ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สุลักษณ์ ศิวรักษ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
นิลกาฬ (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6:
| alt = ส. ศิวรักษ์ ในการบรรยายที่[[พิพิธภัณฑ์ชาวบางกอก]] บางรัก
| caption =
| birth_date = {{วันเกิดและอายุ|24752476|3|27}}<ref>http://www.npf.or.jp/pdf/grant/2011/biography_e.pdf</ref>
| birth_place = [[กรุงเทพมหานคร]]
| death_date =
บรรทัด 22:
[[ไฟล์:Sulak.Sivaraksa 3-small.jpg|thumb|สุลักษณ์ ศิวรักษ์|150x150px]]
 
ศาสตราจารย์อาคันตุกะ<ref>http://www.worldsreligionsafter911.com/pdf/Sulak%20Sivaraksa.pdf</ref> '''สุลักษณ์ ศิวรักษ์''' (เกิด [[27 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2475]]) เจ้าของ[[นามปากกา]] '''ส. ศิวรักษ์''' เป็น[[นักเขียน]][[ชาวไทย]] ศาสตราจารย์อาคันตุกะ และ นักวิชาการอิสระ[[ชาวไทย]] เป็นที่รู้จักทั่วไปจนได้รับสมญานามว่า ''ปัญญาชนสยาม''<ref>[http://guru.sanook.com/25952/ วันเกิด ส.ศิวรักษ์ นักคิด-ปัญญาชนสยาม อดีตบรรณาธิการสำนักพิมพ์...], guru.sanook.com .สืบค้นเมื่อ 15/04/2559</ref> มีชื่อเสียงอย่างมากในการวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจใคร ไม่เกรงอำนาจผู้ใด จนได้รับ ''รางวัลอัลเทอเนทีฟโนเบล'' (Alternative Nobel) หรือ "''รางวัลสัมมาอาชีวะ''" ในปี [[พ.ศ. 2538]]<ref>[https://blogazine.pub/blogs/bookgarden/post/639 ฅ คน กับบทสัมภาษณ์ ส.ศิวรักษ์] ,blogazine.pub/ .วันที่ 9 เมษายน 2008</ref><ref>[http://www.siamchronicle.com/view_alt_category_005.html ข้อเขียนพิเศษจากอ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์] ,siamchronicle.com .วันที่ 23 มกราคม 2006</ref> สุลักษณ์ ยังได้รับรางวัลศรีบูรพาจาก[[สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย]]ในปีเดียวกันอีกด้วย มีผลงานการเขียนมากมายครอบคลุมหลายด้าน เช่นพุทธศาสนา สังคม การเมือง รูปแบบการปกครอง เป็นต้น โดยมีหนังสืออัตชีวประวัติของตนเองชื่อว่า ''ช่วงแห่งชีวิต''<ref>[http://www.kledthai.com/kledthai-book-104/9786167339290.html ช่วงแห่งชีวิต ส.ศิวรักษ์] ,ช่วงแห่งชีวิต ส.ศิวรักษ์ .สืบค้นเมื่อ 15/04/2559</ref>เขาเปิดเผยว่าเขาโดนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลายครั้ง<ref>[http://themomentum.co/momentum-interview-sulak-sivaraksa สถาบันกษัตริย์ควรจะมีไว้เพื่อประโยชน์ของราษฎร” ส.ศิวรักษ์ กับ​สถาบันกษัตริย์ไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน]</ref>
ชื่อเสียงในการวิจารณ์อย่างไม่เกรงใจใคร ไม่เกรงอำนาจผู้ใดของเขาถูกวิพากษ์จิตารณ์อย่างหนักเมื่อเขาเลือกที่จะยื่นถวายฎีกาต่อ[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร]] ให้ทรงพระราชทานอภัยโทษ เขายังกล่าวแสดงความชื่นชม[[สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร]]และกล่าวว่าหากไม่ได้รับพระบารมีปกเกล้าเขาคงต้องจำคุกอย่างแน่นอน<ref>[http://www.bbc.com/thai/thailand-42714062 ส.ศิวรักษ์ เชื่ออัยการศาลทหารสั่งไม่ฟ้องคดีหมิ่นพระนเรศวรฯ เพราะ "พระบารมีปกเกล้าฯ"]</ref>