ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทฤษฎีหน้าต่างแตก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
โนเบล (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขจากคำว่า 'โอกาศ' เป็นคำว่า 'โอกาส'
โนเบล (คุย | ส่วนร่วม)
แก้ไขจากคำว่า 'อยู้ เป็นคำว่า 'อยู่'
 
บรรทัด 10:
ก่อนการเริ่มใช้ของทฤษฏีนี้โดยวิลสันและเคลลิ่ง [[:en:Philip_Zimbardo|ฟิลลิป ซิมบาร์โด]] นักนักจิตวิทยาจากสแตนฟอร์ด ทำการทดลองเพื่อทดสอทฤษฎีหน้าต่างแตกในปีพ.ศ. 2512 ซิมบาร์โดได้นำรถซึ่งไม่มีป้ายทะเบียนและเปิดฟากระโปรงไว้ไปจอดนิ่งๆไว้ใน ย่าน[[บร็องซ์]]หนึ่งคัน และที่[[:en:Palo_Alto,_California|พาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย]] รถในย่านบร็องซ์นั้นถูกโจมตีในเวลาไม่กี่นาที ซิมบาร์โดได้บันทึกว่า "ผู้ทำลายทรัพย์สิน" กลุ่มแรกคือครอบครัวที่มีพ่อ แม่ และลูกชายวัยเยาว์ ซึ่งนำหม้อน้ำและแบตเตอรี่ออกมา ไม่ถึง 24 ชั่วโมงหลังจากนำไปจอด ของมีค่าทั้งหมดถูกถอดออกไปจากรถ จากนั้นกระจกได้ถูกตีจนแตก ชิ้นส่วนหลุดออก เบาะที่นั่งขาดวิ่น ส่วนเด็กๆนั้นใช้รถเป็นสนามเด็กเล่น ในขณะเดียวกัน รถแบบเดียวกันที่ถูกจอดที่พาโล อัลโต นั้นไม่มีใครแตะต้องเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์จนกระทั่งซิมบาร์โดเองนำค้อนไปทุบรถคันนั้น จากนั้นไม่นานจึงมีคนมาร่วมทำลาย ซิมบาร์โดสังเกตว่าผู้ใหญ่ที่เป็น "ผู้ทำลายทรัพย์สิน" ส่วนใหญ่นั้นเป็นคนผิวขาวที่แต่งตัวดี ตัดผมเรียบร้อย และดูเหมือนคนที่ได้รับการเคารพในสังคม เชื่อกันว่าในย่านที่อยู่อาศัยเช่นบร็องซ์ ซึ่งมีประวัติของการทิ้งร้างทรัพย์สินสูงกว่าที่อื่นนั้น มีการทำลายทรัพย์สินเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าที่อื่นด้วยความที่ชุมชนนั้นดูไม่แยแส เหตุการณ์คล้ายกันอาจเกิดขึ้นในชุมชนไหนก็ได้เมื่อสัมผัสของการเอาใจใส่และหน้าที่ของความเป็นพลเมืองดี ถูกทำให้ลดลงโดยการกระทำที่สื่อถึงการไม่แยแส<ref name=":0" /> <span class="mw-ref" id="cxcite_ref-FOOTNOTEWilsonKelling1982_1-2" rel="dc:references" contenteditable="false" data-sourceid="cite_ref-FOOTNOTEWilsonKelling1982_1-2"></span>บทความได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางและยังถูกใช้อ้างอิง<ref>Kelling, George; Coles, Catherine, ''Fixing Broken Windows: Restoring Order and Reducing Crime in Our Communities'',<nowiki>ISBN 0-684-83738-2</nowiki>.</ref>
 
ผู้แต่งหนังสือได้กล่าวไว้ว่า แผนการที่ประสบความสำเร็จในการป้องกันการทำลายทรัพย์สิน คือการจัดการกับปัญหาเมื่อมันยังเล็กอยู่ ซ่อมหน้าต่างที่แตกในเวลาอันสั้น ภายในประมาณซักหนึ่งวันหรือหนึ่งสัปดาห์ แล้วแนวโน้มที่กระจกจะแตกเพิ่มขึ้นหรือทรัพย์สินจะถูกทำลายจะน้อยลงมาก ทำความสะอาดทางเท้าทุกวัน แล้วแนวโน้มของขยะสะสมจะน้อยลง (หรือการทิ้งขยะลงบนทางเท้าจะน้อยลงมาก) สิ่งเหล่านี้จะทำให้ปัญหามีโอกาสน้อยลงที่จะบานปลายและยังทำให้ผู้อยู่อาศัยที่ "น่านับถือ" ไม่ย้ายที่อยู้หนีไปอยู่หนีไป
 
ดังนั้นทฤษฎีนี้อ้างว่าหากอาชญากรรมเล็กๆและพฤติกรรมต่อต้านสังคมเล็กๆน้อยๆถูกขัดขวาง จะทำให้อาชญากรรมส่วนใหญ่ไม่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน การวิจารณ์ทฤษฎีนี้นั้นมีแนวโน้มที่จะเน้นไปที่การอ้างผลของทฤษฏีที่อาจจะเกินจริง