ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อาริสโตเติล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
Miwako Sato ย้ายหน้า อาริสโตเติล ไปยัง แอริสตอเติล
Miwako Sato (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 15:
}}
 
'''แอริสตอเติล''' ({{lang-el|Αριστοτέλης}}; {{lang-en|Aristotle}}) (384 ปีก่อนคริสตกาล – 7 มีนาคม 322 ปีก่อนคริสตกาล) เป็น[[นักปรัชญา]][[กรีกโบราณ]] เป็นลูกศิษย์ของ[[เพลโต]] และเป็นอาจารย์ของ[[อเล็กซานเดอร์มหาราช]] เขาและเพลโตได้รับยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักปรัชญาที่มีอิทธิพลสูงที่สุดเขาหนึ่ง ใน[[โลกตะวันตก]] ด้วยผลงานเขียนหนังสือเกี่ยวกับ[[ฟิสิกส์]] [[กวีนิพนธ์]] [[สัตววิทยา]] [[การเมือง]] [[การปกครอง]] [[จริยศาสตร์]] และ[[ชีววิทยา]]
 
[[นักปรัชญากรีกโบราณ]]ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือแอริสตอเติล [[เพลโต]] (อาจารย์ของแอริสตอเติล) และ[[โสกราตีส]] (ที่แนวคิดของเขานั้นมีอิทธิพลอย่างสูงกับเพลโต) พวกเขาได้เปลี่ยนโฉมหน้าของ[[ปรัชญากรีก]] [[สมัยก่อนโสกราตีส]] จนกลายเป็นรากฐานสำคัญของ[[ปรัชญาตะวันตก]]ในลักษณะปัจจุบัน โสกราตีสนั้นไม่ได้เขียนอะไรทิ้งไว้เลย ทั้งนี้เนื่องจากผลของแนวคิดปรากฏในบทสนทนาของเพลโตชื่อ ''[[เฟดรัส (เพลโต)|เฟดรัส]]'' เราได้ศึกษาแนวคิดของเขาผ่านทางงานเขียนของเพลโตและนักเขียนคนอื่นๆอื่น ผลงานของเพลโตและแอริสตอเติลเป็นแก่นของ[[ปรัชญาโบราณ]]
 
แอริสตอเติลเป็นหนึ่งในไม่กี่บุคคลในประวัติศาสตร์ที่ได้ศึกษาแทบทุกสาขาวิชาที่มีในช่วงเวลาของเขา
ในสาขาวิทยาศาสตร์ แอริสตอเติลได้ศึกษา [[กายวิภาคศาสตร์]], [[ดาราศาสตร์]], [[วิทยาเอ็มบริโอ]], [[ภูมิศาสตร์]], [[ธรณีวิทยา]], [[อุตุนิยมวิทยา]], [[ฟิสิกส์]],และ [[สัตววิทยา]]   ในด้านปรัชญา แอริสตอเติลเขียนเกี่ยวกับ [[สุนทรียศาสตร์]], [[เศรษฐศาสตร์]], [[จริยศาสตร์]], [[การปกครอง]], [[อภิปรัชญา]], [[การเมือง]], [[จิตวิทยา]], [[วาทศิลป์]] และ [[เทววิทยา]]   เขายังสนใจเกี่ยวกับ [[ศึกษาศาสตร์]], ประเพณีต่างถิ่น, [[วรรณกรรม]] และ [[กวีนิพนธ์]] ผลงานของเขาเมื่อรวบรวมเข้าด้วยกันแล้ว สามารถจัดว่าเป็น[[สารานุกรม]]ของความรู้สมัยกรีก
 
* ปรัชญาของแอริสตอเติล
* อภิปรัชญาของแอริสตอเติล
* ปรัชญาธรรมชาติของอาแอริสโดเติล สตอเติล
* จิตวิทยาของแอริสตอเติล
 
== ประวัติ ==
 
แอริสตอเติลเกิดเมื่อประมาณ 384 หรือ 383 ปีก่อนคริสตกาลที่เมือง[[สตากีรา]] (Stagira) ในแคว้น[[มาเซโดเนีย]] (Macedonia) ซึ่งเป็นแคว้นที่แห้งแล้งทางตอนเหนือสุดชองทะเลเอเจียน (Aegaeen Sea) ของ[[ประเทศกรีก]] เป็นบุตรชายของนายนิโคมาคัส (Nicomachus) ซึ่งมีอาชีพทางการแพทย์ประจำอยู่ที่เมืองสตาราเกีย และยังเป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระเจ้าอมินตัสที่ 2 (King Amyntas II) แห่งมาเซโดเนีย แมซิโดเนีย
 
ในวัยเด็กนั้นผู้ที่ให้การศึกษาแก่แอริสตอเติลคือบิดาของเขานั้นเองซึ่งเน้นหนักไปในด้าน[[ธรรมชาติวิทยา]] เมื่อเขาอายุได้ 18 ปีก็ได้เดินทางไปศึกษาต่อกับปรัชญาเมธีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้นคือ [[เพลโต]] ใน[[กรุงเอเธนส์]] (Athens) ในระหว่างการศึกษาอยู่กับเพลโต 20 ปีนั้นทำให้แอริสตอเติลเป็นนักปราชญ์ที่ลือนามต่อมาจากเพลโต ต่อมาเมื่อเพลโตถึงแก่กรรมในปี 347 ปีก่อนคริสต์ศักราช แอริสตอเติลจึงเดินทางไปรับตำแหน่งเป็นพระอาจารย์ของ[[อเล็กซานเดอร์มหาราช|พระเจ้าอเล็กซานเดอร์]] ในปี 343 - 342 ก่อนคริสต์ศักราช ต่อมาในปี 336 ก่อนคริสต์ศักราช [[อเล็กซานเดอร์มหาราช|พระเจ้าอเล็กซานเดอร์]]ได้ขึ้นครองราชสมบัติต่อจาก[[ฟิลิปที่ 2 แห่งมาซิโดเนีย|พระเจ้าฟิลิป]] พระองค์จึงได้พระราชทานทุนให้แก่แอริสตอเติลเพื่อจัดตั้งโรงเรียนที่สตากิราชื่อไลเซียม (Lyceum)
บรรทัด 36:
 
== คำสอน ==
คำสอนที่น่าสนใจของแอริสตอเติลได้แก่ ความเชื่อที่ว่าโลกเรานี้ประกอบด้วยธาตุต่างๆต่าง ๆ 4 ธาตุ ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟ
 
ในเรื่องเกี่ยวกับจักรวาลนั้นแอริสตอเติลเข้าใจว่า [[โลก]]เราเป็นศูนย์กลางของ[[จักรวาล]]โดยมีดวงดาวต่าง ๆ รวมทั้งดวงอาทิตย์โคจรรอบ ๆ สวรรค์นั้นอยู่นอกอวกาศ โลกอยู่ด้านล่างลงมา น้ำอยู่บนพื้นโลก ลมอยู่เหนือน้ำ และไฟอยู่เหนือลมอีกทีหนึ่ง ธาตุต่าง ๆ ของโลกจะเปลี่ยนแปลงเสมอ แต่ทว่าธาตุที่ประกอบเป็นสวรรค์นั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงจะมีรูปร่างเช่นนั้นตลอดไป ซึ่งคำสอนต่อมาในปี ค.ศ. 1609 [[โจฮันน์ เคปเลอร์]] (Johann Kepler) ได้ตั้ง[[กฎของเคปเลอร์]] ซึ่งเป็นการประกาศว่า โลกเราโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรี เป็นการลบล้างความเชื่อเกี่ยวกับ[[จักรวาลของแอริสตอเติล]]