ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประเทศญี่ปุ่น"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ย้อนกลับไปรุ่นที่ 7675931 โดย BotKungด้วยสจห. ป้ายระบุ: ทำกลับ |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 77:
'''ประเทศญี่ปุ่น''' ({{ญี่ปุ่น|日本|Nihon/Nippon|นิฮง/นิปปง}}, ชื่ออย่างเป็นทางการ {{ญี่ปุ่น|日本国|Nihon-koku/Nippon-koku|นิฮงโกะกุ/นิปปงโกะกุ}}) เป็น[[รัฐเอกราช]]หมู่เกาะใน[[เอเชียตะวันออก]] ตั้งอยู่ใน[[มหาสมุทรแปซิฟิก]]นอกฝั่งตะวันออกของแผ่นดินใหญ่เอเชีย ทางตะวันตกติดกับ[[คาบสมุทรเกาหลี]]และ[[ประเทศจีน]] โดยมี[[ทะเลญี่ปุ่น]]กั้น ส่วนทางทิศเหนือติดกับ[[ประเทศรัสเซีย]] มี[[ทะเลโอค็อตสค์]]เป็นเส้นแบ่งแดน
ตัวอักษร[[คันจิ]]ของชื่อญี่ปุ่นแปลว่า "ถิ่นกำเนิดของ[[ดวงอาทิตย์]]" จึงทำให้มักได้ชื่อว่า "ดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย" ประเทศญี่ปุ่นเป็นกลุ่มเกาะ[[กรวยภูเขาไฟสลับชั้น]]ซึ่งมีเกาะประมาณ [[รายชื่อเกาะของประเทศญี่ปุ่น|6,852 เกาะ]] เกาะใหญ่สุดคือ เกาะ[[ฮนชู]] [[ฮกไกโด]] [[คีวชู]] และ[[เกาะชิ
การวิจัยทางโบราณคดีระบุว่ามีมนุษย์อาศัยในญี่ปุ่นปัจจุบันครั้งแรกตั้งแต่[[ยุคหินเก่า]] การกล่าวถึงญี่ปุ่นเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรกปรากฏในบันทึกของราชสำนักจีนตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1 ญี่ปุ่นได้รับอิทธิพลจากจีนในหลายด้าน เช่นภาษา การปกครองและวัฒนธรรม แต่ขณะเดียวกันก็มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง จึงทำให้ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นมาจนปัจจุบัน อีกหลายศตวรรษต่อมา ญี่ปุ่นก็รับเอาเทคโนโลยีตะวันตกและนำมาพัฒนาประเทศจนกลายเป็นประเทศที่ก้าวหน้าและมีอิทธิพลมากที่สุดใน[[เอเชียตะวันออก]] หลังจากแพ้[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ญี่ปุ่นก็มีการเปลี่ยนแปลงทางการปกครองโดยการใช้รัฐธรรมนูญใหม่ใน พ.ศ. 2490
บรรทัด 95:
[[ไฟล์:Satellite View of Japan 1999.jpg|thumb|ภาพ[[กลุ่มเกาะญี่ปุ่น]]ถ่ายจากดาวเทียม]]
ประเทศญี่ปุ่นมีเกาะรวม 6,852 เกาะ ทอดตามชายฝั่งแปซิฟิกของเอเชียตะวันออก ประเทศญี่ปุ่นรวมทุกเกาะตั้งอยู่ระหว่างละติจูด 24° และ 46° เหนือ และลองติจูด 122° และ 146° ตะวันออก หมู่เกาะหลักไล่จากเหนือลงใต้ ได้แก่ [[ฮกไกโด]] [[ฮนชู]] [[ชิโกกุ]] และ[[คีวชู]] [[หมู่เกาะ
พื้นที่ประมาณร้อยละ 73 ของประเทศญี่ปุ่นเป็นป่าไม้ ภูเขาและไม่เหมาะกับการใช้ทางการเกษตร อุตสาหกรรมหรืออยู่อาศัย<ref>{{cite web|title=Japan|url=https://www.state.gov/r/pa/ei/bgn/4142.htm|publisher=US Department of State|accessdate=January 16, 2011}}</ref> ด้วยเหตุนี้ เขตอยู่อาศัยได้ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณชายฝั่งเป็นหลัก จึงมีความหนาแน่นของประชากรสูงมาก ประเทศญี่ปุ่นเป็น[[รายชื่อประเทศเรียงตามความหนาแน่นประชากร|ประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรสูงสุดของโลกประเทศหนึ่ง]]<ref>{{cite web |url=http://esa.un.org/unpp/ |title=World Population Prospects |publisher=''[[United Nations Department of Economic and Social Affairs|UN Department of Economic and Social Affairs]]'' |accessdate=March 27, 2007 |archiveurl=https://web.archive.org/web/20070321013235/http://esa.un.org/unpp/ <!--Added by H3llBot--> |archivedate=March 21, 2007}}</ref>
บรรทัด 104:
=== ภูมิอากาศ ===
ภูมิอากาศของประเทศญี่ปุ่นเป็นแบบอบอุ่นเป็นหลัก แต่มีความแตกต่างกันมากตั้งแต่เหนือจดใต้ ลักษณะทางภูมิศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่นแบ่งออกเป็นหกเขตภูมิอากาศหลัก ได้แก่ ฮกไกโด ทะลญี่ปุ่น ที่สูงภาคกลาง [[ทะเลเซะโตะใน]] มหาสมุทรแปซิฟิกและ[[หมู่เกาะ
เขตเหนือสุด ฮกไกโด มีภูมิอากาศแบบทวีปชื้นที่มีฤดูหนาวเย็นและยาวนาน และมีฤดูร้อนอุ่นมากถึงเย็น [[หยาดน้ำฟ้า]]ไม่หนัก แต่หมู่เกาะมักมีกองหิมะลึกในฤดูหนาว ในเขตทะเลญี่ปุ่นตรงชายฝั่งตะวันตกของฮนชู ลมฤดูหนาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือนำให้หิมะตกหนัก ในฤดูร้อน ภูมิภาคนี้เย็นกว่าเขตแปซิฟิก แม้บางครั้งมีอุณหภูมิร้อนจัดเนื่องจาก[[ลมเฟิร์น]] (foehn) เขตที่สูงภาคกลางเป็นภูมิอากาศแบบทวีปชื้นในแผ่นดินตรงแบบ มีความแตกต่างของอุณหภูมิมากระหว่างฤดูร้อนและฤดูหนาว ตลอดจนมีความแตกต่างระหว่างกลางวันกลางคืนมาก หยาดน้ำฟ้าเบาบาง แม้ฤดูหนาวปกติมีหิมะตก เขตภูเขา[[ชูโงะกุ]]และ[[เกาะชิ
อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูหนาวในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 5.1 °C และอุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูร้อนอยู่ที่ 25.2 °C<ref>{{cite web|title=Climate|url=http://www.jnto.go.jp/eng/arrange/essential/climate.html|publisher=[[Japan National Tourism Organization|JNTO]]|accessdate=March 2, 2011}}</ref> อุณหภูมิสูงสุดที่เคยวัดได้ในประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 41.0 °C ซึ่งมีบันทึกเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2556<ref>{{cite web|url=http://ds.data.jma.go.jp/tcc/tcc/news/press_20130813.pdf |title=Extremely hot conditions in Japan in midsummer 2013
|publisher=Tokyo Climate Center, Japan Meteorological Agency |date=August 13, 2013 |accessdate=August 3, 2017}}</ref> ฤดูฝนหลักเริ่มในต้นเดือนพฤษภาคมใน
=== ความหลากหลายทางชีวภาพ ===
บรรทัด 128:
ญี่ปุ่นปรากฏครั้งแรกในประวัติศาสตร์ลายลักษณ์อักษรใน[[ฮั่นซู]] (บันทึกประวัติศาสตร์ฮั่น) ของจีน<ref>{{cite book |last=Takashi |first=Okazaki |last2=Goodwin |first2=Janet |title=The Cambridge history of Japan, Volume 1: Ancient Japan |year=1993 |publisher=Cambridge University Press |location=Cambridge |isbn=0-521-22352-0 |page=275 |chapter=Japan and the continent}}</ref> ตามบันทึกสามก๊ก ราชอาณาจักรทรงอำนาจที่สุดในกลุ่มเกาะญี่ปุ่นระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 3 เรียก ยะมะไตโกะกุ มีกาเผยแผ่[[ศาสนาพุทธ]] เข้าประเทศญี่ปุ่นจาก[[อาณาจักรแพ็กเจ]] (เกาหลีปัจจุบัน) และได้รับอุปถัมภ์โดย[[เจ้าชายโชโตะกุ]] และการพัฒนา[[ศาสนาพุทธในประเทศญี่ปุ่น|ศาสนาพุทธญี่ปุ่น]]ในเวลาต่อมาได้รับอิทธิพลจากจีนเป็นหลัก<ref>{{cite book |editor=Brown, Delmer M.|year=1993 |title=The Cambridge History of Japan |publisher=Cambridge University Press |pages=140–149}}</ref> แม้มีการต่อต้านในช่วงแรก แต่ศาสนาพุทธได้รับการส่งเสริมจากชนชั้นปกครองและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในช่วงต้น[[ยุคอะซุกะ]] (ค.ศ. 592–710)<ref>{{cite book |title=The Japanese Experience: A Short History of Japan |first=William Gerald|last=Beasley |publisher=University of California Press |year=1999 |page=42 |isbn=0-520-22560-0}}</ref>
[[ยุค
นับเป็นจุดเริ่มต้นของ[[ยุคเฮอัง]] (พ.ศ. 1337–1728) ซึ่งวัฒนธรรมญี่ปุ่นเฉพาะถิ่นชัดเจนกำเนิด โดยที่เห็นได้ชัดที่สุดคือ ศิลปะ กวีและร้อยแก้ว [[ตำนานเก็นจิ]]ของ[[มุราซากิ ชิคิบุ]] และ "[[คิมิงะโยะ]]" เนื้อร้องเพลงชาติประเทศญี่ปุ่นปัจจุบัน ก็มีการเขียนขึ้นในช่วงนี้<ref>{{cite book |first=Conrad|last=Totman |year=2002 |title=A History of Japan |publisher=Blackwell |pages=79–87, 122–123 |isbn=978-1-4051-2359-4}}</ref>
บรรทัด 136:
=== ยุคเจ้าขุนมูลนาย ===
[[ไฟล์:Mōko Shūrai Ekotoba 2.jpg|thumb|นักรบซะมุไรสู้รบกับมองโกลระหว่างการบุกครองญี่ปุ่นของมองโกล ([[Takezaki Suenaga|Suenaga]], 1836)]]
[[ไฟล์:Japan Kyoto Kinkakuji DSC00108.jpg|thumb|220px|[[วัดคิงกะกุ]] ในเมือง[[
ยุคเจ้าขุนมูลนายของญี่ปุ่นมีลักษณะจากการถือกำเนิดและการครอบงำของชนชั้นนักรบ[[ซะมุไร]] ใน พ.ศ. 1728 [[จักรพรรดิโกะ-โทะบะ]]ทรงแต่งตั้งซะมุไร [[มินะโมะโตะ โนะ โยะริโตะโมะ]] เป็น[[โชกุน]] หลังพิชิต[[ตระกูลไทระ]]ใน[[สงครามเก็มเป]] โยะริโตะโมะตั้งฐานอำนาจใน[[คะมะกุระ]] หลังเขาเสียชีวิต [[ตระกูลโฮโจ]]เถลิงอำนาจเป็น[[ชิกเก็ง|ผู้สำเร็จราชการให้โชกุน]] มีการเผยแผ่ศาสนาพุทธสำนักเซนจากจีนใน[[ยุคคะมะกุระ]] (พ.ศ. 1728–1876) และได้รับความนิยมในชนชั้นซะมุไร [[รัฐบาลโชกุนคะมะกุระ]]ขับไล่การบุกครองของมองโกลสองครั้งใน พ.ศ. 1817 และ 1824 แต่สุดท้ายถูก[[จักรพรรดิโกะ-ไดโงะ]]โค่นล้ม ส่วนจักรพรรดิโกะ-ไดโงะก็ถูก[[อะชิกะงะ ทะกะอุจิ]]พิชิตอีกทอดหนึ่งใน พ.ศ. 1879
อะชิกะงะ ทะกะอุจิตั้งรัฐบาลโชกุนในมุโระมะชิ จังหวัด
ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 16 มีพ่อค้าและ[[มิชชันนารี]][[คณะเยสุอิต]]จากประเทศโปรตุเกสเดินทางถึงญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก และเริ่มการค้าขายและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างญี่ปุ่นกับโลกตะวันตก ([[การค้านัมบัน]]) โดยตรง ทำให้[[โอะดะ โนะบุนะงะ]]ได้เทคโนโลยีและอาวุธปืนยุโรปซึ่งเขาใช้พิชิตไดเมียวคนอื่นหลายคน การรวบอำนาจของเขาเริ่ม[[ยุคอะซุชิโมะโมะยะมะ]] (พ.ศ. 2116–2146) หลังโนะบุนะงะถูก[[อะเกะชิ มิสึฮิเดะ]]ลอบฆ่าใน พ.ศ. 2125 [[โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ]] ผู้สืบทอดของโนะบุนะงะ รวมประเทศใน พ.ศ. 2133 และเปิดฉาก[[การบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น (ค.ศ. 1592–98)|บุกครองเกาหลี]] 2 ครั้งใน พ.ศ. 2135 และ 2140 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
หลังฮิเดะโยะชิถึงแก่อสัญกรรม [[โทะกุงะวะ อิเอะยะซุ]]ตั้งตนเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทนบุตรของฮิเดะโยะชิและใช้ตำแหน่งให้ได้มาซึ่งการสนับสนุนทางการเมืองและการทหาร อิเอะยะซุเอาชนะไดเมียวต่าง ๆ ได้ใน[[ยุทธการที่เซะกิงะฮะระ]]ใน พ.ศ. 2143 ต่อมาใน พ.ศ. 2146 [[จักรพรรดิโกะ-โยเซ]]จึงทรงแต่งตั้งเขาเป็นโชกุน เขาตั้ง[[รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ]]ใน[[เอะโดะ]] (กรุง[[โตเกียว]]ปัจจุบัน) รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะออกมาตรการซึ่งรวมบุเกะโชะฮัตโตะเป็นจรรยาบรรณสำหรับควบคุมไดเมียวอัตตาณัติ และนโยบาย[[ซะโกะกุ]] ("ประเทศปิด") ใน พ.ศ. 2182 ซึ่งกินเวลานานสองศตวรรษครึ่งและเป็นยุคเอกภาพทางการเมืองที่เรียก [[ยุคเอะโดะ]] (พ.ศ. 2146–2411) การศึกษาศาสตร์ตะวันตก ที่เรียก [[รังงะกุ]] ยังคงมีต่อผ่านการติดต่อกับดินแดนแทรกของ
=== ยุคใหม่ ===
[[ไฟล์:Meiji tenno1.jpg|thumb|upright|left|[[สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิ]] มีการฟื้นฟูการปกครองแบบจักรวรรดิในช่วงปลาย[[รัฐบาลโชกุนโทะกุงะวะ]]]]
วันที่ 31 มีนาคม 2397 [[แมทธิว ซี. เพอร์รี|พลเรือจัตวา แมทธิว ซี. เพอร์รี]] และ "[[เรือดำ]]" แห่งกองทัพเรือสหรัฐบังคับให้ญี่ปุ่นเปิดประเทศต่อโลกภายนอกด้วย[[สนธิสัญญา
ประเทศญี่ปุ่นรับสถาบันการเมือง ตุลาการและทหารแบบตะวันตกและอิทธิพลทางวัฒนธรรมตะวันตกรวมเข้ากับวัฒนธรรมดั้งเดิมขปงะเรทศสำหรับการกลายเป็นอุตสาหกรรมสมัยใหม่ โดยผ่านกระบวนการกลายเป็นตะวันตกระหว่างการฟื้นฟูเมจิในปี 2411 คณะรัฐมนตรีจัดตั้งคณะองคมนตรี ริเริ่ม[[รัฐธรรมนูญเมจิ]] และเรียกประชุม[[สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ญี่ปุ่น)|สภานิติบัญญัติแห่งชาติ]] การฟื้นฟูเมจิเปลี่ยนจักรวรรดิญี่ปุ่นให้เป็นมหาอำนาจอุตสาหกรรมซึ่งมุ่งใช้ความขัดแย้งทางทหารเพื่อขยายเขตอิทธิพลของตน หลังคว้าชัยใน[[สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่หนึ่ง]] (พ.ศ. 2437–2438) และ[[สงครามรัสเซีย-ญี่ปุ่น]] (พ.ศ. 2447–2448) ประเทศญี่ปุ่นเข้าควบคุมไต้หวัน เกาหลีและครึ่งใต้ของ[[เกาะซาฮาลิน]] ประชากรญี่ปุ่นเพิ่มจาก 35 ล้านคนในปี 2416 เป็น 70 ล้านคนในปี 2478
บรรทัด 155:
[[สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง]]ทำให้ญี่ปุ่นซึ่งอยู่[[ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง|ฝ่ายสัมพันธมิตร]]ผู้ชนะ สามารถขยายอำนาจและอาณาเขตในทวีปเอเชียต่อไปอีก ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีช่วง "ประชาธิปไตยไทโช" (พ.ศ. 2455–2469) แต่คริสต์ทศวรรษ 1920 (ประมาณพุทธทศวรรษ 2460) ประชาธิปไตยที่เปราะบางตกอยู่ภายใต้การเลื่อนทางการเมืองสู่[[ฟาสซิสต์]] มีการผ่านกฎหมายปราบปรามการเห็นต่างทางการเมืองและมีความพยายามรัฐประหารหลายครั้ง "[[ยุคโชวะ]]" ต่อมาอำนาจของกองทัพเริ่มเพิ่มขึ้นและนำญี่ปุ่นสู่การขยายอาณาเขตและการเสริมสร้างแสนยานุภาพ ตลอดจนเผด็จการเบ็ดเสร็จและ[[ลัทธิคลั่งชาติ]]ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุดมการณ์ฟาสซิสต์ ในปี 2474 ประเทศญี่ปุ่นบุกครองและยึดครอง[[แมนจูเรีย]] เมื่อนานาชาติประณามการครอบครองนี้ ประเทศญี่ปุ่นก็ลาออกจาก[[สันนิบาตชาติ]]ในปี 2476<ref>{{cite web|url=http://www.drc-jpn.org/AR-6E/sugiyama-e02.htm|title=Fundamental Issues underlying US-Japan Alliance: 2. Lytton Report and Anglo-Russo-Americana (ARA) Secret Treaty|publisher=Defense Research Center|author=Katsumi Sugiyama}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> ในปี 2479 ญี่ปุ่นลงนาม[[กติกาสัญญาต่อต้านโคมินเทิร์น]]กับ[[นาซีเยอรมนี]] และ[[กติกาสัญญาไตรภาคี]]ในปี 2483 เข้าร่วมกับ[[ฝ่ายอักษะ]]<ref>{{cite web |url= http://www.friesian.com/pearl.htm |title= The Pearl Harbor Strike Force |author= Kelley L. Ross | publisher = friesian.com |accessdate=2007-03-27}}</ref> หลังพ่ายใน[[ข้อพิพาทชายแดนโซเวียต–ญี่ปุ่น|สงครามชายแดนโซเวียต–ญี่ปุ่น]]ที่กินเวลาสั้น ๆ ประเทศญี่ปุ่นเจรจา[[กติกาสัญญาความเป็นกลางโซเวียต–ญี่ปุ่น]] ซึ่งกินเวลาถึงปี 2488 เมื่อ[[การบุกครองแมนจูเรียของโซเวียต|สหภาพโซเวียตบุกครองแมนจูเรีย]]
[[ไฟล์:Nagasakibomb.jpg|thumb|right|[[การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถล่มฮิ
ในยุค[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ญี่ปุ่นได้เสริมสร้างอำนาจทางการทหารให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น หลังจากญี่ปุ่นถูกกีดกันทางการค้าจากสหรัฐอเมริกา ต่อมาจึงได้เปิดฉากสงครามในแถบเอเชียแปซิฟิก (ซึ่งรู้จักกันทั่วไปในชื่อ [[สงครามมหาเอเชียบูรพา]]) ในวันที่ [[7 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2484]] โดย[[การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์|การโจมตีฐานทัพเรือสหรัฐอเมริกาที่อ่าวเพิร์ล]] และการยาตราทัพเข้ามายัง[[เอเชียตะวันออกเฉียงใต้]] ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดินแดนอาณานิคมของสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรและ[[เนเธอร์แลนด์]] ตลอดสงครามครั้งนั้น ญี่ปุ่นสามารถยึดครองประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ทั้งหมด แต่หลังจากที่ญี่ปุ่นพ่ายแพ้ให้แก่สหรัฐอเมริกาในการรบทางน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกหลังจาก[[ยุทธนาวีแห่งมิดเวย์]] ([[พ.ศ. 2485]]) ญี่ปุ่นก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้แก่[[ฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่สอง|ฝ่ายสัมพันธมิตร]]โดยง่าย เมื่อต้องเผชิญหน้ากับ[[ระเบิดปรมาณู]]ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกทิ้งที่[[เมืองฮิโรชิมา]]และ[[
ปี 2490 ประเทศญี่ปุ่นเริ่มใช้[[รัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น|รัฐธรรมนูญฉบับใหม่]]ซึ่งเน้นวัตร[[ประชาธิปไตยเสรีนิยม]] [[การยึดครองญี่ปุ่น]]ของฝ่ายสัมพันธมิตรสิ้นสุดเมื่อมีการลงนาม[[สนธิสัญญาซานฟรานซิสโก]]ในปี 2499<ref>{{cite web|url=http://www.taiwandocuments.org/sanfrancisco01.htm|title=San Francisco Peace Treaty|publisher=Taiwan Document Project|accessdate=2008-11-22}}</ref> และญี่ปุ่นได้เป็นสมาชิก[[สหประชาชาติ]]ในปี 2499<ref>{{cite web|url=http://www.un.org/News/Press/docs/2006/org1469.doc.htm|title=United Nations Member States|publisher=[[สหประชาชาติ]]|accessdate=2008-11-22}}</ref> หลังสงคราม ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาทางเศรษฐกิจด้วยอัตราการเจริญเติบโตที่สูงมากจนกลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก จนถูกประเทศจีนแซงในปี 2553 แต่การเติบโตดังกล่าวหยุดในช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1990 เมื่อญี่ปุ่นประสบภาวะเศรษฐกิจถดถอย<ref name="webeco">{{cite web |url=http://web-japan.org/factsheet/pdf/ECONOMY.pdf|title=Japan Fact Sheet: Economy|publisher=Web Japan|accessdate=2008-11-22}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 21 การเติบโตทางบวกส่งสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป<ref>{{cite news |url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/business/5178822.stm |title=Japan scraps zero interest rates |publisher=BBC News |date=July 14, 2006 |accessdate=December 28, 2006}}</ref> วันที่ 11 มีนาคม 2554 ประเทศญี่ปุ่นประสบ[[แผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิในโทโฮะกุ พ.ศ. 2554|แผ่นดินไหวครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ]] ซึ่งยังส่งผลให้เกิด[[ภัยพิบัตินิวเคลียร์
== การเมือง ==
บรรทัด 178:
=== การแบ่งเขตการปกครอง ===
ประเทศญี่ปุ่นแบ่งการปกครองออกเป็น 47 [[จังหวัด]]<ref> คำว่าจังหวัดในภาษาญี่ปุ่นมี 4 แบบ คือ โทะ (都) ใช้เฉพาะโตเกียวซึ่งเป็นเมืองหลวง, โด (道) เฉพาะฮกไกโด, ฟุ (府) ใช้กับ
ในแต่ละจังหวัดมีการแบ่งเขาการปกครองออกเป็นเทศบาลย่อยๆ <ref> ซึ่งเทศบาลมีหลายระดับ ตั้งแต่ กุ (区) ชิ (市) โช (町) และมุระหรือซน (村) ซึ่งเรียกรวมกันว่า [[ชิโจซง]] </ref> แต่ในปัจจุบันกำลังมีการปรับโครงสร้างการแบ่งเขตการปกครองโดยการรวมเทศบาลที่อยู่ใกล้เคียงกันเข้าด้วยกัน ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเขตการปกครองย่อยและช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบริหารเทศบาลลงได้ <ref>{{cite web|url=http://search.japantimes.co.jp/cgi-bin/np20020126a8.html|title=City-merger talks on increase|publisher=The Japan Times|date=2002-01-26|accessdate=2008-11-15}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> การรวมเขตเทศบาลนี้เป็นนโยบายที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยมีการคาดการณ์ที่จะลดจาก 3,232 เทศบาลใน [[พ.ศ. 2542]] ให้เหลือ 1,773 เทศบาลใน [[พ.ศ. 2553]] <ref>{{cite web|url=http://www.soumu.go.jp/gapei|title=合併相談コーナー|publisher=Ministry of Internal Affairs and Communications|accessdate=2008-11-16}}</ref>
บรรทัด 194:
|- style="text-align:left; vertical-align:top; background:Lavenderblush; font-size:92%;"
|
1. [[จังหวัดฮกไกโด|
|
2. [[จังหวัด
3. [[จังหวัด
4. [[จังหวัด
5. [[จังหวัด
6. [[จังหวัด
7. [[จังหวัด
|
8. [[จังหวัด
9. [[จังหวัด
10. [[จังหวัดกุมมะ|กุมมะ]] <br />
11. [[จังหวัดไซ
12. [[จังหวัดชิบะ|ชิบะ]]<br />
13. [[จังหวัดโตเกียว|โตเกียว]] <br />
14. [[จังหวัด
|
15. [[จังหวัด
16. [[จังหวัด
17. [[จังหวัดอิชิ
18. [[จังหวัด
19. [[จังหวัด
20. [[จังหวัด
21. [[จังหวัดกิฟุ|กิฟุ]] <br />
22. [[จังหวัดชิ
23. [[จังหวัดไอจิ|ไอจิ]] <br />
บรรทัด 224:
! style="width:25%;"| '''[[คันไซ]]
! style="width:25%;"| '''[[ชูโงะกุ]]'''
! style="width:25%;"| '''[[ชิ
! style="width:25%;"| '''[[คีวชู]] และ [[
|- style="text-align:left; vertical-align:top; background:Lavenderblush; font-size:92%;"
|
24. [[จังหวัดมิเอะ|มิเอะ]] <br />
25. [[จังหวัดชิงะ|ชิงะ]] <br />
26. [[จังหวัด
27. [[จังหวัดโอ
28. [[จังหวัดเฮียวโงะ|เฮียวโงะ]] <br />
29. [[จังหวัด
30. [[จังหวัด
|
31. [[จังหวัด
32. [[จังหวัดชิ
33. [[จังหวัด
34. [[จังหวัดฮิ
35. [[จังหวัด
|
36. [[จังหวัด
37. [[จังหวัด
38. [[จังหวัด
39. [[จังหวัดโคจิ|โคจิ]] <br />
|
40. [[จังหวัด
41. [[จังหวัด
42. [[จังหวัด
43. [[จังหวัด
44. [[จังหวัดโออิตะ|โออิตะ]] <br />
45. [[จังหวัดมิ
46. [[จังหวัด
47. [[จังหวัด
|}
=== ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ===
[[ไฟล์:Donald Trump and Shinzō Abe at 43rd G7 summit.jpg|thumb|นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น [[ชินโซ อะเบะ]] กับประธานาธิบดีสหรัฐ [[ดอนัลด์ ทรัมป์]]]]
<!-- [[ไฟล์:Liancourt walleye view.jpg|thumb|[[หินลี
ประเทศญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางทูตกับเกือบทุกประเทศเอกราชในโลก และเป็นสมาชิกปัจจุบันของ[[สหประชาชาติ]]ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2499 ประเทศญี่ปุ่นเป็นสมาชิก[[จี
ประเทศญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสหรัฐ นับแต่สหรัฐและพันธมิตรพิชิตญี่ปุ่นใน[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ทั้งสองประเทศธำรงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการกลาโหมอย่างใกล้ชิด สหรัฐเป็นตลาดสำคัญของสินค้าส่งออกของญี่ปุ่นและเป็นแหล่งนำเข้าหลักของญี่ปุ่น และผูกมัดป้องกันประเทศญี่ปุ่น โดยมีฐานทัพในประเทศญี่ปุ่นบางส่วนด้วยเหตุนั้น<ref>{{cite web|title=Japan's Foreign Relations and Role in the World Today|url=http://afe.easia.columbia.edu/japan/japanworkbook/fpdefense/foreign.htm|website=Asia for Educators|accessdate=November 13, 2016}}</ref>
ประเทศญี่ปุ่นต่อสู้การควบคุมหมู่เกาะคูริลใต้ (ได้แก่ กลุ่มอิโตะโระฟุ คุนะชิริ ชิ
== กองทัพ ==
กองทัพญี่ปุ่นถูกจำกัดสิทธิตาม[[มาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่น]] ซึ่งสละสิทธิของประเทศญี่ปุ่นในการประกาศสงครามและการใช้กำลังทหารในข้อพิพาทระหว่างประเทศ ฉะนั้น กองทัพญี่ปุ่นที่เรียก "[[กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น]]" นั้นจึงเป็นกองทัพที่ไม่เคยสู้รบนอกประเทศญี่ปุ่น<ref>正論, May 2014 (171).</ref> ประเทศญี่ปุ่นมีงบประมาณทางทหารสูงสุดประเทศหนึ่งในโลก<ref>{{cite web|title=The 15 countries with the highest military expenditure in 2009|url=http://www.sipri.org/research/armaments/milex/resultoutput/milex_15|publisher=Stockholm International Peace Research Institute|accessdate=January 16, 2011|deadurl=yes|archiveurl=https://web.archive.org/web/20110217084451/http://www.sipri.org/research/armaments/milex/resultoutput/milex_15|archivedate=February 17, 2011|df=mdy-all}}</ref> จัดเป็นประเทศเอเชียอันดับสูงสุดใน[[ดัชนีสันติภาพโลก]]<ref>Institute for Economics and Peace (2015). ''[http://www.visionofhumanity.org/sites/default/files/Global%20Peace%20Index%20Report%202015_0.pdf Global Peace Index 2015.] {{webarchive|url=https://web.archive.org/web/20151006145259/http://www.visionofhumanity.org/sites/default/files/Global%20Peace%20Index%20Report%202015_0.pdf |date=October 6, 2015 }}'' Retrieved October 5, 2015</ref> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมปกครองกองทัพ และส่วนใหญ่ประกอบด้วย[[กองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่น]] [[กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น]] [[กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น]] ซึ่งกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นเป็นผู้เข้าร่วมการฝึกซ้อมทางทะเลริมแพ็ก (RIMPAC) เป็นประจำ<ref>{{cite web|title=About RIMPAC |url=http://www.mindef.gov.sg/imindef/mindef_websites/topics/exrimpac/abt_rimpac.html |publisher=Government of Singapore |accessdate=March 2, 2014 |deadurl=yes |archiveurl=https://web.archive.org/web/20130806203903/http://www.mindef.gov.sg/imindef/mindef_websites/topics/exrimpac/abt_rimpac.html |archivedate=August 6, 2013}}</ref> ล่าสุดมีการใช้กองทัพเพื่อปฏิบัติการรักษาสันติภาพ โดยการวางกำลังในประเทศอิรักเป็นการใช้กองทัพญี่ปุ่นนอกประเทศครั้งแรกนับแต่สงครามโลกครั้งที่สอง<ref name="Iraq deployment">{{cite web |url=http://www.iht.com/articles/2006/06/20/news/japan.php |archiveurl=https://web.archive.org/web/20070416075509/http://www.iht.com/articles/2006/06/20/news/japan.php |archivedate=April 16, 2007 |title= Tokyo says it will bring troops home from Iraq |work=International Herald Tribune |date=June 20, 2006 |accessdate=March 28, 2007}}</ref> สหพันธ์ธุรกิจญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกการห้ามส่งอาวุธออกเพื่อให้ประเทศญี่ปุ่นสามารถเข้าร่วมโครงการนานาชาติอย่างเครื่องบินขับไล่จู่โจมร่วม (Joint Strike Fighter) ได้<ref>{{cite news|url=http://in.reuters.com/article/2010/07/13/idINIndia-50097320100713 |title=Japan business lobby wants weapon export ban eased |publisher=Reuters |date= July 13, 2010|accessdate=April 12, 2011}}</ref>
ในคริสต์ศตวรรษที่ 21 มีการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจโลกอย่าง
ประเทศญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ทางทหารใกล้ชิดกับสหรัฐ พันธมิตรความมั่นคงสหรัฐ–ญี่ปุ่นเป็นหลักหมุดของนโยบายการต่างประเทศของชาติ<ref>{{cite web |url=http://www.realclearpolitics.com/articles/2007/03/japan_is_back_why_tokyos_new_a.html |title=Japan Is Back: Why Tokyo's New Assertiveness Is Good for Washington|author=Michael Green |publisher=Real Clear Politics |accessdate=March 28, 2007}}</ref> นับแต่เป็นสมาชิกสหประชาชาติในปี 2499 ประเทศญี่ปุ่นเคยเป็นสมาชิก[[คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ|คณะมนตรีความมั่นคง]]เป็นเวลารวม 20 ปี วาระล่าสุดในปี 2552 และ 2553
บรรทัด 293:
ญี่ปุ่นมีลักษณะเฉพาะในการทำธุรกิจหลายอย่าง เช่น[[เคเระสึ]]หรือระบบเครือข่ายบริษัทจะมีอิทธิพลในเชิงธุรกิจ [[การจ้างงานตลอดชีวิต]]และการเลื่อนขั้นตามความอาวุโสจะพบเห็นได้ทั่วไป บริษัทที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจจะถือหุ้นของกันและกัน<ref >{{cite web|url=http://www.economist.com/business/displaystory.cfm?story_id=12564050|title=Criss-crossed capitalism |publisher=The Economist|date=2008-11-06|accessdate=2008-11-17}}</ref> ผู้ถือหุ้นมักจะไม่มีบทบาทกับการบริหารของบริษัท<ref name="shareholder">{{cite web |url=http://www.economist.com/business/displaystory.cfm?story_id=9414552|title=In the locust position|publisher=The Economist|date=2007-06-28|accessdate=2008-11-02}}</ref> แต่ในปัจจุบันญี่ปุ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงออกจากระบบเก่า ๆ เหล่านี้<ref>{{cite web |url=http://www.economist.com/specialreports/displayStory.cfm?story_id=10169956|title=Going hybrid|publisher=The Economist|date=2007-11-29|accessdate=2008-11-02}}</ref><ref name="shareholder"/>
ใน พ.ศ. 2548 พื้นที่ที่ใช้ในการเกษตรกรรมมีเพียงร้อยละ 12.6<ref>{{cite web |url=http://www.maff.go.jp/toukei/abstract/2_1/69a.htm|title=Total area and cultivated land area|publisher=Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries|accessdate=2008-11-07}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> และมีประชากรที่ประกอบการเกษตรเพียงร้อยละ 6.6<ref>{{cite web |url=http://www.maff.go.jp/toukei/abstract/2_1/69c.htm|title=Total population and agricultural population|publisher=Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries|accessdate=2008-11-07}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref>เท่านั้น ผลผลิตทางการเกษตรที่ผลิตได้มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ไหม กะหล่ำปลี ข้าว มัน และชา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการนำเข้าอาหารถึงร้อยละ 60 จึงเป็นประเทศที่มีอัตราการเลี้ยงตนเองค่อนข้างต่ำ<ref>{{cite web|last=農林水産省国際部国際政策課|title=農林水産物輸出入概況(2005)|date=2006-05-23|url=http://www.maff.go.jp/toukei/sokuhou/data/yusyutugai2005/yusyutugai2005.pdf|format=PDF|accessdate=2007-09-13}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref><ref>{{cite web |url=http://www.maff.go.jp/toukei/abstract/2_5/76.htm|title=Self-sufficiency ratio of food by commodities (Preliminary)|publisher=Ministry of Agriculture, Forestry and Fisheries|accessdate=2008-11-07}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> ในระยะหลังกระแสความกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาหารทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศเป็นที่ต้องการมากขึ้น
== โครงสร้างพื้นฐาน ==
บรรทัด 300:
''ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ [[การคมนาคมในประเทศญี่ปุ่น]]''
ใน พ.ศ. 2548 ร้อยละ 50 ของพลังงานที่ใช้ในญี่ปุ่นผลิตจาก[[ปิโตรเลียม]] ร้อยละ 20 จาก[[ถ่านหิน]] ร้อยละ 14 จาก[[ก๊าซธรรมชาติ]]<ref name=energy>[http://www.stat.go.jp/english/data/handbook/c07cont.htm Chapter 7 Energy]{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}, Statistical Handbook of Japan 2007</ref> การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์มีปริมาณหนึ่งในสี่ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด<ref name=energy/> แต่หลังจากเกิดเหตุ[[อุบัติเหตุนิวเคลียร์
ญี่ปุ่นมีบริษัทรถไฟหลายแห่ง เช่น[[กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่น]] รถไฟฮังคิว รถไฟเซบุ และบริษัทเคโอ ซึ่งแข่งขันกันด้านบริการในพื้นที่ต่าง ๆ ปัจจุบันที่
ทางด่วนแห่งชาติ ของประเทศญี่ปุ่นมีระยะทางทั้งสิ้น 11,520 กิโลเมตร
การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นที่นิยมและมี[[รายชื่อท่าอากาศยานในประเทศญี่ปุ่น|สนามบิน]] 173 แห่งทั่วประเทศ [[สนามบินฮาเนดะ]]ที่ส่วนใหญ่ให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศเป็นสนามบินที่[[อันดับท่าอากาศยานที่มีความหนาแน่นสูงสุดในกรณีจำนวนผู้โดยสาร|หนาแน่นที่สุดในเอเชีย]]<ref>{{cite web|url=http://www.airports.org/cda/aci_common/display/main/aci_content07_c.jsp?zn=aci&cp=1-5-212-218-222_666_2__|title=Year to date Passenger Traffic|publisher=Airports Council International|date=2008-08}}</ref> สนามบินนานาชาติที่สำคัญได้แก่[[สนามบินนาริตะ]] [[สนามบินคันไซ]] และ[[สนามบินนานาชาตินาโงยา]] แต่การก่อสร้างสนามบินบางแห่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่าเพื่อประโยชน์ใช้สอยจริง<ref>{{cite web|url=http://query.nytimes.com/gst/fullpage.html?res=9500E3DC1031F932A35750C0A961958260|title=Japan's Road to Deep Deficit Is Paved With Public Works|publisher=The New York Times|date=1997-03-01|accessdate=2008-11-23}}</ref> สนามบินบางแห่งขาดทุนมาตลอดตั้งแต่เปิดทำการ<ref>{{cite web|url=http://www.fukuoka-now.com/jp/news/show/1860|title=Outlook Bleak for Saga Airport Profitability|publisher=Fukuoka Now|date=2008-07-31|accessdate=2008-11-23}}</ref>
บรรทัด 317:
== ประชากร ==
[[ไฟล์:Shibuya night.jpg|220px|thumb|[[ชิบุยะ|แยกชิบุยะ]]ถนนที่มีผู้สัญจรมากที่สุดในโตเกียว]]
จากการสำรวจในวันที่ 1 สิงหาคม 2012 ญี่ปุ่นมีประชากรประมาณ 127,692,273 คน<ref>{{cite web|url=http://www.stat.go.jp/english/data/kokusei/2005/kihon1/00/01.htm|title=Population Census: Total Population|publisher=Statistics Bureau, Ministry of Internal Affairs and Communications}}</ref> ประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษาและมีวัฒนธรรมที่เหมือนกัน โดยมีชาวต่างชาติ เช่นชาวเกาหลี จีน บราซิล ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และชาติอื่น ๆ ประมาณร้อยละ 1.2 ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่<ref>{{cite web|url=http://www.stat.go.jp/english/data/kokusei/2005/kihon1/00/06.htm|title=Population Census: Foreigners|publisher=Statistics Bureau, Ministry of Internal Affairs and Communications}}</ref> เชื้อชาติส่วนใหญ่คือเชื้อสาย[[ชาวยะมะโตะ]] และมีชนกลุ่มน้อยเช่น[[ชาวไอนุ]]และ[[ชาว
ประชากรญี่ปุ่นมีอายุคาดหมายเฉลี่ยประมาณ 82.07 ปี จึงนับเป็นประเทศที่มีประชากรอายุยืนยาวที่สุดประเทศหนึ่งในโลก<ref>{{cite web |url=https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/rankorder/2102rank.html |title=The World Factbook: Rank order—Life expectancy at birth |publisher=[[CIA]] |date=2008-10-23|accessdate=2008-11-5}}</ref> โครงสร้างประชากรของญี่ปุ่นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากเด็กที่เกิดมาในยุค
=== จำนวนประชากร ===
{{เมืองใหญ่สุดในญี่ปุ่น}}
[[ไฟล์:Osaka Dotonbori.jpg|220px|thumb|ย่าน[[โดทมโบะริ]] [[โอ
''ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่[[รายชื่อเมืองในญี่ปุ่นเรียงตามจำนวนประชากร]]'' และ ''[[จำนวนประชากรญี่ปุ่นแยกตามจังหวัด]]''
บรรทัด 334:
=== ภาษา ===
ประชากรมากกว่าร้อยละ 95 ใช้[[ภาษาญี่ปุ่น]]เป็น[[ภาษาแม่]]<ref>[https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/ja.html#People The World Factbook; Japan-People] CIA (2008) </ref> ภาษาญี่ปุ่นมีวิธีการผันคำกริยาและคำศัพท์ที่แสดงถึงสถานะระหว่างผู้พูด
=== การศึกษา ===
บรรทัด 340:
[[ไฟล์:Yasuda Auditorium, Tokyo University - Nov 2005.JPG|220px|thumb|[[มหาวิทยาลัยโตเกียว]]ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น]]
ระบบการศึกษาในระดับประถม มัธยม และอุดมศึกษาถูกนำมาใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2451 ซึ่งเป็นผลจาก[[การปฏิรูปเมจิ]] <ref>{{cite web |url=http://www.fpri.org/footnotes/087.200312.ellington.japaneseeducation.html |title=Beyond the Rhetoric: Essential Questions About Japanese Education |author=Lucien Ellington|publisher=Foreign Policy Research Institute |date=2003-12-01 |accessdate=2007-04-01}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> ตั้งแต่ พ.ศ. 2490 การศึกษาภาคบังคับของญี่ปุ่นมีระยะเวลา 9 ปี ตั้งแต่ประถมศึกษาจนจบมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายต่อ จากข้อมูลของ[[กระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี|กระทรวงการศึกษาของญี่ปุ่น]] (MEXT) ใน พ.ศ. 2547 พบว่าร้อยละ 75.9 ของผู้จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจะเรียนต่อในมหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือสถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ <ref>{{cite web |url= http://www.mext.go.jp/english/statist/05101901/005.pdf |title= School Education |publisher= [[Ministry of Education, Culture, Sports, Science and Technology (Japan)|MEXT]] | format = [[PDF]] | accessdate=2007-03-10}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> การศึกษาในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยการแข่งขัน<ref>{{cite web |url=http://www.usyd.edu.au/news/international/226.html?newsstoryid=1568 |title=Rethinking Japanese education |author=Kate Rossmanith|publisher=The University of Sydney |date=2007-02-05| accessdate=2007-04-01}}{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอบเข้าเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัย<ref>[http://www.bookrags.com/research/gakureki-shakai-ema-02/ Gakureki Shakai]{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}</ref> โครงการประเมินผลการศึกษานานาชาติ (Programme for International Student Assessment: PISA) ซึ่งจัดขึ้นโดย[[โออีซีดี]] จัดอันดับให้เด็กญี่ปุ่นมีความรู้และทักษะเป็นอันดับ 6 ของโลก<ref>[http://www.oecd.org/document/22/0,3343, en_2649_201185_39713238_1_1_1_1, 00.html OECD’s PISA survey shows some countries making significant gains in learning outcomes]{{dead link|date=พฤษภาคม 2560}}, [[OECD]], 04/12/2007. [http://www.oecd.org/dataoecd/42/8/39700724.pdf Range of rank on the PISA 2007 science scale]</ref>
มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น เช่น [[มหาวิทยาลัยโตเกียว]] [[มหาวิทยาลัยเคโอ]] และ [[มหาวิทยาลัย
=== การรักษาพยาบาล ===
บรรทัด 350:
=== ดนตรี ===
[[ไฟล์:KotoPlayer.jpg|220px|thumb|การเล่น[[โคะโตะ]]]]
[[ดนตรีญี่ปุ่น]]ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมข้างเคียงเช่นจีนและคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งจาก
=== วรรณกรรม ===
บรรทัด 450:
}}
{{Navboxes
|title = ประเทศญี่ปุ่นว่าด้วย
|list =
{{UNSC}}
|