ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทิลอ็อยเลินชปีเกิลส์ลุสทิกเกอชไตรเชอ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 2:
{{ปรับภาษา}}
{{ใช้ปีคศ}}
'''ทิลล์ ออยเลนชปีเกล ลุสทิเกอ สไตรเชอ,ทิลอ็อยเลินชปีเกิลส์ลุสทิกเกอชไตรเชอ โอปุส 28''' ({{lang-de|Till Eulenspiegels lustige Streiche}}; {{lang-en|Till Eulenspiegel's Merry Pranks}}) เป็น[[ซิมโฟนิกโพเอ็ม]]ผลงานของ[[ริชาร์ดริชชาร์ท ชเตราส์]] ดัดแปลงจากตำนานพื้นบ้าน[[ทิลล์ทิล ออยเลนชปีเกลอ็อยเลินชปีเกิล]] ของเยอรมัน แต่งขึ้นในปี [[ค.ศ. 1894]]-[[ค.ศ. 1894–1895|95]], ได้แสดงรอบปฐมทัศน์ในครั้งแรกเมื่อวันที่ [[5 พฤศจิกายน]]ในปีถัดมา โดย the Gürzenich Orchestra of Cologne และมี Franz Wüllner เป็นคอนดักเตอร์ นอกจากนี้ยังมีวง The National Symphony Orchestra นำมาแสดงในครั้งแรกเมื่อวันที่ [[27 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1946]] มี Hans Kindler เป็นคอนดักเตอร์,วาทยกร และล่าสุดได้แสดงคอนเสิร์ตของสถาบันแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2001 ภายใต้การกำกับของ Kevin Allen Woods  
 
เครื่องดนตรีที่ถูกกำหนดให้ใช้ในการบรรเลงเพลงนี้ได้แก่  3 flutes and piccolo; 3 oboes and English horn; 2 clarinets, small clarinet in D and bass clarinet; 3 bassoons and contrabassoon; 4 horns (and 4 more ad lib.), 3 trumpets (e more ad lib.), 3 trombones, tuba, timpani, snare drum, bass drum, cymbals, triangle, rattle, and strings. ระยะเวลาบรรเลง 15 นาที
 
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆสั้น ๆ หลังจากที่เขาได้ประพันธ์ ''Don Juan and Macbeth'' ตอนที่เข้าแต่งเพลงมาได้ 25 ปี Strauss ชเตราส์ได้เขียนจดหมายไปหาฮันส์ Hansฟ็อน von Bülowบือโล ซึ่งเป็นอาจารย์ของเขาความว่า เขาไม่ได้ต้องการจะประพันธ์ ''Tone PoemsPoem'' อันต่อๆต่อ ๆ ไปตามรูปแบบและแบบแผน (Formula)
 
เพื่อที่จะแสดงรูปแบบใหม่ให้กับตัวบท สร้างรูปทรงที่ประณีตสมบูรณ์เป็นงานที่ยากมากทีเดียวแต่เพราะเหตุนี้จึงสร้างความน่าสนใจเข้าไป
เขาก็ได้รับคำที่จะทำรูปแบบที่แตกต่างกัน หนึ่งในบทที่นิยมมากที่สุด คือ Don Quixote จะวางเป็นชุดของรูปแบบการขยายตัว Variation ซึ่งเชลโล่ที่บรรเลงเดี่ยวมีบทบาทของความโดดเด่น เป็นบทหนึ่งที่ยกมากเป็น repertoir เหมือนกับ concertos บทหนึ่งเลยทีเดียว สำหรับทิล Till Eulenspiegelอ็อยเลินชปีเกิล ซึ่งเป็นทั้งชิ้นงานที่สั้นที่สุดในชุดและที่ทำให้คนชอบมากที่สุด แต่ผู้ชมในช่วงต้นไม่ค่อยคิดเช่นนั้น สเตราส์เลือกรูปแบบที่เหมาะสมจาก Rondo และเพิ่มบนหน้าชื่อเรื่อง “in the old-style roguish manner.”
 
"ขี้โกง" (Roguish ) แน่นอนเป็นคำสำหรับพระเอกของชิ้นงานที่เป็น Prankster มีชื่อฉาวโฉ่ในภาคเหนือของประเทศเยอรมนีและแฟลนเดอร์สฟลานเดอส์ (Belgium,France เบลเยียมและ Netherlands เนเธอร์แลนด์ในปัจจุบัน) ในศตวรรษที่สิบสี่
ได้มีรูปปั้นสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึง Till ในเมืองทิลในเมือง Molln ตามตำนานเขาเสียชีวิตในปี ค.ศ. 1350 หรือบริเวณนั้นและได้รับหลุมฝังศพที่ไม่มีชื่อเขียนมีแต่เพียงภาพของสลักนกฮูกกับกระจก
ชื่อ Eulenspiegel หมายถึง "กระจกของนกฮูก" และเท้าความสุภาษิตโบราณ
 
“One''One sees one's own faults no more clearly than an owl sees its own ugliness in a looking glass.''
"ตนเห็นความผิดพลาดของตัวเองไม่ได้ชัดเจนมากขึ้นกว่านกฮูกเห็นความอัปลักษณ์ของตัวเองในกระจก"
ผู้ที่ได้ชื่อนี้กลายเป็นพระเอกในเรื่องพื้นบ้านในหลายศตวรรษต่อมา : ต้นแบบของการโกง เล่าเรื่องตลกล้อเลียนโดยไม่ต้องมีคนฟัง คนที่ล้อเลียนความหลอกลวงเสแสร้งของสถาบัน ประกอบกับการที่ถือ"กระจกของนกฮูก"ของเขาขึ้นสู่สังคม เริ่มมีวรรณกรรมดีๆดี ๆ เขียนขึ้นและมีบทละครเวทีที่เขียนเกี่ยวกับ Tillทิลมากขึ้นด้วย
 
ที่จริง Till หรือ Tyl ทิลอาจไม่ได้เป็นคนที่ร่าเริงอย่างที่ฟังมานัก เมื่อประมาณสามสิบปีที่ผ่านมีบันทึกการผจญภัยของเขาชิ้นแรกคือความคิดที่จะเป็นหนึ่งใน Volksbuch ของโทมัส Murnerมัวร์เนอร์ (1475-ค.ศ. 1475–1530) บรรยายตัวละครให้เป็นคนร่อนเร่จรจัดจากบรันสวิก ในต้นปี ค.ศ. 1970 แม้ว่า Bernd Ulrich Hucker นักวิชาการศึกษาประวัติศาสตร์ใน Münster ค้นพบสิ่งที่ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นี่ Eulenspiegel บทแรกๆแรก ๆ ที่เขียนโดยเจ้าหน้าที่คัดลอก (scribe) ชื่อ Hermann Bote (caประมาณ ค.ศ. 1460-1460–1520) และตีพิมพ์โดยเขาในปี 1,510ค.ศ. 1510 และ 1511
 
ในปี ค.ศ. 1977 Hucker เผยแพร่การศึกษาฉบับของ Bote ซึ่งพรรณนาบทตัวละครที่มีอารมณ์ขันน้อยกว่าและแน่นอนชั่วช้ากว่า สัญลักษณ์ของปีศาจที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นคำเตือนต่อคริสตชนที่ดี มีบทแสดงตัวอย่างที่ไม่ดีเป็นซีรีส์ misdeeds และผลกรรมสนองเพื่อให้ได้บทเรียนแสดงบทสรุปของความบาป
 
ภาพลักษณ์เดิมๆเดิม ๆ นั้นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปตามการเวลา เช่น Billy the Kid และตัวละครอื่นๆอื่น ๆ จาก ''Wild West'' ก็ล้วนแต่เปลี่ยนบุคลิคให้เย้ายวนใจ สิ่งที่เป็นจุดสนใจให้กับเราในบริบทของการพรรณนาดนตรีสเตราส์ก็คือผู้ประพันธ์ได้วางตัวบทเพลงอยู่บนพื้นฐานความยอมรับในความสนุกและก่อกวนไม่ใช่ตามแบบต้นฉบับที่ถมึงทึง เหมือนหนุ่มในยุคการจัดตั้งดนตรีในยุค 1890และค้นพบกับการโกงในหัวใจของเขาเอง
 
บทเพลงเริ่มต้นบรรเลงจากเครื่องสาย ซึ่งเปรียบเสมือนถ้อยคำที่แสดงถึงความรักใคร่ ที่เหมาะกับวลีว่า ''Es war einmal”einmal'' (''Once upon a time”time'') จากนั้น ฮอร์นก็จะโซโล่ โซโลด้วยการแนะนำทิลรูปร่างแปลก Till รูปร่างแปลกๆ แต่ให้ความรู้สึกถึงความมีพลัง และเราก็ออกผจญภัย ช่วงนี้ Tillทิลพุ่งผ่านตลาดและแกล้งแม่บ้านด้วยการปัดตะกร้าที่ถือ จากนั้นTill ทิลได้ปลอมตัวเป็นพระที่เทศนาในเรื่องที่ผิดๆหยาบคายผิด หรือ หยาบคายหรือธรรมเทศนาซึ่งดูหมิ่นศาสนาและต้องถูกโทษตะแลงแกง แต่เขายังหัวเราะได้อีกเป็นครั้งสุดท้าย นักโทษเลวทรามที่กำลังจะถูกประหารแขวนคอ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ยังมีท่อนที่ฟังดูตลกสร้างความหัวเราะได้ และช่วงสั้น ๆ ส่งท้ายด้วยบทการบรรเลงในแก่นเรื่อง Theme ของ “''Es war einmal”einmal'' ชุดรูปแบบเป็นที่สังเกตสัมผัสได้ว่า Till ทิลนั้นท้ายที่สุดแล้วเป็นคนดี เหนือกว่าการตัดสินในความเป็นมนุษย์และเด่นคุ้มค่าต่อการเป็นส่วนที่หนึ่งของความมีสีสันในบทเพลงของ Straussชเตราส์
 
== อ้างอิง ==
เส้น 30 ⟶ 31:
 
{{workinyr|1895}}
[[หมวดหมู่:ผลงานของ ริชาร์ดริชชาร์ท ชเตราส์]]
[[หมวดหมู่:ซิมโฟนิกโพเอ็ม]]