตร์ เข้าเรียนการชำแหละร่างกาย และวาดภาพเพื่อหารายได้ เช่น [[มีเกลันเจโล]] (Michelangelo) หรือ [[แรมบรังด์]] (Rembrandt) ในช่วงแรกๆ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงสอนเกี่ยวกับกายวิภาคศาสตร์โดยผ่านทางภาพวาดแทนที่จะสอนตามเนื้อหาภาษาละติน สิ่งที่ขัดขวางการศึกษากายวิภาคศาสตร์เพียงอย่างเดียวในช่วงเวลานี้คือคำตำหนิของฝ่ายศาสนา ซึ่งทำให้นักกายวิภาคศาสตร์หลายคนเกิดความหวาดกลัวเมื่อต้องชำแหละร่างกายมนุษย์ เพราะว่าใน[[ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา]] แม้ว่าจะเป็นยุคที่วิทยาศาสตร์มีความเฟื่องฟูและการค้นพบต่างๆ มากมาย แต่ศาสนาก็มีอิทธิพลอย่างมากดังเช่นกรณีของ[[กาลิเลโอ]]ซึ่งถูกศาลศาสนาลงโทษเพราะตีพิมพ์ผลงานขัดแย้งกับฝ่ายศาสนา นักวิทยาศาสตร์บางคนในยุคนี้กลัวเกินกว่าจะเดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองหนึ่ง เช่น [[เรอเน เดส์การตส์]] (Descartes) นักกายวิภาคศาสตร์เพียงบางคนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ชำแหละร่างกายมนุษย์เพื่อศึกษา บางครั้งได้รับอนุญาตเพียงปีเดียว การแสดงการชำแหละร่างกายมนุษย์นี้มักได้รับการสนับสนุนจากสภาของเมือง และบางครั้งอาจต้องเก็บค่าธรรมเนียมราวกับเป็นการแสดงของนักวิชาการ เมืองในยุโรปหลายเมืองเช่น [[อัมสเตอร์ดัม]], [[ลอนดอน]], [[โคเปนเฮเกน]], [[ปาดัว]], และ[[ปารีส]] มีนักกายวิภาคหลวง (Royal anatomists) ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลท้องถิ่น เช่น [[นีโคลัส ทุลพ์]] (Nicolaes Tulp) นักกายวิภาคศาสตร์ที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองอัมสเตอร์ดัม 3 สมัย แม้ว่าการแสดงการชำแหละร่างกายมนุษย์ค่อนข้างเป็นธุรกิจที่เสี่ยง และไม่แน่นอนว่าจะหาร่างกายมนุษย์มาจากที่ใด แต่การเข้าชมการชำแหละร่างกายมนุษย์นั้นถูกกฎหมาย นักเรียนกายวิภาคศาสตร์หลายคนเดินทางรอบทวีปยุโรปเพื่อเข้าชมการศึกษาร่างกายมนุษย์ที่แล้วที่เล่าตลอดหลักสูตรการเรียน พวกเขาต้องเดินทางไปตามที่ต่างๆ ซึ่งมีศพมนุษย์ที่เพิ่งเสียชีวิตให้ศึกษา (เช่น หลังจาก[[การแขวนคอ]]) เพราะว่าหากปล่อยทิ้งไว้ร่างกายอาจเน่าสลายไปจนไม่เหมาะที่จะนำมาศึกษา เนื่องจากยังไม่มีการคิดค้นระบบแช่เย็นในสมัยนั้น
|