ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โยฮันเนิส บรามส์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
แจ้งต้องการอ้างอิงด้วยสจห.
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
'''โยฮันเนสฮันเนิส บรามส์''' ({{lang-ende|Johannes Brahms}}; [[7 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2376]] - [[3 เมษายน]] [[พ.ศ. 2440]] [[พ.ศ. 2440]]) เป็น[[คีตกวี]]และ[[วาทยกร]]ชาวเยอรมัน หลายคนยกย่องเขาในฐานะทายาททางดนตรีของ[[ลุดวิจลูทวิช ฟานฟัน เบโทเฟนเบทโฮเฟิน]] ซิมโฟนีบทแรกของเขาได้รับการยกย่องจาก [[ฮันส์ ฟอนฟ็อน บือโลว์บือโล]] ว่าเป็น[[ซิมโฟนี]]บทที่ 10 ของเบโทเฟนเบทโฮเฟิน
 
[[ไฟล์:JohannesBrahms.jpg|thumb|250px|right|โยฮันเนสฮันเนิส บราห์มบรามส์]]
 
== ชีวประวัติและผลงาน ==
บรามส์เกิดเมื่อวันที่ [[7 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2376]] (ค.ศ. 1833) ที่นคร[[ฮัมบูร์ก]][[ประเทศเยอรมนี]]
 
บิดาของบรามส์เป็นนักเล่น[[ดับเบิลเบส]]และยังเป็นครูดนตรีคนแรกของเขาอีกด้วย บรามส์ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถมากอันโดดเด่นเกินวัย สนใจเครื่องดนตรีทุกประเภท ครูดนตรีคนสำคัญของเขาได้แก่เอด๊วดดูอาร์ท มาร์กเซ็นมาคส์เซิน ได้สอนเขาอย่างตั้งอกตั้งใจ ด้วยความหวังที่ว่าเขาจะกลายเป็นนักเปียโนเอกในอนาคต โดยได้สอนเทคนิคการเล่นของ [[โยฮันน์ฮัน เซบาสเตียนเซบัสทีอัน บาคบัค|บาคบัค]] [[โวล์ฟกังว็อล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ทโมทซาร์ท|โมซาร์ทโมทซาร์ท]] และ[[ลุดวิจลูทวิช ฟานฟัน เบโทเฟนเบทโฮเฟิน|เบโทเฟนเบทโฮเฟิน]] ซึ่งกลายเป็นที่จดจำของบรามส์ไปตลอด โดยมิได้ทำลายพรสวรรค์ทางการสร้างสรรค์ของศิษย์
 
ความสามารถทางการเล่นเปียโนของเขา ทำให้เขาได้เป็นนักดนตรีอาชีพครั้งแรกที่ผับแห่งหนึ่งในนคร[[ฮัมบูร์ก]] ตั้งแต่มีอายุเพียงสิบสามปี
 
ในปี[[พ.ศ. 2396]] (ค.ศ. 1853) บรามส์ออกตระเวนเปิดการแสดงกับเพื่อนนักไวโอลิน ชื่อเอด๊วดแอแด เรเมนยีแรเมญี ซึ่งทำให้เขามีโอกาสได้พบกับนักไวโอลินชื่อดังแห่งยุค [[โยเซ็ฟ โยอาคิม]] ผู้ซึ่งประทับใจฝีมือของบรามส์มาก และยังได้แนะนำให้เขาได้รู้จักกับ [[ฟรานซ์ฟรันทซ์ ลิซท์ลิสท์]] และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง[[โรเบิร์ต อเล็กซานเดอร์โรแบร์ท ชูมันน์มัน|ชูมันน์มัน]] กับภรรยา [[คลาร่ารา ชูมันน์มัน]] ซึ่งเขาได้สนิทสนมด้วยเป็นอย่างดี อิทธิพลของชูมันน์มันที่มีต่องานของบรามส์นั้นใหญ่หลวงนัก
ระหว่างปี [[พ.ศ. 2400]] (ค.ศ. 1857) ถึง [[พ.ศ. 2402]] (ค.ศ. 1859) เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะนักร้องประสานเสียงประจำวังของเจ้าชายแห่ง[[เด็ตโมลด์เด็ทม็อลท์]] ในช่วงเวลานี้เองที่เขาได้ประพันธ์เซเรเนดสำหรับวงดุริยางค์ขึ้นสองบท และคอนแชร์โต้คอนแชร์โตสำหรับเปียโนชื้นแรก
 
ปี[[พ.ศ. 2405]] (ค.ศ. 1862) เขาได้เดินทางกลับสู่นคร[[เวียนนา]] ชื่อเสียงในฐานะนักดนตรีของเขาเพิ่มขึ้น และได้รับการยกย่องให้เป็น ''ทายาทดนตรีของเบโทเฟนเบทโฮเฟิน'' เพลงสวดเรเควียมของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์คำกล่าวนั้นได้เป็นอย่างดี
 
ในปี[[พ.ศ. 2413]] (ค.ศ. 1870) เขาได้พบกับวาทยกร[[ฮันส์ ฟอนฟ็อน บือโลว์บือโล]] ผู้ซึ่งมีอุปการคุณต่องานดนตรีของบรามส์เป็นอย่างมากในภายหลัง
 
ในปี[[พ.ศ. 2419]] (ค.ศ. 1876) บรามส์แต่งซิมโฟนีบทแรกสำเร็จ ได้รับการขนานนามว่าเป็น ''[[ซิมโฟนี]]บทที่ 10 ของเบโทเฟนเบทโฮเฟิน'' ตามคำกล่าวของ[[ฮันส์ ฟอนฟ็อน บือโลว์บือโล|บือโลว์บือโล]] จากนั้นก็มีงานประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์ตามมาจำนวนมาก ซิมโฟนีอีกสามบท คอนแชร์โต้คอนแชร์โตสำหรับ[[ไวโอลิน]] คอนแชร์โต้คอนแชร์โตหมายเลขสองสำหรับ[[เปียโน]] จนกระทั่งถึงผลงานเอกในช่วงบั้นปลายชีวิต นั่นก็คือบทเพลงสำหรับ[[แคลริเน็ต]]
 
งานของบรามส์ได้รับอิทธิพลหลากหลาย โดดเด่นด้วยศาสตร์แห่ง[[เคานเตอร์พ้อยท์]] และ [[โพลีโฟนี]] ความงดงามของบทเพลงที่เขาประพันธ์อยู่ที่รูปแบบคลาสสิกที่ถูกแต่งแต้มด้วยความถวิลหาของยุคโรแมนติก แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สีสันทางดนตรีอันบรรเจิด ท่วงทำนองที่สร้างสรรค์ และจังหวะทำให้ประหลาดใจด้วยการสอดประสานกัน
 
เป็นผลงานส่วนตัวของบรามส์ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ซึ่งเราอาจนึกว่าจะเข้าใจยากเมื่อแรกได้ยิน แต่เราก็จะเข้าถึงได้และขาดไม่ได้ในที่สุด
 
นับเป็นหนึ่งใน[[คีตกวี]]คนสำคัญของประวัติศาสตร์ดนตรีตะวันตก ศพของโยฮันเนสฮันเนิส บรามส์ถูกฝังไว้ที่[[สุสานกลางแห่งนครเวียนนา]] ในส่วนของนักดนตรีคนสำคัญผู้ล่วงลับ
 
== ผลงานหลักๆ ==
บรรทัด 39:
* ''[[ฮังกาเรียน แดนซ์]]''
 
=== คอนแชร์โต้คอนแชร์โต ===
* ''[[คอนแชร์โต้คอนแชร์โตสำหรับเปียโน หมายเลข 1]] โอปุส 15''
* ''[[คอนแชร์โต้คอนแชร์โตสำหรับเปียโน หมายเลข 2]] โอปุส 83''
* ''[[คอนแชร์โต้คอนแชร์โตสำหรับไวโอลิน]] โอปุส 77''
* ''[[ดัลเบิ้ลคอนแชร์โต้คอนแชร์โตสำหรับไวโอลิน และเชลโล่]] โอปุส 102''
 
=== เชมเบอร์มิวสิก ===