ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คิม จ็อง-อิล"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ |
||
บรรทัด 73:
== ผู้ปกครองเกาหลีเหนือ ==
[[ไฟล์:อนุสาวรีย์ท่านผู้นำ (万寿台 Mansudae Grand Monument).jpg|220px|thumbnail|อนุสาวรีย์ท่านผู้นำ [[คิม จ็อง-อิล]]]]
วันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 1994 บิดาของคิม จ็อง-อิล คิม อิล-ซ็องถึงแก่อสัญกรรม ด้วยวัย 82 ปีจากอาการโรคหัวใจกำเริบ คิม จ็อง-อิลได้รับหน้าที่เป็นผู้นำในการจัดงานพิธีศพให้แก่บิดาของตน และปรับปรุงบูรณะ[[วังสุริยะคึมซูซัน]] (Kumsusan Palace of the Sun) ให้เป็นที่พำนักสุดท้ายของคิม อิล-ซ็องผู้เป็นบิดา อย่างไรก็ดี คิม จ็อง-อิลใช้เวลาสามปีในการรวมอำนาจ เขารับตำแหน่งเลขาธิการพรรคแรงงานเกาหลีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ค.ศ. 1997 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ถือว่าเป็นผู้นำสูงสุดโดยปริยายของเกาหลีเหนือในขณะนั้น แต่ทว่าคิม จ็อง-อิล นั้นไม่ได้สืบทอดตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากคิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา การแก้ไขรัฐธรมนูญในค.ศ. 1998 โดยสภาประชาชนสูงสุด (Supreme People's Assembly) อันเป็นองค์กรนิติบัญญัติได้ยกเลิกตำแหน่งประธานาธิบดีออกจากรัฐธรรมนูญ และยกย่องอดีตประธนานาธิบดีคิม
การแก้ไขรัฐธรรมนูญค.ศ. 1998 ได้แบ่งอำนาจของประธานาธิบดีออกเป็นสามส่วน ประกอบกันเป็นสามเส้าของผู้นำฝ่ายบริหารของรัฐบาลเกาหลีเหนือ ได้แก่ ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศ (Chairman of National Defence Commission) คือ นายคิม จ็อง-อิลเอง นายกรัฐมนตรี คือ นายชเว ยอง-ริม ({{เกาหลี|최영림}}) และประธานรัฐสภา คิม ยอง-นัม ({{เกาหลี|김영남}}) แต่ละคนถืออำนาจในนามเทียบเท่ากับหนึ่งในสามของอำนาจประธานาธิบดีในระบบประธานาธิบดีในประเทศส่วนใหญ่ คิม จ็อง-อิลเป็นผู้บัญชาการกองทัพ ชเว ยอง-ริมเป็นผู้นำรัฐบาล และคิม ยอง-นัมจัดการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ดี ในทางพฤตินัย คิม จ็อง-อิลดำเนินการควบคุมเด็ดขาดเหนือรัฐบาลและประเทศ แม้คิมจะไม่จำเป็นต้องเข้ารับการเลือกตั้งเพื่อรักษาตำแหน่ง เขาได้รับเลือกอย่างเป็นเอกฉันท์ไปทำหน้าที่ในสภาประชาชนสูงสุดทุกห้าปี โดยเป็นผู้แทนเขตเลือกตั้งทหาร เนื่องจากหน้าที่ปัจจุบันในฐานะผู้บัญชาการสูงสุดกองทัพประชาชนเกาหลีและประธานคณะกรรมาธิการป้องกันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
=== นโยบายเศรษฐกิจและการทหาร ===
เศรษฐกิจเกาหลีเหนือที่รัฐควบคุมประสบความยุ่งยากตลอดคริสต์ทศวรรษ 1990 อันเนื่องมาจากการบริหารจัดการผิด และนโยบาย'''''จูเช''''' ({{เกาหลี|주체}}) ของประธานาธิบดี คิม อิล-ซ็อง ผู้เป็นบิดา อันเป็นนโยบายพึ่งพาตนเองโดยสมบูรณ์แบบ ตัดขาดการติดต่อจากโลกภายนอกทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง เมื่อการผลิตทางเกษตรกรรมประสบความล้มเหลวอย่างรุนแรงอันเนื่องมาจากภัยธรรมชาติ ประกอบกับการบริหารจัดการที่ดินที่ไม่ดี<ref name=noland>{{cite journal|last=Noland|first=Marcus|title=Famine and Reform in North Korea|journal=Asian Economic Papers|year=2004|volume=3|issue=2|pages=1–40|doi=10.1162/1535351044193411?journalCode=asep}}</ref><ref>{{cite book|last=Haggard, Nolan, Sen|title=Famine in North Korea: Markets, Aid, and Reform|year=2009|isbn=9780231140010|page=209|quote=This tragedy was the result of a misguided strategy of self-reliance that only served to increase the country's vulnerability to both economic and natural shocks ... The state's culpability in this vast misery elevates the North Korean famine to a crime against humanity}}</ref><ref>{{cite news|url=http://www.economist.com/node/147613|accessdate=24 September 2011|title=North Korea: A terrible truth |work=[[The Economist]]|date=17 April 1997}}</ref> จากเหตุนี้ ประกอบกับที่ดินที่สามารถเพาะปลูกได้เพียง 18%<ref>[http://www.country-studies.com/north-korea/agriculture.html "North Korea Agriculture"], Federal Research Division of the Library of Congress. Retrieved 11 March 2007.</ref> และการไม่สามารถนำเข้าสินค้าจำเป็นต่อการบำรุงอุตสาหกรรม<ref>[http://www.fas.org/nuke/guide/dprk/target/industry.htm "Other Industry – North Korean Targets"] Federation of American Scientists, 15 June 2000.</ref> ทำให้เกิดภาวะขาดแคลนอาหารอย่างหนักในเกาหลีเหนือ นำไปสู่[[ทุพภิกขภัยเกาหลีเหนือ]] (North Korean Famine) ในช่วงค.ศ. 1994 ถึง ค.ศ. 1998 มีชาวเกาหลีเหนือเสียชีวิตจากความอดอยากร่วมกว่า 240,000 ถึง 3,500,000 คน คิม จ็อง-อิล เข้าดำรงตำแหน่งผู้นำของเกาหลีเหนือในค.ศ. 1994 ต้องเผชิญกับปัญหาทางเศรษฐกิจและความอดอยาก รัฐบาลเกาหลีเหนือแก้ไขปัญหาอย่างขาดประสิทธิภาพ โดยการสร้างระบบกระจายอาหารสาธารณะ (Public Distribution System) แบ่งอาหารให้ประชาชนในประเทศด้วยอัตราที่ไม่เท่าเทียม ชนชั้นแรงงานอุตสาหกรรมมีอภิสิทธิ์ได้รับอาหารมากกว่าประชาชนธรรมดา คนชราและเด็ก จนกระทั่งเมื่อ[[สหประชาชาติ]]รับทราบถึงปัญหาทุกภิกขภัยของเกาหลีเหนือจึงมีการบริจาคอาหารเข้าช่วยเหลือประชาชนเกาหลีเหนือ มีแหล่งที่มาจาก[[ประเทศเกาหลีใต้]] [[สาธารณรัฐประชาชนจีน]] และ[[สหรัฐอเมริกา]]เป็นหลัก
แม้ว่าประเทศและประชาชนจะประสบปัญหาขาดแคลนอย่างหนักในขณะนั้น ค.ศ. 1995 คิม จ็อง-อิล ได้ประกาศนโยบาย''
ในความตื่นตัวจากเศรษฐกิจเสียหายรุนแรงในคริสต์ทศวรรษ 1990 รัฐบาลเริ่มอนุมัติกิจกรรมการแลกเปลี่ยนและการค้าขนาดเล็กอย่างเป็นทางการ ดังที่แดเนียล สไนเดอร์ รองผู้อำนวยการการวิจัยที่ศูนย์วิจัยเอเชีย-แปซิฟิก [[มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด]] การดำเนินการอันเป็นทุนนิยมนี้ "ค่อนข้างจำกัด แต่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับในอดีต ปัจจุบันมีตลาดที่น่าสังเกตซึ่งสร้างลักษณะคล้ายกันของระบบ[[ตลาดเสรี]]"<ref>[http://www.cfr.org/publication/10858/ "North Korea's Capitalist Experiment"], Council on Foreign Relations, 8 June 2006. </ref> ใน ค.ศ. 2002 คิม จ็อง-อิลประกาศว่า "เงินควรสามารถวัดมูลค่าของโภคภัณฑ์ทั้งหมดได้"<ref>[http://www.csmonitor.com/2005/0602/p07s02-woap.html "On North Korea's streets, pink and tangerine buses"], ''Christian Science Monitor'', 2 June 2005.</ref> ท่าทีต่อการปฏิรูปเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือในสมัยของ คิม จ็อง-อิล มีลักษณะคล้ายกับการปฏิรูปเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาชนจีนของ[[เติ้ง เสี่ยวผิง]] ในปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 และต้นคริสต์ทศวรรษ 1990 ระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนใน ค.ศ. 2006 คิม จ็อง-อิลได้กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของจีน<ref>[http://www.usip.org/pubs/usipeace_briefings/2007/0126_north_korea.html "Inside North Korea: A Joint U.S.-Chinese Dialogue"], United States Institute of Peace, January 2007.</ref>
|