ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มังโยงานะ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Qsdmap (คุย | ส่วนร่วม)
ป้ายระบุ: แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{กล่องข้อมูล ระบบการเขียน
|name=มันมังโยงะนะงานะ
|type=[[อักษรพยางค์]]
|languages=[[ภาษาญี่ปุ่น]]<br />[[ภาษาโอะกินะวะโอกินาวะ]]
|time=ประมาณ พ.ศ. 1193 (ค.ศ. 650)–??
|fam1=[[Oracle Bone Script]]
บรรทัด 9:
|fam4=[[Regular script]]
|sisters=[[คันจิ]]ร่วมสมัย
|children=[[ฮิระงะนะ]]ฮิรางานะ<br />[[คะตะคะคาตากานะ]]
}}
{{การเขียนภาษาญี่ปุ่น|漢字}}
 
'''มันมังโยงะนะงานะ''' ({{ญี่ปุ่น|万葉仮名|Man'yōgana}}) เป็น[[ระบบการเขียน]]ในสมัยโบราณของ[[ภาษาญี่ปุ่น]]โดย[[อักษรจีน]] หรือ[[คันจิ]] ช่วงเวลาที่เริ่มใช้ระบบการเขียนนี้ไม่ทราบแน่ชัด แต่ประมาณกลาง[[คริสต์ศตวรรษที่ 7]] ชื่อ "มันมังโยงะนะงานะ" นี้ ได้จากชื่อหนังสือ “[[มันโยชูมังโยชู]]” ({{ญี่ปุ่น|万葉集|Man'yōshū}}) อันเป็น[[วรรณกรรม]]รวมบทกวีใน[[ยุคนะนาระ]]ที่เขียนด้วยระบบมันมังโยงะนะงานะ
 
==ประวัติ==
หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ปรากฏอักษรมันมังโยงะงานะที่เก่าแก่ที่สุด คือ [[ดาบอินะนาริยะมะยามะ]] ซึ่งเป็นดาบเหล็กที่ขุดค้นพบที่สุสานโบราณ[[อินะนาริยะมะโคะฟุงยามาโกฟุง]] [[จังหวัดไซตะตามะ]] เมื่อ [[พ.ศ. 2511]] และ 10 ปีหลังการขุดพบ ใน [[พ.ศ. 2521]] ได้มีการวิเคาระห์ดาบเล่มนี้โดยการเอ็กเรย์เอกซเรย์ จนพบตัว[[อักษรจีน]]สลักด้วย[[ทอง]]จำนวน 115 ตัว ซึ่งเขียนเป็นมันมังโยงะนะงานะ สันนิษฐานว่าดาบเล่มนี้ถูกตีขึ้นในปี 辛亥年 เทียบเท่ากับ [[พ.ศ. 1041]]
 
==หลักการเขียน==
มันมังโยงะนะ งานะจะใช้หลักการนำตัว[[อักษรจีน]]ที่มีเสียงใกล้เคียงเสียง[[ภาษาญี่ปุ่น]]ของคำที่จะเขียน โดยไม่คำนึงถึงความหมายของอักษรจีนตัวนั้น หรือเรียกว่า "ชะคุชากูอง" (借音 ''shakuon'' ยืมเสียง) เนื่องจากมีอักษรจีนหลายตัวที่อ่านออกเสียงเหมือนกัน การเลือกว่าจะใช้อักษรจีนตัวใดสำนวนภาษาของผู้เขียน เห็นได้จากหนังสือ “[[มันโยชูมังโยชู]]” บทที่ 17/4025 ซึ่งเขียนไว้ดังนี้
 
{| class="wikitable"
|-
! มันมังโยงะนะงานะ
| 之乎路可良 || 多太古要久礼婆 || 波久比能海 || 安佐奈藝思多理 || 船梶母我毛
|-
! [[คะตะคะคาตากานะ]]
| シヲヂカラ || タダコエクレバ || ハクヒノウミ || アサナギシタリ || フネカヂモガモ
|-
บรรทัด 36:
|}
 
จากตัวอย่างด้านบน เสียง ''mo'' (母, 毛) และ ''shi'' (之, 思) เขียนด้วย[[อักษรจีน]]ได้หลายตัว และในขณะที่คำส่วนมากเขียนโดยถอดเสียงเป็น[[พยางค์]] โดยไม่คำนึงถึงความหมาย (เช่น 多太 ''tada'' และ 安佐 ''asa'' เป็นต้น) แต่คำว่า ''umi'' (海) และ ''funekaji'' (船梶) เป็นการเขียนโดยใช้ความหมายของอักษรจีนตัวนั้น ไม่ใช้การถอดเสียง
 
เสียงภาษาญี่ปุ่นบางพยางค์จะถูกแทนด้วย[[อักษรจีน]]ที่กำหนดเอาไว้เป็น[[กฎการสะกดคำ]] (orthographic) ใน[[ยุคนะนาระ]] ที่เรียกว่า "[[โจได โทคุกูชุ คะนะซุไคคานาซูไก]]" (上代特殊仮名遣 ''Jōdai Tokushu Kanazukai'') ซึ่งช่วยให้ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์ภาษาสรุปได้ว่า เสียงใน[[ภาษาญี่ปุ่นยุคเก่า]]ซึ่งแทนด้วยอักษรมันมังโยงะนะนั้นงานะนั้น อาจเริ่มมีมาตรฐานตั้งแต่ในครั้งนั้นเป็นต้นมา
 
==ประเภท==
สำหรับมันมังโยงะนะงานะ มีวิธีจับคู่ตัว[[อักษรจีน]]กับเสียง[[ภาษาญี่ปุ่น]]อยู่หลายวิธี
 
* '''ชะคุองคะนะชากูองกานะ''' ({{ญี่ปุ่น|借音仮名|Shakuon kana}}) แปลตามตัวอักษรได้ว่า อักษรยืมเสียง หลักการคล้ายกับ "เสียงอง" ของ[[คันจิ]] คือ การออกเสียงคันจิของตัวนั้นตามเสียง[[ภาษาจีน]] อักษรจีนหนึ่งตัว อ่านออกเสียงได้ทั้ง[[พยางค์]]เดียว และสองพยางค์
 
{| class="wikitable"
|+ ชะคุองคะนะชากูองกานะ (借音仮名)
! จำนวนพยางค์ !! อักษรเดียวสมบูรณ์ !! อักษรเดียวบางส่วน
|-
บรรทัด 54:
|}
 
* '''ชักคุนคะนะกุงกานะ''' ({{ญี่ปุ่น|借訓仮名|Shakkun kana}}) แปลตามตัวอักษรได้ว่า อักษรยืมความหมาย หลักการคล้ายกับ "เสียงคุ" ของ[[คันจิ]] คือ การออกเสียงคันจิในภาษาญี่ปุ่นตามความหมายของคันจิตัวนั้น
 
{| class="wikitable"
|+ ชักคุนคะนะกุงกานะ (借訓仮名)
! จำนวนพยางค์ !! อักษรเดียวสมบูรณ์ !! อักษรเดียวบางส่วน !! อักษร 2 ตัว !! อักษร 3 ตัว
|-
บรรทัด 68:
 
{| class="wikitable"
|+ตารางมันมังโยงะนะงานะ<br><small>อักษร 1 ตัวแทน 1 พยางค์</small>
|
!width="7%" title="vowel"| –
บรรทัด 192:
 
==พัฒนาการ==
[[Image:Hiragana_origin.svg|thumb|400px|right|[[ฮิระงะนะฮิรางานะ]] และมันมังโยงะงานะแม่แบบ]]
[[Image:Katakana_origine.svg|thumb|400px|right|[[คะตะกะคาตากานะ]] และมันมังโยงะงานะแม่แบบ]]
 
อักษร[[คันจิ]]ในระบบมันมังโยงะนะงานะ ต่อมาได้พัฒนาไปเป็นอักษร[[ฮิระงะนะฮิรางานะ]] และ[[คะตะคะคาตากานะ]]
 
อักษร[[ฮิระงะนะ]]ฮิรางานะดัดแปลงมาจากอักษรมันมังโยงะงานะที่เขียนด้วยพู่กันในรูปแบบ[[อักษรหวัด]] วัตถุประสงค์เดิมของอักษรฮิระงะนะฮิรางานะ คือ เพื่อให้สตรีซึ่งสังคมไม่ยอมได้ให้รับการศึกษาสูง ได้อ่านออกเขียนได้ [[วรรณกรรม]]ใน[[ยุคเฮอันอัง]]ส่วนใหญ่ที่ผู้แต่งเป็นสตรีถูกเขียนด้วยอักษร[[ฮิระงะนะ]]ฮิรางานะ
 
ส่วนอักษร[[คะตะคะคาตากานะ]]ก็ดัดแปลงมาจากอักษรมันมังโยงะงานะเช่นกัน แต่ตัดเฉพาะบางส่วนของอักษรมันมังโยงะงานะมาเป็นอักษรคะตะคะคาตากานะหนึ่งตัว อักษรคะตะคะคาตากานะกำเนิดใน[[สำนักสงฆ์]][[ยุคเฮอันอัง]] ใช้เสมือนการย่ออักษรมันมังโยงะงานะเพื่อให้ง่ายต่อพระสงฆ์ในการศึกษาพระคัมภีร์
 
ตัวอย่างเช่น เสียง ''ru'' เขียนเป็นอักษร[[ฮิระงะนะ]]ฮิรางานะว่า る ซึ่งดัดแปลงมาจากอักษรมันมังโยงะนะงานะ 留 แต่เขียนเป็นอักษร[[คะตะคะคาตากานะ]]ว่า ル ซึ่งดัดแปลงมาจากอักษรมันมังโยงะนะงานะ 流 โดยอักษรมันมังโยงะงานะใช้เขียนแทนเสียง ''ru'' ทั้งคู่
 
การที่เสียง[[ภาษาญี่ปุ่น]]หนึ่ง[[พยางค์]]สามารถเขียนด้วยอักษร[[คันจิ]]หลายตัวนั้น ทำให้เกิดอักษร[[เฮนไตงะนะเฮ็นไตงานะ]] (変体仮名 ''hentaigana'') ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของอักษร[[ฮิระงะนะ]]ฮิรางานะขึ้นมา แต่ได้ถูกเลิกใช้อย่างเป็นทางการไปใน [[พ.ศ. 2443]]
 
ปัจจุบัน อักษรมันมังโยงะนะ งานะยังคงปรากฏอยู่ในชื่อสถานที่ต่างๆต่าง ๆ ของ[[ญี่ปุ่น]] โดยเฉพาะบน[[เกาะคีวชู]] (九州 ''Kyūshū'') การใช้อักษร[[คันจิ]]อีกประเภท ที่มีลักษณะคล้ายกับมันมังโยงะนะ งานะคือ [[อะเตะจิอาเตจิ]] (当て字, 宛字 ''ateji'') ซึ่งเป็นการเขียน[[คำยืม]]จากภาษาต่างประเทศ โดยใช้แทนเสียงมากกว่าความหมาย ตัวอย่างเช่น 倶楽部 (''kurabu'' คลับ) และ 珈琲 (''kōhii'' กาแฟ) เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันนี้ ยังคงมีใช้กันอยู่ในป้ายร้านค้า
 
==แหล่งข้อมูลอื่น==
* [http://www6.airnet.ne.jp/manyo/main/notes/kana/home.html ตารางมันมังโยงะนะงานะ (ภาษาญี่ปุ่น)]
 
 
 
{{อักษรภาพ}}
 
[[หมวดหมู่:ภาษาญี่ปุ่น]]
[[หมวดหมู่:อักษร]]