ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คริสตินา อากีเลรา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 24:
}}
 
'''คริสตินา มารีอา อากีเลรา''' ({{Lang-en|Christina Maria Aguilera}}) เกิดเมื่อ [[18 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1980]] เป็น[[นักร้อง]]-[[นักแต่งเพลง]] แนว[[ป็อบ]]/[[อาร์แอนด์บี]]ชาวอเมริกัน เจ้าของเพลงฮิต Genie In A Bottle, What A Girl Wants, Come On Over, Beautiful และ Ain't No Other Man และมียอดขายอัลบั้มรวมมากกว่า 4356 ล้านหน่วยทั่วโลก โดยนิตยสาร [[โรลลิงสโตน]] ได้จัดให้เธออยู่อันดับที่ 58 ในหัวข้อ 100 นักร้องที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล โดยเธอเป็นผู้ที่อายุน้อยที่สุดที่ได้รับการจัดอันดับ<ref name=RollingStoneImmortals>{{cite web| title = The Immortals: The First Fifty| work = Rolling Stone Issue 946| publisher = Rolling Stone| url =http://www.rollingstone.com/news/story/5939214/the_immortals_the_first_fifty}}</ref><ref>{{cite web|url=http://www.rollingstone.com/news/coverstory/24161972/page/103|title=The 100 Greatest Singers of All Time|publisher=rollingstone.com|accessdate=2008-11-12}}</ref>
 
== ชีวิตในวัยเด็ก ==
บรรทัด 48:
ในงานการประกาศผล[[รางวัลแกรมมี]]ครั้งที่ 42 อากีเลราได้รับ[[รางวัลแกรมมี สาขาศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม|รางวัลศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม]]<ref>[http://music.yahoo.com/read/story/12051721 Christina Aguilera Wins Best New Artist] yahoo.com</ref>
 
ต่อมาในปี [[ค.ศ. 2000]] ซึ่งเป็นช่วงกระแสเพลงละตินมีความร้อนแรง อากีเลราได้ออกอัลบั้มภาษาสเปน ''Mi Reflejo'' ซึ่งเป็นการนำเพลงฮิตจากอัลบั้ม "Christina Aguilera" มาดัดแปลงเป็นเวอร์ชันภาษาสเปนและได้เพิ่งเพลงเข้าไปอีก ตัวอัลบั้มเปิดตัวในชาร์ตที่อัน 27 และอันดับ 1 ส่วนอัลบั้มเพลงละติน และได้รับรางวัลละติน [[รางวัลแกรมมี|แกรมมี]] สาขาอัลบั้มเพลงป็อปโดยศิลปินหญิงยอดเยี่ยม แผ่นเสียงทองคำในสหรัฐอเมริกา และมียอดจำหน่ายทั่วโลกกว่า 4 ล้านหน่วย ในปี [[ค.ศ. 2000]] นี้ อากีเลรายังได้ออกอัลบั้มเพลงคริสต์มาสในชื่อ ''My Kind of Christmas'' อีกหนึ่งอัลบั้ม และยังยังได้ร้องเพลง "Nobody Wants To Be Lonely" ร่วมกับ [[ริคกี้ มาร์ติน]] อีกด้วย
 
ปี [[ค.ศ. 2001]] อากีเลรา ร่วมกับ ลิล คิม, ไมยา, และ[[พิงก์]] ออกซิงเกิลประกอบภาพยนตร์เรื่อง ''Moulin Rough!'' ในเพลง "Lady Marmalade" ซึ่งต้นฉบับนั้นเป็นเพลงฮิตของ แพตตี้ ลาเบล ในปี [[ค.ศ. 1975]] ตัวซิงเกิลประสบความสำเร็จอย่างสูง ขึ้นถึงอันดับหนึ่งในชาร์ตบิลบอร์ด และยังได้รับ[[รางวัลแกรมมี]] สาขาศิลปินป็อปรวมกันเฉพาะกิจยอดเยี่ยมอีกด้วย
บรรทัด 80:
วันที่ [[11 พฤศจิกายน]] [[ค.ศ. 2008]] อาร์ซีเอ เร็คคอร์ด ออกวางจำหน่ายอัลบั้ม ''Keeps Gettin' Better: A Decade of Hits'' อัลบั้มรวมฮิตอัลบั้มแรกของคริสตินา โดยเปิดตัวที่อันดับ 9 ในชาร์ต ในอัลบั้มนี้มี[[ซิงเกิล]]นำคือ เพลง "Keep Gettin' Better" ซึ่งคริสตินาได้ขึ้นแสดงเพลงนี้ในงานประกาศผลรางวัล[[เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิก อวอร์ดส]] ซิงเกิลนี้ขึ้นสูงสุดในชาร์ตบิลบอร์ดที่อันดับ 7<ref>[http://www.billboard.com/bbcom/esearch/chart_display.jsp?cfi=379&cfgn=Singles&cfn=The+Billboard+Hot+100&ci=3102155&cdi=10024609&cid=10%2F25%2F2008 The Billboard Hot 100] Billboard.com</ref>
 
หลังจากที่ได้ชิมลางกับอัลบั้ม Keeps Gettin' Better: A Decade of Hits แล้ว คริสติน่าได้เปิดตัวอัลบั้มที่ 6 ของเธอ ''Bionic'' ในวันที่ 8 มิ.ย. 2010 ซึ่งใช้โปรดิวเซอร์มากมายในการร่วมสร้างสรรค์อัลบั้ม Bionic นี้เช่น Tricky Stewart, Le Tigre, Switch, Ester Dean, Sam Endicott, Sia, Claude Kelly, Linda Perry, M.I.A., Santigold และ Peaches อัลบั้ม Bionic มีแนวเพลงผสมผสานระหว่าง electronic และ dance อัลบั้ม Bionic เปิดตัวยอดขายได้อันดับที่ 3 ด้วยยอดขาย 110,000 ก๊อปปี้ ''Bionic'' เปิดตัวด้วยด้วยซิงเกิ้ลแรกเพลง "Not Myself Tonight" เพลง Pop/Dance ทำอันดับบน Billboard Hot 100 สูงสุดที่ #23 ส่วนซิงเกิ้ลที่ 2 คือ "You Lost Me" แต่อัลบั้มไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ได้เริ่มมีการจัด Bionic ทัวร์ขึ้นโดยการเริ่มทัวร์จากฝั่งอเมริกาเหนือร่วมกับนักร้องสาวชาวอังกฤษ Leona Lewis แต่ต้องหยุดลงเนื่องจากตัว คริสติน่าเอง ต้องโปรโมทหนัง บารรักเวทีร้อน และการซ้อมไม่เพียงพอจึงเป็นเหตุผลให้ทางต้นสังกัด [[อาร์ซีเอเรเคิดส์|RCA Records]] ได้ยกเลิกการทัวร์คอนเสิร์ตไป แต่อย่างไรเธอก็ยังคงเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนทั้งการแสดงสดรางวัลแกรมมี่ 2011 ร่วมกับ [[เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน]] หรือการร้องเพลงชาติที่เกิดการผิดพลาดในงาน Super Bowl XXL 2011
 
=== 2012 - Lotus ===
บรรทัด 88:
 
=== 2018 - Liberation และการออกทัวร์คอนเสิร์ตในรอบทศวรรษ the Liberation tour ===
กือบ 10 ปีที่ผ่านมา นับว่าไม่ใช่เส้นทางการเป็นดาวที่โรยด้วยกลีบกุหลาบเท่าไรนักของ[[คริสตินา อากีเลรา|อากีเลร่า]] นับตั้งแต่อัลบั้ม ''Bionic''(2010) ต่อเนื่องด้วยอัลบั้ม ''Lotus'' (2012) ที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักจนหลายๆ คนเอามาเป็นคำล้อถึงอัลบั้มไหนก็ตามที่ออกมามักจะไม่ประสบความสำเร็จ และถึงแม้การมานั่งเป็นหนึ่งในกรรมการของรายการ ''[[เดอะวอยซ์ (สหรัฐอเมริกา)|The Voice US]]'' ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ช่วยเติมไฟให้กับคำว่าดีว่าในตัวเธอเท่าไรนัก แต่กลับจะยิ่งให้เก้าอี้ดีว่าของเธอต้องเป็นอันสั่นคลอน แต่การกลับมาพร้อมอัลบั้มใหม่ ''Liberation'' ที่หากใครเป็นแฟนเพลงเธอจะรู้ดี ว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงที่เราเคยได้สัมผัสกันมาแล้วกับช่วงพีกในเส้นทางอาชีพของเธอจากอัลบั้ม ''Stripped'' (2002) ที่เต็มไปด้วยเพลงช้าบัลลาดโชว์พลังเสียง ในเพลงอย่าง “Walk Away” หรือจะทำให้โลกของเพลงป๊อปร้อนเป็นไฟด้วยความแรงของเพลง “Dirty” โดย[[คริสตินา อากีเลรา|อากีเลรา]]กล่าวว่า ลองนึกดูว่า หากใครคนหนึ่งหายไปจากชีวิตเรานานกว่า 6 ปี แล้วในวันที่คนคนนั้นวนกลับเข้ามาในชีวิตเราอีกครั้ง เราก็ต้องอดสงสัยไม่ได้ว่า 6 ปีที่หายไป เธอเป็นอย่างไรบ้าง เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ''Liberation'' จึงเปรียบเสมือนการรวบรวมเรื่องราวในช่วงชีวิตของคริสติน่าที่น้อยคนจะรู้จากตามหน้าสื่อ เพราะถูกฉาบหน้าด้วยภาพลักษณ์ของนักร้องดีว่าจอมบงการ จนกระทั่งเธอรู้สึกเป็นอิสระพอที่จะพาเราไปทำความรู้จักกับตัวตนที่แท้จริงและรสนิยมทางดนตรีของเธอ ที่เป็นมากกว่า[[ป็อป|เพลงป๊อป]]  แต่ก็ใช่ว่าการทดลองอะไรใหม่จะเป็นผลสำเร็จเสมอไป เพราะอย่างเพลงซิงเกิลเปิดตัว [[:en:Accelerate_(Christina_Aguilera_song)|“Accelerate”]] ที่พาคนงงงวยกันไปถ้วนหน้า ด้วยเพลงสไตล์ซินธิไซเซอร์เหนือความคาดหมายว่าเธอจะมาแนวนี้ ซึ่งเพลงดังกล่าวได้ Ty Dolla $ign และ 2 Chainz มาช่วยฟีเจอริ่งและทำให้เพลงนี้ไม่ขี้เหร่จนเกินไป แต่ก็คงจะไม่มีอะไรแย่ไปกว่า “Pipe ft. XNDA” ซึ่ง XNDA คือตัวละครลึกลับที่ไม่มีใครรู้ว่าคือใคร แต่ก็มีการลือว่าศิลปินคนนั้นคือ [[พิงก์|P!NK]] แต่ไม่ว่าศิลปินคนนั้นจะเป็นใคร เพลงนี้ก็เป็นเพลงที่เชยสะบัดเหมือนกับหลุดมาจากเพลงอาร์แอนด์บียุค [[2000]] ที่เอาต์ไปนานโขแล้ว นอกจากความกล้าในการเล่าเรื่องแล้ว คริสติน่าก็ยังกล้าในเรื่องของพาร์ตดนตรีที่จะทดลองอะไรใหม่ๆ ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดจากอัลบั้มนี้คือ การหยิบนู่นหยิบนี่มาผสมรวมกัน เริ่มตั้งแต่ “Right Moves ft. Keida”, “Shenseea” เพลงป๊อปกลิ่นอายเร็กเก้ ที่เธอเริ่มพาคนฟังไปสัมผัสรสนิยมในการฟังเพลงส่วนตัวของเธอ ที่คนส่วนใหญ่คิดว่าเธอชอบแต่จะพ่นไฟโชว์พลังเสียงอย่างเดียว แต่อาร์แอนด์บี ฮิปฮอป ก็นับว่าเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจของเธอเหมือนกัน พอเริ่มแง้มให้เห็นถึงรสนิยมการฟังเพลงของเธอแล้ว “[https://www.youtube.com/watch?v=aVG0Iz1jL08 Like I do ft.GoldLink]” ก็พาเราไปอยู่ในอีกโลกดนตรีของเธอทันที ด้วยเพลงอาร์แอนด์บีแบบสมัยนิยม จากลีลาการโปรดิวซ์โดย Anderson .Paak ที่ฟังเพลิน ไม่ได้ดีไม่ได้แย่ ฟังไปฟังมาแล้ว เออ...เสียงของเธอก็เข้ากับเพลงอาร์แอนด์บีเหมือนกันนะ ในเพลง “Deserve” ก็ได้เสียงซินธิไซเซอร์มาสร้างความแปลกใหม่ท่ามกลางเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความขี้หึง ความไม่มั่นใจ การทำเรื่องบ้าๆ แต่บอกว่าที่ทำไปเพราะรักของเธอ หรืออย่าง “[https://www.youtube.com/watch?v=RWbZ4NGpKNI Unless It’s With You]” ที่เป็นเพลงช้าบัลลาดเปียโนสวยๆ แต่เนื้อหานั้นเจ็บปวดหัวใจ กับการตั้งคำถามถึงความสัมพันธ์ที่หาใช่ว่าการแต่งงานคือคำตอบของทุกสิ่ง และการแต่งงานก็ไม่ใช่แฮปปี้เอ็นดิ้งเสมอไป แต่ถึงยังไงเธอก็ยังเชื่อในความรักและพร้อมจะแต่งงานกับคนที่ใช่อยู่ดี สำหรับ ‘Liberation Tour’ ของ Aguilera เริ่มขายบัตร 19 พฤษภาคมนี้ และรอบแรกจะเริ่มที่ [[ไมแอมี|ไมอามี่]] [[รัฐฟลอริดา|รัฐฟลอริด้า]] ในวันที่ 25 กันยายน นี้
 
=== Burlesque (บาร์รัก เวทีร้อน) ===
 
ในปี [[ค.ศ. 2009]] ภาพยนตร์เรื่องแรกของอากิเลร่าที่ได้แสดงนำ เริ่มถ่ายทำในเดือน พฤศจิกายน ในภาพยนตร์เพลงเรื่อง Burlesque โดยค่าย Screen Gems นอกจากจะเป็นการแสดงนำเรื่องแรกของอากิเลร่าแล้ว ยังเป็นการหวนคืนจอของ [[แชร์ (นักร้อง)|แฌร์]] นักร้องเจ้าของรางวัลออสการ์อีกด้วย โดยคริสติน่ารับบท "Ali Marilyn Rose" เด็กสาวจากเมืองเล็กที่เข้ามาตามหาความรักและความฝันใน ลอสแอนเจลิส และได้ทำงานใน Burlesque คลับของ Tess(แฌร์) จนเกิดเรื่องราวต่างๆมากมายขึ้น กำกับการแสดงโดย Steve Antin ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าโรงภาพยนตร์ปลายปี 2010
 
=== เดอะวอยซ์ ([[The Voice]]) ===
 
ในปี [[ค.ศ. 2011]] อากิเลร่าได้ร่วมงานกับรายการแข่งขันร้องเพลงชื่อว่ารายการ ''[[เดอะวอยซ์]]'' ซึ่งอากิเลร่าได้เป็นกรรมการและโค้ชทีม และนอกจากนี้ยังได้ร่วมงานกับ [[แอดัม เลอวีน|อดัม เลอวีน]] นักร้องนำจากวง มารูนไฟว์ ในเพลง''มูฟ ไลท์ แจ๊คเคอร์''ซึ่งเพลงนี้ได้ขึ้นที่1 บน[[บิลบอร์ดฮอต 100|ชาร์ตบิลบอร์ด]]และ[[ไอทูนส์|ไอทูน]]
 
=== ชีวิตส่วนตัว ===