ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถานีโทรทัศน์ไอทีวี"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ล ย้อนการแก้ไขของ 27.130.158.174 (พูดคุย) ไปยังรุ่นก่อนหน้าโดย Soponwit Sangsai ป้ายระบุ: ย้อนรวดเดียว |
||
บรรทัด 37:
}}
'''สถานีโทรทัศน์ไอทีวี''' ({{lang-en|Independent Television}} ชื่อย่อ: itv) เริ่มต้นออกอากาศอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ [[1 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2539]] เวลา 19.00 น. โดยเริ่มต้นจากการนำเสนอ ''ข่าวภาคค่ำประจำวัน'' เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ การเป็น สถานีโทรทัศน์เพื่อข่าวสาร และสาระความรู้ โดย[[ผู้ประกาศข่าว]]คู่แรกของสถานี คือ [[กิตติ สิงหาปัด]] และ [[เทพชัย หย่อง]] ออกอากาศทางช่อง 26<ref>[http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&p=11397 ขุดกรุ:จากสถานี HS1PJ ถึงโทรทัศน์สีสเตอริโอ](บางส่วน) จากเว็บไซต์รถไฟไทยดอตคอม</ref>และช่อง 29 โดยมี [[
== ประวัติ ==
''สถานีโทรทัศน์ไอทีวี'' ถือกำเนิดจากดำริของรัฐบาลในสมัยที่ นาย[[อานันท์ ปันยารชุน]] เป็นนายกรัฐมนตรี และ[[
ในปี [[พ.ศ. 2538]]
ในระยะแรก สถานีโทรทัศน์ไอทีวี มีที่ทำการอยู่บนชั้นที่ 16, 17 และ 21 ของตึกฝั่งตะวันออก [[อาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า]] [[ถนนพหลโยธิน]] โดยมีระบบการบริหาร ที่เน้นภาพลักษณ์ของการนำเสนอข่าวสารและสาระเป็นหลัก โดยมี [[เทพชัย หย่อง]] เป็นผู้อำนวยการฝ่ายข่าว พร้อมทั้งนำทีมงานจากเครือเนชั่น เข้าเป็นบุคลากรหลักในการดำเนินงาน ทั้งนี้ ในช่วงแรกของไอทีวี มีรายการข่าว และรายการ[[สารคดีเชิงข่าว]] ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ได้แก่ ข่าวภาคค่ำ, ไอทีวี ทอล์ค, สายตรงไอทีวี, ถอดรหัส, ย้อนรอย เป็นต้น ซึ่งทำให้ไอทีวีมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในการนำเสนอข่าวสารในเวลาต่อมา รวมถึงการเป็นผู้นำในเชิงข่าว[[สืบสวนสอบสวน]]อีกด้วย
บรรทัด 48:
เมื่อวันที่ [[20 ตุลาคม]] [[พ.ศ. 2541]] บจก.สยาม อินโฟเทนเมนท์ เข้าจดทะเบียนใน[[ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย]] พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น ''[[บริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)]]'' และในราวปี [[พ.ศ. 2542]] หน่วยงานภาครัฐแห่งหนึ่งได้เปลี่ยนแปลงช่องสัญญาณให้กับไอทีวี จากช่อง 26 มาเป็นช่อง 29 โดยส่งสัญญาณจากยอด[[อาคารใบหยก 2]] และมีสถานีเครือข่ายทั้งสิ้น 52 แห่งทั่วประเทศ นับเป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีเครือข่ายมากที่สุด ครอบคลุมจำนวนผู้รับชม ประมาณร้อยละ 98 ของประชากรในประเทศไทย
ต่อมา ในเดือน[[พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2543]] [[บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)]] เข้าซื้อหุ้นของ บมจ.ไอทีวี จากธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่แสดงความจำนงจะขายหุ้น หลังประสบปัญหาในการบริหารสถานีฯ ส่งผลให้พนักงานฝ่ายข่าวของสถานีฯ บางส่วนไม่เห็นด้วย และเมื่อบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าซื้อหุ้นเป็นผลสำเร็จ กลุ่มผู้บริหารและพนักงานฝ่ายข่าวบางส่วน ที่นำโดย เทพชัย หย่อง ตัดสินใจลาออกจากสถานีฯ และหลังจากนั้น ไอทีวีก็เคลื่อนย้ายที่ทำการ จากอาคารไทยพาณิชย์ ปาร์ค พลาซ่า มาอยู่บน[[อาคารชินวัตร
ในช่วงประมาณปี [[พ.ศ. 2546]] [[ไตรภพ ลิมปพัทธ์|นายไตรภพ ลิมปพัทธ์]] กรรมการผู้จัดการ ''บริษัท บอร์น ออพปอเรชั่น จำกัด'' และ ''บริษัท บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ จำกัด'' และ ''[[บริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)]]'' ได้จัดทำบันทึกความเข้าใจเบื้องต้น (เอ็มโอยู) ร่วมกับ บมจ.ไอทีวี พร้อมเข้าถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 10 และมีผลให้นายไตรภพมีสถานะเป็นผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไอทีวีด้วย ซึ่งถือเป็นการกลับสู่ไอทีวีอีกครั้ง หลังจากที่ในระยะเริ่มแรกของสถานีฯ นายไตรภพ เคยเข้าร่วมกับกลุ่มสยามทีวี ในการประมูลสถานีโทรทัศน์เสรีมาแล้ว แต่ไม่นานนักก็ได้ถอนตัวออกไป
บรรทัด 54:
เมื่อเข้าบริหารไอทีวี นายไตรภพได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของสถานีฯ ใหม่ในหลายด้าน เช่น เปลี่ยนแปลงเวลานำเสนอข่าวภาคค่ำ จาก 19.00 น. มาเป็น 18.00 น., ปรับปรุงรูปแบบการนำเสนอรายการประเภทข่าวใหม่ และเปลี่ยนแปลง[[ผังรายการ]]ในช่วงเวลา 15.00-24.00 น. โดยเพิ่มเติมรายการบันเทิง เช่น [[ร่วมมือร่วมใจ]], [[ไอทีวี ฮอตนิวส์]], [[บุปผาแฟนคลับ]] (ของ บมจ.กันตนา กรุ๊ป), [[ชวนชื่นคาเฟ่]] (ของ บจก.บอร์น แอนด์ แอสโซซิเอทด์ ) เป็นต้น พร้อมทั้งนำรายการทั้งหมดของ บจก.บอร์นฯ เช่น [[ทไวไลท์โชว์]], [[เกมเศรษฐี]], [[วอท อีส อิท? อะไรกันนี่]] เป็นต้น ซึ่งเดิมออกอากาศทาง[[ไทยทีวีสีช่อง 3]] มาออกอากาศทางไอทีวีด้วย แต่ในเวลาต่อมา บจก.บอร์น และ บมจ.กันตนา กรุ๊ป ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่ตกลงไว้ในบันทึกความเข้าใจได้ จึงส่งผลให้ทั้งสองบริษัทกลายเป็นผู้เช่าเวลาของสถานีฯ เท่านั้น พร้อมกันนั้น นายไตรภพก็ต้องสิ้นสุดการเป็นผู้อำนวยการสถานีฯ ลงเฉพาะตัว โดยมี [[ทรงศักดิ์ เปรมสุข|นายทรงศักดิ์ เปรมสุข]] และ[[นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล|นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล]] เข้ามาเป็นผู้บริหารสถานีฯ แทน
ในวันที่ [[9 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2549]] [[ศาลปกครองกลาง]]มีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของ[[อนุญาโตตุลาการ]] ที่ชี้ขาดให้ สปน.ลดค่าสัมปทานแก่สถานีฯ เป็นเงิน 230 ล้านบาท ตลอดจนการปรับเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงในผังรายการ เป็นร้อยละ 50 เท่ากับรายการข่าวและสาระ รวมถึงการจ่ายค่าชดเชยโดย
จากนั้น สถานีฯ จึงต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการออกอากาศโดยทันที ประกอบกับที่ผู้ผลิตรายการบางส่วน เริ่มถอนรายการออกจากสถานีฯ เป็นผลให้ความนิยม (เรตติ้ง) ของสถานีฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ [[14 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2549]] [[จุลยุทธ หิรัณยะวสิต|นายจุลยุทธ หิรัณยะวสิต]] ปลัด[[สำนักนายกรัฐมนตรี]] ประกาศให้ บมจ.ไอทีวี ชำระค่าสัมปทานที่ค้างอยู่ จำนวนทั้งสิ้น 2,210 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 เป็นจำนวนเงินรวม 464 ล้าน 5 แสนบาท มาชำระกับ
== ผู้ประกาศข่าวและผู้รายงานข่าว ==
บรรทัด 81:
== คลื่นความถี่ ==
โครงการสถานีโทรทัศน์เสรีในระบบ[[ยูเอชเอฟ]] ในนามสถานีโทรทัศน์ไอทีวีนั้น มี[[
ต่อมา ราวปี [[พ.ศ. 2542]] ไอทีวีได้รับอนุญาตจาก สปน.ให้เปลี่ยนแปลงช่องสัญญาณที่ออกอากาศ ในระบบยูเอชเอฟ จากช่อง 26 มาเป็นช่อง 29{{อ้างอิง}} และในปีเดียวกัน ไอทีวีดำเนินการย้ายเสาส่งสัญญาณในส่วนกลางที่กรุงเทพมหานคร จากอาคาร[[เอสซีบีปาร์คพลาซ่า]] , อาคาร[[สินสาธร ทาวเวอร์]] และ [[เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป|อาคาร เนชั่น ทาวเวอร์]] มาอยู่ที่ [[อาคารใบหยก 2]] แทน โดยไอทีวีดำเนินการแพร่ภาพนิ่ง เพื่อแจ้งให้ผู้ชมทราบการเปลี่ยนแปลงช่องสัญญาณ และการย้ายเสาส่งของสถานีฯ ไว้ทางช่อง 26 พร้อมไปกับการแพร่ภาพออกอากาศตามปกติ ทางช่อง 29 ในวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2542<ref>[https://www.youtube.com/watch?v=CvuKQHXKsX8 โฆษณา สถานีโทรทัศน์ไอทีวี (2542)]</ref>ก่อนที่จะยุติการแพร่ภาพทางช่อง 26 อย่างสมบูรณ์ ในปีเดียวกัน และออกอากาศทางช่อง 29 เรื่อยมาจนกระทั่งเปลี่ยนชื่อเป็น[[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]] และ[[สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส]] ตามลำดับ ปัจจุบันช่อง 26 ในกรุงเทพมหานคร ถูกใช้งานโดยกรมประชาสัมพันธ์เพื่อแพร่ภาพในระบบดิจิทัล
บรรทัด 116:
''ดูรายละเอียดที่ [[สถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี]]''
เมื่อวันที่ [[7 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2550]]
== ดูเพิ่ม ==
|