ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ลัทธิเต๋า"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
เพิ่มเนื้อหา
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
เพิ่มเนื้อหา
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 8:
[[ประวัติของเหลาจื่อตามจดหมายเหตุ “สื่อจี้” (史记)ระบุว่า เหลาจื่อแซ่ “หลี่” (李)ชื่อ “เอ๋อร์” (耳) มีชีวิตอยู่ช่วงตอนกลางของราชวงศ์โจว (周朝) เป็นชาวแคว้นเฉิน เกิดเมื่อ 551 ปีก่อน ค.ศ. พออายุ 27 ปีท่านบรมครูเล่าจื้อสำเร็จมรรคเต๋า ผมสีดำเปลื่ยนเป็นสีขาว และได้สร้างโรงเรียนเปิดสอนหลักแห่งเต๋า หรือธรรมชาติ หลักธรรมคำสอนเรียบง่าย เช่น การทำความดี ถ้ามิทำเพื่อตนเอง ก็ควรทำเพื่อคนอื่น แล้วผลดีก็จะกลับมาสู่ผู้กระทำความดี บรมครูเล่าจื้อ ท่านมีศิษย์ 2 คน คือ หม่าถง และถงซิง เล่าจื้อนั้นเกิดที่แคว้นเฉิน ต่อมาถูกแคว้นฉู่รุกรานครอบครองแคว้นเฉินนอยู่ในมณฑลเหอหนาน(河南)) ทำหน้าที่ดูแลหอพระสมุดหลวงแห่งราชสำนักโจว ต่อมาราชสำนักเสื่อมโทรม จึงออกแสวงหาความวิเวก จดหมายเหตุ “จฺว่อจ้วน”(左传)
ขี่ควายมุ่งสู่ทะเลทรายไปยังชมพูทวีป ระหว่างทางผ่านด่านหานกู่ "อิ๋นสี่" อดีตเสนาบดีแห่งแคว้นโจว ได้อาสาเทียนจื่อ แห่งค้าโจว มาเป็นขุนนางดูแลด่านหานกู่ เพื่อป้องกันแคว้นฉินรุกราน เนื่องจากได้ยินชื่อเสียงของท่านมานานจึงต้อนรับท่านด้วยมิตรจิตมิตรใจอันอบอุ่น ก่อนจากไป อิ๋นสี่พูดกับท่านว่า "ท่านจะไปแล้ว โปรดเขียนหนังสือสักเล่มให้เราเถิด" ครั้นแล้ว ท่านเหลาจื่อจึงเขียนหนังสือไว้ 1 เล่ม แล้วจึงมุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้สู่อินเดีย]]
 
สาระสำคัญบางบทของเต๋า
[[บทที่ 3
มูลเหตุแห่งทุกข์ อันได้แก่ การแก่งแย่ง การลักขโมย การยึดถือตัวตน ความอยาก
เมื่อขจัดมูลเหตุแห่งทุกข์ดังกล่าวได้
ดวงใจประชาก็จะบริสุทธิ์
 
เมื่อมีผู้ปกครองที่เป็นปราชญ์ จะหาหนทางทำให้ประชาชน อิ่มท้อง มีความพอดี ลดความอยากที่ฟุ่มเฟือย ส่งเสริมสุขภาพกาย ความคิด ความปรารถนา และจิตใจของชาวประชา ให้จิตใจว่างจากความมูลเหตุแห่งทุกข์ ทำจิตใจให้สะอาดและบริสุทธิ์
 
คนฉ้อฉลก็จะกลัวเกรงและละอาย มิกล้าทุจริต
 
นี่คือการปกครองโดยมิต้องปกครอง เมื่อนักปกครองที่เป็นปราชญ์ดำเนินตามนี้แล้ว การปกครองก็จะดำเนินไปอย่างมีระเบียบ เรียกว่า การปกครองโดยมิต้องมีการปกครอง]]
 
ศาสนาเต๋ากำเนิดขึ้นราวศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์ศักราช โดยรับแนวคิดทางจักรวาลวิทยาจากสำนักยินหยาง และแนวปฏิบัติตนให้สอดคล้องกับวัฏจักรของธรรมชาติตามคัมภีร์[[อี้จิง]] ต่อมาใช้[[เต้าเต๋อจิง]]ของ[[เล่าจื๊อ]]และคัมภีร์[[จวงจื๊อ]]เป็นคัมภีร์หลักประจำศาสนา ถึงสมัย[[ราชวงศ์ฮั่น]] ลัทธิเต๋าใน[[จ๊กก๊ก]]เริ่มมีองค์กรและพิธีกรรมเป็นระบบ<ref>''Nadeau (2012)'', p. 42</ref> จนถึงปัจจุบันศาสนาเต๋าแบ่งเป็น 2 นิกายหลักคือ [[สำนักฉวนเจิน]]และ[[สำนักเจิ้งอี]] หลังสมัยของเล่าจื๊อและจวงจื๊อ มีการจัดสารบบวรรณกรรมศาสนาเต๋าต่าง ๆ จนได้เป็นคัมภีร์[[เต้าจั้ง]]และพิมพ์เผยแพร่ตามรับสั่งของ[[จักรพรรดิจีน]] และเป็นศาสนาประจำชาติจีนมาตลอดจนหลังคริสต์ศตวรรษที่ 17 จึงไม่ได้อยู่ในอุปถัมภ์ของราชสำนัก